เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 947 ขันทีหมวกเขียว?
บทที่ 947 ขันทีหมวกเขียว?
แต่ซูอันไม่ได้ตื่นตระหนกเกินไปนัก แม้ว่าระดับการบ่มเพาะปัจจุบันของเขาไม่เพียงพอที่จะเอาชนะขันทีเฒ่าผู้นี้ได้ แต่เขาสามารถปกป้องตนเองได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ไม่มีทางที่จักรพรรดินีจะต้องการให้เรื่องนี้รั่วไหล ซึ่งหมายความว่านางจะไม่เรียกใครเข้ามาช่วย
จักรพรรดินีมองซูอันด้วยความประหลาดใจ นางไม่คิดว่าเขาจะสงบสติอารมณ์ได้ในสถานการณ์นี้
นางส่ายหัว “ไม่จำเป็น ข้ารู้ว่าข้ากำลังทำอะไรอยู่”
นางมองขันทีอย่างไม่พอใจ “ข้าบอกให้เจ้ารอข้างนอกไม่ใช่เหรอ? ใครบอกให้เจ้าเข้ามา?”
สีหน้าดุดันของขันทีลู่เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มละอายทันที “ฝ่าบาท กระหม่อมเพิ่งได้รับข้อมูลสำคัญบางอย่างที่พระองค์จำเป็นต้องรู้”
ซูอันพูดไม่ออก สีหน้าของชายคนนี้เปลี่ยนเร็วเกินไปหน่อยไหม…เจ้าเลียรองเท้าของนางจนตอนนี้ไม่เหลือเศษฝุ่นใด ๆ ติดอยู่เลย
“พูด” จักรพรรดินีเอนหลังลงบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าไม่แยแสตามปกติ
ดวงตาของขันทีลุกโชนด้วยความหลงใหลในขณะที่เขามองส่วนโค้งเว้าที่ยอดเยี่ยมของนาง แต่แล้วดวงตาเขาก็หรี่ลงอย่างรวดเร็ว เขาหันกลับไปมองซูอันด้วยสีหน้าไม่แน่ใจเล็กน้อย
“ซูอันจะเป็นพวกเดียวกับเราในอนาคต” จักรพรรดินีหัวเราะคิกคัก นางไม่รังเกียจจะใช้เรื่องเล็กน้อยนี้ดึงซูอันมาเข้าพวก
ซูอันพูดไม่ออกเมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของขันทีลู่
พี่ชาย เจ้าไม่มีแม้แต่กุ๊กกู๋ ทำไมเจ้าถึงมองข้าเป็นศัตรูหัวใจด้วย?
ขันทีลู่รายงาน “แม่ทัพเฉิงซยงฝ่ายซ้ายกำลังตรวจสอบทูตยุทธ์เสื้อแพรภายในวัง”
“ตรวจสอบทูตยุทธ์เสื้อแพร? เขาบ้าไปแล้วเหรอ?” จักรพรรดินีตกตะลึง ทูตยุทธ์เสื้อแพรเป็นคนสนิทของจักรพรรดิ เฉิงซยงจะกล้าหาญตรวจสอบได้อย่างไร?
ซูอันแอบตื่นตระหนก นี่อาจเป็นแผนการที่จะเอาผิดเขา!
ขันทีลู่กล่าวต่อ “มีข้อมูลว่าหนึ่งในนักฆ่าสวมเครื่องแบบของทูตยุทธ์เสื้อแพรพะย่ะค่ะ นี่คือเหตุผลที่แม่ทัพเฉิงซยงตรวจสอบจำนวนชุดเครื่องแบบทูตยุทธ์เสื้อแพร บรรดาผู้ที่อยู่ในสังกัดทูตยุทธ์เสื้อแพรต่างไม่พอใจและกำลังต่อต้านอยู่ในขณะนี้”
ซูอันรู้สึกราวกับถูกสาดด้วยน้ำเย็นจัด เฉิงซยงกำลังหาหลักฐานเอาผิดเขาให้ได้!
