เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 926 จมูกดีคล้ายสตรี
บทที่ 926 จมูกดีคล้ายสตรี
บทที่ 926 จมูกดีคล้ายสตรี
ซูอันเปิดประตูเรือนและทักทาย “คารวะ ท่านผู้บัญชาการ”
“ทำไมเจ้าถึงมาเปิดช้า?” จูเซี่ยฉือซินกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว ใบหน้าซีดของเขามีร่องรอยของความไม่พอใจ
เขารู้ว่าข้าอยู่ที่นี่จริง ๆ!
ซูอันหัวใจเต้นแรงและพูดอย่างรวดเร็วว่า “วันนี้ข้าต่อสู้มามากแล้วเลยรู้สึกเหนื่อย เมื่อข้านอนลงบนเตียง ข้าจึงเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว ข้าคิดว่าข้าฝันไปตอนที่ได้ยินเสียงของท่านผู้บัญชาการ”
“เจ้าคงเป็นคนเดียวในวังที่กล้าเข้านอนในตอนนี้” จูเซี่ยฉือซินพูดอย่างหมดความอดทน
“ขออภัยท่านผู้บัญชาการ” ซูอันยิ้มขอโทษแล้วถามว่า “ว่าแต่ท่านมาหาข้าทำไม?”
“มันไม่มีอะไรสำคัญ ข้ารู้สึกว่าเจ้าอยู่ข้างใน ในขณะที่ข้ากำลังลาดตระเวนอยู่ใกล้ ๆ ดังนั้นข้าจึงต้องการคุยกับเจ้า” จูเซี่ยฉือซินชี้ไปที่เข็มกลัดของตัวเอง เข็มกลัดของเขาแตกต่างจากของทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่น ๆ มันไม่ใช่ทองหรือเงิน แต่ทำมาจากหยก “เข็มกลัดนี้ทำให้ข้าสัมผัสได้ถึงทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่นภายในขอบเขตที่กำหนด ช่วยประหยัดเวลาได้มาก”
ที่จริงแล้วมันเป็นเข็มกลัดสั่งการ! ด้วยสถานะของจูเซี่ยฉือซินสิ่งนี้ไม่น่าแปลกใจเกินไป
แต่ทำไมจู่ ๆ เขาถึงมาที่นี่เพื่อคุยกับข้าล่ะ?
“เรายุ่งมากทั้งคืนและไม่มีเวลาพักผ่อนมากนัก” จูเซี่ยฉือซินกล่าว “ข้าขอเข้าไปดื่มชาข้างในจะได้ไหม?”
ซูอันตื่นตระหนกทันที ถ้าเขาเชิญจูเซี่ยฉือซินเข้ามาและเห็นอวิ้นเจียนเยว่เข้ามันจะกลายเป็นหายนะทันที!
อย่างไรก็ตามเขาจะปฏิเสธผู้บังคับบัญชาได้อย่างไร?
“เอ่อ…ผู้บัญชาการ ตอนนี้ท่านไม่ต้องตามหา…” สมองของซูอันทำงานรวดเร็วราวกับสายฟ้า เขากำลังจะหาข้อแก้ตัวแต่จูเซี่ยฉือซินเดินเข้ามาทันที
ซูอันพูดไม่ออก
หัวใจซูอันเต้นรัว เขายังสงสัยว่าถ้าเขาและอวิ้นเจียนเยว่ร่วมมือกันจะจัดการจูเซี่ยฉือซินได้หรือไม่
เขารีบปฏิเสธความคิดนี้ นอกจากความจริงที่ว่าอวิ้นเจียนเยว่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเกือบจะไม่มีแรงเดินอยู่แล้ว แม้ว่านางจะต่อสู้ได้ โอกาสที่พวกเขาจะสามารถฆ่าผู้บ่มเพาะระดับปรมาจารย์ที่กำลังจะขึ้นเป็นปราชญ์มีน้อยมาก
นอกจากนี้จูเซี่ยฉือซินสามารถเรียกกำลังเสริมของวังได้ตลอดเวลา การต่อสู้กับอีกฝ่ายเป็นความคิดที่แย่อย่างแน่นอน
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นใด ซูอันพูดขึ้น “ยินดีต้อนรับผู้บัญชาการสู่ที่พักอันต่ำต้อยของข้า! แต่ว่าข้าเพิ่งย้ายเข้ามาจึงยังไม่ได้จัดสถานที่สักเท่าไร เกรงว่าจะไม่สามารถรับรองท่านอย่างเต็มที่ได้…”
เขาจงใจขึ้นเสียงเพื่อเตือนอวิ้นเจียนเยว่
“ไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองให้มากมาย เราเป็นสหายร่วมหน่วย ไม่ใช่คนแปลกหน้า” จูเซี่ยฉือซินหันกลับมามองเขาด้วยความสงสัย “หืม? ทำไมเจ้าเหงื่อออกมากขนาดนี้?”
