เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 944 จักรพรรดินีเรียกเข้าเฝ้า
บทที่ 944 จักรพรรดินีเรียกเข้าเฝ้า
หลังจากเต็มอิ่มกับความสุข ซูอันก็ยังไม่ลืมเหตุผลที่เขาออกมาจากวัง เขาซื้อเปลผ้าจากร้านค้าริมถนน ในขณะที่ชิวฮัวเล่ยเดินเป็นเพื่อน นางประหลาดใจกับการซื้อของเขา “ทำไมเจ้าถึงซื้อไอ้นี่ล่ะ?”
“แน่นอนว่าสำหรับอาจารย์ของเจ้า มันค่อนข้างน่าอึดอัดใจสำหรับชายและหญิงที่จะนอนร่วมเตียงกัน” ซูอันอธิบาย
ดวงตาของชิวฮัวเล่ยเบิกกว้าง “เมื่อคืนเจ้านอนเตียงเดียวกับอาจารย์ของข้าเหรอ?”
ใบหน้าของซูอันร้อนขึ้น เขาจะกล้ายอมรับเรื่องแบบนั้นได้อย่างไร? “ไม่ใช่สักหน่อย!” เขากล่าวอย่างรวดเร็ว “ต่อให้ข้าต้องการ อาจารย์ของเจ้าจะยอมหรือไง จริงไหม?”
ชิวฮัวเล่ยยิ้ม “เจ้าพูดถูก มันคงสมเหตุสมผลมากกว่าถ้านางฆ่าเจ้าตายตั้งแต่ประโยคแรกที่เจ้าเอ่ยขอ”
นางไม่ได้ตบข้าสักหน่อย นางถีบข้าเมื่อเช้าต่างหาก!
หลังจากซื้อเปลแล้วซูอันต้องแวะไปที่วังตะวันออก ด้วยเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นในวังตะวันออกเมื่อคืนก่อน คงจะไม่ดีถ้าราชเลขาของรัชทายาทไม่ไปทำงาน
ทั้งสองแยกจากกันอย่างไม่เต็มใจ ชิวฮัวเล่ยถอนหายใจขณะที่นางมองดูร่างที่จากไปของซูอัน นางไม่รู้ว่าอะไรทำให้ตัวเองกล้าหาญได้ขนาดนี้ นางไม่มีคุณสมบัติที่จะอยู่เคียงข้างเขาเพราะเคล็ดวิชาที่นางฝึกฝน แต่นางกลับพูดจาร้ายกาจใส่ฉู่ชูเหยียน
แต่ว่าประสบการณ์ครั้งล่าสุดที่นางไปเยือนตระกูลฉู่ยังคงฝังใจนางอยู่ และการเผชิญหน้ากับฉู่ชูเหยียนครั้งนี้ช่วยบรรเทาบาดแผลนั้นได้
…
ซูอันยังคงได้รับคะแนนความโกรธแค้นจากฉู่ชูเหยียนตลอดทางจนถึงพระราชวัง เขาทำให้นางโกรธเคืองมากในครั้งนี้ เขาต้องหาทางเอาใจนาง
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มก็มีภารกิจที่ต้องทำ ดังนั้นเขาจึงต้องเข้าไปในพระราชวังก่อน
ซูอันแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเข้าไปในวังตะวันออก เขาแสดงความตกใจทันทีเมื่อเห็นสภาพเละเทะรอบตัวเขา
มีคนพูดขึ้นจากด้านข้าง “ใต้เท้าซู?”
ซูอันหันกลับมา เขาสังเกตเห็นว่าทหารที่มีรอยคล้ำรอบดวงตาเดินมา เขายิ้มและพูดว่า “สวัสดีองค์รักษ์เผี่ยว”
เผี่ยวตวนเตียวค่อนข้างตกใจ ราชองครักษ์ระดับล่างอย่างเขาจำเป็นต้องจำทุกคนที่เข้าหรือออกจากวังตะวันออกได้ แต่เขาไม่คิดว่าราชเลขาของรัชทายาทจะรู้ชื่อของเขา ชายคนนี้ดีกว่าซือคุนที่หยิ่งผยอง!
