เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 629 โอกาสในการทำลาย
บทที่ 629 โอกาสในการทำลาย
บทที่ 629 โอกาสในการทำลาย
ใบหน้าของซูอันซีดเผือดเมื่อเห็นฝ่ามือกำลังฟาดลงมา ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะหลบ ลูกธนูนับไม่ถ้วนพุ่งออกจากกองทัพผ้าคลุมสีชาดที่อยู่ด้านหลัง ก็ยิงต้านไปยังฝ่ามือโปร่งแสง
ลูกธนูที่ยิงออกไปถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีแดงเป็นชั้น ๆ
ซูอันประหลาดใจ นี่มันเหมือนกับลูกศรเวทมนตร์ในหนังเลย!
ฝนธนูสีแดงตกกระทบมือโปร่งแสง อำนาจของมันกระจัดกระจายไปในทันที แต่ลูกธนูยังคงเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม พวกมันใช้พลังงานไปมากแล้ว และถูกทหารองครักษ์ปัดป้องอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของซูอันเบิกกว้าง เขาไม่คิดว่ากองทัพจะมีอำนาจขนาดนี้
สีหน้าของหลิวเหย่าดูน่าเกลียด การโจมตีของเขาล้มเหลวต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาคำรามด้วยความโกรธ ก่อนจะฟาดฟันกระบี่และปลดปล่อยปราณกระบี่ยาวสามสิบจั้งลงไปที่กองทัพผ้าคลุมสีชาด เขาต้องทำลายกระบวนรบของกองทัพนี้ให้ได้!
“จัดแถวป้องกัน!”
คำสั่งดังขึ้นกระหึ่ม ภายในชั่วอึดใจ เหล่าทหารแนวหน้าของกองทัพผ้าคลุมสีชาดก็ยกโล่ขึ้นเหนือศีรษะ ทำมุมเอียงเล็กน้อย โล่ของพวกเขามีแสงสีฟ้าหมุนวน จากนั้นโล่ขนาดยักษ์ก็ปรากฏบนอากาศเหนือศีรษะของพวกเขา
กระบี่พลังชี่ยาวสามสิบจั้งของหลิวเหย่าที่ดูมีพลังอย่างไม่น่าเชื่อในตอนแรก เมื่อปะทะกับโล่ขนาดใหญ่นี้ จึงเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น และกระบี่พลังชี่ได้แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที
คลื่นกระแทกแผ่กระจายไปทั่วพื้นผิวของโล่ยักษ์ แต่มันกลับไม่มีร่องรอยว่าจะบุบสลาย
ซูอันสังเกตกระบวนการทั้งหมดนี้อย่างตั้งใจ เขาเห็นว่าระลอกคลื่นกระแทกแผ่กระจายไปทั่วโล่ของทหารแต่ละคน
แม้แต่พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็ดูไม่น่ากลัวอีกต่อไปเมื่อมันถูกหารแบ่งออกเป็นหลายพันส่วน
ซูอันจะพลาดโอกาสดี ๆ แบบนี้ไปได้อย่างไร เขาเหลือบมองหลิวเหย่าแล้วยิ้มเยาะ “แม่ทัพหลิวมีอะไรจะให้เราดูอีกไหม?”
การยั่วยุนี้มากเกินไป หลิวเหย่ารู้สึกราวกับว่าเขากำลังจะระเบิดด้วยความโกรธ
—
ท่านยั่วยุหลิวเหย่าสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 999!
