เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 936 แปลงร่างเป็นเด็กสาว
บทที่ 936 แปลงร่างเป็นเด็กสาว
ลูกน้องของเฉิงซยงได้เสร็จสิ้นการค้นหาแล้ว พวกเขาแจ้งเฉิงซยงทีละคนว่าไม่พบใครเลย
เฉิงซยงชั่งน้ำหนักตัวเลือกที่เหลือของเขา ที่เดียวที่ยังไม่มีใครค้นคือเตียงหลังนี้
เขาประสานมือแล้วพูดว่า “เรายังต้องหาที่ใต้เตียง ข้าคิดว่าท่านสิบเอ็ดจะไม่รังเกียจ”
ซูอันขมวดคิ้ว “หมายความว่าอย่างไร ท่านแม่ทัพเฉิง? ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ามีคนอยู่ใต้เตียงของข้าหรือไม่?”
เขาเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง หากไม่รู้ตัวว่ามีคนหลบอยู่ใต้เตียงหรือไม่เขาจะเป็นตัวตลกอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เฉิงซยงได้ร้องขอทั้ง ๆ ที่รู้ความสามารถของทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง นี่มันมากเกินไป!
เฉิงซยงหัวเราะ “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ท่านสิบเอ็ดได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นประสาทสัมผัสของท่านอาจไม่เฉียบแหลมเหมือนปกติ ให้เราตรวจดูใต้เตียงเพื่อที่ท่านสิบเอ็ดจะได้พักผ่อนอย่างสบายใจจะดีกว่า”
เขาไม่ได้รอคำตอบของซูอัน แต่ส่งสัญญาณให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเริ่มการค้นหา
ทหารหลายคนนอนราบไปกับพื้น ยกผ้าคลุมเตียงขึ้นแล้วแทงดาบเข้าไปข้างใต้เตียง
ทว่าท้ายที่สุดพวกเขาไม่พบอะไรเลย
ซูอันถอนหายใจ มันจะยิ่งแปลกมากขึ้นไปอีกถ้าทุกคนเจอบางอย่างใต้เตียงจริง ๆ ทันใดนั้นอวิ้นเจียนเยว่ก็พูดผ่านกระแสพลังชี่ถึงซูอัน “เจ้าต้องแสดงความโกรธออกมา ไม่อย่างนั้นจะดูแปลกเกินไป!”
ซูอันสะดุ้ง แต่เขาเข้าใจในคำพูดของนางอย่างรวดเร็ว หากทูตยุทธ์เสื้อแพรทองยอมให้คนเหล่านี้ค้นบ้านโดยไม่ตอบโต้ มันคงเป็นเรื่องผิดปกติ
ด้วยการโบกมือ ซูอันโคจรใช้วิชาเทพยุทธ์กลืนสวรรค์ เหล่าทหารรู้สึกถึงแรงกดดันในทันทีทันใด กระบี่ของพวกเขาหลุดมือพุ่งไปบนอากาศ
และด้วยการสะบัดมือเบา ๆ กระบี่ยาวทั้งหลายยับยู่ยี่เป็นก้อนโลหะ เสียงของซูอันเย็นชา “ท่านแม่ทัพเฉิงไม่ได้สอนมารยาทอะไรแก่พวกเจ้าเลยเหรอ? เจ้ากล้าดีอย่างไรมาใช้อาวุธในบ้านของข้า?”
