เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 930 ประสบการณ์รัก
บทที่ 930 ประสบการณ์รัก
บทที่ 930 ประสบการณ์รัก
ซูอันกำลังจะอธิบายว่าข้อกำหนดในการบ่มเพาะวิชาวัฏจักรหงส์อมตะไม่เหมาะกับสตรีผู้ใด แต่ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวเขาจึงกลับใจคิดว่าไม่มีความจำเป็นและตอบกลับห้วน ๆ “แล้วอย่างไรล่ะ?”
สีหน้าของอวิ้นเจียนเยว่สว่างขึ้น ทว่าหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางพูดว่า “เจ้านี่มันกล้าทุ่มสุดตัวจริง ๆ เพื่อเอาใจผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฮัวเล่ยตกหลุมรักเจ้า”
ถ้านางรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ นางคงไม่เสียเวลาคิดแผนมากมาย นางคงแค่ส่งฮัวเล่ยมาหลอกล่อซูอันคนเดียวก็พอ
ซูอันรู้สึกขบขันกับการถอนหายใจของนาง ถ้าข้าสามารถแลกเอาเจ้าทั้งคู่มาเป็นแพ็คเกจได้ ข้าจะไม่ให้แค่วิชาวัฏจักรหงส์อมตะ ข้ายินดีที่จะให้เจ้ามากกว่านั้นอีก!
แต่แน่นอนว่าไม่มีทางที่เขาจะพูดความคิดนี้ออกมาดัง ๆ
อวิ้นเจียนเยว่ถามต่อว่า “วิชาวัฏจักรหงส์อมตะให้ความเป็นอมตะได้จริงเหรอ?”
ซูอันพ่นลมหายใจ แต่เขายังคงตอบว่า “ความเป็นอมตะที่วิชาวัฏจักรหงส์อมตะสามารถให้ได้นั้นเป็นเพียงอุดมคติเพ้อฝัน ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง”
อวิ้นเจียนเยว่ขมวดคิ้วอีกครั้ง แต่จากนั้นนางก็ถอนหายใจ “นั่นก็ดีแล้ว…ดีแล้ว”
นับได้ว่าเป็นเรื่องดี ตราบใดที่จักรพรรดิไม่สามารถบรรลุความเป็นอมตะได้…
นางไม่สงสัยเลยว่าซูอันจะหลอกลวงนาง นางได้อนุมานแล้วว่าไม่มีทางที่จักรพรรดิจะปล่อยให้ซูอันมีชีวิตอยู่หากวิชาวัฏจักรหงส์อมตะสามารถให้ความเป็นอมตะได้จริง ๆ
“ข้าขอขอบคุณเจ้าแทนฮัวเล่ยล่วงหน้า” นางกล่าวต่อ “น่าเสียดายที่หลุมพรางมารสวรรค์ค่อนข้างพิเศษ เมื่อบ่มเพาะแล้วจะไม่สามารถละทิ้งได้ เว้นแต่จะถึงระดับเดียวกับข้า”
“หา? ถ้างั้นตอนนี้ท่านอายุเท่าไรแล้ว?” ซูอันถามทันทีด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
อวิ้นเจียนเยว่เลิกคิ้ว “เจ้าเบื่อชีวิตแล้วหรือไง!?”
หัวใจของซูอันเต้นผิดจังหวะ แม้ว่าอีกฝ่ายจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่แรงกดดันของนางยังคงทำให้เขาตกตะลึง ชายหนุ่มรู้ว่าตอนนี้ตนเองไม่มีโอกาสเอาชนะนางได้อีกแล้ว การต่อสู้ของพวกเขาในสวนหินเป็นโอกาสเดียวที่เขาสามารถเอาชนะนางได้
เขารีบชี้แจงตัวเอง “ข้าไม่ได้สนใจอายุของท่านสักหน่อย! ข้าแค่อยากรู้ว่าต้องใช้เวลาอีกกี่ปีจนกว่าฮัวเล่ยจะบ่มเพาะได้ถึงระดับของท่านก็เท่านั้น อย่างน้อยข้าจำเป็นต้องรู้ใช่ไหม?”
อวิ้นเจียนเยว่พ่นลมหายใจ “ถ้าเจ้ารักนางจริง จะสนใจไปทำไมว่ากี่ปี? ถ้าเจ้ารอนานขนาดนั้น ไม่ได้แสดงว่าเจ้าไม่ได้รักนางอย่างจริงใจ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็ดีสำหรับลูกศิษย์ของข้าแล้ว!”
