เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 796 จักรพรรดิของข้า มีข่าวร้าย!
บทที่ 796 จักรพรรดิของข้า มีข่าวร้าย!
บทที่ 796 จักรพรรดิของข้า มีข่าวร้าย!
นางกำนัลแทบจะหมดสติเมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของนางซีดขาวราวกับกระดาษ นางเข้าใจชัดเจนว่าการลงโทษโดยการเปลี่ยนเป็นเนื้อสับนั้นเลวร้ายเพียงใด “ด้วยความเคารพ ฝ่าบาท พระนามของท่านคืออู่ติง องค์จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์…”
นางกำนัลประจบประแจงในทันที
“อู่ติง?” ซูอันขมวดคิ้ว เขานึกถึงสารคดีที่เขาเคยดูในโลกที่แล้ว และภาพจิตรกรรมฝาผนังที่หมีลี่เคยอธิบายไว้ ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับพระเจ้าอู่ติงหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเขา
เขามาที่นี่เพื่อเข้ารับการทดสอบ แต่ทำไมจู่ ๆ เขากลับกลายเป็นพระเจ้าอู่ติงแห่งราชวงศ์ซาง?
เขาชี้ไปที่เพ่ยเหมียนหมานแล้วพูดว่า “แล้วนางล่ะ? นางเป็นใคร?”
นางกำนัลมีสีหน้าแปลก ๆ จักรพรรดิของข้า ท่านลืมว่านางเป็นใครได้อย่างไร? ท่านกินอะไรผิดสำแดงเข้าไปหรือไม่?
แน่นอนว่านางไม่กล้าถามคำถามในใจเหล่านี้ออกไป นางรีบตอบกลับทันที “ฝ่าบาท ข้าง ๆ พระองค์คือจักรพรรดินีฟู่ห่าว”
“ฟู่ห่าว?” ซูอันตกใจมากยิ่งกว่าตอนที่เขารู้ว่าตัวเองคือพระเจ้าอู่ติง จักรพรรดินีฟู่ห่าวเป็นแม่ทัพหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์จีน และยังเป็นจักรพรรดินีพร้อมกับควบตำแหน่งเจ้ากรมพิธีการ ตำแหน่งและสถานะทั้งหลายทั้งหมดที่รวมกันทำให้นางกลายเป็นบุคคลในตำนานอย่างแท้จริง
เพ่ยเหมียนหมานก็ตกใจเช่นกัน แม้ว่านางจะไม่คุ้นเคยกับประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ซาง แต่นางก็รู้ว่าฟู่ห่าวเป็นวีรสตรีที่โดดเด่นและล้ำเลิศจากคำพูดที่หยาจางยกย่องก่อนหน้านี้ และพวกเขาได้เข้าสู่การทดสอบนี้ผ่านรูปหล่อนกฮูกทองสัมฤทธิ์ของฟู่ห่าวเช่นกัน
ซูอันมองนางกำนัลที่คุกเข่าตัวสั่นงันงกต่อหน้าเขา ในฐานะที่เป็นคนที่ข้ามมาจากโลกอารยะ ชายหนุ่มก็ทนไม่ได้อีกต่อไป
หลังจากถามคำถามอีกสองสามข้อ เขาจึงเอ่ยคำปลอบใจสองสามคำ ซึ่งช่วยให้นางสงบลงจากนั้นจึงปล่อยนางไป
เพ่ยเหมียนหมานดูกังวล “อาซู การทดสอบนี้แปลกเกินไป! ข้าไม่รู้ว่าเรากำลังถูกทดสอบอะไรอยู่?”
ซูอันพยักหน้า เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ตอนนี้เรารู้แค่เรื่องเดียวเท่านั้น”
“อะไร?” เพ่ยเหมียนหมานถามอย่างรวดเร็ว
ซูอันยิ้มเมื่อมองไปที่นาง “การที่เราเป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว จึงสามารถประกอบกิจที่สามีและภรรยาทำร่วมกันได้!”