เขามีความรู้สึกที่ดีต่อซูอันในทันที “ใต้เท้าซู เมื่อวานนี้มีเหล่านักฆ่าบุกโจมตีวังตะวันออก แม้แต่ผู้บ่มเพาะระดับปราชญ์ก็ปรากฏตัวขึ้น จนองค์จักรพรรดิทรงออกโรงเอง สถานที่แห่งนี้ถูกทำลายลงจากคลื่นกระแทก”
“องค์รัชทายาทกับองค์หญิงปลอดภัยหรือเปล่า?” ซูอันถามด้วยสีหน้าแสร้งเป็นกังวล
“บรรดาสมาชิกของราชวงศ์ปลอดภัยดี แค่ตกใจบ้าง ตำหนักอื่นกำลังถูกใช้เป็นวังตะวันออกชั่วคราว ข้าจะพาท่านไปที่นั่น” เผี่ยวตวนเตียวกล่าวอย่างกระตือรือร้น
องค์รักษ์ระดับล่างเช่นเขาต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดไม่ทำให้ผู้ใดขุ่นเคือง ดังนั้นเมื่อซูอันค่อนข้างดีกับเขา เขาจึงปฏิบัติต่อซูอันอย่างดีกว่าคนอื่น
ซูอันประสานมือ “ขอบคุณองค์รักษ์เผี่ยว”
เผี่ยวตวนเตียวดีใจมากที่ซูอันตอบรับอย่างเป็นมิตร และการแสดงออกของเขาก็เป็นมิตรมากขึ้นเช่นกัน
ทั้งสองคนเริ่มพูดคุยกันแบบสบาย ๆ และความประทับใจของเผี่ยวตวนเตียวที่มีต่อราชเลขาคนใหม่ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก เขาตั้งใจจะแนะนำให้ซูอันรู้จักกับเจียวซือกุนในโอกาสต่อไป
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงพระราชวังตะวันออกชั่วคราว ซูอันเข้าไปเยี่ยมรัชทายาท แต่เจ้าอ้วนตื่นตระหนกจนไม่มีอารมณ์จะเล่นและไม่อยากพบหน้าใครซะอย่างนั้น
ซูอันไม่สนใจ แต่ว่าการเสียเวลาไปเปล่า ๆ ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีเท่าไรนัก
เขาซักถามผู้อื่นและรู้ว่าอาจารย์ของรัชทายาทก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าคาบเรียนในวันนี้ถูกยกเลิก
เขาสงสัยว่าจะสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ของเขากับพี่สาวเจ้าสำนักได้หรือไม่… ? ไม่สิ ข้าหมายถึงช่วยฮัวเล่ยส่งข้อความของนางให้อาจารย์ของนาง
คงไม่มีใครสังเกตหรอกว่าเขาไปเดินเล่นที่ไหนใช่ไหม?
เขาแอบไปที่ทางเข้าเรือนพัก แต่สุดท้ายเขาก็เจอหญิงสาวสวยคนหนึ่ง
ซูอันตื่นตระหนกเมื่อเห็นว่าเป็นใครและรีบถอยหลังไปสองสามก้าว “คารวะ องค์หญิงรัชทายาท!”
จักรพรรดิต้องการให้เขาตัดมือของตัวเองเพราะเขาอุ้มนางโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อคืนก่อน ถ้าขืนเขาทำตัวสนิทสนมกับนางอีก ชะตากรรมแบบไหนที่รออยู่คงเดาได้ไม่ยาก
องค์หญิงรัชทายาทตกใจ นางก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วก่อนจะตั้งหลักได้ การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของนางทำให้จี้หยกที่ประดับประดาบนชุดแกว่งไปมาเปล่งเสียงกรุ๊งกริ๊งชัดเจนขณะที่พวกมันชนกัน
องค์หญิงรัชทายาทมีอารมณ์ขุ่นเคืองอย่างเห็นได้ชัด “เจ้ากำลังจะไปไหนของเจ้า?”
ซูอันไม่กล้าตอบว่ากำลังจะไปอู้งานจึงแก้ตัวว่า “กระหม่อมเพียงอยากใช้ห้องน้ำ” เขาอธิบาย
องค์หญิงรัชทายาทขมวดคิ้ว “วันนี้เจ้ามาสาย!”