ซูอันมองนางอย่างน่าสงสาร “นี่ท่านไม่เคยมีความรักมาก่อนเลยใช่ไหม?”
อวิ้นเจียนเยว่ปะทุขึ้นด้วยความโกรธ “เจ้าอยากตายเหรอ!?”
ซูอันย่นจมูกและพูดว่า “มีเพียงแต่คนที่ไม่รู้จักความรักเท่านั้นที่จะคิดแบบตื้น ๆ ว่าสิ่งต่าง ๆ เช่น ความรู้สึก…มักจะพังทลายลงต่อหน้าความทุกข์ยาก”
ใบหน้าของอวิ้นเจียนเยว่ร้อนขึ้น เป็นความจริงที่นางไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ แต่ไม่มีทางที่นางจะยอมรับได้ “ฮึ่ม! ข้ามีประสบการณ์มากกว่าเด็กอย่างเจ้าก็แล้วกัน!”
ซูอันรู้ว่านางเริ่มอายจึงไม่หยอกล้อนางต่อไป “เอาล่ะ แค่จำคำสัญญาของท่านไว้ ข้าจะหายามาให้ท่านเอง อ้อ อย่าลืมอวยพรให้ความสัมพันธ์ของข้ากับฮัวเล่ยด้วยก็แล้วกัน”
อวิ้นเจียนเยว่ขมวดคิ้ว “เจ้าจะไปหายาพวกนั้นจากที่ไหน?”
“แน่นอนว่าต้องเป็นโรงแพทย์หลวงซึ่งเต็มไปด้วยแพทย์ที่มีชื่อเสียงและยาราคาแพง ใครจะไปรู้ สิ่งที่ท่านกำลังมองหาอาจอยู่ที่นั่น”
ดวงตาของอวิ้นเจียนเยว่เป็นประกาย แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะไร้ยางอายสุดขีด แต่คราวนี้ความคิดของเขาอาจจะได้ผล
“อยู่ที่นี่ดี ๆ อย่าเตร็ดเตร่ไปไหน รอข้ากลับมา” ซูอันย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ตกลง” อวิ้นเจียนเยว่ตอบโดยไม่รู้ตัว แต่นางก็ขมวดคิ้วทันที ทำไมนางรู้สึกเหมือนหญิงสาวที่แต่งงานแล้วรอสามีกลับมา?
นางส่ายหัวและสลัดความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
…
ขณะเดียวกัน
แม่ทัพกองพลซ้ายเฉิงซยงเพิ่งออกจากวังไร้พิพาท “ท่านแม่ทัพ มีข้อมูลใหม่หรือไม่?”
ลูกน้องคนหนึ่งของเฉิงซยงเอ่ยถาม
ใบหน้าของเฉิงซยงมืดหม่น “มันวุ่นวายเกินไป จักรพรรดินีก็ค่อนข้างตกใจ นางจำรายละเอียดชัดเจนไม่ได้ ดูเหมือนว่าเราต้องตรวจสอบจากทางอื่น”
ลูกน้องของเขาตกใจกลัวกันหมด พระพิโรธของจักรพรรดินั้นน่ากลัวมาก และตอนนี้พวกเขามีหน้าที่สืบสวนเหตุลอบสังหารจักรพรรดินี
นี่เป็นสถานที่แรกที่ความรุนแรงเกิดขึ้น จากนั้นเมื่อวังตะวันออกถูกโจมตี เหล่านักฆ่าที่โจมตีวังไร้พิพาทต่างพากันถอยหนีหรือไม่ก็จบชีวิตของพวกมันเอง หากไม่สามารถหลบหนีได้จนไม่เหลือใครซักคนให้สอบปากคำ
เฉิงซยงพูดขึ้นทันทีว่า “เราจะไปตรวจสองโรงแพทย์หลวง ถ้ายังมีนักฆ่าอยู่ในวังก็ต้องใช้ยารักษา พวกมันอาจพุ่งเป้าไปที่โรงแพทย์”
ลูกน้องของเฉิงซยงชื่นชม “แม่ทัพของเราชาญฉลาดยิ่ง!”
