เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 228 เก้าอี้ไม้และหงซิงอิง
เจิ้งตานเอ่ยขึ้นแทรกอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าที่เย็นชา “ซ่างเชียน ทำไมเจ้าถึงชอบผลักคู่หมั้นของเจ้าเข้าไปในอ้อมแขนของชายอีกคนหนึ่งแบบนี้!?”
ซ่างเชียนเสียอารมณ์ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น “ข้าไม่ได้ขอให้เจ้ายอมพลีกายให้อีกฝ่ายสักหน่อย! และเจ้าก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเจ้าไม่มีทางยอมให้ไอ้ซูอันมันเอาเปรียบเจ้าได้? แต่แล้วทำไมเจ้าถึงพูดราวกับว่าข้าขอให้เจ้าขายตัวของเจ้าให้เขา?”
ดวงตาของเจิ้งตานแดงก่ำ “ผู้ใดก็ตามที่เดินในลำน้ำย่อมไม่พ้นที่เท้าของเขาจะเปียกในที่สุด ซูอันไม่ได้อ่อนแออย่างที่ข่าวลือทำให้เขาเป็น ถ้าเขาพยายามเอาเปรียบข้าจริงๆ ข้าจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับใครก็ได้ในอนาคต!”
อันที่จริงนางไม่ได้รู้สึกต่อต้านการใกล้ชิดกับซูอันสักเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตาม นางไม่สามารถแสดงท่าทีเต็มใจที่นี่ได้ นางต้องทำให้ซ่างเชียนรู้สึกผิดและตระหนักว่านางถูกบังคับในเรื่องนี้ ซึ่งหลังจากนี้นางจะได้เอาเรื่องนี้มาทำให้เขาเห็นความทุ่มเทของนางและดูแลนางดีขึ้นหลังจากแต่งงานกันไป
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่น่าสงสารของเจิ้งตาน ซ่างเชียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงรีบปลอบนางอย่างรวดเร็วโดยพูดว่า “ข้ารู้ว่าข้ากำลังทำให้เจ้าลำบากใจ แต่เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะปกป้องเจ้าเอง ถ้าซูอันกล้ารังแก เจ้าแน่ใจได้เลยว่าข้าจะปลิดชีวิตเขา!”
“จริงเหรอ?” เจิ้งตานมองซ่างเชียนด้วยดวงตาที่ซาบซึ้งและเต็มไปด้วยน้ำตา
“แน่นอน!” เมื่อเห็นใบหน้าที่แสนสวยของคู่หมั้นตัวเอง ซ่างเชียนก็เริ่มรู้สึกใจอ่อน “เอาเป็นว่าลืมมันไปดีกว่า เลิกคิดถึงเรื่องตั๋วหนี้บ้านั่นไปกันก็ได้ ข้าไม่อยากให้เจ้าเอาตัวไปแลกอีกแล้ว”
กลับกัน เจิ้งตานกลับส่ายหัวและปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “นั่นไม่ดีแน่ ตั๋วหนี้มูลค่า 7,500,000 ตำลึงเงินมีความสำคัญต่อแผนของท่านมาก ยิ่งไปกว่านั้นเรายังจำเป็นต้องชิงตั๋วเดิมพันมูลค่า 1,000,000 ตำลึงเงินของเรากลับมาด้วย เพื่ออนาคตของเรา ข้าเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเสียสละตัวเอง”
“เฮ้อ…ข้าสัญญาว่าในอนาคตข้าจะชดใช้ทุกอย่างให้กับเจ้า” เมื่อมองดูหญิงงามผู้อ่อนโยนและทุ่มเทตรงหน้าเขา ซ่างเชียนรู้สึกว่าเขาโชคดีมากที่มีคู่หมั้นที่ดีเช่นนี้
…
อีกด้านหนึ่ง
ซูอันจามอย่างแรง เขาถูจมูกในขณะที่บ่นพึมพำกับตัวเอง “ตอนนี้สาวสวยคนไหนกำลังคิดถึงข้าอยู่หว่า?”
