เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 952 คีย์บอร์ดจงมา!
บทที่ 952 คีย์บอร์ดจงมา!
“แล้วตอนนี้ข้าควรทำอย่างไรต่อ?” ซูอันถามกลับอีกครั้ง ด้วยราชินีจิ้งจอกที่อยู่ข้างเขา เขาจึงไม่ต้องเสียกำลังสมองของตัวเอง
อวิ้นเจียนเยว่ครุ่นคิด ใบหน้าที่สวยงามของนางเปลี่ยนเป็นจริงจัง
ครู่ต่อมา นางกล่าวว่า “เจ้าควรไปพบจูเซี่ยฉือซินก่อน ในฐานะผู้บัญชาการทูตยุทธ์เสื้อแพร เขาจำเป็นต้องเคลื่อนไหวเมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาถูกรังแก นอกจากนี้ ในฐานะคนสนิทของจักรพรรดิ การขอความช่วยเหลือจากเขาในการกำจัดเฉิงซยงจะช่วยได้มาก อย่างไรก็ตาม มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นมักจะหวาดระแวงเสมอ เจ้าต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการถูกซักถามอย่างละเอียดก่อนที่จะพบเขา จากนั้นเจ้าควร…”
ซูอันรู้สึกถึงปัญหา แต่การวิเคราะห์อย่างพิถีพิถันของนางช่วยให้ทุกอย่างกระจ่างได้อย่างมาก เขาถอนหายใจด้วยความชื่นชม “ใครก็ตามที่ได้แต่งงานกับท่านในอนาคตจะโชคดีอย่างสูงสุด ท่านคือศรีภรรยาที่ยอดเยี่ยมราวกับจูกัดเหลียงขงเบ้งมาเกิด!”
อวิ้นเจียนเยว่ขมวดคิ้ว “ใครคือจูกัดเหลียง?” นางถามทันทีด้วยความเกรี้ยวกราด “แล้วทำไมข้าต้องแต่งงานกับใครด้วย? หากข้าต้องการผู้ชาย ข้าก็จะเอาสัตว์เพศผู้มาแทนซักตัว ในโลกนี้มีผู้ชายคนไหนที่คู่ควรที่จะแต่งงานกับข้าด้วยเหรอ?”
ซูอันมีสีหน้าแปลก ๆ ครู่ต่อมาเขาก็ถอนหายใจ “พี่สาวเจ้าสำนัก ท่านช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!”
เปลือกตาของอวิ้นเจียนเยว่กระตุก นางหันหลังกลับอย่างหงุดหงิดและเริ่มผูกเปลผ้าของนาง เห็นได้ชัดว่านางไม่ต้องการนอนบนเตียงเดียวกับผู้ชายคนนี้อีก
…
ซูอันออกไปตามหาจูเซี่ยฉือซิน เขาเป็นส่วนหนึ่งของทูตยุทธ์เสื้อแพร เขามีสิทธิ์ที่จะร้องทุกข์เรื่องที่เฉิงซยงปฏิบัติต่อเขา
ทว่าระหว่างทาง จู่ ๆ เขาก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้น นี่มันผ่านไประยะหนึ่งแล้วที่เขาไม่ได้สุ่มรางวัลจากระบบคีย์บอร์ด…ในวังมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย และอันตรายก็แฝงตัวอยู่ทั่วทุกมุม การมีไพ่ลับเพิ่มอีกสักสองสามอย่างเป็นเรื่องที่ดี
เขาหาสถานที่อันเงียบสงบเพื่อเรียกระบบคีย์บอร์ดออกมา
เขาได้สะสมคะแนนความโกรธแค้นมาแล้ว สองแสนแปดหมื่นห้าพันหนึ่งร้อยสามสิบสองแต้มโดยไม่รู้ตัว
เขาเริ่มสุ่มรางวัลทันที ก่อนหน้านี้ เขาจะทำพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อเอาเคล็ด เช่น ล้างหน้าและสวดมนต์ แต่เขาเริ่มชินชากับกระบวนการสุ่มรางวัล และไม่ต้องการยุ่งยากกับเรื่องไร้สาระเหล่านั้นอีกต่อไป
ขอบคุณที่ร่วมสนุก…ขอบคุณที่ร่วมสนุก…ผลไม้พลังชี่…ขอบคุณที่ร่วมสนุก…
ห้ะ? ยันต์พยัคฆ์หายไปไหน?
ซูอันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาเคยใช้ยันต์พยัคฆ์เพื่อให้ได้ต๋าจี่มาก่อน แม้ว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของต๋าจี่จะอยู่ที่จุดสูงสุดของระดับสี่เท่านั้น แต่เขาก็สามารถใช้ธาตุไฟของนางได้ ซึ่งทำให้เขาสามารถฝึกเคล็ดวิชาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับธาตุไฟ นี่คือประโยชน์สูงสุด
ถ้าเขาได้รับวีรสตรีคนอื่นมาเพิ่ม นั่นจะทำให้เขาสามารถบ่มเพาะธาตุอื่นด้วย
ท่ามกลางความผิดหวัง ดวงตาของซูอันก็สว่างขึ้นในทันใด เขาสังเกตเห็นว่าเครื่องหมายไฟหยุดอยู่เหนือปุ่ม ‘J’ โชคไม่ดีที่เขาใช้การสุ่มเป็นชุด ดังนั้นตัวอักษรจึงผ่านหน้าจอเร็วเกินไปที่เขาจะเห็นว่ามันคืออะไร
เมื่อเขาสุ่มรางวัลเสร็จแล้ว เขาได้รับทักษะใหม่รวมทั้งผลไม้พลังชี่สองร้อยแปดสิบผล
เขารีบเลื่อนกลับไปดูข้อความรางวัลอย่างเร่งรีบเพื่ออ่านคำอธิบายของทักษะใหม่
คีย์บอร์ดจงมา! (คีย์บอร์ดพ้องเสียงกับคำว่าดาบ)
คำอธิบายทักษะ : ในฐานะนักรบคีย์บอร์ด ‘คีย์บอร์ดจงมา!’ เป็นทักษะที่สำคัญที่สุดของท่าน เมื่อใดก็ตามที่ท่านต้องการตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ให้ตะโกนว่า ‘คีย์บอร์ดจงมา!’ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสียงของท่านเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ ให้ผู้คนรู้ว่าวาจาสิทธิ์หมายความว่าอย่างไร?!
เมื่อเปิดใช้งานทักษะ ทุกคำที่ท่านพูดจะกลายเป็นความจริง
หมายเหตุพิเศษ : การใช้ความสามารถนี้ใช้พลังวิญญาณ ดังนั้นโปรดอย่าโอ้อวดมากเกินไป ยิ่งท่านโม้มากเท่าไร ฟันเฟืองก็จะยิ่งทำงานหนักมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะกระทบตัวท่านในครึ่งชั่วยามต่อมา ดวงวิญญาณของท่านจะได้รับผลสะท้อนอย่างรุนแรง
ดวงวิญญาณของท่านจะเสถียรหลังจากถึงระดับปรมาจารย์แล้วเท่านั้น ซึ่งจะทำให้สามารถใช้ทักษะนี้ได้อย่างเสรีมากขึ้น
โปรดจำไว้ว่าหากการโอ้อวดของท่านไร้สาระเกินไป แม้แต่ดวงวิญญาณของปรมาจารย์ก็ไม่สามารถรับมือกับการทำงานหนักของฟันเฟืองได้ ท่านจะพินาศก่อนที่คำพูดของท่านจะมีผลสมบูรณ์
ในฐานะนักเลงคีย์บอร์ด ท่านสามารถทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้หลังหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้อื่น เป็นการดีที่สุดหากท่านระมัดระวัง!
ซูอันมึนงงอย่างสมบูรณ์หลังจากอ่านคำอธิบาย
คีย์บอร์ดจงมา?
วาจาสิทธิ์?
นี่มันทักษะบ้าอะไรเนี่ย?
หรือนี่คือร่างสุดท้ายของนักรบคีย์บอร์ด!
สำหรับข้อจำกัด พวกมันเข้าใจได้ไม่ยากนัก ถ้าเขาอวดว่าเขาได้สร้างโลกนี้ขึ้นมา เป็นไปได้ว่าตัวเขาจะระเบิดตั้งแต่ความคิดนั้นปรากฏขึ้นในหัวแล้ว
ไม่สิ เขาคงไม่ต้องโม้ถึงขนาดนั้น แค่เขาโม้ว่าตัวเองแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิก็น่าจะเพียงพอดับชีวิตน้อย ๆ ของเขาได้…
ว่าแต่ขีดจำกัดของทักษะนี้อยู่ที่ตรงไหน?
มันช่างน่าปวดหัวจริง ๆ เขาอยากจะลองดู แต่กังวลว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายด้วยสาเหตุที่น่าอับอายเกินกว่าจะพูดถึงต่อหน้ายมบาลในยมโลก
ตายจากการโม้มากเกินไป? แค่คิดก็น่าอับอายเหลือเกิน!
เขาตัดสินใจปล่อยทักษะนี้ไว้ก่อนและป้อนผลไม้พลังชี่สองร้อยแปดสิบผลให้กับต๋าจี่
ต๋าจี่อยู่ที่ขั้นสูงสุดของระดับสี่ แต่ผลไม้พลังชี่เหล่านี้นำนางไปสู่ขั้นกลางของระดับห้า นางต้องใช้ผลไม้พลังชี่ทั้งหมดอีกหกร้อยผลเพื่อไปถึงขั้นสูงสุดของระดับห้า
ซูอันรู้สึกอิจฉาอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นว่าต้องใช้ผลไม้เหล่านี้เพียงเล็กน้อยในการพัฒนาระดับของนาง เมื่อก่อนผลไม้พลังชี่เคยเป็นปัจจัยหลักในการข้ามขั้นการบ่มเพาะของเขา แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถพึ่งพาพวกมันเพื่อเพิ่มการบ่มเพาะของเขาได้เลย
เมื่อเสร็จสิ้น เขาก็มุ่งหน้าไปยังสำนักงานทูตยุทธ์เสื้อแพร
ทูตยุทธ์เสื้อแพรมีสำนักงานเฉพาะของตนเองในพระราชวังเรียกว่า ตำหนักถักแพร
เขาแทบสำลักเมื่อเห็นชื่อนี้ครั้งแรก ชื่อนี้ดูเป็นผู้หญิงเกินไปไหม?
ภาพของจูเซี่ยฉือซินกำลังถักโครเชต์ลอยเข้ามาในหัวของเขา เขารีบปัดเป่ามันทิ้งไปในทันที…
ข่าวเรื่องเฉิงซยงทำให้จูเซี่ยฉือซินอยู่ไม่สุขเช่นกัน เขาฟังผู้ใต้บังคับบัญชาร้องเรียนจนสีหน้าเข้มขึ้นเรื่อย ๆ
ทูตยุทธ์เสื้อแพรเป็นผู้ดำเนินการสอบสวนบุคคล แต่ตอนนี้พวกเขากลับกลายเป็นผู้ถูกสอบสวน ทุกคนรู้สึกถูกดูหมิ่นเป็นอย่างมาก
จูเซี่ยฉือซินโบกมือให้ซูอันเมื่อเห็นเขามาถึง “สิบเอ็ด มากับข้า ที่เหลือกลับไปที่เรือนพักของพวกเจ้าก่อน ข้าจะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ด้วยตัวเอง”
ซูอันตามเขาขึ้นไปชั้นบน
จูเซี่ยฉือซินค่อย ๆ นั่งลงบนเก้าอี้และโบกมือให้ซูอันนั่งด้วยเช่นกัน “มีเรื่องขัดแย้งระหว่างเจ้ากับเฉิงซยงใช่หรือไม่?” เขาถาม
ซูอันส่ายหัว “ข้าเพิ่งพบเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน มันจะมีได้อย่างไร?”
“แล้วทำไมเขาถึงมุ่งเป้าไปที่เจ้า” จูเซี่ยฉือซินสับสน เขาเป็นนักสืบมือฉกาจจึงรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าซูอันเป็นเป้าหมายของเฉิงซยง
ซูอันแสร้งทำเป็นลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ข้าสงสัยว่าเขาเดาประเด็นของการสอบสวนของข้าได้และชิงลงมือก่อน”
จูเซี่ยฉือซินมองซูอันอย่างสงบ สีหน้าของเขาอ่านไม่ออก “เจ้ากำลังจะบอกว่าเขาเป็นคนที่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการไม่อยู่ของฝ่าบาทเหรอ?”
ซูอันส่ายหัว “ข้าไม่มีหลักฐาน แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว”
จูเซี่ยฉือซินส่ายหัว “ไม่ มีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง ความสงสัยของเฉิงซยงนั้นไม่ผิด แต่เจ้าเองก็สมรู้ร่วมคิดกับพวกนักฆ่า”
ทันทีที่พูดจบ จูเซี่ยฉือซินมองซูอันด้วยสายตาคมกริบและปล่อยอำนาจกดดันปกคลุมร่างกายของซูอันทันที
………………………………………………………..