ในคืนก่อน เฉิงซยงต้องผิดหวังกับความล้มเหลว แต่เขาได้วางแผนที่จะตอบโต้อย่างรัดกุมยิ่งขึ้น ครั้งนี้การสอบสวนของเขาละเอียดถี่ถ้วนมาก จนพบว่าซูอันใช้ชุดทูตยุทธ์เสื้อแพรเพื่อแอบพาเสวี่ยเอ๋อร์ออกไป!
เพียงผิวเผิน ดูเหมือนว่าเฉิงซยงตั้งใจจะสร้างศัตรูกับทูตยุทธ์เสื้อแพรทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงทุกอย่างมุ่งเป้ามาที่เขา
อวิ้นเจียนเยว่ยังคงซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักของเขา เมื่อวานนี้นางโชคดีพอที่จะหลบเลี่ยงการถูกตรวจจับได้ แต่ถ้าการค้นหาดำเนินต่อไป การหลบซ่อนคงจะทำได้ลำบากมากขึ้น
ข้าควรทำอย่างไรดี? ข้าควรทำอย่างไรตอนนี้!?
สมองของเขาประมวลผลด้วยความเร็วราวสายฟ้า ในเวลาเดียวกัน เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ประเมินความฉลาดของผู้คนในโลกนี้ต่ำไป นี่ไม่ใช่ NPC จากนิยายที่เขาอ่านหรือเกมที่เขาเล่น ทั้งหมดเป็นบุคคลที่มีไหวพริบ สมควรแก่ตำแหน่งอำนาจที่ดำรงอยู่
เขาพยายามคิดหามาตรการรับมือ ความคิดแรกของเขาคือการขอความช่วยเหลือจากจักรพรรดินี แต่เขาควรจะพูดอย่างไรดี?
เขาจะขอให้จักรพรรดินีช่วยเหลือทูตยุทธ์เสื้อแพรได้อย่างไร? เว้นแต่เขาจะเปิดเผยตัวตนว่าตัวเองเป็นหนึ่งในนั้น
และถ้าเขาเปิดเผยตัวเอง เขาควรจะอธิบายกับนางว่าเขาได้ช่วยนักฆ่าหลบหนีหรือไม่?
นางอาจคิดว่าเขารู้จักกับนักฆ่า ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ยิ่งมีปัญหามากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ นางยังมีตระกูลหลิวคอยสนับสนุน หากนางทราบสถานะของเขาในฐานะทูตยุทธ์เสื้อแพร ย่อมไม่อาจวางใจได้ว่านางจะไม่เปิดเผยข้อมูลนี้ให้ตระกูลของนางทราบ ซึ่งนั่นจะทำให้สิ่งต่าง ๆ อันตรายยิ่งขึ้นสำหรับเขา
เขาควรติดต่อจูเซี่ยฉือซินหรือไม่?
ซูอันไม่สามารถปล่อยให้คนเหล่านี้สืบสาวราวเรื่องจนมาถึงตัวเองได้ อย่างไรซะเมื่อวันก่อนเขาและผู้บัญชาการทูตยุทธ์เสื้อแพรดูเหมือนเข้ากันได้ดี
ไม่ได้สิ สิ่งต่าง ๆ จะยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีกถ้าจิ้งจอกเฒ่าจูเซี่ยฉือซินพบว่าข้าปล่อยนักฆ่าไป
ขณะที่สมองของซูอันทำงานอย่างหนัก จักรพรรดินีซึ่งเอนกายลงบนที่นั่งยิ้มแย้มอย่างแช่มช้อย “เฉิงซยงเป็นคนในกลุ่มของราชันลมปราณ เขากังวลว่าฝ่าบาทจะทรงใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างเพื่อย้ายเขาออกจากตำแหน่งสำคัญ ดังนั้นเขาจึงพยายามทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อป้องกัน ไม่เป็นไรหรอก ปล่อยให้เขาและทูตยุทธ์เสื้อแพรขัดแย้งกันไป”
ซูอันรู้สึกประหลาดใจ เฉิงซยงอยู่ในฝ่ายของราชันลมปราณ?