ใบหน้าของซูอันร้อนขึ้น เขามาสายเพราะเขามัวแต่เล่นอยู่กับชิวฮัวเล่ย “การรักษาความปลอดภัยนอกวังนั้นเข้มงวด และทหารก็ลาดตระเวนไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ทำให้เกิดความล่าช้า”
ผู้หญิงคนนี้กลับมามีท่าทางที่ดุร้ายและหยิ่งผยองอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่นางดูน่ารักขึ้นมากเมื่อวันก่อนแท้ ๆ
“นอกเหนือจากการอยู่กับองค์รัชทายาทในห้องหนังสือส่วนพระองค์ ราชเลขาขององค์รัชทายาทยังแบกรับหน้าที่สำคัญในการประกันความปลอดภัยของพระองค์ เมื่อวานที่เกิดเหตุการณ์บุกวัง ข้าไม่เห็นเจ้าที่ไหนเลย โชคดีที่ท่านสิบเอ็ดทูตยุทธ์เสื้อแพรทองมาถึงทันเวลา เจ้าควรยกเอาเขาเป็นแบบอย่างเรียนรู้บทเรียนจากเหตุการณ์นี้ให้มาก!”
“แน่นอน ๆ กระหม่อมจะทำตามแบบอย่างของเขาอย่างแน่นอน” ซูอันไม่ได้โต้แย้งว่ามันคงจะแปลกถ้าเขายังคงอยู่ในวังตะวันออกเมื่อเวลางานของเขาสิ้นสุดลง อืม… ข้าสงสัยว่าท่าทางของผู้หญิงคนนี้จะเป็นอย่างไรถ้านางรู้ว่าข้าไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ทูตยุทธ์เสื้อแพรทองหมายเลขสิบเอ็ดที่นางชื่นชม!
องค์หญิงรัชทายาทขมวดคิ้วก่อนจะถอนหายใจ ทำไมทุกคนถึงไร้ความสามารถกันหมด!
ดูสิ ท่านสิบเอ็ดเป็นผู้ใหญ่และเอาจริงเอาจังมากขนาดไหน เขาให้ความรู้สึกปลอดภัยแก่นางได้อย่างไร้ข้อกังขา แต่ชายผู้นี้กลับรู้เพียงวิธีมอบรอยยิ้มจอมปลอมเท่านั้น หากรัชทายาทมีเพียงคนโง่ที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้อยู่เคียงข้าง ในอนาคต เราจะต่อสู้กับราชันลมปราณได้อย่างไร?
นางกำลังจะพูดต่อแต่กลับมีขันทีร่างสูงผอมคนหนึ่งวิ่งเข้ามา “คารวะองค์หญิงรัชทายาท! องค์จักรพรรดินีทรงประสงค์เรียกพระองค์เข้าเฝ้า!”
ซูอันจำได้ว่าผู้ที่มาส่งข่าวคือหนึ่งในขันทีน้อยสองคนของจักรพรรดินีมีนามว่ากุ้ยน้อย การโจมตีวังไร้พิพาทโดยกลุ่มเงาสังหารทำให้ขันทีระดับสูงเสียชีวิตจำนวนมาก ขันทีน้อยสองคนจึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างก้าวกระโดด
องค์หญิงรัชทายาทพยักหน้า “ในช่วงสองสามวันนี้มีหลายสิ่งเกิดขึ้นมากเกินไป ข้าเกือบลืมอวยพรให้องค์จักรพรรดินีมีพระพลานามัยที่แข็งแรง”
นางเรียกรัชทายาทที่ยังคงนั่งคุดคู้อยู่ที่มุมห้องและกำลังจะตรงไปยังวังไร้พิพาท แต่กุ้ยน้อยพูดเสริมต่อด้วยรอยยิ้มกว้างว่า “องค์จักรพรรดินีได้เชิญทุกคนจากวังตะวันออกให้เข้าเฝ้าพระนางด้วย พระนางต้องการมอบรางวัลให้แก่ผู้ที่ปกป้องพระราชวังหลวงอย่างกล้าหาญเมื่อคืนนี้”
องค์หญิงรัชทายาทชะงักไปชั่วขณะ แต่คำขอนี้มีเหตุผลสำหรับนาง ดังนั้นนางจึงไม่ได้ใส่ใจมากเกินไป เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดินีพยายามขยายอิทธิพล แต่ด้วยสถานะองค์หญิงรัชทายาทของนาง ถ้านางก้าวก่ายเรื่องของรัชทายาทมากเกินไป บรรดาเจ้าหน้าที่ของพระราชวังตะวันออกจะไม่พอใจนาง นางไม่ต้องการทำอะไรโง่ ๆ เช่นนั้น
หัวใจของซูอันเต้นแรง เขารู้ทันทีว่าการเรียกรัชทายาทและองค์หญิง หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดของพระราชวังตะวันออกล้วนเป็นเพียงข้ออ้าง ทั้งหมดทั้งมวลที่จักรพรรดินีกระทำอยู่ตอนนี้มันเป็นเพียงเพื่อต้องการพบเขา!