ข้างๆ เขาเฉิงโซวผิงพยักหน้าอย่างรวดเร็วอย่างประจบสอพลอ
ก่อนหน้านี้นายน้อยได้แสดงคุณค่าที่แท้จริงของเขาและเอาชนะผู้บ่มเพาะระดับที่ 5 ได้ ที่สำคัญกว่านั้น เขาช่วยให้ตระกูลฉู่ชนะการประลองระหว่างตระกูลประจำปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านับจากนี้จุดยืนในตระกูลของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และนั่นหมายถึงว่าข้าเองก็จะได้รับผลประโยชน์ตามไปด้วย!
“เจ้าไม่กลัวภรรยาของเจ้าได้ยินคำพวกนี้เหรอ?”
ทันใดนั้นเสียงหยอกล้อก็ดังขึ้นไม่ไกล และเพ่ยเหมียนหมานก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับกลิ่นหอมอันน่าหลงใหล
ซูอันหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ภรรยาของข้าเคยบอกเอาไว้แล้วว่านางไม่สนใจว่าข้าจะมีผู้หญิงสักกี่คน”
เพ่ยเหมียนหมานอึ้งไปอยู่ครู่หนึ่ง นางไม่คาดคิดว่าซูอันจะตอบกลับนางด้วยคำพูดแบบนี้ “ฉู่ชูเหยียนพูดกับเจ้าแบบนั้นจริงๆ งั้นเหรอ?”
“เจ้าลองไปถามนางดูเอาก็ได้ถ้าไม่เชื่อข้า” ซูอันเอ่ยขึ้นพลางชี้นิ้วไปที่ฉู่ชูเหยียน “ว่าแต่เจ้าล่ะ? สนใจที่จะเป็นผู้หญิงของข้าไหม? ฉู่ชูเหยียนเป็นเพื่อนสนิทของเจ้าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ข้าคิดว่าพวกเจ้าน่าจะเข้ากันได้อย่างรวดเร็วเชียวล่ะ!”
เฉิงโซวผิงอึ้งเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ตอนแรกข้าคิดว่านายน้อยกล้าหาญมากแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนข้าจะประเมินนายน้อยต่ำเกินไปจริงๆ นี่เขากล้าที่จะเกลี้ยกล่อมเพื่อนสนิทของภรรยาตัวเองทั้งๆ ที่ภรรยาของเขายืนอยู่ไม่ไกลแบบนี้เนี่ยนะ! ข…ข้าควรขอเคล็ดลับความสำเร็จของเขาบ้างดีไหม?
“เจ้าต้องการที่จะให้ข้าเป็นผู้หญิงของเจ้า?” เพ่ยเหมียนหมานหัวเราะเบาๆ โดยไม่มีท่าทีขุ่นเคืองแม้แต่น้อย “อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้หรอกนะ แต่ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจ้ายังต่ำอยู่มากพอดู”
เฉิงโซวผิงเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาไม่นึกเลยว่าผู้หญิงที่งดงามอย่างเพ่ยเหมียนหมานจะพูดจาหยอกล้อกับนายน้อยของตัวเองแบบนี้!
“ระดับการบ่มเพาะของข้าต้องสูงแค่ไหนจึงจะถือว่าแข็งแกร่งเพียงพอ?” ซูอันยิ้มพร้อมกับถามกลับ
“ในอนาคตเจ้าจะรู้เอง” เมื่อสังเกตว่าฉู่ชูเหยียนกำลังเดินเข้ามาหา เพ่ยเหมียนหมานจึงหยุดล้อเล่นซูอัน “เอาล่ะ ข้าขอตัวก่อนก็แล้วกัน อ้อ อย่าลืมสัญญาของเราซะล่ะ”
เมื่อพูดจบประโยคนางเดินจากไปในทันทีโดยทิ้งไว้เพียงแค่กลิ่นหอมอันเย้ายวน
“พวกเจ้าสองคนตกลงอะไรกัน?” ฉู่ชูเหยียนมองซูอันอย่างสงสัย
“ข้าขอให้นางมาเป็นภรรยาของข้าอีกคนในอนาคต!” ซูอัน ตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง
เฉิงโซวผิงประทับใจกับคำพูดที่ตรงไปตรงมาของซูอันอย่างยิ่งยวดจนเขาอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้ในใจ นายน้อยของข้าช่างกล้าหาญอย่างแท้จริง!
