เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 562 เกือบถูกเปิดเผย
บทที่ 562 เกือบถูกเปิดเผย
บทที่ 562 เกือบถูกเปิดเผย
“หนุ่มน้อย เจ้าช่างโชคดีจริง ๆ” ชายชรามองดูส่วนโค้งเว้าอันแสนเย้ายวนของฉินหว่านหรู แม้ว่าใบหน้าของผู้หญิงคนนี้จะดูธรรมดา แต่รูปร่างของนางกลับยอดเยี่ยม แถมดวงตาของนางก็เปล่งประกายทำให้นางมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
ถ้าเขาอายุน้อยกว่านี้สักสิบปี เขาคงใช้เวลาสามวันสามคืนกับผู้หญิงคนนี้ได้อย่างแน่นอน และมันยิ่งจะเด็ดยิ่งขึ้นถ้าเขาจับสามีของนางมัดเอาไว้และบังคับให้มองเขาจัดการกับนางจากด้านข้าง
แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาชราแล้ว แม้จะมีความต้องการ แต่สังขารก็ไม่เอื้ออำนวย
“ฮ่า ๆ ขอบคุณมากสำหรับคำชมเชย ข้าก็คิดว่าโชคของข้าค่อนข้างดี” ซูอันกล่าวขณะที่เขารีบจูงฉินหว่านหรูไปที่ตรอกด้านข้าง
ขณะที่พวกเขากำลังจะเลี้ยวหัวมุมก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้น “นี่!”
ร่างกายของฉินหว่านหรูแข็งค้าง นางจำเสียงนี้ได้ มันเป็นของผู้หญิงที่นางเคยต่อสู้ด้วยก่อนหน้านี้!
นางตามทันพวกเขาแล้ว พวกเขาจะต้องถูกเปิดเผยอย่างแน่นอน
ฉินหว่านหรูตื่นตระหนก นางเตรียมที่จะคว้ามือซูอันวิ่งหนี แม้จะรู้ว่านางไม่สามารถหนีจากผู้บ่มเพาะระดับเจ็ดได้ อย่างน้อยก็ต้องลองดู
เมื่อรู้สึกถึงปฏิกิริยาของนาง ซูอันก็หยุดนางทันที “ท่านแม่ยาย อย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่าม!”
ฉินหว่านหรูรู้สึกสับสน มีดมาจ่อถึงคอแล้ว! พวกนางยังคงมีความหวังอยู่เล็กน้อย หากพยายามจะวิ่งหนีในตอนนี้ แต่จะไม่มีโอกาสเลยหากผู้หญิงคนนั้นเปิดเผยตัวตนของพวกนาง
“เชื่อข้า ทุกอย่างจะออกมาดี” จริง ๆ แล้ว ซูอันรู้สึกประหม่าอย่างมาก เขาเองก็กำลังเดิมพันเช่นเดียวกัน
“หืม? ทำไมเจ้าถึงกลับมาที่นี่?” ชายชราถามเมื่อเห็นชิวฮัวเล่ยที่สวมชุดดำ ในเวลาเดียวกันเขาก็มองดูซูอันกับฉินหว่านหรูที่ค่อย ๆ ออกเดิน เจตนาฆ่าของเขาลดลงอย่างมากเมื่อเห็นว่าทั้งสองไม่ได้หันหลังกลับมามอง
“ข้ากำลังไล่ตามใครบางคน หนึ่งในฝ่ายตรงข้ามหนีจากที่เกิดเหตุไปได้” ชิวฮัวเล่ยตอบ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ฉินหว่านหรูก็รู้สึกหนาวไปทั้งร่างกาย นางหยิกซูอันอย่างแรง เด็กคนนี้เป็นคนบอกว่าอย่าวิ่งหนี และตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว!
ซูอันกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บปวด ทำไมพวกผู้หญิงถึงชอบหยิกคนอื่นกันนักนะ?
“เจ้าไล่ตามใครมา?” ผู้อาวุโสคนนั้นแสดงความประหลาดใจ เขาชี้ไปที่ ซูอันและฉินหว่านหรู “เป็นพวกเขาหรือเปล่า?”