ซูอันถอดหน้ากากออกแล้ว และยังไม่ได้ใส่กลับเข้าไปใหม่ จูเซี่ยฉือซินรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นใคร ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องปิดบัง
“อาจเป็นเพราะข้ายังคงกังวลอยู่” ซูอันตอบอย่างเร่งรีบ “นักฆ่าจำนวนมากได้เข้ามาอยู่ในพระราชวัง แค่คิดก็กลัวแล้ว”
“สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้มันช่างบัดซบจริง ๆ” จูเซี่ยฉือซินพ่นลมหายใจ ทว่ายังไม่ลืมที่จะเตือนซูอัน “คราวหลังเจ้าอย่าลืมสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในเครื่องแบบ ห้ามเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเจ้า”
ซูอันประสานมือ “ขอบคุณผู้บัญชาการที่เตือน”
ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะใส่ใจข้าอยู่บ้าง ข้าจะพยายามไม่ทำร้ายเขาถ้าไม่จำเป็น
ซูอันรีบเดินนำหน้าจูเซี่ยฉือซิน และถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อไม่เห็นอวิ้นเจียนเยว่อยู่ข้างใน วิชาบังบดเร้นซ่อนสามารถซ่อนคลื่นพลังของนางได้อย่างสมบูรณ์ ตราบใดที่จูเซี่ยฉือซินไม่เห็นนางด้วยตาของตัวเอง
เขากวาดสายตาไปทั่ว ในที่สุดดวงตาของเขาก็หยุดที่เตียง ม่านลดต่ำลงและผ้าปูที่นอนก็ยับย่นราวกับมีคนเพิ่งลุกขึ้น
ซูอันยกย่องอวิ้นเจียนเยว่สำหรับการใส่ใจในรายละเอียดของนาง เขาบอกจูเซี่ยฉือซินว่าเขาหลับไปก่อนหน้านี้ นางได้ช่วยทำให้มันดูสมจริงมากขึ้น
นอกจากนี้ นางยังลดม่านข้างเตียงเพียงด้านเดียว ถ้านางลดมันลงทั้งหมดจะดูเหมือนว่าซูอันกำลังซ่อนใครอยู่ การเปิดไว้ครึ่งหนึ่งทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ซูอันสงสัยว่าอวิ้นเจียนเยว่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังม่านครึ่งที่ถูกลดระดับลง
เขารีบรินชาให้จูเซี่ยฉือซิน “ท่านผู้บัญชาการ เชิญดื่ม”
ขณะที่พูด ซูอันยืนอยู่ระหว่างเตียงกับจูเซี่ยฉือซินเพื่อบังสายตาของอีกฝ่าย
“นั่งลง ไม่ต้องสุภาพขนาดนี้ก็ได้” จูเซี่ยฉือซินหยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบก่อนจะวางกลับลง
หัวใจของซูอันเต้นผิดจังหวะ ชายคนนี้ไม่ได้มาที่นี่เพื่อดื่มชาอย่างเดียวแน่นอน
ขณะที่จูเซี่ยฉือซินกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เขาก็ลังเล เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามแยกแยะความคิด ทันใดนั้นเขาก็ได้กลิ่น “หืม? ทำไมเหมือนมีกลิ่นผู้หญิงที่นี่ด้วย?”