ในทางกลับกัน ฉู่ชูเหยียนกลับไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้จริงจังกับคำพูดของซูอัน “เจ้ามากับข้าก่อน ทุกคนมีหลายสิ่งที่อยากจะพูดกับเจ้า”
ทันทีที่ซูอันเดินไปถึงจุดที่สมาชิกคนอื่นๆ ของตระกูลฉู่รวมตัวกันอยู่ เขาก็พบว่าตัวเองถูกล้อมไปด้วยฝูงชนจำนวนมาก
“นายน้อย เราไม่เคยนึกเลยว่าท่านจะแข็งแกร่งขนาดนี้! นี่คือโอสถฟื้นฟูชนิดพิเศษที่หลอมขึ้นโดยกองทัพผ้าคลุมสีชาด…”
“นายน้อยของเราเอาชนะศัตรูได้อย่างง่ายดายโดยไม่ได้รับบาดเจ็บเลย ทำไมเขาถึงต้องการโอสถของเจ้า?”
“โอสถของข้าไม่ได้มีไว้สำหรับรักษาอาการบาดเจ็บเท่านั้น มันยังสามารถเร่งการฟื้นฟูของพลังชี่ในร่างของเขาได้เช่นกัน จากการต่อสู้สองครั้งที่ผ่านมาข้ามั่นใจว่านายน้อยคงใช้พลังชี่ในร่างออกไปเป็นจำนวนไม่น้อยแน่นอน!”
…
“ไอ้พวกสอพลอเอ๊ย!” หงซิงอิงถ่มน้ำลายอย่างหงุดหงิด เขาทนไม่ไหวที่เห็นคนอื่นๆ รีบวิ่งไปหาซูอัน
คนพวกนี้บางคนยังแสดงความเป็นห่วงเป็นใยต่อเขาก่อนหน้านี้อยู่เลย แต่พอเห็นว่าซูอันเดินเข้ามาคนพวกนี้ก็รีบวิ่งไปหาซูอันเพื่อเอาอกเอาใจทันที
อันที่จริงเขาเองก็พอเดาได้อยู่แล้วว่าเรื่องมันต้องเป็นแบบนี้เพราะความสำเร็จที่ซูอันเพิ่งกระทำลงไปมันย่อมทำให้สถานะในตระกูลฉู่ของซูอันเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นสิ่งนี้หงซิงอิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลจนหน้าซีด
บ้าเอ๊ย! โลกมันกลับตาลปัตรเป็นแบบนี้ได้ยังไง! ข้าจะทำยังไงดีต่อจากนี้…
แต่แล้วในขณะที่เขากำลังคิดหาหนทาง จู่ๆ ที่หัวและท้ายเปลหามของเขากลับมีคนรับใช้สองคนของตระกูลฉู่สองคนมายืนอยู่และแสดงท่าทางว่ากำลังจะยกเขาไปที่ไหนสักแห่ง
หงซิงอิงรู้สึกตื่นตระหนกทันทีเพราะนี่มันไม่ใช่เรื่องปกติแน่ๆ เขาตะโกนถามเสียงดังลั่น “พวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน!”
ดูเหมือนว่าเสือที่พิการจคงไม่พ้นถูกฝูงสุนัขรุมรังแก แม้แต่พวกที่อ่อนแอเหล่านี้ก็ยังกล้าล่วงเกินเขาแล้วงั้นเหรอ?
“ข้าสงสัยว่าใครพูดก่อนหน้านี้ว่าเขาจะกินเก้าอี้ตัวใหญ่ถ้าพี่เขยของข้าชนะ?” เสียงหยอกล้อดังขึ้น
ฉู่ฮวนเจายังคงนอนอยู่บนเปลหามในสภาพที่น่าอนาถ แต่สีหน้าของนางตอนนี้กลับเห็นได้อย่างชัดเจนว่านางกำลังอารมณ์ดี
หากเป็นโอกาสอื่น หงซิงอิงคงมองว่านางมีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดเช่นกัน แต่คำพูดที่นางพูดก่อนหน้านี้ทำให้เขาขุ่นเคือง
ฉู่ฮวนเจาชี้ไปที่เก้าอี้ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลแล้วพูดว่า “ดูสิ ข้าเตรียมเก้าอี้ไม้แดงชั้นดีเอาไว้ให้เจ้าแล้ว ภายนอกมันอาจจะดูแข็งสักหน่อยแต่ข้ามั่นใจว่ามันน่าจะนุ่มกว่าเก้าอี้ทั่วๆ ไปแน่นอน ดังนั้นอย่าพูดว่าข้าไม่เห็นใจเจ้า อ้อ ข้าเตรียมน้ำไว้ให้เจ้าด้วยเพื่อช่วยย่อย แต่ถ้าน้ำที่ข้าเตรียมไว้ไม่พอเจ้าก็สามารถตะโกนบอกข้าได้ตลอด ข้าจะรีบสั่งให้พวกคนรับใช้ไปหยิบมาเพิ่มให้เจ้าทันที!”
