เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 929 ข้าต้องการท่าน
บทที่ 929 ข้าต้องการท่าน
บทที่ 929 ข้าต้องการท่าน
อวิ้นเจียนเยว่ตอบกลับ “ข้าแค่ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเขาจากฮัวเล่ย เจ้าควรเก็บยานี้ไว้ มันไม่มีประโยชน์สำหรับข้า”
“ห้ะ?” ซูอันรู้สึกอยากเถียงแทนจี้เติ้งถู “แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของหมอเทวะจี้จะไม่สูงเท่ากับท่าน แต่ความสามารถทางการแพทย์ของเขานั้นจัดว่ายอดเยี่ยมไร้ผู้ใดเปรียบ ทำไมยานี้ถึงใช้ไม่ได้กับท่านกัน?”
“คนระดับเช่นข้ามีร่างกายที่เหนือกว่าผู้อื่นอย่างไม่อาจเทียบได้” อวิ้นเจียนเยว่อธิบาย “ปกติแล้ว ไม่มีบาดแผลทางกายใดที่สามารถทำให้ข้าตายได้ แม้แต่บาดแผลที่ร้ายแรงที่สุดก็จะค่อย ๆ หายไปเอง”
ซูอันเริ่มมีความคิดแปลก ๆ ถ้าพิจารณาจากระดับการบ่มเพาะของอวิ้นเจียนเยว่ ร่างกายของนางจะต้องแข็งแกร่งก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้วแน่นอน
ดังนั้นในยามที่นาง…นอนและเปิดอ้า…หากไม่แข็งแกร่งทัดเทียมกับนางก็คงไม่อาจสอดใส่เข้าไปในตัวนางได้จริงไหม?
หรือบางที ถ้านางอาฆาตมาก ๆ นางอาจจะวางให้เข้าไปสักครึ่งแล้วจากนั้น…นางอาจบังคับให้ภายในมันบีบรัดจนอาวุธของคนผู้นั้นหักครึ่งเลยก็ได้!
ผู้ชายในโลกนี้มีชีวิตที่น่าสังเวชอย่างแท้จริง ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจำนวนมากพยายามอย่างยิ่งที่จะเพิ่มระดับการบ่มเพาะของตัวเอง
อวิ้นเจียนเยว่ขมวดคิ้ว “เจ้าคิดอะไรอยู่?”
นางสามารถสัมผัสได้ว่าชายคนนี้กำลังคิดในทางมิดีมิร้าย
“ม…ไม่มีอะไร” ซูอันเปลี่ยนหัวข้อทันที “ว่าแต่ทำไมท่านบาดเจ็บขนาดนี้?”
อวิ้นเจียนเยว่ตอบกลับ “การต่อสู้ของข้ากับจักรพรรดินั้นลึกถึงระดับดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณของข้าได้รับบาดเจ็บ เว้นแต่ว่าเจ้าจะมียาเม็ดที่สามารถฟื้นฟูดวงวิญญาณได้ ยาอื่น ๆ ทั้งหมดล้วนไร้ประโยชน์”
“ยาอะไรที่สามารถฟื้นฟูดวงวิญญาณได้?” ซูอันถามด้วยความสงสัย “ข้ามียาอยู่หลายชนิดทีเดียว”
เขามียาจากจี้เติ้งถูและยาอื่น ๆ ที่เขาได้เป็นสินสงครามระหว่างทาง โดยรวมแล้วเขามียาอยู่หลายชนิด
อวิ้นเจียนเยว่แสดงสีหน้าเฉยเมย แต่นางยังคงตอบว่า “น้ำค้างเพลิงโหม หยกมารมรกต ดอกบัววิญญาณฟ้าดิน ผลวัชระนิลกาฬ น้ำค้างเมฆาขาว กล้วยไม้พิษนภา สมุนไพรห้าราก…ทั้งหมดนี้เจ้ามีบ้างหรือไม่?”
ซูอันจ้องมองนางอย่างว่างเปล่า
ข้าไม่เคยได้ยินชื่อพวกมันเลยด้วยซ้ำ!
ซูอันยังคงเงียบ แม้ว่าเขาจะมีน้ำยาศรัทธาพี่น้อง แต่ก็เป็นเพียงขวดเล็ก ๆ เขาไม่คิดว่ามันจะใช้ได้ผลกับผู้บ่มเพาะระดับปราชญ์ และแม้ว่ามันจะได้ผล แต่ทำไมเขาต้องเสียของที่แพงที่สุดไปให้นาง? พวกเขาไม่ได้สนิทกันด้วยซ้ำ
อวิ้นเจียนเยว่ยิ้มเล็กน้อยพิงกับเตียงและหลับตาเพื่อพักผ่อน
ท่าทางดูถูกที่เห็นได้ชัดของนางทำให้ซูอันรู้สึกขัดใจ “ถ้าข้าหามาได้ล่ะ? ท่านจะตอบแทนข้าอย่างไร?”
