เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 501 เสี่ยงสุดตัว
บทที่ 501 เสี่ยงสุดตัว
บทที่ 501 เสี่ยงสุดตัว
ซูอันดีดตัวหนีอย่างรวดเร็ว และเขาก็สามารถหลบเปลวไฟได้อย่างหวุดหวิด
หินก้อนใหญ่ที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านี้ถูกไฟแผดเผาจนหลอมละลายในทันที ซูอันถึงกับกลืนน้ำลาย เขาคงจะมีชะตากรรมเดียวกันหากถูกเปลวเพลิงนั้น
แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะมีเวลาคิดอะไรต่อ มังกรก็ปล่อยเปลวเพลิงอีกลูกหนึ่งเข้ามา
ซูอันใช้ ‘วิชาร่างก้าวทานตะวัน’ เพื่อหลบเลี่ยงทันที แม้ว่าจะหลบมันพ้น แต่ความร้อนก็ยังทำให้ผมของชายหนุ่มม้วนงอ และมีกลิ่นเหม็นของเส้นผมที่ไหม้เกรียม
ด้วยความกลัวว่าเจิ้งตานจะถูกเผา เขาจึงรีบใช้เคล็ดวิชากระบี่เกล็ดหิมะเพื่อปกคลุมรอบ ๆ ตัวด้วยชั้นพลังเย็นเยือกแข็ง มันช่วยบรรเทาความรู้สึกไม่สบายตัวจากความร้อนได้เป็นอย่างดี
มังกรสีแดงได้พ่นเปลวเพลิงอีกหลายครั้ง แต่เป้าหมายของมันก็หลบการโจมตีทุกครั้งได้อย่างปาฏิหาริย์ มันเริ่มที่จะตระหนักว่าสิ่งที่มันทำอยู่นี้ต่อไปจะเปล่าประโยชน์ และมีแต่จะทำให้เรื่องนี้มันน่าเบื่อหน่าย มันจึงเลิกใช้การโจมตีระยะไกล แต่กลับเร่งความเร็วพุ่งเข้าหาซูอันแทน
“อาซู ออกไปจากที่นี่!” เจิ้งตานกล่าวด้วยความตื่นตระหนก “ไม่ต้องเป็นห่วงข้า!”
อาจจะยังมีโอกาสสำหรับซูอันที่จะหลบหนีด้วยทักษะการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยมของเขา ในขณะที่นางจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหยุดยั้งสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้
นางได้เตรียมใจที่จะเสียสละตัวเองแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของนางหรือความบริสุทธิ์ของนาง มันไม่สำคัญอีกต่อไป!
ซูอันหัวเราะคิกคักและพูดว่า “แม้ข้าจะไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นวีรบุรุษ แต่ข้าก็ไม่เคยทอดทิ้งเพื่อนของข้า”
เมื่อนางเห็นรอยยิ้มที่มองโลกในแง่ดีของเขา ดวงตาของเจิ้งตานก็ชื้นไปด้วยน้ำตาแห่งความตื้นตัน “อาซู!”
นางตั้งใจแน่วแน่ อย่างแย่ที่สุดคือนางและเขาจะตายด้วยกัน
แม้ว่านางและเขาจะไม่ได้เป็นคู่สามีภรรยากันตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่อย่างน้อย นางก็ยังได้ร่วมตายกับเขา!
สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกว่าตัวเองโชคดีกว่าฉู่ชูเหยียนเสียอีก!
ในเวลานี้ มังกรแดงคำราม “ข้าจับทางเจ้าได้แล้ว!”
ตอนนี้เขารู้จังหวะการเคลื่อนไหวแปลก ๆ ของซูอันแล้ว
ไม่ว่าวิชาร่างก้าวทานตะวันจะอัศจรรย์เพียงใด แต่ความแตกต่างของความแข็งแกร่งก็ยังมากเกินไป
เจิ้งตานเห็นกรงเล็บขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นราวกับว่ามังกรสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของพวกนางได้ มันอยู่ใกล้จนสามารถเห็นคราบเลือดที่เล็บนั่น!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคราบเลือดนี้มาจากร่างกายของเฉินเซวียน แม้แต่ร่างกายโลหะอันแข็งแกร่งของเฉินเซวียนก็ยังไม่สามารถทนต่อการโจมตีเพียงครั้งเดียวของมังกรได้ ดังนั้นซูอันที่อ่อนแอกว่าจะเอาอะไรไปทานทนต่อกรงเล็บที่น่ากลัวนี้?
