เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 587 ความใกล้ชิดที่มากเกินไป
บทที่ 587 ความใกล้ชิดที่มากเกินไป
บทที่ 587 ความใกล้ชิดที่มากเกินไป
ซูอันตอนนี้ยังไม่สนใจที่จะไล่ล่าหงซิงอิง แทนที่จะทำอย่างนั้น เขากลับเลือกส่งคนไปคุ้มกันฉินหว่านหรูที่กลับมายังคฤหาสน์ตระกูลฉู่แทน
ระหว่างรอการมาถึงของนาง ซูอันก็ค้นร่างของฉู่เทียนเซิง และพบขวดยาสองขวด มีขวดสีขาวที่มีคำว่า ‘ยาน้ำนมกระทิง’ บนฉลากสีแดง ซึ่งเป็นยาพิษที่แม้แต่จี้เติ้งถูก็โหยหา
ฮึ่ม! ข้าจะเก็บมันไว้เอง ใครจะรู้ว่าหญิงสาวจะถูกพรากความบริสุทธิ์ไปสักกี่คนถ้าข้ามอบมันให้กับไอ้หมอเทวะบ้ากามนั่น?!
ขวดที่สองมีสีเขียวที่มีคำว่า ‘ความกังวลจงหายไป’ บนฉลาก
“ความกังวลจงหายไป?” ซูอันตะลึงงัน ชื่อนี้ดูเหมือนเป็นบทกวี แต่ข้าไม่รู้ว่ามันมีผลอย่างไร?
ไว้ค่อยหาโอกาสทดสอบอีกที…
อย่างไรก็ตาม เมื่อความคิดที่จะทดสอบมันปรากฏขึ้นในหัว ซูอันก็นึกถึงหน้าจี้เติ้งถูที่กำลังแยกเขี้ยวใส่ตนเอง หากจี้เติ้งถูรู้ว่าเขาเคยใช้จี้เสี่ยวซีทดลองยาปลุกกำหนัด ตัวเองคงจะถูกสับเป็นชิ้น ๆ แน่นอน
ชายหนุ่มสั่นสะท้านและรีบกำจัดความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเก็บพวกมันไว้ในดวงแก้วผู้รอบรู้
…
ปฏิกิริยาแรกของฉินหว่านหรูเมื่อเห็นทหารของคฤหาสน์ตระกูลฉู่คือหลบซ่อนตัว และในขณะเดียวกัน นางก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับซูอัน เพราะเขาหายไปนานมาก
ผู้ส่งสารให้คำมั่นว่าเขาจงรักภักดีครั้งแล้วครั้งเล่า นอกจากนี้นางยังจำได้ว่าชายผู้นี้ไว้ใจได้เสมอ ด้วยเหตุนี้ ฉินหว่านหรูจึงยอมกลับมายังคฤหาสน์ตระกูลฉู่อีกครั้งอย่างไม่มั่นใจนัก
เมื่อผู้คนในคฤหาสน์ตระกูลฉู่เห็นฉินหว่านหรู พวกเขาก็รู้สึกโล่งใจ แม้ว่าซูอันจะเป็นนายน้อยของตระกูลฉู่ แต่ผู้ที่มีอำนาจอย่างแท้จริงคือ ท่านอ๋อง นายหญิง และคุณหนูใหญ่
ฉินหว่านหรูรีบจัดการสะสางเรื่องต่าง ๆ ทันที จากนั้นเมื่อนางมีเวลาว่าง นางก็ดึงซูอันไปด้านข้างและมองเขาอย่างงงงวย “เจ้าทำได้ยังไง?”
“ทำอะไร?” ซูอันพูดด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าก็รู้ว่าข้ากำลังพูดถึงหงจงและฉู่เทียนเซิง! คนหนึ่งอยู่ที่ระดับเจ็ดและอีกคนอยู่ที่ระดับหก เจ้าไม่ควรเอาชนะพวกเขาได้! ไม่เพียงแค่นั้น รอบข้างพวกเขายังเต็มไปด้วยทหาร เจ้าฆ่าพวกเขาได้ยังไง?”
“คราวนี้มันคงถึงเวลาที่ข้าต้องเปิดเผยตัวตนซะที ข้าคงไม่สามารถเก็บเป็นความลับได้อีกแล้ว…จริง ๆ แล้วข้าเป็นผู้บ่มเพาะอันทรงพลังที่เร้นกายมาอยู่ในตระกูลฉู่ของท่าน!” ซูอันประกาศอย่างภาคภูมิใจ
ฉินหว่านหรูเชื่อไม่ลง นางเคยเห็นซูอันต่อสู้มาก่อน แม้ว่าเคล็ดวิชาที่ซูอันใช้จะค่อนข้างยอดเยี่ยม แต่ก็ไกลจากคำว่าผู้บ่มเพาะอันทรงพลัง
อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงศพของหงจงและฉู่เทียนเซิง นางก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อ
นางจำได้ว่าฉู่ชูเหยียนบอกให้นางไว้วางใจซูอัน นางก็ถอนหายใจ เห็นได้ชัดว่าความเข้าใจของชูเหยียนเหนือกว่าตัวนางมาก
จู่ ๆ นางก็คิดถึงเรื่องที่เป็นบาดแผลในความภาคภูมิใจของตัวเอง
ต่อไปนางควรจะเผชิญหน้ากับลูกสาวของนางอย่างไร?
ทันใดนั้น ฉู่เยว่พั่วก็วิ่งเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ท่าทางดูเป็นห่วงเป็นใยอย่างยิ่ง “ข้าดีใจที่ท่านไม่เป็นไร พี่สะใภ้! ข้าเป็นห่วงท่านมาก!”