ชิวฮัวเล่ยขมวดคิ้วมองทั้งสองคน แต่แล้วมุมริมฝีปากของนางก็โค้งขึ้นเมื่อนางเห็นมือของซูอันที่โอบรอบสะโพกของผู้หญิงคนนั้น
ฉินหว่านหรูยืดตัวตรงโดยไม่รู้ตัวเมื่อรู้สึกว่าตัวเองถูกจ้องมอง
ซูอันเองก็กังวลใจเช่นกัน แม้ว่าเขาจะวางเดิมพันไปแล้ว แต่ชายหนุ่มเองก็ไม่เคยเข้าใจความคิดของชิวฮัวเล่ยเลยสักที เขาไม่รู้ว่านางจะเลือกอะไรในท้ายที่สุด
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ชิวฮัวเล่ยก็ส่ายหัว “ไม่ใช่พวกเขา ข้ากำลังไล่ตามคนคนเดียว”
ฉินหว่านหรูตกตะลึงกับคำพูดนี้ นางมองซูอันอย่างสับสน แม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไร แต่ความหมายของนางชัดเจน ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงโกหก?
ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขายิ้ม แต่ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติม เขาต้องพาฉินหว่านหรูออกไปจากที่นี่ก่อน
“บุคคลนั้นมีระดับการบ่มเพาะสูงหรือไม่? เขาหนีจากเจ้าไปได้ยังไง?” ชายชราไม่สงสัยในคำพูดของนาง เขาไม่รู้เหตุผลว่าทำไมชิวฮัวเล่ยถึงต้องโกหก
ชิวฮัวเล่ยส่ายหัว “ระดับการบ่มเพาะของอีกฝ่ายสูงกว่าข้าเล็กน้อย แต่เขามีประสบการณ์ไม่มาก ข้าซัดเขาไปฝ่ามือหนึ่ง หนีไปก็ไม่รอดจากความตายอยู่ดี”
ฉินหว่านหรูประหลาดใจ ผู้หญิงคนนี้จงใจหลอกพวกของตัวเอง แถมยังพูดช่วยขจัดปัญหาในอนาคตที่จะตามมาให้กับพวกเขาด้วย
ชายชราพยักหน้า “ใครก็ตามที่ถูกเจ้าโจมตีที่จุดสำคัญจะมีโอกาสรอดไม่มากนัก ทว่าเราจะประมาทไม่ได้ บุรุษทั้งหลาย จงส่งคนไปตรวจค้นบริเวณโดยรอบเพื่อหาผู้ต้องสงสัยที่ได้รับบาดเจ็บ”
กลุ่มชายฉกรรจ์แยกตัวออกจากกลุ่มหลักเพื่อดำเนินการตามคำสั่งนี้ ชายชราพูดต่อ “ใช่แล้ว…กู่เยว่อีอยู่ที่ไหน?”
“ขณะนี้ศิษย์พี่กำลังเผชิญหน้ากับซ่างเชียน” ชิวฮัวเล่ยตอบ
ชายชราสูดลมหายใจลึก “กู่เยว่อีไม่อาจสู้ซ่างเชียนได้ เราจะไปช่วยเขากันก่อน!”
หลังจากพูดจบ ชายชราก็พุ่งไปในทิศทางที่มีการต่อสู้อย่างรวดเร็วราวกับเหยี่ยวออกล่า
ชิวฮัวเล่ยหันกลับมามองไปทางที่ซูอันและฉินหว่านหรูจากไป “เจ้าเป็นหนี้ข้าหนึ่งหน!” นางพึมพำก่อนจะหันหลังกลับตามชายชราคนนั้นไป
หลังจากที่พบว่ากลุ่มของชายชราออกไปแล้ว ในที่สุดฉินหว่านหรูก็ผ่อนคลายได้ แต่นางยังคงสับสน “ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงปล่อยเราไป?”
ซูอันส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีในกลุ่มพวกเขาอาจมีการขัดแย้งภายในและนางไม่ต้องการให้เราตกอยู่ในมือของชายชรานั่น”
ชิวฮัวเล่ยเพิ่งช่วยชีวิตเขาไว้ ไม่มีทางที่เขาจะเปิดโปงนาง…
ฉินหว่านหรูเป็นถึงชายาของอ๋องและมีอำนาจอยู่ในมือ หลังจากประสบความอับอายกับการพ่ายแพ้เช่นนั้น ถ้านางรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นชิวฮัวเล่ย นางคงไม่ลังเลเลยที่จะส่งทหารไปหอสุขนิรันดร์เพื่อตรวจสอบกลุ่มอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังของชิวฮัวเล่ยทั้งหมด
“อย่างนั้นเหรอ?”ฉินหว่านหรูสงสัย “แต่ลางสังหรณ์ของข้ามันบอกว่าเจ้าสองคนรู้จักกันดี ไม่เช่นนั้นเจ้าคงไม่บอกให้ข้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามหรอกจริงไหม?”