ทั้งสองคนเริ่มพูดคุยกันแบบสบาย ๆ และความประทับใจของเผี่ยวตวนเตียวที่มีต่อราชเลขาคนใหม่ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก เขาตั้งใจจะแนะนำให้ซูอันรู้จักกับเจียวซือกุนในโอกาสต่อไป
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงพระราชวังตะวันออกชั่วคราว ซูอันเข้าไปเยี่ยมรัชทายาท แต่เจ้าอ้วนตื่นตระหนกจนไม่มีอารมณ์จะเล่นและไม่อยากพบหน้าใครซะอย่างนั้น
ซูอันไม่สนใจ แต่ว่าการเสียเวลาไปเปล่า ๆ ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีเท่าไรนัก
เขาซักถามผู้อื่นและรู้ว่าอาจารย์ของรัชทายาทก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าคาบเรียนในวันนี้ถูกยกเลิก
เขาสงสัยว่าจะสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ของเขากับพี่สาวเจ้าสำนักได้หรือไม่… ? ไม่สิ ข้าหมายถึงช่วยฮัวเล่ยส่งข้อความของนางให้อาจารย์ของนาง
คงไม่มีใครสังเกตหรอกว่าเขาไปเดินเล่นที่ไหนใช่ไหม?
เขาแอบไปที่ทางเข้าเรือนพัก แต่สุดท้ายเขาก็เจอหญิงสาวสวยคนหนึ่ง
ซูอันตื่นตระหนกเมื่อเห็นว่าเป็นใครและรีบถอยหลังไปสองสามก้าว “คารวะ องค์หญิงรัชทายาท!”
จักรพรรดิต้องการให้เขาตัดมือของตัวเองเพราะเขาอุ้มนางโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อคืนก่อน ถ้าขืนเขาทำตัวสนิทสนมกับนางอีก ชะตากรรมแบบไหนที่รออยู่คงเดาได้ไม่ยาก
องค์หญิงรัชทายาทตกใจ นางก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วก่อนจะตั้งหลักได้ การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของนางทำให้จี้หยกที่ประดับประดาบนชุดแกว่งไปมาเปล่งเสียงกรุ๊งกริ๊งชัดเจนขณะที่พวกมันชนกัน
องค์หญิงรัชทายาทมีอารมณ์ขุ่นเคืองอย่างเห็นได้ชัด “เจ้ากำลังจะไปไหนของเจ้า?”
ซูอันไม่กล้าตอบว่ากำลังจะไปอู้งานจึงแก้ตัวว่า “กระหม่อมเพียงอยากใช้ห้องน้ำ” เขาอธิบาย
องค์หญิงรัชทายาทขมวดคิ้ว “วันนี้เจ้ามาสาย!”
ใบหน้าของซูอันร้อนขึ้น เขามาสายเพราะเขามัวแต่เล่นอยู่กับชิวฮัวเล่ย “การรักษาความปลอดภัยนอกวังนั้นเข้มงวด และทหารก็ลาดตระเวนไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ทำให้เกิดความล่าช้า”
ผู้หญิงคนนี้กลับมามีท่าทางที่ดุร้ายและหยิ่งผยองอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่นางดูน่ารักขึ้นมากเมื่อวันก่อนแท้ ๆ
“นอกเหนือจากการอยู่กับองค์รัชทายาทในห้องหนังสือส่วนพระองค์ ราชเลขาขององค์รัชทายาทยังแบกรับหน้าที่สำคัญในการประกันความปลอดภัยของพระองค์ เมื่อวานที่เกิดเหตุการณ์บุกวัง ข้าไม่เห็นเจ้าที่ไหนเลย โชคดีที่ท่านสิบเอ็ดทูตยุทธ์เสื้อแพรทองมาถึงทันเวลา เจ้าควรยกเอาเขาเป็นแบบอย่างเรียนรู้บทเรียนจากเหตุการณ์นี้ให้มาก!”
