เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 709 สายฝนโลหิต
บทที่ 709 สายฝนโลหิต
บทที่ 709 สายฝนโลหิต
เขาดูดีไม่น้อยเลยตอนที่เขายิ้ม… อ…เอ๊ะ? เดี๋ยวก่อน! เกิดอะไรขึ้นกับข้า!?
ซ่างเฉี่ยนเอามือถูแก้ม ทำไมใบหน้าของนางถึงร้อนกว่าปกติ?
ซ่างเชียนไม่พลาดปฏิกิริยาของน้องสาว ความโกรธท่วมท้นจิตใจของเขาทันที
ไอ้ซูอัน! ไอ้สารเลว! เจ้าไม่ได้ล้อเล่นกับคู่หมั้นของข้าเพียงคนเดียว แต่ยังคิดจะมากอร่อกอติกกับน้องสาวของข้าด้วย!!!
บัดซบ! บัดซบที่สุด!!
—
ท่านยั่วยุซ่างเชียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 666…666…666…
—
ติ้งรุ่นพ่นลมหายใจ “เช่นนั้นเรามาดูกันว่าอันไหนที่แข็งกว่ากันระหว่างร่างกายของเจ้าหรือดาบของข้า!”
พูดจบประโยคติ้งรุ่นโจมตีอีกครั้งทันที แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บ แต่อำนาจของท่าไม้ตายยังคงสำแดงออกได้อย่างไม่บกพร่อง ด้วยอำนาจของเสือโคร่งสายฟ้า ความเร็วของเขายังคงเท่ากับตอนที่ร่างกายของเขาปกติ
การจู่โจมอย่างกระทันหันนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ตาเปล่าจะติดตามการเคลื่อนไหวของเขาได้ ติ้งรุ่นได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาและปิดกั้นเส้นทางหลบหนีที่เป็นไปได้ทั้งหมดของซูอัน ตัวเขามั่นใจว่าเขาจะสามารถปลิดชีพอีกฝ่ายได้ด้วยการโจมตีครั้งนี้
ติ้งรุ่นเสียเวลาอยู่ที่นี่ไปมากแล้ว ตลอดอาชีพการเป็นนักฆ่าของเขา ตัวเองไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย
“ระวัง!” เพ่ยเหมียนหมานและเจิ้งตานกรีดร้องออกมาพร้อมกัน พวกนางเห็นชัดเจนว่าการโจมตีครั้งนี้อันตรายเพียงใด ทั้งคู่ต่างไม่เชื่อว่าจะรอดจากการโจมตีครั้งนี้หากเปลี่ยนเป็นตัวเอง
น่าเสียดายที่ทั้งคู่อยู่ในสภาพแย่มาก และความเร็วของการโจมตีของติ้งรุ่นก็เร็วเกินไป ไม่มีทางที่พวกนางจะให้ความช่วยเหลือซูอันได้แม้จะต้องการก็ตาม
แม้แต่ซ่างเฉี่ยนก็ยังมองอย่างประหม่า ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางเริ่มกังวลเรื่องผู้ชายคนนี้ หรือเป็นเพราะรอยยิ้มอันอบอุ่นนั่นหรือเปล่า?
มีเพียงซ่างเชียนเท่านั้นที่แอบดีใจ เขาจะมีความสุขมากแน่นอนถ้าซูอันถูกสับเป็นหมื่น ๆ ชิ้น! ทว่า เมื่อเขานึกขึ้นได้ว่า หลังจากที่ซูอันพบกับจุดจบ เขาและครอบครัวของเขาก็จะเป็นเป้าหมายต่อไป สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกขัดแย้งค่อนข้างมาก
แต่แล้ว ทันใดนั้นดวงตาของติ้งรุ่นก็เบิกกว้างขึ้นใหญ่พอ ๆ กับไข่ห่าน! การโจมตีที่เขามั่นใจเต็มสิบส่วนกลับพลาด!
ไม่สิ เขาไม่ได้พลาด เห็นได้ชัดว่าโจมตีโดนอีกฝ่ายแล้ว!