เจิ้งตานต้องการรับการโจมตีนี้แทนเขา แต่แขนที่รั้งนางไว้รัดตัวนางแน่น จนไม่มีทางที่นางจะเคลื่อนไหวใด ๆ เพื่อปกป้องเขาได้
นางตัดสินใจฝังตัวเองให้ลึกลงไปในอกของเขา ด้วยวิธีนี้ เมื่อกรงเล็บแทงทะลุหน้าอกของเขา มันก็จะฆ่านางด้วย ทั้งสองจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง
หมี่ลี่กรีดร้องในหัวของซูอัน “เจ้าบ้าไปแล้ว! ทำไมเจ้าถึงตั้งใจยืนเฉย ๆ แบบนี้!!!”
แม้ว่าวิชาร่างก้าวทานตะวันจะไม่สามารถชดเชยความแตกต่างระหว่างระดับการบ่มเพาะได้ แต่ก็ยังมีโอกาสที่ซูอันอาจหลบเลี่ยงได้
ด้วยความเข้าใจของนาง นางสามารถบอกได้ว่าซูอันจงใจที่จะไม่หลบ
ซูอันไม่ตอบนาง เขาหันหลังและทำราวกับว่าต้องการจะรับการโจมตีนี้ตรง ๆ
มังกรแดงเห็นว่าเป้าหมายของมันไม่มีโอกาสหลบเลี่ยงการโจมตีแน่นอน มนุษย์ตัวกระจ้อยนี้ไม่ต่างอะไรจากมดในสายตามัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นซูอันโอบกอดเจิ้งตานอย่างแนบแน่น มันก็รู้สึกลังเลเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้สวยจริง ๆ
ในไม่ช้า มันจะสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ และมีแผนจะเฉลิมฉลองความสำเร็จร่วมกับผู้หญิงคนนี้!
แม้ว่าทั้งสองจะเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน แต่มังกรระดับสูงก็สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ นั่นคือเหตุผลที่มังกรและมนุษย์มีมาตรฐานความงามที่คล้ายคลึงกัน
การรับรู้ร่วมกันเกี่ยวกับความงามนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเผ่าพันธุ์มังกรเท่านั้น เผ่าพันธุ์อื่นที่มีศักยภาพสามารถบ่มเพาะไปอยู่ในระดับสูงก็ยึดหลักในความงามคล้ายคลึงกันทั้งสิ้น
ท้ายที่สุดแล้ว ร่างมนุษย์นั้นเหมาะสมที่สุดสำหรับการบ่มเพาะ ด้วยเหตุนี้ เผ่าอื่น ๆ ที่บ่มเพาะได้จึงปรารถนาที่จะพัฒนาไปสู่ร่างมนุษย์มากขึ้น
แน่นอนว่ามีเผ่าพันธุ์ที่ถูกจำกัดการบ่มเพาะ และไม่มีความหวังที่จะบรรลุถึงรูปร่างของมนุษย์ สำหรับพวกมันความงามของมนุษย์จึงอาจจะดูไม่ต่างจากหมูตัวเมีย
การฆ่าคนงามเช่นนี้เสียเปล่าเกินไป ด้วยเหตุนี้ มังกรแดงจึงอดกลั้นในนาทีสุดท้าย ถึงกระนั้น ความแข็งแกร่งของมันก็ยังเพียงพอที่จะทะลวงร่างกายของชายผู้นี้ให้เป็นรู
ปลายกรงเล็บของมันวาดไปถึงแผ่นหลังของซูอันอย่างรวดเร็ว แต่โดยไม่คาดคิด กรงเล็บกลับเจาะไม่เข้าแผ่นหลังของซูอัน แถมมังกรแดงกลับรู้สึกราวกับว่าเล็บของมันได้กระทบเข้ากับม่านพลังที่มองไม่เห็น
ทันใดนั้น เกล็ดสีน้ำเงินก็ปรากฏขึ้นบนหลังของชายผู้นี้ สกัดกั้นการโจมตีที่ร้ายแรงเอาไว้
“นี่มัน…” ก่อนที่มันจะจบประโยค ซูอันก็ใช้แท่งพิษแทงผ่านชั้นผิวหนังของมังกรทันที
มังกรแดงเยาะเย้ย “มดอย่างเจ้าน่ะเหรอจะมีอาวุธที่สามารถทำร้ายข้าได้? น่าขัน! อาวุธของเจ้ามันเล็กจนข้าเอามาแคะฟันไม่ได้ด้วยซ้ำ!”
ซูอันยิ้ม “เจ้าแน่ใจเหรอ?”
