เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 955 เข้าเฝ้าอีกรอบ
บทที่ 955 เข้าเฝ้าอีกรอบ
อวิ้นเจียนเยว่ขมวดคิ้ว “เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลย! แม้ว่าสมุนไพรนี้จะดีต่อดวงวิญญาณ แต่หากใช้มากไปก็ไม่ดีเช่นกัน เมื่อเจ้าใช้มากเกินไป มันจะกลายเป็นทำลายดวงวิญญาณของเจ้า แม้แต่ตัวข้าเองที่มีระดับการบ่มเพาะสูงก็ยังไม่กล้าที่จะใช้มันมากเกินไปในครั้งเดียว แต่ถ้าเจ้าอยากตายก็เอาเลย ข้าจะให้เจ้าใช้มันต่อ!”
—
ท่านยั่วยุอวิ้นเจียนเยว่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +233…233…233…
—
ซูอันหัวเราะแห้ง ๆ “ข้าเข้าใจท่านผิดไปพี่สาวเจ้าสำนัก…เอาเป็นว่าข้าจะนวดไหล่ให้ท่านเพื่อเป็นการขอโทษดีไหม?”
บางสิ่งกระตุ้นความอยากรู้ของเขา เขาจำได้ว่าคะแนนความโกรธแค้นที่เขาได้รับในเมืองจันทร์กระจ่างนั้นส่วนใหญ่เป็นคะแนนเดี่ยว แต่ตอนนี้เขามักจะได้รับคะแนนเป็นชุด ดูเหมือนว่ายิ่งคนแข็งแกร่งเท่าไร ก็ยิ่งให้คะแนนความโกรธแค้นมากขึ้นเท่านั้น…
อวิ้นเจียนเยว่หลบเลี่ยงมือที่เอื้อมมาจับของเขา “นวดไหล่อะไร? คิดว่าข้าไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของเจ้าเหรอ?”
ซูอันหัวเราะอย่างเชื่องช้า “อย่างน้อยความเคารพนับถือของข้าที่มีต่อท่านนั้นเป็นเรื่องจริงก็แล้วกันพี่สาวเจ้าสำนัก”
อวิ้นเจียนเยว่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่เจ้าไปหาจูเซี่ยฉือซิน?” นางถาม “เหตุใดดวงวิญญาณของเจ้าจึงได้รับบาดเจ็บ?”
ซูอันเริ่มจริงจัง “จูเซี่ยฉือซินสงสัยข้าเหมือนกัน…”
เขาเล่าอย่างคร่าว ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
อวิ้นเจียนเยว่พยักหน้า “จูเซี่ยฉือซินเป็นจิ้งจอกเฒ่า มันคงแปลกถ้าเขาไม่สงสัย แล้วเจ้าหลอกเขาได้อย่างไร?”
ซูอันพยายามอธิบายโดยไม่ลงรายละเอียด “ข้าได้เครื่องแบบอีกชุดจากทูตยุทธ์เสื้อแพรอีกคน…”
เขาจะบอกนางเกี่ยวกับทักษะ ‘คีย์บอร์ดจงมา!’ ได้อย่างไร? นางไม่ได้เป็นผู้หญิงในฮาเร็มของเขาด้วยซ้ำ
อวิ้นเจียนเยว่ขมวดคิ้ว นางไม่เชื่อถือคำอธิบายของเขา “เจ้าใส่ชุดทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง เจ้าจะไปเอาชุดทูตยุทธ์เสื้อแพรทองจากคนอื่นมาได้อย่างไร? แล้วเจ้ายังไม่ได้อธิบายให้ข้าฟังเลยว่าทำไมดวงวิญญาณของเจ้าถึงได้รับบาดเจ็บ?”
ขณะที่ซูอันพยายามหาทางอธิบายเรื่องต่าง ๆ สีหน้าของอวิ้นเจียนเยว่เปลี่ยนไปเล็กน้อย “มีคนมาที่นี่!”
นางย้ายไปอยู่หลังม่านในพริบตา
เสียงเคาะประตูดังขึ้น “ท่านสิบเอ็ด อยู่หรือเปล่า?”