เพ่ยเหมียนหมานพ่นลมหายใจ นางคิดว่าเขามีเรื่องสำคัญจะพูด เพราะเขาดูจริงจังมาก
แต่ตอนนี้เมื่อพวกเขารู้บริบทของตัวเองในการทดสอบแล้ว พวกเขาจึงไม่รู้สึกตื่นตระหนกอีกต่อไป ยิ่งกว่านั้นทั้งสองคนมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกันอยู่แล้ว ดังนั้นการสัมผัสทางร่างกายอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเช่นนี้ทำให้พวกเขายิ่งลุ่มหลงกันมากกว่าเดิม
ซูอันพุ่งเข้าหานางทันที กระตือรือร้นที่จะประกอบกิจที่ยังไม่เสร็จก่อนหน้านี้
“หรือว่าการทดสอบนี้จะเป็นการทดสอบความต้องการทางเพศของเจ้า?” เพ่ยเหมียนหมานยังคงกังวลเล็กน้อย
ซูอันส่ายหัว “มันเป็นไปไม่ได้ อู่ติงและฟู่ห่าวเป็นคู่รักที่ดีต่อกันเสมอ และพวกเขาก็มีลูกด้วยกันอยู่หลายคน ดังนั้นมันจะดีกว่าถ้าเราเล่นตามบทในตอนนี้”
“เจ้ารู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้อย่างไร?”เพ่ยเหมียนหมานรู้สึกสับสน ราชวงศ์ซาง พระเจ้าอู่ติง และสิ่งอื่น ๆ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่นางไม่เคยได้ยินมาก่อน
ซูอันตอบนางด้วยรอยยิ้มจาง ๆ และชี้ไปที่หัวของตัวเอง “นี่คือโลกที่ข้าเห็นในความฝัน”
เพ่ยเหมียนหมานกะพริบตา “ข้าไม่คิดเลยว่าโลกในฝันของเจ้าจะคล้ายกับมิติลับแห่งนี้” นางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “บางครั้ง ข้าก็สงสัยว่าเจ้าได้รับพรจากสวรรค์มาหรือเปล่า?”
ซูอันหัวเราะ “แล้วทำไมเราไม่สานสัมพันธ์ให้มากกว่านี้อีกสักหน่อย เจ้าจะได้สัมผัสกับพรจากสวรรค์นี้ด้วยตัวของเจ้าเอง? ใครจะไปรู้การ บ่มเพาะของเจ้าอาจก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดดเลยก็ได้หลังจากนี้!”
“เฮอะ! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นสมบัติวิเศษที่ช่วยส่งเสริมการบ่มเพาะอย่างนั้นเหรอ?” เพ่ยเหมียนหมานกล่าวพร้อมกับพ่นลมหายใจ หลังจากนั้นครู่หนึ่งนางก็หยุดนิ่ง นางจำได้ว่าก่อนหน้านี้ระดับการบ่มเพาะของนางนั้นใกล้เคียงกับฉู่ชูเหยียนและนางอาจจะเหนือกว่าเล็กน้อยด้วยซ้ำ แต่หลังจากเหตุการณ์ในมิติลับหยกจรัสระดับการบ่มเพาะของฉู่ชูเหยียนก็พุ่งทะลุฟ้า
ครั้งสุดท้ายที่พวกนางพบกัน อีกฝ่ายอยู่ที่ระดับเจ็ดแล้ว!
เกิดอะไรขึ้น? หรือว่ามันเป็นเพราะ…เชื้อของผู้ชายคนนี้ดีจริง ๆ?
อย่างไรก็ตาม ความคิดของนางก็สับสนอย่างรวดเร็ว ขณะที่นางค่อย ๆ สูญเสียสติสัมปชัญญะไปกับการเคลื่อนไหวที่ช่ำชองของซูอัน
ผู้ชายคนนี้บ่มเพาะทักษะการขโมยหัวใจมาจากไหน…?
ความคิดที่คลุมเครือนี้แวบเข้ามาในใจของเพ่ยเหมียนหมานขณะที่นางโอบกอดชายผู้นี้โดยไม่รู้ตัว
…
ผ่านไปครู่หนึ่ง นางรู้สึกว่าคนรักของนางเริ่มลังเล การเคลื่อนไหวของเขาช้าลง นางจึงพูดด้วยรอยยิ้มหวาน ๆ “อาซู ไม่เป็นไร ข้าเป็นของเจ้าโดยสมบูรณ์แล้ว”
“เจ้าช่างยั่วยวนจริง ๆ…” ซูอันถอนหายใจ เพ่ยเหมียนหมานและฉู่ชูเหยียนมีบุคลิกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!
ฉู่ชูเหยียนเย็นชาราวกับก้อนน้ำแข็ง ในขณะที่เพ่ยเหมียนหมานนั้นร้อนแรงและน่าหลงใหลราวกับไฟที่โหมกระหน่ำ!