—
“หากเจ้ามีฝีมือก็หยุดซ่อนตัวหลังกองทัพได้แล้ว! ออกมาเผชิญหน้ากับข้าตัวต่อตัวซะ!” หลิวเหย่าคำราม เขาสามารถบดขยี้กุ้งตัวเล็กตัวนี้ได้ด้วยนิ้วเดียว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้หากมันซ่อนตัวอยู่หลังกองทัพที่แข็งแกร่งเช่นกองทัพผ้าคลุมสีชาด
ซูอันส่ายหัวก่อนจะถอนหายใจ “เป็นข้าหรือท่านที่โง่กันแน่? ผู้บ่มเพาะขั้นสูงสุดของระดับเก้าต้องการให้เด็กรุ่นเยาว์ท้าทายเขาเพียงลำพัง หูของข้ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”
อีกฝ่ายมีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการโค่นล้มตระกูลฉู่ และไม่มีทางที่จะเปลี่ยนใจแม้ว่าซูอันจะทำตัวน่ารักกว่านี้เล็กน้อยก็ตาม ในเมื่อเป็นอย่างนี้ จะมีเหตุผลอะไรที่จะยั้งปากไว้? เขาจะพูดอะไรก็ได้ที่เขาต้องการจะพูด ด้วยวิธีนี้ ชายหนุ่มจะสามารถระบายความหงุดหงิดและได้รับคะแนนความโกรธแค้นไปด้วยในตัว
“เจ้า…” หลิวเหย่าโกรธจนแทบสำลัก เขารู้ว่าข้อเรียกร้องของเขานั้นไม่สมเหตุสมผล แต่ก็เผลอพูดออกไปเพราะไอ้เด็กคนนี้มันสร้างปัญหาให้ตัวเองไม่รู้จักจบจักสิ้น จนเขาโกรธจนแทบบ้า
—
ท่านยั่วยุหลิวเหย่าสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 991!
—
เซี่ยเต๋าอวิ๋นพูดขึ้นแทรกในเวลานี้ “แม่ทัพหลิว นายน้อยซูมาที่นี่เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยของท่านอ๋องฉู่ และคนอื่น ๆ ข้าขอให้แม่ทัพโปรดรับรู้ถึงความกตัญญูของเขาและอนุญาตให้กองทหารของเขาปกป้องคฤหาสน์ตระกูลฉู่ด้วย”
หลิวเหย่ามองดูเซี่ยเต๋าอวิ๋น เขารู้ว่านางเปิดทางถอยให้ ดังนั้นการแสดงออกของเขาจึงดีขึ้นเล็กน้อย “เจ้าเป็นลูกสาวของเซี่ยอี้ใช่ไหม? ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับความสามารถของเจ้าแม้ว่าจะอยู่ในเมืองหลวง เจ้าเป็นหนึ่งในผู้ถูกคัดเลือกที่อาจได้รับการพิจารณาให้เป็นชายาขององค์รัชทายาท เราใกล้จะเป็นญาติกันแล้ว!”
ซูอันมองเซี่ยเต๋าอวิ๋นอย่างแปลกใจ เขาคาดไม่ถึงเลยว่านางจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกขององค์รัชทายาท นี่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อครู่เขาเพิ่งจะสวมกอดผู้หญิงขององค์รัชทายาทหรอกเหรอ?
เซี่ยเต๋าอวิ๋นหน้าแดง “แม่ทัพหลิวพูดเกินไปแล้ว หญิงต่ำต้อยเช่นข้าไม่คู่ควรให้องค์ชายรัชทายาทโปรดปรานแม้แต่น้อย”
นางเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน แต่ทุกคนในตระกูลเซี่ยรู้ดีว่ามีตัวแปรมากเกินไปกับการพิจารณาถูกรับเลือกเป็นชายาขององค์รัชทายาท ภูมิหลังของตระกูลเซี่ยไม่โด่งดังพอที่จะเกี่ยวดองกับองค์รัชทายาทผ่านการแต่งงาน ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพวกเขา
ยิ่งกว่านั้น ด้วยสิ่งที่รู้เกี่ยวกับองค์รัชทายาท นางจึงไม่ปรารถนาที่จะอยู่กับเขาแม้ว่านางจะได้รับเลือก…
หลิวเหย่ากล่าวต่อ “ประเดี๋ยวก่อน ข้าได้ข่าวว่าเจ้าถูกไอ้เด็กนี่จับเป็นตัวประกันเพื่อเปิดทางเข้ามาในเมือง นั่นเป็นเรื่องจริงใช่ไหม? ฮึ่ม! กล้าจับกุมลูกสาวเจ้าเมืองเป็นตัวประกัน แถมยังพานางมากดดันการสืบสวนของราชสำนัก โทษนี้ใหญ่หลวงถึงขั้นประหาร คุณหนูเซี่ยขอแค่เพียงเจ้าเอ่ยขอความช่วยเหลือเพียงคำเดียว ข้าและทหารองครักษ์ทั้งหมดจะทวงความยุติธรรมให้เจ้าในทันที!”