อวิ้นเจียนเยว่ลืมตา “เจ้าจะไปหาพวกมันมาได้อย่างไร?”
“นั่นไม่สำคัญ ถ้าข้าเอามันมาให้ท่านได้ ท่านจะตอบแทนข้าอย่างไร?!” ซูอันถามด้วยความหงุดหงิด
“เจ้าต้องการอะไร?” อวิ้นเจียนเยว่ยิ้มอย่างเย้ยหยัน
ซูอันยื่นหน้าไปใกล้แก้มที่เรียบเนียนของนางและพูดช้า ๆ “ข้าต้องการท่า…”
อวิ้นเจียนเยว่ขมวดคิ้วขึ้น แววตาเต็มไปด้วยอันตราย
“อะแฮ่ม ๆ ข้าหมายถึง ข้าต้องการฮัวเล่ย ลูกศิษย์ของท่านต่างหาก” ซูอันรีบแก้ประโยคตนเอง
อวิ้นเจียนเยว่จ้องมองเขาอย่างพูดไม่ออก
—
ท่านยั่วยุอวิ้นเจียนเยว่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 444!
—
แน่นอน นางรู้ว่าเขาจงใจแกล้งนาง “ฮัวเล่ยไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัวของข้า ข้าไม่สามารถใช้นางเป็นเครื่องต่อรองได้” นางพูดเบา ๆ
“ข้าไม่ได้ขอให้ท่านมอบนางให้ข้าในลักษณะนั้น ข้าแค่ไม่อยากให้ท่านกีดกันความรักของเรา” เขาเคยดูซีรีส์เกี่ยวกับพ่อแม่ของบรรดาตัวเอกที่มักจะกีดกันความรักของทั้งสองฝ่ายมามากพอแล้วและไม่ต้องการจะเป็นอย่างนั้น
อวิ้นเจียนเยว่ตกตะลึง “เจ้าสองคนมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันไปแล้วงั้นเหรอ?”
นางไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยิน ดูเหมือนว่านางไม่ได้ให้ความสนใจกับลูกศิษย์เพียงพอในช่วงที่ผ่านมา นางไม่คาดคิดว่าฮัวเล่ยจะตกหลุมรักผู้ชายที่ไหนไม่รู้โดยที่นางไม่ทราบเลย
ซูอันยืดหน้าอก “ผู้ชายอย่างข้าทั้งอ่อนโยน กล้าหาญ แน่วแน่ โดดเด่น…ยืนหนึ่งในหมู่มนุษย์ จะแปลกอะไรถ้าหญิงสาวจะตกหลุมรักคนแบบข้า?”
อวิ้นเจียนเยว่พูดไม่ออก
นางมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะหยิบหมอนข้างตัวแล้วเสียบเข้าไปในปากของเขา ผู้ชายคนนี้ไร้ยางอายเกินไปแล้ว!
—
ท่านยั่วยุอวิ้นเจียนเยว่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +555…555…555…
—
อวิ้นเจียนเยว่สูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ “ข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าสองคน แต่เจ้าต้องสัญญากับข้าว่าเจ้าจะไม่ทำลายความบริสุทธิ์ของฮัวเล่ย”
ถึงคราวของซูอันที่ต้องตะลึง
“เราเป็นคนรักกัน ท่านหมายความว่าอย่างไรที่ว่าห้ามทำลายความบริสุทธิ์ของนาง?”
อวิ้นเจียนเยว่เย้ย “ไม่ว่าลิ้นของเจ้าจะพลิกแพลงแค่ไหน ข้าก็ขอปฏิเสธ”
ซูอันไม่รู้จะตอบอย่างไร
อวิ้นเจียนเยว่กล่าวต่อว่า “ฮัวเล่ยบ่มเพาะเคล็ดวิชาพิเศษ นางไม่สามารถสูญเสียความบริสุทธิ์ได้ก่อนที่นางจะบรรลุการบ่มเพาะระดับสูง ถ้าทำอย่างนั้น เต๋าของนางจะแตกสลาย”
ซูอันรู้สึกขุ่นเคืองทันที “ไอ้ทักษะโง่ ๆ นั่นคืออะไร!? ทำไมในโลกนี้ถึงมีเคล็ดวิชาไร้สาระแบบนั้นอยู่ด้วย!”