ซูอันตื่นตระหนก เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มมองไปรอบ ๆ เขาไม่รู้ว่าสมองของเขาประมวลผลเร็วแค่ไหน แต่เขารีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ข้าต้องอุ้มองค์หญิงรัชทายาทตอนช่วยนางในวังตะวันออก กลิ่นหอมของนางคงติดมาด้วย”
จูเซี่ยฉือซินขมวดคิ้ว “ข้าว่ากลิ่นนี้ไม่เหมือนองค์หญิงรัชทายาทเลย”
ซูอันสาปแช่งในใจ ทุกคนรู้ดีว่าผู้หญิงอ่อนไหวต่อกลิ่นของผู้หญิงคนอื่นมาก แต่ทำไมความสามารถบ้าบอแบบนั้นชายอย่างเจ้ากลับมีมันด้วย!?
เขาพยายามแก้ไขสถานการณ์ “ข้าอยู่ในวังไร้พิพาทเช่นกัน และได้ช่วยชีวิตจักรพรรดินีไว้ด้วย กลิ่นนี้อาจผสม ๆ กัน”
จูเซี่ยฉือซินพยักหน้ายอมรับคำอธิบายนี้ เขารู้ว่าจักรพรรดินีชอบผสมกลิ่นหอมต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เมื่อผสมกันแล้ว ก็ยากที่จะแยกแยะ
ซูอันกลัวว่าจูเซี่ยฉือซินจะถามคำถามต่อไป ดังนั้นเขาจึงรีบเป็นฝ่ายถามก่อน “ผู้บัญชาการ ดูเหมือนจะค่อนข้างคุ้นเคยกับกลิ่นหอมขององค์หญิงรัชทายาท?”
“ด้วยงานของเรา เราต้องฝึกประสาทสัมผัสทุกด้านให้เฉียบคม” ทันใดนั้นหน้าของจูเซี่ยฉือซินแข็งค้าง และพูดเสียงเย็น “เจ้าอย่าได้เอาเรื่องนี้ไปพูดกับคนอื่น ข้าอาจโดนประหารเพราะคำพูดของเจ้าได้!”
ซูอันหัวเราะแห้ง ๆ “นั่นไม่ใช่ความตั้งใจของข้าอย่างแน่นอน ท่านผู้บัญชาการ”
ความกลัวของจูเซี่ยฉือซินช่วยให้อารมณ์ของซูอันดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เจ้าเป็นฝ่ายที่ทำให้ข้ากลัวตลอดเวลา ข้าควรจะได้ตอบโต้แบบนี้บ้างไม่ใช่เหรอ?
จูเซี่ยฉือซินพ่นลมหายใจ “เจ้าเป็นคนโชคดี วันนี้เจ้าช่วยชีวิตทั้งจักรพรรดินีและองค์รัชทายาทได้สำเร็จ ดูเหมือนเจ้าจะมีอนาคตที่สดใส”
ซูอันยิ้มอย่างขมขื่น “ได้โปรดอย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย ข้าเกือบหัวหลุดจากบ่าไปแล้ว”
จูเซี่ยฉือซินตกตะลึง “เจ้าหมายถึงอะไร?”
ซูอันกล่าวว่า “เมื่อองค์จักรพรรดิได้ยินว่าข้าได้สัมผัสพระวรกายขององค์หญิงรัชทายาท พระองค์ต้องการให้ข้าตัดแขนตัวเองทิ้ง…”
จูเซี่ยฉือซินมีสีหน้าแปลก ๆ “เจ้าควรพอใจ เป็นเพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่เจ้ายังมีชีวิตรอดอยู่”
“มันไม่ง่ายขนาดนั้น จักรพรรดิทรงต้องการให้ข้าชดใช้ ถ้าข้าทำได้ ข้าอาจจะไม่ต้องรับโทษ” ซูอันจงใจเปลี่ยนทิศทางการสนทนาของพวกเขา
“โอ้? ฝ่าบาทต้องการให้เจ้าทำงานเพื่อชดใช้ความผิดงั้นเหรอ?” สีหน้าของจูเซี่ยฉือซินเปลี่ยนไปเล็กน้อย