เขาพบโอกาสแล้ว ตราบใดที่นางพูดออกมา เขาและลูกน้องของตัวเองจะมีเหตุผลอันสมบูรณ์แบบในการฆ่าซูอัน และถ้ากองทัพผ้าคลุมสีชาดกล้าที่จะต่อต้านนั่นจะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ โทษของพวกมันคือการก่อกบฏอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้ว่าจำนวนทหารองครักษ์ของจักรพรรดิจะมีน้อย และความแข็งแกร่งโดยรวมจะเทียบไม่ได้ แต่ด้วยเหตุนี้ เขาจะสามารถทำให้กองทหารของเจ้าเมืองเข้ามามีส่วนร่วมด้วยได้
หรือต่อให้ทั้งเขาและจวนเจ้าเมืองจันทร์กระจ่างจะแพ้ในท้ายที่สุด แต่ก็มั่นใจว่าตนเองจะสามารถหลบหนีกลับเมืองหลวงไปได้
ต้องรู้ว่าการสู้รบกับ ทหารราชองครักษ์และกองกำลังป้องกันเมืองเป็นความผิดร้ายแรงพอที่จะต้องโทษประหารทั้งสาแหรกตระกูล ซึ่งนั่นยิ่งเป็นการดีเพราะภารกิจที่เขาได้รับมอบหมายมานั้นหลัก ๆ คือทำลายตระกูลฉู่ให้สิ้นอยู่แล้ว
แต่น่าเสียดาย โดยที่ไม่มีใครคาดคิด เซี่ยเต๋าอวิ๋นกลับคล้องแขนซูอันและยิ้มตอบ “ขอบคุณแม่ทัพหลิวสำหรับเจตนาดีของท่าน แต่อาซูและข้าเป็นเพื่อนกัน เขาจึงไม่ได้ลักพาตัวข้ามา”
ทันทีที่สิ้นประโยคนี้ ฉู่อวี้เฉิงสะกิดฉู่ฮงไฉและกระซิบทันที “ข้าไม่เข้าใจเลย ทำไมผู้หญิงทั้งหลายถึงชอบซูอันนัก? ข้ามั่นใจว่าเขาไม่หล่อเท่าข้าแน่ ๆ แถมร่างกายของข้าก็บึกบึนกว่าตั้งเยอะ!”
ฉู่ฮงไฉมองดูหุ่นที่อ้วนกลมของฉู่อวี้เฉิงและเยาะเย้ย “นี่เจ้าไม่รู้ตัวเองจริง ๆ ขนาดนี้เลยเหรอ?”
อย่างไรก็ตาม ฉากในหอสุขนิรันดร์ปรากฏขึ้นอีกครั้งในใจของฉู่ฮงไฉ ย้อนกลับไปตอนนั้น ชิวฮัวเล่ยดูเหมือนมีใจให้กับซูอันอย่างรุนแรง เมื่อนึกถึงเรื่องนั้นเขาก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาอีกรอบ
ทหารกองทัพผ้าคลุมสีชาดคนอื่น ๆ ต่างก็มองหน้ากันอย่างงุนงงเช่นกัน
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ในเรื่องต่าง ๆ ของนายน้อยคนนี้มาบ้าง แต่การที่บุตรีของเจ้าเมืองถึงขนาดออกหน้าให้ขนาดนี้ มันเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้ไปไกลโข!
ตรงข้ามกับการแสดงออกที่อยากรู้อยากเห็นพวกเขา ท่าทีของหลิวเหย่ากลับอึมครึมอย่างสิ้นเชิง “คุณหนูเซี่ย เจ้ารู้ไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่!?”
เซี่ยเต๋าอวิ๋นยิ้มและพูดอย่างสุภาพว่า “ผู้น้อยคนนี้ตระหนักถึงการกระทำของตัวเองดี”
หลิวเหย่าตกตะลึงกับความดื้อรั้นของนาง ตระกูลฉู่อยู่ข้างราชันฉีแล้วงั้นเหรอ? ข้าต้องรายงานเรื่องนี้กลับไปยังจักรพรรดินีโดยเร็วที่สุด!