เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 954 การแล่นเรือในทะเลมรสุม
บทที่ 954 การแล่นเรือในทะเลมรสุม
ขณะนี้ซูอันรู้สึกเหมือนจะอาเจียน ความรู้สึกคล้ายกับอาการคลื่นไส้ที่เกิดจากการเล่นเกมสามมิตินานเกินไป
ซูอันตระหนักในทันทีว่านี่เป็นผลสะท้อนกลับของการใช้ทักษะ ‘คีย์บอร์ดจงมา!’ เนื่องจากมันใช้พลังวิญญาณของเขาจนหมด มันจึงเทียบเท่ากับการเกิดบาดแผลที่ดวงวิญญาณของเขา
ลมหายใจเริ่มขาดห้วงมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่ต้องการให้ใครสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นจึงรีบกลับไปที่เรือนพักของตัวเอง
มือของเขาสั่นเมื่อปลดผนึกประตู คลื่นของอาการวิงเวียนศีรษะทำให้เขาทรุดตัวลง
ใบหน้าที่หล่อเหลาของข้าจะถลอกไหมถ้าข้าล้มลง? ข้าต้องพึ่งพาใบหน้านี้เพื่อหาเลี้ยงชีพ…
หืม? นี่คืออะไร? ใหญ่มาก…นุ่มมาก…
เขารู้สึกราวกับตกอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น กลิ่นหอมหวานรายล้อมรอบตัว เขาได้ยินเสียงร้องเตือนแล้วก็จำอะไรไม่ได้อีก
…
อวิ้นเจียนเยว่กำลังผ่อนคลายอยู่ในห้องเมื่อนางได้ยินเสียงด้านนอก ซูอันกลับมาแล้ว!
นางไม่ใส่ใจที่จะเดินออกไปต้อนรับ เหตุใดเจ้าสำนักผู้สง่างามของสำนักศักดิ์สิทธิ์จึงต้องคอยทักทายชายที่กลับบ้านราวกับภรรยาที่รอสามีด้วยเล่า?
อย่างไรก็ตาม นางได้ยินความไม่มั่นคงในฝีเท้าของซูอันและขมวดคิ้ว ดูเหมือนเขาจะได้รับบาดเจ็บ
ทำไมเขาถึงได้รับบาดเจ็บ แถมยังบาดเจ็บมากจนการเดินของเขาไม่มั่นคง?
สีหน้าของนางกลายเป็นเรื่องจริงจัง ในระดับการบ่มเพาะของซูอันแม้ว่าระดับจะไม่สูง แต่เขามีความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ แม้ว่านางจะได้รับบาดเจ็บในตอนนั้น ซึ่งทำให้ไม่สามารถประเมินความแข็งแกร่งของนางด้วยวิธีการทั่วไป แต่นางก็เกือบถูกเขาฆ่าตายไปแล้ว
มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำร้ายเขาได้
จูเซี่ยฉือซินทำอะไรกับเขาหรือไม่?
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นในใจ นางก็ไม่สามารถนั่งเฉย ๆ ได้อีกต่อไป จึงรีบวิ่งออกไปต้อนรับเขา ท้ายที่สุดความปลอดภัยของนางผูกติดอยู่กับซูอัน
ทว่าเมื่ออวิ้นเจียนเยว่เปิดประตู ซูอันก็เซล้มเข้าใส่ในอ้อมแขนของนาง ใบหน้าของเขาซุกอยู่ที่หว่างหน้าอกอันอ่อนนุ่มของนาง!
อวิ้นเจียนเยว่ตกตะลึง
นางกังวลมากจนเปิดประตูค่อนข้างเร็ว นี่คือสิ่งสุดท้ายที่นางคาดว่าจะเกิดขึ้น
เมื่อเห็นศีรษะของซูอันฝังอยู่กลางอก เจตนาฆ่าก็วูบวาบในดวงตาของนาง
นางกำลังจะปลิดชีวิตเขาด้วยปลายนิ้วมือ แต่ทันใดนั้นนางก็ต้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
จากการบ่มเพาะของนาง นางสามารถบอกได้ทันทีว่าดวงวิญญาณของซูอันเสียหาย
หืม? จักรพรรดิเป็นคนทำหรือเปล่า?
ไม่สิ…มันไม่สมเหตุสมผลเลย…ถ้าจักรพรรดิโจมตีเขา ซูอันจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?