“ข้า…” ปากของหงซิงอิงหุบๆ อ้าๆ อยู่อย่างนั้นแต่เขาไม่สามารถสรรหาคำพูดใดๆ ออกมาตอบโต้ได้เลย เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้แสร้งทำเป็นหมดสติก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ!
ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของไอ้บัดซบซูอัน!
—
ท่านยั่วยุ หงซิงอิง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999!
—
ซูอันยังคงรับของขวัญจากฝูงชนอย่างมีความสุข แต่เมื่อสังเกตเห็นคะแนนโกรธแค้นของหงซิงอิงไหลเข้ามาเขาจึงหันไปมองไปทางหงซิงอิงทันที และนั่นทำให้เขาเห็นว่าฉู่ฮวนเจากำลังสั่งให้คนใช้วางเก้าอี้ขนาดใหญ่ที่สามารถให้คนนั่งได้ 3 คนวางไว้ตรงหน้าของหงซิงอิง
โอ้! ดูเหมือนว่าน้องภรรยาของข้ากำลังช่วยคิดบัญชีแค้นให้ข้าใช่ไหม?
ตอนนั้นเองที่ฉู่จงเทียนและฉินหว่านหรูสังเกตเห็นความลำบากของหงซิงอิง ฉู่จงเทียนจ้องไปที่ลูกสาวคนรองของเขาและตะโกนว่า “ฮวนเจา! นี่เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”
ฉู่ฮวนเจาขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจพร้อมกับตอบว่า “ก็ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนพูดเองว่าถ้าพี่เขยของข้าสามารถชนะการต่อสู้ได้เขาจะกินเก้าอี้ทันที ท่านพ่อเองก็น่าจะได้ยินอย่างชัดเจนด้วยไม่ใช่รึไง? ข้าไม่ได้เป็นคนบังคับให้เขากินสักหน่อย!”
“พอแล้ว! เจ้าคิดจริงจังกับเรื่องตลกแบบนี้ได้ยังไง?” ฉินหว่านหรูเหลือบมองบรรดาคนใช้แล้วส่งสัญญาณพวกเขาก็ยกเก้าอี้ออกไปก่อนจะพูดต่อ “พวกเราทุกคนที่นี่เป็นครอบครัวเดียวกัน ซิงอิงพูดคำเหล่านั้นก่อนหน้านี้ด้วยความกังวลเช่นกัน ดังนั้นแล้วเจ้าควรที่จะหยุดสร้างปัญหาที่นี่เสีย!”
ไม่ว่าจะเป็นด้วยสถานะของพ่อบ้านหงหรือการมีส่วนร่วมของหงซิงอิง ต่อตระกูลฉู่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉินหว่านหรู จำเป็นต้องยืนหยัดเพื่อหงซิงอิง อย่างไรก็ตาม นางอดไม่ได้ที่จะคิดว่าหงซิงอิงนั้นพึ่งพาไม่ได้เท่าที่นางคิดว่าเขาเป็น
ฉู่ฮวนเจายังคงต้องการที่จะโต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่พี่สาวของนางกลับสะกิดแขนของนางเพื่อหยุด ดังนั้นจึงทำได้เพียงเบือนหน้าหนีอย่างไม่มีความสุขและกัดฟันกรอด
“ขอบคุณนายท่านและนายหญิง” หงซิงอิงประสานมือคารวะอย่างรวดเร็วเพื่อขอบคุณฉู่จงเทียนและฉินหว่านหรู อย่างไรก็ตามในใจของเขารู้สึกขมขื่นอย่างไม่น่าเชื่อ …เขาสัมผัสได้ถึงสายตาที่เหยียดหยามจากคนอื่นๆ!
ทั้งหมดเป็นความผิดของไอ้บัดซบซูอันอีกแล้ว!
—
ท่านยั่วยุ หงซิงอิง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999!
—