เมื่อนางยอมรับความสัมพันธ์ของทั้งคู่แล้ว นางก็เป็นฝ่ายที่เข้าหาเขาตลอดเวลา
ไม่มีทางที่ซูอันจะหยุดตัวเองได้หลังจากได้ยินคำเชิญชวนที่นุ่มนวลและอ่อนโยนนี้ เขาจึงรุกต่อทันที
ขณะนี้ดาบอันกล้าแกร่งของเขาอยู่ในฝักทั้งเล่มแล้วเรียบร้อย
เพ่ยเหมียนหมานดูราวกับว่านางกำลังเจ็บปวดและปีติยินดีในเวลาเดียวกัน นางสูดหายใจเข้าลึกและโอบกอดคนรักของนาง หลังจากเวลายาวนานราวกับชั่วนิรันดร์ พวกเขาก็หยุดหอบหายใจ
ใบหน้าของนางเป็นสีชมพูและดวงตาของนางเปล่งประกาย “ข้าสงสารชูเหยียนจริง ๆ”
ซูอันรู้สึกสับสนกับคำพูดอย่างกะทันหันของนาง
เพ่ยเหมียนหมานกัดริมฝีปากและพูดว่า “นางถูกเจ้าทำร้ายวันแล้ววันเล่า”
ซูอันเอนตัวเข้าไปกระซิบข้างหูของนาง “แล้วเจ้าล่ะ?”
เพ่ยเหมียนหมานยิ้มอย่างมีเลศนัย “ร่างกายของข้าไม่ได้บอบบางเหมือนชูเหยียน เจ้าสามารถทำร้ายข้าได้ตามที่เจ้าต้องการ…ข้าชอบ…”
คำพูดของนางมีประสิทธิภาพมากกว่ายาปลุกกำหนัดซะอีก!
เตียงเริ่มโยกสะเทือนอย่างแรง ผ้าปูที่นอนขยับเป็นระลอกเหมือนคลื่นในทะเลคลั่ง เตียงส่งเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดเหมือนจะพังได้ทุกเมื่อ
นางกำนัลที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างนอกกลืนน้ำลาย “องค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีช่างเสน่หากันอย่างแท้จริง…” นางพึมพำกับตัวเอง
“ความแข็งแกร่งขององค์จักรพรรดินั้นช่าง…โดดเด่น…!”
…
ในขณะที่เพ่ยเหมียนหมานและซูอันกำลังนอนกอดกันอย่างสงบสุขหลังเสร็จกิจ ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบก็ดังขึ้นจากภายนอก “ฝ่าบาท! มีข่าวร้าย!”
นางกำนัลรีบก้าวเข้ามาหยุดเขาไว้ “ท่านเสนาบดี ทั้งสองพระองค์กำลังพักผ่อนอยู่”
“ทางกองทัพมีเรื่องด่วน! จะมีผลกระทบร้ายแรงได้หากล่าช้าจนเกินไป!” ชายวัยกลางคนตอบด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
“ท่านเสนาบดี เราจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงหากเรารบกวนองค์จักรพรรดิในตอนนี้…” นางกำนัลกำลังจะร้องไห้
ซูอันพูดไม่ออกเมื่อได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก ตอนนี้เขากำลังโอบเพ่ยเหมียนหมานไว้ในอ้อมแขนและแบ่งปันคำรัก สิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการคือการถูกรบกวน
อย่างไรก็ตามเพ่ยเหมียนหมานรีบผลักเขาออกไป “รีบเชิญเขาเข้ามา ข้าไม่ต้องการที่จะเป็นที่รู้จักในฐานะหญิงงามที่เป็นต้นเหตุให้อาณาจักรล่มสลาย”
ซูอันหัวเราะ ในที่สุดเขาก็รู้ว่าเหตุใดจึงมีผู้ปกครองที่ไร้ความสามารถมากมายในประวัติศาสตร์ เมื่อมีนางสนมที่งดงามรายล้อมอยู่รอบตัว การลุกจากเตียงเพื่อออกว่าราชการในช่วงเช้าจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!
เขาปล่อยให้เพ่ยเหมียนหมานแต่งตัว ไม่มีทางที่เขาจะเชิญใครเข้ามาในขณะที่นางยังนอนอยู่บนเตียง เขาไม่ชอบที่จะแบ่งปันผู้หญิงของตัวเองเป็นอาหารตาให้ใคร
ทว่าขณะที่เพ่ยเหมียนหมานลุกขึ้น หน้าอกของนางก็กระเพื่อม ซูอันรู้สึกร้อนรุ่มอีกครั้ง