แต่ดาบของเขาที่ฟันออกไปกลับผ่าร่างแยกปลอมของอีกฝ่ายแทน และเมื่อเขาเพ่งมองดูอีกที ก็สังเกตเห็นว่ายังมีซูอันเหลืออยู่อีกสองคนอยู่ตรงหน้าเขา
“ทักษะการแยกร่าง?” ติ้งรุ่นที่มีประสบการณ์ขมวดคิ้ว
ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก อีกครั้งที่เขารู้สึกเป็นหนี้บุญคุณหมี่ลี่ที่ดัดแปลงวิชาร่างก้าวทานตะวันให้ มันเป็นทักษะที่น่าเหลือเชื่ออย่างแท้จริง นอกจากนั้น นางยังบังคับเคี่ยวเข็ญให้เขาฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองสามารถแยกร่างออกเป็นสามได้ ด้วยความสำเร็จในวิชานี้เขาจึงสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของติ้งรุ่นได้
ติ้งรุ่นตกตะลึงแค่เพียงพริบตาเท่านั้น จากนั้นเขาก็ไล่ฟาดฟันซูอันด้วยดาบของเขาต่อไป
ซูอันหลบเลี่ยงด้วยวิชาร่างก้าวทานตะวัน ในขณะที่มองหาโอกาสในการโต้กลับ โดยปกติไม่มีทางที่ตัวเขาจะหลบการโจมตีเหล่านี้ได้เนื่องจากช่องว่างขนาดใหญ่ในการบ่มเพาะ
แต่ด้วยอาการบาดเจ็บของเขามันรุนแรงพอที่จะทำให้วิชาวัฏจักรหงส์อมตะเสริมความแข็งแกร่งทุกด้านให้กับตัวซูอันเอง ความเร็วและพลังชี่ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แน่นอนว่าเป็นเพราะติ้งรุ่นก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน ถ้าไม่เช่นนั้น ซูอันจะไม่มีทางหลบได้เมื่อเขาปล่อยเสือสีม่วงออกมา
ติ้งรุ่นรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อการต่อสู้ดำเนินไป ไอ้เด็กนี่มันเป็นสัตว์ประหลาดหรือตัวอะไรกัน?
ทักษะการเคลื่อนไหวของเด็กคนนี้แปลกอย่างไม่น่าเชื่อ! ด้วยสิ่งนี้ซูอันสามารถทำให้การโจมตีส่วนใหญ่ของเขาพลาดได้ และมันก็ทำให้ซูอันมีโอกาสโต้กลับเป็นบางครั้ง
วิชากระบี่ของซูอันดูตื้นเขินมาก บางครั้งมันเผยช่องโหว่ที่ไม่น่าให้อภัยด้วยซ้ำ แต่เมื่อมันจับคู่กับทักษะการเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดนั้น ข้อบกพร่องก็ไม่ใช่ข้อบกพร่องอีกต่อไป และเป็นการยากที่จะป้องกันการโจมตีเหล่านี้
ทุกคนที่มองอยู่ด้านข้างต่างพากันตกตะลึง แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าซูอันมีพรสวรรค์ แต่การต่อสู้แบบตัวต่อตัวกับหนึ่งในนักฆ่าที่เก่งที่สุดนั้นยังเร็วเกินไปในความรู้สึกของทุกคน
ดวงตาของเจิ้งตานจับจ้องไปที่ซูอัน ดวงตาของนางเร่าร้อนด้วยความรัก ผู้ชายที่ข้าเลือกช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ
ในช่วงเวลานั้น นางเริ่มเสียใจที่แต่งงานกับซ่างเชียนเพราะคำนึงถึงชื่อเสียงของตระกูลเจิ้ง การหนีไปกับอาซูเริ่มดูเหมือนเป็นความคิดที่ดีกว่า
เพ่ยเหมียนหมานตกตะลึง นางคงเป็นคนที่เข้าใจความแข็งแกร่งของซูอันดีที่สุด เวลาผ่านไปไม่นานนับตั้งแต่ที่พวกเขาพบกันครั้งล่าสุด ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเช่นนี้มันบ้าเกินไปหรือเปล่า?
ไม่หรอก เขาแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการอย่างไม่น่าเชื่อทุกครั้งที่พบกัน นางเป็นอัจฉริยะด้านการบ่มเพาะ แต่นางก็ไม่มีอะไรเทียบกับซูอันได้
ฉู่ชูเหยียนค้นพบชายที่มีพรสวรรค์ที่เหลือเชื่อเช่นนี้ได้อย่างไร? นางมักนำหน้าข้าไปหนึ่งก้าวเสมอ…
เดี๋ยวนะ พวกเขาไม่ใช่สามีและภรรยากันแล้วนี่…!