ทหารทั้งหมดหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ พวกเขาคุกเข่าขอโทษทันที
แม้แต่ดวงตาของเฉิงซยงก็หรี่ลง เขามองดูก้อนโลหะที่หล่นลงบนพื้นและประสานมืออย่างรวดเร็ว “ท่านสิบเอ็ด ลูกน้องของข้ากระตือรือร้นที่จะจับตัวนักฆ่าเกินไปและทำให้ท่านขุ่นเคือง โปรดยกโทษให้พวกเขาด้วย”
จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและสับสน ไม่ใช่ว่าเขากลัวระดับการบ่มเพาะของอีกฝ่ายเพราะความผันผวนของพลังชี่ที่ปรากฏขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้ดูแข็งแกร่งไปกว่าของเขาเองที่สามารถทำได้ แต่สิ่งที่ทำให้กังวลคือเขาไม่สามารถระบุได้ว่าทักษะเมื่อครู่นี้ทำงานอย่างไร และไม่มีทางที่จะเลียนแบบพลังของมันได้
อันที่จริงเขาไม่สามารถบอกได้ว่าซูอันใช้ธาตุอะไรด้วยซ้ำ
“ในเมื่อพวกเจ้าทุกคนต่างเร่งรีบในการจับนักฆ่า งั้นก็ออกไปจับพวกมันซะ ทำไมถึงยังเสียเวลาอยู่ที่นี่” ซูอันกล่าวน้ำเสียงของเริ่มเจือปนด้วยความบาดหมาง
เฉิงซยงขมวดคิ้ว แต่เขารีบสงบสติอารมณ์และแสดงท่าทางให้ผู้ใต้บังคับบัญชาออกไป “ขออภัยสำหรับการรบกวน ท่านสิบเอ็ดได้โปรดอย่าโกรธเคือง”
ซูอันมองเขาอย่างเย็นชา แต่ไม่ตอบคำ
เมื่อเฉิงซยงไปถึงประตู เขาหันกลับมามองซูอัน “ท่านสิบเอ็ดความสามารถของท่านช่างน่าประทับใจ ท่านดูไม่เหมือนคนที่บาดเจ็บเลย” น้ำเสียงของเขาลึกซึ้งด้วยความหมายที่ซ่อนอยู่
“ต่อให้บาดเจ็บแล้วอย่างไร? การเอาชนะลูกปลาตัวเล็ก ๆ สองสามตัวนั้นไม่มีปัญหาสำหรับทูตยุทธ์เสื้อแพรทองเช่นข้า!” ซูอันตอบอย่างเฉยเมย
ใบหน้าของเฉิงซยงเริ่มมืดหม่น เขาเริ่มไม่แน่ใจกับสถานการณ์ตอนนี้ เนื่องจากทูตยุทธ์เสื้อแพรทองล้วนเป็นเหล่าคนลึกลับและทรงพลัง เขาไม่แน่ใจว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้หรือไม่
เขามองที่ผ้าห่มอย่างไม่เต็มใจเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าอีกฝ่ายอ่อนแอกว่ามาก เขาคงจะกระชากผ้าห่มออกแล้ว แต่เมื่อพิจารณาถึงพลังของทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง การปะทะตรง ๆ มีความเสี่ยงมากเกินไป
เขาปลอบตัวเองด้วยความคิดที่ว่าไม่มีทางที่นักฆ่ามีอายุคนใดจะสามารถซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างแนบเนียนขนาดนี้ได้ ดูจากภายนอกสิ่งที่ซ่อนได้คงมีแต่เด็กตัวเล็ก ๆ เท่านั้น นักฆ่าคงไม่ได้กระเตงเด็กมาด้วยใช่ไหม?
นอกจากนี้ เขาได้แผ่ประสาทสัมผัสไปทั่วทั้งห้องแล้ว และไม่พบใครเลยนอกจากซูอัน
เขาพลาดจริงเหรอ? เขาได้ก่อกวนทูตยุทธ์เสื้อแพรทองโดยไม่มีเหตุผลที่สมควร ด้วยสีหน้าที่มืดมนเฉิงซยงออกไปพร้อมกับลูกน้องของเขา
ซูอันสั่งกุญแจที่พักและประตูก็ปิดเอง
ในโลกนี้ แม้ว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะไม่ได้รับการพัฒนาเท่าโลกสมัยใหม่ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกมากมายสามารถทำได้โดยใช้พลังแห่งการบ่มเพาะ
เมื่อเขาปิดประตู ผ้าห่มถูกเปิดออกไปด้านข้าง และร่างเล็กก็โผล่ออกมาจากใต้ผ้าห่ม
เมื่อเขาเห็นอวิ้นเจียนเยว่ที่ตอนนี้กลายร่างเป็นเหมือนเด็กสาวตัวน้อย ซูอันไม่สามารถต้านทานความรู้สึกอยากบีบแก้มของนางได้ นางช่างน่ารักเหลือเกิน!