“แน่นอน ๆ กระหม่อมจะทำตามแบบอย่างของเขาอย่างแน่นอน” ซูอันไม่ได้โต้แย้งว่ามันคงจะแปลกถ้าเขายังคงอยู่ในวังตะวันออกเมื่อเวลางานของเขาสิ้นสุดลง อืม… ข้าสงสัยว่าท่าทางของผู้หญิงคนนี้จะเป็นอย่างไรถ้านางรู้ว่าข้าไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ทูตยุทธ์เสื้อแพรทองหมายเลขสิบเอ็ดที่นางชื่นชม!
องค์หญิงรัชทายาทขมวดคิ้วก่อนจะถอนหายใจ ทำไมทุกคนถึงไร้ความสามารถกันหมด!
ดูสิ ท่านสิบเอ็ดเป็นผู้ใหญ่และเอาจริงเอาจังมากขนาดไหน เขาให้ความรู้สึกปลอดภัยแก่นางได้อย่างไร้ข้อกังขา แต่ชายผู้นี้กลับรู้เพียงวิธีมอบรอยยิ้มจอมปลอมเท่านั้น หากรัชทายาทมีเพียงคนโง่ที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้อยู่เคียงข้าง ในอนาคต เราจะต่อสู้กับราชันลมปราณได้อย่างไร?
นางกำลังจะพูดต่อแต่กลับมีขันทีร่างสูงผอมคนหนึ่งวิ่งเข้ามา “คารวะองค์หญิงรัชทายาท! องค์จักรพรรดินีทรงประสงค์เรียกพระองค์เข้าเฝ้า!”
ซูอันจำได้ว่าผู้ที่มาส่งข่าวคือหนึ่งในขันทีน้อยสองคนของจักรพรรดินีมีนามว่ากุ้ยน้อย การโจมตีวังไร้พิพาทโดยกลุ่มเงาสังหารทำให้ขันทีระดับสูงเสียชีวิตจำนวนมาก ขันทีน้อยสองคนจึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างก้าวกระโดด
องค์หญิงรัชทายาทพยักหน้า “ในช่วงสองสามวันนี้มีหลายสิ่งเกิดขึ้นมากเกินไป ข้าเกือบลืมอวยพรให้องค์จักรพรรดินีมีพระพลานามัยที่แข็งแรง”
นางเรียกรัชทายาทที่ยังคงนั่งคุดคู้อยู่ที่มุมห้องและกำลังจะตรงไปยังวังไร้พิพาท แต่กุ้ยน้อยพูดเสริมต่อด้วยรอยยิ้มกว้างว่า “องค์จักรพรรดินีได้เชิญทุกคนจากวังตะวันออกให้เข้าเฝ้าพระนางด้วย พระนางต้องการมอบรางวัลให้แก่ผู้ที่ปกป้องพระราชวังหลวงอย่างกล้าหาญเมื่อคืนนี้”
องค์หญิงรัชทายาทชะงักไปชั่วขณะ แต่คำขอนี้มีเหตุผลสำหรับนาง ดังนั้นนางจึงไม่ได้ใส่ใจมากเกินไป เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดินีพยายามขยายอิทธิพล แต่ด้วยสถานะองค์หญิงรัชทายาทของนาง ถ้านางก้าวก่ายเรื่องของรัชทายาทมากเกินไป บรรดาเจ้าหน้าที่ของพระราชวังตะวันออกจะไม่พอใจนาง นางไม่ต้องการทำอะไรโง่ ๆ เช่นนั้น
หัวใจของซูอันเต้นแรง เขารู้ทันทีว่าการเรียกรัชทายาทและองค์หญิง หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดของพระราชวังตะวันออกล้วนเป็นเพียงข้ออ้าง ทั้งหมดทั้งมวลที่จักรพรรดินีกระทำอยู่ตอนนี้มันเป็นเพียงเพื่อต้องการพบเขา!
………………………………………………………..