อวิ้นเจียนเยว่ผลักซูอันออกจากทรวงอกและตรวจสอบสภาพของเขาอย่างระมัดระวัง แววตาของนางหวั่นไหวราวกับเกิดความขัดแย้งในใจอย่างรุนแรง
…
เมื่อซูอันลืมตา เขาสังเกตเห็นว่าตัวเองนั่งอยู่บนเตียง อวิ้นเจียนเยว่นั่งตรงข้ามเขา ผมยาวสวยเงางามทิ้งตัวลงมาราวกับม่านน้ำตก
สิ่งที่ทำให้ซูอันตกใจมากกว่านั้นคือเขาและนางจับมือกัน เขารู้สึกได้ชัดเจนว่ามือของนางนุ่มแค่ไหน
“หยุดคิดฟุ้งซ่านและตั้งสมาธิดูดซับพลังของตัวยา!” เสียงของอวิ้นเจียนเยว่เย็นชา นางสัมผัสได้ทันทีว่าเขาฟื้นคืนสติ
ซูอันรู้สึกราวกับถูกห่อหุ้มด้วยคลื่นพลังของตัวยา เขามองเห็นสมุนไพรห้ารากลอยอยู่ระหว่างพวกเขา มันกำลังหมุนวน คงเป็นเพราะพลังของอวิ้นเจียนเยว่ คลื่นพลังแห่งการรักษาของมันค่อย ๆ ลอยเข้าทางจมูกของเขา
อวิ้นเจียนเยว่ถอนมือของนางออกไป “เมื่อครู่เจ้าหมดสติ เจ้าจึงไม่สามารถโคจรพลังชี่ได้ด้วยตัวเอง ข้าจึงต้องช่วยเหลือเจ้า แต่ในเมื่อตอนนี้เจ้าตื่นแล้ว เจ้าก็ช่วยตัวเองเถอะ”
“ช่วยตัวเองเหรอ?” ซูอันมีสีหน้าแปลก ๆ…ข้าชอบมากเลยเวลาช่วยตัวเอง…แต่เมื่อเขาเห็นท่าทางเย็นชาของนาง เขารู้ว่านางไม่ได้หมายถึงสิ่งที่เขาคิด!
จากนั้นซูอันจึงเริ่มต้นโคจรพลังชี่ภายในเพื่อรักษาอาการบาดที่ดวงวิญญาณของเขาเอง
เฮ้อ…ผลข้างเคียงของ ‘คีย์บอร์ดจงมา!’ รุนแรงจริง ๆ ข้าไม่ได้เสกอะไรที่สำคัญเลย แต่ดวงวิญญาณของข้าเกือบจะระเบิด!
ข้าต้องรอจนถึงระดับปรมาจารย์จริง ๆ หรือเปล่าจึงจะสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องมีปัญหามากขนาดนี้?
“พี่สาวเจ้าสำนัก ท่านทำให้ดวงวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไร?” เขาถาม
“ดวงวิญญาณ?” อวิ้นเจียนเยว่เย้ย “ค่อยมาถามข้าหลังจากที่เจ้าไปถึงระดับปรมาจารย์แล้ว”
ซูอันไม่ยอมแพ้ “เช่นนั้นก็หมายความว่ามีเพียงผู้บ่มเพาะระดับปรมาจารย์ขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถพัฒนาดวงวิญญาณให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นได้เท่านั้นใช่ไหม?”
“ถูกต้อง” อวิ้นเจียนเยว่กล่าวตามความเป็นจริง “ระดับหนึ่งถึงเก้ามีไว้สำหรับเสริมสร้างร่างกาย เมื่อร่างกายแข็งแกร่งเพียงพอเท่านั้นจึงจะสามารถส่งเสริมให้ดวงวิญญาณแข็งแกร่งมากขึ้นได้ การบ่มเพาะก็เหมือนการแล่นเรือในทะเลมรสุม ร่างกายยิ่งแข็งแกร่ง เรือยิ่งนิ่ง พายุพัดพาย่อมไม่แตกสลาย เมื่อดวงวิญญาณได้รับการเสริมกำลังแล้ว เรือจะมีหางเสือและใบเรือ ช่วยให้เจ้าท่องทะเลได้เร็วยิ่งขึ้น…”
ซูอันไม่เข้าใจสิ่งที่นางพูดสักเท่าไร แต่มันฟังดูดีมาก “มีใครเคยข้ามทะเลมรสุมนี้มาแล้วบ้าง?” เขาถาม
ลมหายใจของอวิ้นเจียนเยว่ติดอยู่ในลำคอ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังพูดอะไร?
“ไม่ มันมีเพียงคนที่แล่นเรือไปได้ไกลกว่าคนอื่น ๆ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
“โอ้” ซูอันตอบ เขาคิดได้คร่าว ๆ ว่านางหมายถึงอะไร ดูเหมือนเป็นการดีที่สุดที่จะไม่คิดถึงการขัดเกลาดวงวิญญาณในระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันของเขา
ครู่ต่อมาซูอันก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องพูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจ “อ้อ อีกอย่าง ข้าจำได้ว่าได้ซุกอะไรนุ่ม ๆ หอม ๆ ก่อนหน้านี้”
เปลือกตาของอวิ้นเจียนเยว่กระตุก “เจ้าจำผิด” นางพูดอย่างเย็นชา
—
ท่านยั่วยุอวิ้นเจียนเยว่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +444…444…444…
—
ซูอันตื่นตระหนกเมื่อเขาเห็นคะแนนความโกรธแค้น หรือว่ามันคือ…?
เขาสังเกตเห็นสีหน้าของนาง และคิดว่าเป็นการดีที่สุดถ้าเขาไม่ซักถามเรื่องนี้อีกต่อไป
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็รู้สึกว่าคลื่นพลังของตัวยาหายไป เมื่อเขาลืมตาขึ้น จึงเห็นว่าอวิ้นเจียนเยว่กำลังเก็บสมุนไพรห้ารากไว้
“เดี๋ยวก่อน ข้าเป็นคนเอามันมาให้ท่าน! ทำไมท่านถึงขี้เหนียวกับข้า?” เขาคร่ำครวญ
………………………………………………………..