อวิ้นเจียนเยว่ปัดมือของเขาออกไป “เจ้าอยากตายนักเหรอ!” ด้วยการบิดตัวเล็กน้อย นางค่อย ๆ กลับสู่รูปลักษณ์ปกติโดยเปลี่ยนจากเด็กสาวตัวน้อยมาเป็นหญิงงามโตเต็มวัย
ซูอันถอนหายใจ “มีใครเคยบอกเจ้าไหมว่าเจ้าดูน่ารักเป็นพิเศษเมื่อตัวเจ้าหดแบบนั้น?”
แก้มของอวิ้นเจียนเยว่เป็นสีแดงครู่หนึ่ง “เจ้าห้ามบอกใครเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่ฮัวเล่ย! ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าเจ้า!”
ซูอันมีสีหน้าแปลก ๆ “ไม่มีใครเคยเห็นเจ้าในรูปลักษณ์เด็กน้อยมาก่อนเลยเหรอ?”
“มีอยู่บ้าง…” อวิ้นเจียนเยว่ดูเหมือนจะเหม่อลอยไปถึงความทรงจำของนาง “ตอนอยู่ที่สำนัก บางครั้งเมื่อข้าเบื่อจริง ๆ ข้าจะเปลี่ยนเป็นร่างเด็กแล้วเดินเตร่ไปรอบ ๆ เมืองและเมืองใกล้เคียง”
ซูอันต้องส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ
พี่สาว เจ้าเป็นผู้บ่มเพาะระดับปราชญ์และเจ้าสำนักมาร มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอที่จะทำตัวเรื่อยเปื่อยแบบนั้น?
อวิ้นเจียนเยว่ออกจากอาการเหม่อลอยทันที ไม่แน่ใจว่าอะไรทำให้นางบอกความลับที่เหลือเชื่อนี้ให้เขาฟัง ดวงตาของนางแฝงไปด้วยแววอันตราย “เจ้าจงใจสัมผัสข้าก่อนหน้านี้ใช่ไหม?”
ซูอันโบกมืออย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่สักหน่อย! ข้าแค่กังวลว่าท่านอาจจะหลุดพิรุธเมื่อเฉิงซยงพูดว่าร้ายท่าน ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกเราจบเห่กันทั้งคู่แน่!”