เมื่อซูอันมาถึงโรงแพทย์หลวง เขามองเข้าไปในห้องที่ซือคุนเคยอยู่โดยไม่รู้ตัว และเห็นว่าห้องนั้นว่างเปล่า ศพของซือคุนอาจถูกส่งคืนไปยังตระกูลซือแล้ว
น่าสงสัยจริง ๆ ว่าพวกเขาสามารถรวบรวมไอ้จ้อนของซือคุนกลับมารวมกันหลังจากที่มันระเบิดได้หรือไม่? หากไม่เป็นเช่นนั้น ซือคุนจะไม่มีอวัยวะครบส่วนไปในโลกหน้า…ความคิดของซูอันปราศจากความอาฆาตพยาบาท
บางครั้งเสียงคร่ำครวญก็มาถึงหูของซูอันซึ่งมาจากทหารที่ร่างโชกไปด้วยเลือด หมอหลวงต่างยุ่งอยู่กับการใส่ยาและพันแผล
ซูอันถอนหายใจ ทั้งสำนักมารและฝ่ายราชองค์รักษ์หลวงต่างได้รับการสูญเสียจากการโจมตีครั้งล่าสุดนี้
ซูอันยังคงมีความเห็นอกเห็นใจ แต่ถ้าคนที่เขารักต้องตกอยู่ในอันตรายจากเหตุการณ์นี้ไปด้วย เขาจะไม่มีแม้แต่ความเมตตาใด ๆ
ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงต่าง ๆ มากมายจากกลุ่มคนที่รายล้อมบุคคลเพียงคนเดียว “เมื่อพวกนักฆ่าบุกเข้าไปในวังตะวันออก พวกมันฆ่าหมดไม่เว้น! พวกมันล้วนเป็นผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่ง วังตะวันออกจึงสูญเสียกำลังพลไปครึ่งหนึ่งเกือบจะในทันที”
“เราถอยเข้าไปในขอบเขตวังโดยคิดว่าจะอาศัยค่ายกลป้องกันของวังตะวันออกเพื่อยับยั้งพวกมัน แต่พวกมันกลับเตรียมพร้อมทุกอย่างเอาไว้! พวกมันมีสมบัติวิเศษบางอย่างที่คอยขัดขวางการทำงานของค่ายกลป้องกัน และหนึ่งในนักฆ่าได้ทำลายค่ายกลนั้นจนแหลกสลายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!”
ซูอันหันไปมองพวกเขา คนที่อยู่ตรงกลางมีรอยคล้ำรอบดวงตาเช่นเดียวกับนักวิชาการสติเฟื่องในโลกก่อนหน้านี้
ซูอันพยักหน้าเข้าใจ แม้แต่ที่พักของเขายังมีค่ายกลป้องกัน ดังนั้นแล้วทำไมวังตะวันออกถึงจะไม่มี? เห็นได้ชัดว่าอวิ้นเจียนเยว่เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว หากนางกล้าที่จะบุกวังตะวันออก การมีอยู่ของค่ายกลป้องกันล้วนไม่ใช่ปัญหาใหญ่
ทหารคนอื่น ๆ อ้าปากค้าง “แล้วพวกเจ้าทั้งหมดรอดมาได้อย่างไรล่ะ?”
ทหารที่มีรอยคล้ำรอบดวงตายิ้มขมขื่น “โชคดีที่อาจารย์ขององค์รัชทายาทมาทันเวลาและรับมือตัวหัวหน้ากลุ่มนักฆ่าไว้ อย่างไรก็ตาม นักฆ่าที่เหลือยังคงเข้าโจมตีองค์รัชทายาท เมื่อเห็นคนรอบข้างกลัวจนตัวสั่น ร่างกายของข้าก็เคลื่อนไหวก่อนสมองสั่งซะอีก ข้าคำรามและพุ่งเข้าใส่ผู้โจมตีพร้อมกระบี่ในมือ ข้ารุดหน้าและถอยกลับจนสามารถสังหารพวกนักฆ่าด้วยทักษะลับประจำตระกูลไปสามศพ ศพของพวกมันเกลื่อนพื้น ข้าไม่ได้กะพริบตาแม้แต่ครั้งเดียวตลอดเหตุการณ์ทั้งหมด..”
ทหารร่างสูงผอมที่อยู่ข้าง ๆ แสดงสีหน้าแปลกประหลาด “สังหารนักฆ่าไปสามคนนั้นน่าจะกินเวลาพอสมควร…เจ้าไม่กะพริบตาเลยเหรอ?”
………………………………………………………..