“ท่านเห็นเป็นอย่างนั้นได้ยังไง?” ซูอันแสร้งทำเป็นไม่รู้ “ข้าแค่รู้สึกว่ามันจะชัดเจนเกินไปถ้าเราวิ่งหนี ข้าแค่ลองเสี่ยงดู ต้องขอบคุณดาวแห่งโชคที่อยู่เคียงข้างข้า ดูเหมือนว่าโชคในการพนันของข้าจะเชื่อถือได้เสมอ!”
“ตระกูลฉู่ของเราห้ามเล่นการพนัน!” ฉินหว่านหรูตวาด อย่างไรก็ตาม นางรู้ดีว่าลูกเขยคนนี้ชนะบ่อนและได้รับรางวัลเงินเจ็ดล้านตำลึงจาก บ่อนโกยเงิน และอีกล้านตำลึงจากงานประลองระหว่างตระกูล และในสถานการณ์อันตรายเช่นนี้ เขาก็เลือกพนันทางที่ถูกต้อง! นางหาเหตุผลที่จะสั่งสอนเขาไม่เจอ
จู่ ๆ นางก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ นางทำหน้าบึ้งใส่เขา “เจ้าจะจับตัวข้าไปอีกนานแค่ไหน!?”
ตอนนี้ซูอันตระหนักว่าตัวเองยังคงโอบนางอยู่ เหงื่อเย็นไหลอาบใบหน้าของเขา จึงรีบกระโดดออกห่างทันที “ท่านแม่ยาย อย่าได้ขุ่นเคือง! เมื่อครู่สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ข้าจำเป็นต้องทำให้แนบเนียน!”
ฉินหว่านหรูแสดงสีหน้าบูดบึ้งขณะที่นางฟังข้อแก้ตัวที่ไม่สิ้นสุดของเขา นางยังคงเงียบตลอดเวลา
ซูอันรู้สึกกลัวเล็กน้อย เขาอาจจะทำให้นางขุ่นเคืองอย่างรุนแรงในครั้งนี้
ธรรมเนียมปฏิบัติเกี่ยวกับปฏิสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงในโลกนี้ไม่ได้เข้มงวดเหมือนในจีนโบราณ แต่ก็ไม่ได้หย่อนยานพอที่จะให้ลูกเขยโอบสะโพกดินระเบิดของแม่ยายได้!
อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นเขาไม่มีทางเลือกจริง ๆ นอกจากนี้ เขามาจากโลกสมัยใหม่ และขาดความอ่อนไหวต่อเรื่องการสัมผัสเนื้อตัวแบบผิวเผินระหว่างชายหญิง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้ทำลงไปโดยสัญชาตญาณ
ฉินหว่านหรูเงียบเป็นเวลานาน ในที่สุดนางพูดว่า “ใบอนุญาตค้าเกลืออยู่ที่ไหน?”
“สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด ข้าจึงต้องซ่อนพวกมันไว้ พรุ่งนี้ข้าจะเอาพวกมันมาให้ท่าน” ซูอันตอบ
ซูอันต้องการเก็บเรื่องของดวงแก้วผู้รอบรู้ไว้เป็นความลับ หมี่ลี่เคยบอกเขาว่านางไม่เคยเห็นพื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่เช่นนี้มาก่อน และชายหนุ่มไม่สามารถบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ การทำเช่นนั้นจะเป็นการเชิญชวนหายนะครั้งใหญ่มาสู่ตัวเขาเอง
ในที่สุดการแสดงออกของฉินหว่านหรูก็ผ่อนคลายลง “ข้าจะให้อภัยและลืมการกระทำที่ไม่สุภาพของเจ้าในวันนี้ ด้วยเห็นแก่ผลงานของเจ้าที่มีต่อตระกูลฉู่ แต่ว่า…นี่เป็นครั้งสุดท้าย!”
“แน่นอน แน่นอน! มันจะไม่เกิดขึ้นอีก” ซูอันสูดลมหายใจ “ข้าไม่ได้เบื่อชีวิตตัวเองมากขนาดนั้น ข้าไม่มีทางทำอีกครั้งแน่นอน โอ้จริงสิ ท่านแม่ยาย วันนี้ข้าทำเพื่อตระกูลหลายอย่าง น่าจะมีรางวัลให้ข้าหน่อย ว่าไหม?”