ฉินหว่านหรูสยบความคิดที่ยุ่งเหยิงของนาง “ฮึ่ม เจ้าคงผิดหวังมากกว่าที่เห็นข้ากลับมา!”
แม้ว่าตระกูลสายที่สามจะไม่ได้ทำอะไรเลยในระหว่างการทรยศของฉู่เทียนเซิง แต่การที่พวกเขาแสร้งทำเป็นไม่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม!
ฉู่เยว่พั่วยิ้มอย่างขมขื่น “พี่สะใภ้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก จนไม่มีเวลาให้เราตอบโต้ เราพยายามตามหาท่าน นอกจากนี้ฉู่เทียนเซิงและหงจงก็แข็งแกร่งเกินกว่าที่เราจะตอบโต้ด้วย ถ้าข้าอ้าปากแย้งแม้แต่คำเดียวครอบครัวของข้าทั้งหมดคงจะถูกฆ่าตาย! ในสถานการณ์นั้น ข้าจึงไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก ข้าก็ได้แต่แสร้งทำเป็นตามน้ำไปกับพวกเขาโดยที่ยังสำรองกองกำลังไว้ เพื่อต้อนรับพี่ใหญ่และพี่สะใภ้กลับมาในเวลาที่เหมาะสม”
ฉินหว่านหรูรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นละครตบตานาง “แล้วเวลาที่เหมาะสมของเจ้าควรเป็นเมื่อไหร่?” นางเย้ยหยัน
ฉู่เยว่พั่วยิ้มขอโทษ “ยกตัวอย่างเช่นเมื่อตอนที่อาซูกลับมา ข้าได้ส่งคนของข้าออกไปช่วยอาซูจัดการกับกองกำลังที่เหลืออยู่ของหงจงและฉู่เทียนเซิง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถกำราบคนเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้”
ฉินหว่านหรูรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนประเภทลื่นไหลไปกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี อย่างน้อยที่สุด เขาก็ไม่ได้สมคบคิดกับฉู่เทียนเซิง นี่คือเหตุผลที่นางตัดสินใจที่จะไม่ใช้วิธีรุนแรงกับเขา เพียงแต่ตำหนิไปพอควร
หลังจากนั้นนางก็ไปหาฉู่ฮวนเจา สองสามวันที่ผ่านมานี้ลูกสาวคนรองของนางคงจะหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
เมื่อนางมาหาฉู่ฮวนเจา ก็พบว่าลูกสาวของนางกำลังอยู่ในอ้อมกอดของซูอัน น้ำตายังคงไหลออกจากดวงตาของนางทั้งที่ยังหลับสนิท
“ชู่ว… ” ซูอันทำท่าทางให้ฉินหว่านหรูเงียบเสียง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการให้นางปลุกฮวนเจา
ฉินหว่านหรูขมวดคิ้วและมองเห็นแขนของฮวนเจาที่โอบรอบคอของซูอัน นางจึงทำได้เพียงถอนหายใจ
ไอ้เจ้าเด็กบ้านี่!
ไม่นานต่อมา ซูอันก็ค่อย ๆ ประคองฉู่ฮวนเจาลงไปนอนที่เตียง ก่อนจะลุกออกมาและพูดว่า “ท่านแม่ยาย ฮวนเจาเป็นห่วงเราตลอดเวลาที่ผ่านมาและไม่ค่อยได้พักผ่อน กว่าข้าจะทำให้นางสงบลงได้ก็นานพอดู”
ฉินหว่านหรูยิ้มจาง ๆ “เด็กคนนี้ปกติจะเจ้าอารมณ์และซุกซน ใครจะรู้ว่านางห่วงใยพ่อแม่ของนางมากขนาดนี้ ดูเหมือนว่าความรักที่เราแสดงให้นางเห็นจะไม่ได้เปล่าประโยชน์”
จากนั้นการแสดงออกของนางก็แข็งค้าง “เจ้าคิดยังไงกับฮวนเจา?”
ซูอันตกตะลึง “คิดเหรอ ไม่เลย ข้าแค่ปฏิบัติต่อนางในฐานะน้องสาวที่น่ารักและเป็นเพื่อนที่ดี”
“งั้นก็ดี” สีหน้าของฉินหว่านหรูผ่อนคลายลง “อย่างไรก็ตาม เจ้าควรระวังตัวเอง แม้ว่านางจะยังเด็กอยู่ นางก็ใกล้จะถึงวัยออกเรือนแล้ว หากนางยึดติดกับเจ้าอยู่เสมอ ชื่อเสียงของนางก็จะมัวหมอง หากเป็นเช่นนั้นอาจไม่มีตระกูลใดเต็มใจที่จะรับนางไปเป็นสะใภ้”
ซูอันหัวเราะออกมาเสียงดัง “ใครจะไม่ต้องการคนที่น่าเอ็นดูอย่างฮวนเจา ถ้าไม่มีใครรับนางข้ารับเองก็ได้!”
ใบหน้าของฉินหว่านหรูเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที นางคว้าไม้เกาหลังและเริ่มตีเขา
“ไอ้เด็กเวร!”
—
ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 233…233…233…
—
ซูอันหลบการโจมตีของนางและอ้อนวอน “ท่านแม่ยาย อภัยให้ข้าด้วย มันเป็นแค่เรื่องตลก แค่เรื่องตลก…”
ผู้เฒ่ามี่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด เขายิ้มอย่างครุ่นคิดเมื่อเห็นเหตุการณ์วุ่นวายนี้
ไม่เลว…เด็กคนนี้มีพรสวรรค์มากกว่าที่ข้าคิด!