มังกรแดงยกกรงเล็บขึ้นเพื่อโจมตีเขาอีกครั้ง “เจ้าตายไปได้แล้ว ไอ้มดชั้นต่ำ!”
แต่แล้วทันใดนั้นร่างกายของมันก็สั่นสะท้าน มันส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัว “ก…เกิดอะไรขึ้น? นี่…นี่มันคำสาป!! อ๊ากกกก…”
เสียงของมันเต็มไปด้วยความกลัวและไม่เต็มใจ ดวงตาที่ใหญ่โตและโหดร้ายของมันค่อย ๆ มืดสลัวลง จากนั้นร่างกายที่ใหญ่โตของมันก็ดูเหมือนจะสูญเสียความแข็งแกร่งทั้งหมด และตกกระแทกลงกับพื้น ทั่วทั้งถ้ำสั่นสะเทือนราวกับโลกกำลังจะแตกสลาย
“มันตายไปแล้วจริง ๆ!” ซูอันหอบหายใจ พูดตามตรง เขาไม่มั่นใจสักเท่าไหร่ในตอนแรกว่าแท่งพิษจะมีผลกับมังกรขนาดใหญ่เช่นนี้หรือไม่
ไม่ว่ายังไงนี่ก็คือมังกร และมีระดับการบ่มเพาะที่สูงจนน่าสะพรึงกลัว มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่หากแท่งพิษจะล้มเหลว เพราะก่อนหน้านี้ แท่งพิษก็ใช้ไม่ได้กับจางฮั่นและผีดิบในมิติลับหยกจรัส
แต่ซูอันก็ยังคงตัดสินใจที่จะเดิมพันทั้งหมดนี้ ตัวเขาคิดว่าสาเหตุที่แท่งพิษใช้ไม่ได้ผลกับจางฮั่นและผีดิบตัวอื่น ๆ น่าจะเป็นเพราะผีดิบเป็นสิ่งไม่มีชีวิต ไม่ว่ามังกรตัวนี้จะมีพลังมหาศาลขนาดไหน มันก็ยังมีชีวิตอยู่
แน่นอน ไม่ว่าแท่งพิษจะพิเศษแค่ไหน มันก็ยังมีจุดอ่อนของมันอยู่ เขาจำเป็นต้องแทงศัตรูให้ได้ ซึ่งถ้าซูอันไม่แข็งแกร่งพอ เขาคงไม่มีวันแทงศัตรูได้สำเร็จ
ในการต่อสู้ปกติ มันคงจะยากสำหรับเขาที่จะแทงคนอย่างเฉินเซวียน นับประสาอะไรกับมังกรยักษ์ที่แข็งแรงกว่ามาก
นี่คือเหตุผลที่เขาตัดสินใจยืนนิ่งเพื่อล่อให้มังกรแดงตัวนี้ตายใจ และพยายามฆ่ามังกรแดงนี้ด้วยการใช้แรงทั้งหมดในการโจมตีครั้งเดียว
ร่างกายของชายหนุ่มได้ถูกปรับแต่งโดยพลังปฐมบทของวิชาปฐมบทแรกเริ่มหลายครั้งแล้ว และความสามารถในการฟื้นตัวของเขาก็น่าทึ่งเช่นกัน เขาเต็มใจที่จะเดิมพันว่าการโจมตีของมังกรจะไม่ส่งผลมากนัก
ซูอันไม่ได้คาดหวังว่าจี้หยกของซางหลิวอวี้จะเปิดใช้งาน
เมื่อเขานึกถึงคำพูดของซางหลิวอวี้เกี่ยวกับจี้นี้ ความกลัวก็ผุดขึ้นในใจเขา จี้หยกได้อนุมานว่าการจู่โจมนั้นเพียงพอที่จะปลิดชีวิตเขา จึงเป็นเหตุว่าทำไมมันถึงรับการโจมตีแทน
เสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวของหมี่ลี่ดังก้องอยู่ในใจ “เจ้ารู้ไหมว่าเมื่อครู่นี้เจ้าเฉียดตายแค่ไหน? ถ้าไม่ใช่เพราะสมบัติที่เจ้ามี ชีวิตของข้าก็จะปลิดปลิวไปด้วยเช่นกัน!!”
—
ท่านยั่วยุหมี่ลี่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +444…444…444…
—
“แต่เราก็ยังรอดมาได้จริงไหม…” ซูอันพูด
ร่างวิญญาณของหมี่ลี่ปรากฏขึ้น นางมองมาที่เขา ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความโกรธ