เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1294 แตกต่าง
บทที่ 1294 แตกต่าง
ซูอันลูบไล้กระบี่ไท่เอ๋อร์อย่างอ่อนโยน ดูราวกับได้กลับมารวมตัวกับสหายเก่า “เจ้าเข้าใจเฉพาะกระบี่ทั่วไปที่ได้แต่ฟันและแทงเท่านั้น แน่นอนว่าเจ้าไม่สามารถเข้าใจพลังที่แท้จริงของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้”
เขากล่าวว่า “กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ผ่าแบ่งเมฆด้านบนออกจากโลกด้านล่าง เมื่อกระบี่นี้ปรากฏ ขุนนางทั้งหมดจะลุกขึ้น และโลกจะยอมจำนน” ขณะที่นิ้วของเขาลูบคมกระบี่ การสั่นสะเทือนของกระบี่ไท่เอ๋อร์ก็รุนแรงขึ้น
เขายกกระบี่ขึ้นสูง มันเปล่งแสงเจิดจ้า เสียงตะโกนดังขึ้น “เราจะยังคงเป็นวิญญาณผ่านน้ำพุทั้งเก้าได้อย่างไร? เราจะเป็นอิสระจากพันธนาการของดินอีกครั้ง! ทหารของฉินจะฟังเสียงเรียกร้องของเจ้า!”
ซูฟูไม่เคยกังวลมาก่อนและเฝ้าดูด้วยความสนุกสนาน แต่เมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ในที่สุดสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เหตุผลที่เขาไม่รีบโจมตีเพราะเขารู้สึกว่าความแข็งแกร่งของอิ่งเจิ้งน้อยกว่าหนึ่งในสิบส่วนของวันวาน ดังนั้นการมีอยู่ของอิ่งเจิ้งจึงไม่จัดเป็นอะไรมากนัก
เมื่อใดก็ตามที่นึกถึงความกลัวอย่างที่สุดที่เขาเคยรู้สึกต่อจักรพรรดิองค์แรก เขาต้องการเห็นความกลัวและความตื่นตระหนกบนใบหน้าของอิ่งเจิ้งทันทีเมื่อบทบาทของพวกเขาถูกสลับกัน ถ้าอีกฝ่ายคุกเข่าอ้อนวอน มันคงจะดีกว่านี้!
นับตั้งแต่ที่ต้องเสนอผู้หญิงที่ตัวเองรักให้กับอิ่งเจิ้ง ในใจของเขาก็เหมือนมีหนามแหลมคมคอยทิ่มแทงอยู่เสมอ แม้ว่าแผนของเขาจะสำเร็จ แต่ความจริงที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้ แต่ตอนนี้เขากำลังจะเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นโดยสิ้นเชิง
เขามองหมี่ลี่แล้วคิดกับตัวเองว่า ในเมื่อเจ้านอนกับผู้หญิงที่ข้ารัก ข้าก็จะนอนกับนางเพื่อล้างแค้น แม้ว่าตอนนี้หมี่ลี่จะเป็นเพียงวิญญาณ แต่ก็ยังสามารถทำได้ใช่ไหม?
แต่จู่ ๆ สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง! อิ่งเจิ้งได้เรียกกำลังเสริมแล้ว! แม้ว่าซูฟูไม่เชื่อว่าทหารอิ่งเจิ้งที่เรียกตัวมาจะสามารถเอาชนะเขาได้ แต่ก็ไม่กล้าที่จะรอช้าอีกต่อไป แผงหนวดในอากาศกลายเป็นหมอกเลือดและพุ่งเข้ามา
ปี่หลิงหลงได้กลิ่นเหม็นคาวเลือดรุนแรงจากหมอกแม้จากที่ไกล ๆ นางอยากจะอาเจียน นี่ไม่ใช่แค่กลิ่นเลือด มันยังถูกสร้างขึ้นจากความแค้นของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน ผู้ที่ตายตกจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของความแค้นที่ไม่มีสิ้นสุด
แขนเสื้อของซูอันปัดออก ฉากที่อยู่ตรงหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้อยู่ในห้องเดิมอีกต่อไป แต่อยู่บนแท่นขนาดใหญ่แทน ปี่หลิงหลงสัมผัสได้ถึงบางสิ่งอย่างกระตือรือร้น นี่ไม่ใช่ลานที่พวกเขาเดินผ่านก่อนเข้าวังหรอกเหรอ?
การโจมตีของซูฟูกระทบกับอากาศที่ว่างเปล่า เมื่อเห็นว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน คิ้วของเขาขมวดแน่น อีกฝ่ายมีความสามารถในการเคลื่อนย้ายมวลสาร? ไม่สิ นี่อาจเป็นหนึ่งในกลไกลับที่ตั้งขึ้นไว้ล่วงหน้าในพระราชวังแห่งนี้
ทันใดนั้น ซูฟูก็เงยหน้าขึ้น พื้นที่กว้างขวางและเปิดโล่งเต็มไปด้วยทหารชุดเกราะสีดำ พวกเขาทั้งหมดมีสีหน้าเคร่งขรึม การจัดขบวนอย่างเป็นระเบียบแสดงเจตนาฆ่าที่ทรงพลัง
สิ่งที่เขากังวลที่สุดคือแม่ทัพสองคนที่อยู่ข้างหน้า คนหนึ่งถือคันธนู ในขณะที่อีกคนถือง้าวรูปเคียว แน่นอนว่าทั้งสองคือหวังเจี่ยนและไป่ฉี
“กองทัพดินเผา!” ซูฟูอุทานออกมา ตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมปฐมจักรพรรดิถึงใช้เวลานานในการสร้างกองทัพดินเผา หลายคนติฉินนินทาว่าความคิดที่จะให้กองทัพดินเผาปกป้องตัวจักรพรรดิเองนั้นเป็นความคิดที่ผิดโดยสิ้นเชิง แต่ตอนนี้มันได้เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ!
“ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น ๆ ปี!” เหล่าทหารจับอาวุธพร้อมกับย่อเข่าข้างหนึ่งลงพร้อม ๆ กัน เห็นได้ชัดว่ากองทัพดินเผาไม่สามารถพูดได้ แต่ทั่วทั้งลานกลับเต็มไปด้วยเสียงคำราม
หมี่หลี่รู้สึกเหม่อลอยเล็กน้อย รู้สึกราวกับกำลังฝันถึงอดีต ในระหว่างงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ นางก็ได้รับการต้อนรับเช่นนี้จากเจ้าหน้าที่พลเรือนและเหล่าทหารจำนวนนับไม่ถ้วน
ปี่หลิงหลงเป็นองค์หญิงรัชทายาท นางจึงเคยมีประสบการณ์บางอย่างที่คล้ายกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของจำนวนหรือความยิ่งใหญ่ สิ่งที่นางได้รับนั้นไม่สามารถเปรียบเทียบได้เลย นางจ้องมองรูปหน้าด้านข้างของซูอันอย่างเหม่อลอย เขาดูรูปงามอย่างยิ่งเวลาที่ทำหน้าจริงจัง…
ซูฟูคำรามด้วยเสียงหัวเราะ “ข้าสงสัยว่าเจ้ามีไพ่ตายแบบไหน เจ้าต้องการที่จะเอาชนะข้าด้วยของเล่นดินเผาพวกนี้เหรอ?”
ปี่หลิงหลงกังวลใจ กว่าทหารดินเผาจะสามารถทำร้ายจ้าวรุ่ยจื่อได้ก็ต้องกลุ้มรุมโจมตี ในขณะที่ตอนนี้ซูฟูได้ดูดซับเสี้ยววิญญาณของจ้าวรุ่ยจื่อแล้ว ดังนั้นความแข็งแกร่งของเขาจึงยิ่งใหญ่กว่า ทหารเหล่านี้คงไม่สามารถ…
ซูอันยังคงมีสีหน้าเฉยชา เขาชี้ไปข้างหน้า “ฆ่ามัน!”
กระบี่ไท่เอ๋อร์เปล่งประกายสาดแสงส่องไปทั่วร่างของกองทหารดินเผา ทหารที่คุกเข่าลุกขึ้น จากนั้นก็หันไปหาซูฟูพร้อมกัน ทั้งหมดเดินไปข้างหน้า ฟาดโล่ด้วยอาวุธ เกิดเสียงดังฟังดูเหมือนกลองศึก และยังเหมือนเสียงที่เรียกร้องให้ยอมสละชีวิต คลื่นพลังกดดันท่วมท้นไปทั่วโลก
สีหน้าของซูฟูเปลี่ยนไปหลังจากรู้สึกได้ว่าทหารดินเผาแตกต่างจากเมื่อก่อน เขาจึงไม่กล้าแสดงความเลินเล่อ ควบคุมหนวดยักษ์พุ่งเข้าใส่ ตั้งใจที่จะฉีกแนวป้องกันของทหารดินเผาและกำจัดอิ่งเจิ้ง
ทหารที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดถูกหนวดยักษ์บดขยี้ อย่างไรก็ตาม ทหารที่อยู่ข้างหลังได้ตั้งขบวนทันที ทั้งหมดยังคงรุมเข้าหาซูฟูราวกับคลื่นยักษ์ในมหาสมุทร!
ในตอนแรกซูฟูสามารถฉีกกองทัพศัตรูได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าหนวดจะไปที่ใด ความพินาศก็ตามมา หนวดที่สร้างขึ้นจากสระเลือดสามารถดูดซับแก่นแท้โลหิตและวิญญาณของสิ่งมีชีวิตได้ ทำให้อยู่ยงคงกระพัน น่าเสียดายที่กองทัพดินเผาเป็นสิ่งไม่มีชีวิต พวกมันไม่มีแก่นแท้โลหิตอะไรให้ดูดซับ
ตรงกันข้าม ด้วยเหตุผลนี้เองที่พวกมันไม่รู้สึกหวาดกลัวเหมือนกองทัพมนุษย์ทั่วไป พวกมันยังคงกลุ้มรุมกันด้วยความเร็วคงที่ แม้ว่าซูฟูจะใช้หนวดยักษ์โจมตีสหายของพวกมันอย่างไร พวกมันดำเนินการตามคำสั่งราวกับหุ่นยนต์ โดยรักษากระบวนทัพไว้เหมือนเครื่องจักรที่ทาน้ำมันอย่างดี
ซูฟูมองไป่ฉีและหวังเจี่ยนในฐานะคนยุคสมัยเดียวกัน เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าคำสั่งของทั้งสองทรงพลังเพียงใด หากเป็นแม่ทัพคนอื่น ๆ การป้องกันของกองทัพย่อมมีช่องโหว่ได้ง่ายแม้จะมีขนาดที่ใหญ่โตก็ตาม น่าเสียดายภายใต้คำสั่งของแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง ทหารไม่เพียงต่อต้านการถูกกวาดล้างอย่างรวดเร็ว แต่ยังรักษากระบวนทัพที่สมบูรณ์แบบไว้ได้แม้จะถูกโจมตี
ความหวาดกลัวค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นภายในใจ เขาเริ่มคิดจะถอยกลับ น่าเสียดายทันทีที่ถอยหลัง ราวกับว่าเขาถูกดินถล่มลงมาทับจมอยู่ใต้ทะเลทหารที่ไม่มีที่สิ้นสุด
………………..