ซ่างเฉี่ยนรู้สึกงุนงงอยู่ตลอดเวลา ถ้านางไม่ได้ต่อสู้กับติ้งรุ่นเมื่อครู่ นางคงจะคิดว่าติ้งรุ่นใช้พลังจนเกินขีดจำกัดไปแล้วจนความแข็งแกร่งลดลงอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ความจริงก็คือเขาเอาชนะพวกนางทั้งสามคนได้อย่างง่ายดายเมื่อครู่นี้
นางเคยคิดว่าในบรรดาคนรุ่นราวคราวเดียวกัน นางคือคนที่มีพรสวรรค์และแข็งแกร่งมากที่สุด แต่ผู้ชายคนนี้ดูอายุไม่มากไปกว่านาง! เขาทำแบบนี้ได้ยังไง?
ความประหลาดใจของซ่างเชียนเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่สอง เขารีบหันไปมองผู้หญิงสามคน เขามองเห็นท่าทางหลงใหลของคู่หมั้น และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าอกของตัวเองกำลังจะระเบิด
คนสวยอีกคนก็มองซูอันด้วยความรัก แม้แต่น้องสาวของเขาก็ยังมองดูด้วยความคลั่งไคล้ ชาติที่แล้วเขาทำบาปทำกรรมอะไรนักหนาถึงได้มาเจอคนแบบนี้?
—
ท่านยั่วยุซ่างเชียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 555…555…555…
—
ติ้งรุ่นก็โกรธเช่นกัน การต่อสู้ยืดเยื้อมาเนิ่นนาน แต่เขาก็ไม่สามารถจัดการเด็กเปรตนี่ได้!
เขารู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอลงจากอาการบาดเจ็บ และไม่มีทางที่เขาจะใช้งานทักษะไม้ตายของตัวเองไปได้ตลอด หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปสถานการณ์ต่าง ๆ จะเริ่มแย่ลง
เขาบินไปกลางอากาศ ดาบในมือของเขาไม่เร็วเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป แต่กลับช้าลงเป็นอย่างมาก
ซูอันไม่ได้ประมาท แม้ดาบของติ้งรุ่นจะช้าลง แต่อากาศรอบ ๆ ตัวกลับหนักอึ้งมากขึ้น
ดาบของติ้งรุ่นนั้นช้ามาก แต่ทุก ๆ ระยะที่มันขยับ มันจะทิ้งเงาดาบที่พาดผ่านค้างไว้ในอากาศ ในไม่ช้าติ้งรุ่นก็ถูกล้อมรอบด้วยเงาดาบสีแดงเข้ม
“สายฝนโลหิต!”
เขาคำรามออกมา ฝนดาบเทลงมาจากท้องฟ้าราวกับเป็นเลือดที่ตกลงมา
เจ้าหลบเก่งมากนักใช่ไหม? ถ้างั้นข้าจะทำให้ทุกตารางนิ้วของที่นี่เต็มไปด้วยดาบของข้าแทน! มาดูกันว่าเจ้าจะหลบไปตรงไหนได้อีก!
ยิ่งไปกว่านั้น ติ้งรุ่นยังทำให้แน่ใจว่าผู้หญิงทั้งสามคนอยู่ในรัศมีของการโจมตีเพื่อป้องกันไม่ให้ซูอันใช้ทักษะการเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดหนีหลุดออกจากระยะ
เจ้าจะหลบก็ได้ แต่ผู้หญิงพวกนี้จะต้องตายแน่ ๆ!
เขาเห็นซูอันรับดาบแทนเจิ้งตานมาก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าถึงแม้อีกฝ่ายจะดูไร้สาระ แต่ก็เป็นคนที่มีอารมณ์ลึกซึ้ง คนแบบนี้ย่อมไม่เต็มใจที่จะเอาตัวรอดโดยทิ้งพวกพ้องไว้เบื้องหลัง
งั้นพวกเจ้าทุกคนก็ตายไปพร้อมกันซะ!