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาสนใจการสอบสวนครั้งนี้มาก! เดี๋ยวก่อน มีบางอย่างที่ข้าทำได้…
“ฝ่าบาท ถ้าไม่มีอะไรแล้ว กระหม่อมขอตัว” ซูอันโค้งคำนับให้จักรพรรดินีอีกครั้ง เขาต้องแสดงมารยาทที่ถูกต้องต่อหน้าคนอื่น
“ขันทีลู่ พาเขาออกไป” จักรพรรดินีโบกมือ ดูเหมือนนางจะไม่มีอารมณ์ที่จะอยู่กับขันทีลู่ในห้องส่วนตัว
“รับบัญชา” ขันทีลู่พาซูอันออกไป สีหน้าของเขาค่อนข้างน่ากลัว
ข้าได้สัมผัสเทพธิดาที่เขาฝันถึงทุกคืน จึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะเกลียดข้า ข้าคงผูกมิตรกับขันทีผู้นี้ไม่ได้แล้ว
ซูอันลอบคิด
ทั้งสองออกจากห้องไป ขันทีลู่ปิดประตูหลังจากก้าวออกจากห้อง เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ลังเลเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็พูดในที่สุด “เจ้าคิดจะเด็ดดอกฟ้า แต่เหตุใดถึงลังเล? หรือเจ้ากลัวองค์จักรพรรดิจะทรงทราบความจริง?”
ซูอันตกตะลึงกับน้ำเสียงของอีกฝ่าย เหตุใดเขาจึงรู้สึกว่าขันทีผู้นี้แอบส่งเสริมการกระทำของเขา!
ขันทีผู้นี้ไม่ได้เพ้อฝันถึงจักรพรรดินีตลอดมางั้นหรือ? ทำไมเขาถึงยอมให้ผู้ชายคนอื่นเข้าใกล้นาง? แถมยังดูตื่นเต้นมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
ขันทีลู่…หรือข้าควรเรียกเขาว่าขันทีหมวกเขียว?
ซูอันยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนเขินอาย “ท่านเข้าใจข้าผิดแล้วขันทีลู่ ข้ามีความเคารพต่อจักรพรรดินีอย่างสูงสุด ข้าไม่เคยคิดล่วงเกินพระนางแม้แต่น้อย”
ขันทีลู่ยิ้มเยาะ “เฮอะ”
ซูอันไม่อยากจะสนทนากับขันทีผู้นี้เท่าไรนัก หลังจากแลกเปลี่ยนคำพูดอีกสองสามคำ เขาก็กล่าวคำอำลา
เขากลับไปที่ห้องโถงใหญ่ซึ่งรัชทายาทกำลังยัดอาหารใส่ปาก นิ้วทั้งสิบเลอะเทอะไปด้วยคราบมัน
องค์หญิงรัชทายาทมองด้วยสายตาเย็นชา เห็นได้ชัดว่านางต้องการตำหนิรัชทายาท แต่นางกังวลถึงสายตาของผู้อื่น เพราะขณะนี้พวกเขาอยู่ในวังไร้พิพาท นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเก็บคำด่าต่าง ๆ เอาไว้ในใจก่อน แต่ยิ่งนางอดทนมากเท่าไร นางก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้นเท่านั้น
ในที่สุดนางก็พูดว่า “องค์รัชทายาท เสวยเสร็จแล้วหรือยัง? ถึงเวลาที่เราจะต้องกลับแล้ว!”
รัชทายาทส่ายหัวแก้มตุ่ย “คนเหล่านี้บอกว่ายังจะมีอาหารมาอีกเยอะ! มีเนื้อแกะนึ่ง อุ้งเท้าหมี หางกวางนึ่ง เป็ดย่าง ไก่ย่าง ห่านย่าง หมูตุ๋น เป็ดตุ๋น ไก่ตุ๋น เนื้อหมักเครื่องเทศ เนื้อตากแห้ง ไส้กรอก ผักนานาชนิด ไก่รมควัน ซุปหมู ข้าวหน้าเป็ด…”