อวิ้นเจียนเยว่มองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก “ทำไมจะไม่ได้? มันเป็นเคล็ดวิชาเดียวกับที่ข้าบ่มเพาะ”
ซูอันมองนางอย่างโง่งม หรือว่านี่คือเหตุผลที่เจ้ายังโสด…
อวิ้นเจียนเยว่พูดต่อ “เคล็ดวิชาที่เราใช้บ่มเพาะเรียกว่า ‘หลุมพรางมารสวรรค์’” นางอธิบาย “เจ้าคงน่าจะเดาได้จากชื่อของเคล็ดวิชานี้ว่ามันเป็นเคล็ดวิชาที่สามารถเพิ่มเสน่ห์ให้แก่ผู้บ่มเพาะ เจ้าเคยใกล้ชิดกับฮัวเล่ยมาระยะหนึ่งแล้ว ข้าแน่ใจว่าเจ้ารู้ว่าข้าพูดถึงอะไร”
ซูอันพยักหน้า เมื่อเขาพบชิวฮัวเล่ยครั้งแรก ความปรารถนาแรกของเขาคือการพานางขึ้นเตียง แต่เขามีสาวงามมากมายอยู่รอบตัวจึงควบคุมอารมณ์ได้ ส่วนผู้ชายคนอื่น ๆ ในหอสุขนิรันดร์กลับถูกทำให้หลงใหลอย่างสมบูรณ์
อวิ้นเจียนเยว่ยังคงอธิบายต่อไป “เมื่อฮัวเล่ยบ่มเพาะไปถึงระดับที่สูงขึ้น ความปรารถนาของนางก็จะเริ่มครอบงำนาง อย่างไรก็ตาม หากนางยังคงมีความมั่นคงไม่สั่นคลอน นางก็จะสามารถบรรลุระดับสูงสุดของหลุมพรางมารสวรรค์ หากนางล้มเหลวก่อนหน้านั้น ไม่เพียงแต่การบ่มเพาะของนางจะถดถอยอย่างมาก นางจะเสียสติทุกครั้งที่นางเห็นชายอื่น ข้าสงสัยว่าเจ้าต้องการเห็นสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงหรือเปล่า? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจ้าสองคนเป็นคู่รักกันอยู่แล้ว”
ซูอันเงียบไปครู่หนึ่ง เขาไม่ต้องการที่จะเห็นชิวฮัวเล่ยอยู่ในสภาพนั้นจริง ๆ ทว่ายิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด “นี่มันวิธีบ่มเพาะบ้าอะไรกัน? เป็นคนสำนักมารแท้ ๆ แต่กลับสนใจที่จะรักษาพรหมจรรย์ของตัวเองไว้อย่างกับพวกแม่ชีหลวงจีน! คำว่าสำนักมารควรจะเปิดกว้างต่อเรื่องความรักและความสัมพันธ์ที่โลดโผนไม่ใช่หรือไง?”
สีหน้าอวิ้นเจียนเยว่เย็นชา “ชื่อสำนักของพวกเราพวกเราคือสำนักศักดิ์สิทธิ์ และภารกิจของเราคือการสร้างความทัดเทียมให้ผู้คนทั้งใต้หล้าโดยการทำให้สรรพชีวิตมีโอกาสบ่มเพาะได้เฉกเช่นเดียวกันทั้งหมด! สำนักมารเป็นชื่อที่จักรพรรดิตั้งขึ้นโดยจงใจใส่ร้ายเรา!”
ซูอันไม่ได้อยากจะเถียงกับนางเรื่องนี้ “ก็ได้ ๆ สำนักศักดิ์สิทธิ์ก็สำนักศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะไม่เถียงไอ้เรื่องชื่อสำนักอะไรนี่ แต่ถ้าท่านไม่มีเคล็ดวิชาบ่มเพาะที่มันดีมากกว่านี้ ท่านก็ไม่ควรให้ฮัวเล่ยบ่มเพาะเคล็ดวิชาโง่ ๆ ของท่าน เอาเป็นว่าหลังจากข้าจะมอบเคล็ดวิชาบ่มเพาะอย่างอื่นกับนางแทนก็แล้วกัน!”
แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีเคล็ดวิชาอยู่กับตัวไม่เยอะ แต่เขามั่นใจว่าตนเองสามารถหาสิ่งที่เหมาะให้กับชิวฮัวเล่ยได้
ดวงตาของอวิ้นเจียนเยว่หรี่ลง “เจ้ากำลังพูดว่าจะมอบวิชาวัฏจักรหงส์อมตะให้ฮัวเล่ยงั้นเหรอ?”
สำนักมารได้ส่งคนจำนวนมากไล่จับซูอันระหว่างทางมายังเมืองหลวง ทั้งหมดเพื่อประโยชน์ในการได้รับวิชาวัฏจักรหงส์อมตะ