“ในสายตาของเจ้า ข้าเป็นแค่ผู้หญิงโง่ ๆ ที่โตแต่หน้าอกหรือไง?” อวิ้นเจียนเยว่พูดด้วยความโกรธเกรี้ยว
ซูอันมีสีหน้าแปลก ๆ เขาอดไม่ได้ที่จะมองดูหน้าอกอันใหญ่โตของนาง อืม…เจ้าอาจไม่ใช่คนโง่ แต่หน้าอกของเจ้าใหญ่คือเรื่องจริง
“มองอะไร!?” อวิ้นเจียนเยว่ถาม นางหัวเราะตามไปด้วยแต่รอยยิ้มของนางน่ากลัวนัก
“ไม่มีอะไร ๆ” ซูอันพูดด้วยรอยยิ้มและหยิบสมุนไพรห้ารากออกมาอย่างรวดเร็ว “นี่จะช่วยเร่งการฟื้นตัวของท่าน”
เขาได้กอดนางและสัมผัสนางแล้ว มันจะไม่ยุติธรรมหากเขาไม่มอบสิ่งนี้ให้แก่นาง
อวิ้นเจียนเยว่ขมวดคิ้ว แต่ไม่ปฏิเสธ นางรับกล่องหยกจากซูอัน แต่ยังไม่เปิดทันที “เฉิงซยงดูค่อนข้างเป็นปรปักษ์กับเจ้า ระวังตัวให้ดี ข้าไม่คิดว่าเขาจะปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปง่าย ๆ”
“ข้าไม่รู้ว่าข้าไปทำให้เขาขุ่นเคืองตอนไหน” ซูอันกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ การมีผู้ชายที่ฉลาดเช่นแม่ทัพกองพลซ้ายคอยวางแผนร้ายกับเขานั้นเป็นเรื่องปวดหัวอย่างแท้จริง
“แทนที่จะนั่งรอให้ปัญหาปรากฏขึ้น ชิงโจมตีก่อนดีกว่า สิ่งที่เจ้าต้องทำคือหาโอกาสกำจัดเขา” อวิ้นเจียนเยว่กล่าวอย่างเย็นชา
ซูอันตัวแข็ง ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าหญิงงามคนนี้ไม่ใช่คนใจดี แต่เป็นเจ้าสำนักมารที่น่าสะพรึงกลัว!
หลังจากเตือนซูอันแล้ว อวิ้นเจียนเยว่กล่าว “คอยปกป้องข้าด้วย ข้าจะโคจรพลังรักษาอาการบาดเจ็บ”
นางนั่งสมาธิอยู่บนเตียง เปิดกล่องหยกและวางไว้ตรงหว่างขา เผยให้เห็นสมุนไพรห้ารากภายใน
ซูอันเขย่งปลายเท้าเพื่อมองไปด้านในของกล่องหยก สมุนไพรห้ารากวางอยู่ในกล่องหยก ทว่ารายล้อมไปด้วยคลื่นพลังชี่หนาแน่นวนเวียนอยู่ซึ่งเห็นได้ด้วยตาเปล่า มองเพียงแวบเดียวก็เพียงพอที่จะบอกได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดา
อวิ้นเจียนเยว่ไม่ได้กินมัน แต่โคจรพลังของนางขณะนั่งสมาธิ ในชั่วขณะหนึ่ง มวลพลังหนาทึบจากสมุนไพรห้ารากค่อย ๆ ไหลเข้าสู่ร่างกายของนางผ่านทางจมูก แก้มซีดของนางเริ่มมีเลือดฝาดแดงระเรื่อ
ดวงตาของซูอันเบิกกว้าง นางดูเหมือนเทพธิดาอย่างแท้จริง แม้แต่ระหว่างรักษาอาการบาดเจ็บนางก็ยังดูงดงามตระการตา!
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม อวิ้นเจียนเยว่ก็ลืมตาขึ้น
ซูอันที่กำลังเบื่อ เขารีบถามด้วยความประหลาดใจ “อาการบาดเจ็บของท่านหายเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”
อวิ้นเจียนเยว่ส่ายหัว “แน่นอนว่าไม่ บาดแผลทางดวงวิญญาณต้องได้รับการเยียวยาอย่างช้า ๆ ไม่สามารถเร่งกระบวนการรักษาได้ การรักษามันด้วยสมุนไพรห้ารากเป็นเวลาครึ่งชั่วยามในแต่ละวันนั้นถึงขีดจำกัดแล้ว ถ้าทำต่อไปจะเสียเปล่า”
อารมณ์ของซูอันดีขึ้นทันที “ฮ่า ๆ งั้นก็ใช้เวลาในการฟื้นตัว! ท่านสามารถอยู่ที่นี่ได้นานเท่าที่ท่านต้องการ ว่าแต่ช่วยขยับตัวหน่อยได้ไหม? ข้าอยากจะนอนหลับสักหน่อย”