ซูอันสวมหน้ากากอีกครั้ง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เขาจึงเดินออกไป ขันทีอ้วนท้วนยืนอยู่ข้างนอกและทักทายเขาอย่างรวดเร็วด้วยการประสานมืออย่างขึงขัง “ขันทีเหวิน”
“ข้าเอง” ขันทีเหวินยิ้มแย้มแจ่มใส ทูตยุทธ์เสื้อแพรทองคนใหม่นี้ค่อนข้างน่าพอใจ เขาสุภาพจริง ๆ “ฝ่าบาททรงเรียกท่านเข้าเฝ้าที่ห้องหนังสือส่วนพระองค์”
ซูอันตื่นตระหนก เขาต้องการผลการสอบสวนหรือไม่? ผ่านไปแค่วันเดียวหรือประมาณนั้นเองนะ ข้าจะไปหาข้อมูลมาได้อย่างไร?
แน่นอนว่าซูอันไม่ได้พูดสิ่งที่คิด “ไม่เป็นไร ให้ข้าหยิบตราคำสั่งของข้าก่อน”
ขันทีเหวินพยักหน้า ตราบใดที่ซูอันไม่ได้วิ่งหนี เขาสามารถรอได้
ซูอันแสร้งทำเป็นมองหาตราคำสั่งในขณะที่เขาพูดกับอวิ้นเจียนเยว่
“ข้าได้ยินทุกอย่างแล้ว” อวิ้นเจียนเยว่หยุดชั่วครู่แล้วกล่าวเสริมว่า “ระวังตัวด้วย”
คิ้วของซูอันเลิกขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาของเขาสว่างขึ้น ดูเหมือนว่าข้าไม่ได้เข้าข้างนางโดยเปล่าประโยชน์ ตอนนี้นางเริ่มแสดงความห่วงใยต่อข้าบ้างแล้ว
หลังจากปิดประตูแล้ว เขาเดินตามขันทีเหวินไปยังห้องหนังสือส่วนพระองค์ ซูอันหยิบสร้อยข้อมือหยกซึ่งเป็นสิ่งที่องค์หญิงรัชทายาทมอบให้เขาก่อนหน้านี้ออกมายื่นให้ขันทีเหวิน
“ข้าสงสัยว่าองค์จักรพรรดิทรงต้องการอะไรในเวลานี้?”
ขันทีเหวินถอนหายใจ “ท่านสิบเอ็ดกำลังสนับสนุนให้ข้าทำผิด”
ถึงอย่างนั้นสร้อยข้อมือก็ยังหายเข้าไปในแขนเสื้อของขันเหวิน “เราจะบอกท่านได้อย่างไรว่าพระองค์ประสงค์จะพบท่านเรื่องอะไร? อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิทรงมีพระอารมณ์ค่อนข้างแย่ในวันนี้ โอ้ แม่ทัพกองทหารฝ่ายซ้ายดูเหมือนจะอยู่ในห้องหนังสือส่วนพระองค์ด้วย”
เขาเป็นขันทีส่วนพระองค์ของจักรพรรดิ ข่าวลือในวังจะรอดพ้นจากหูของเขาได้อย่างไร?
ความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างเฉิงซยงและซูอัน และเหตุการณ์ที่องค์หญิงรัชทายาทปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือชายผู้นี้ เขาก็พอรู้เรื่องอยู่บ้าง
เขายอมรับของขวัญของซูอันไม่ใช่เพียงเพราะคำนึงถึงมารยาทเท่านั้นเพราะเฉิงซยงเป็นที่รู้จักในกลุ่มของราชันลมปราณ เขาจึงบอกข้อมูลให้ซูอันเพื่อแสดงความสุจริตใจ
“ขอบคุณ ขันทีเหวิน” ซูอันตื่นตระหนกเล็กน้อย
บ้าจริง! เฉิงซยงอีกแล้ว ข้ายังกำจัดไอ้เวรนั่นไม่ได้! คราวนี้มันหาเรื่องอะไรมาให้ข้าอีกล่ะ?
เขาถึงกับสงสัยด้วยซ้ำว่าคราวนี้เขาจะรอดตัวอีกหรือไม่ ฮึ่ม! ข้าจะฝากความหวังไว้ที่ทักษะ ‘คีย์บอร์ดจงมา!’
เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ ความตื่นตระหนกของเขาก็ค่อย ๆ ลดลง
ในไม่ช้าทั้งสองก็มาถึงห้องหนังสือส่วนพระองค์ ขันทีเหวินโค้งคำนับที่ทางเข้า “ฝ่าบาท ท่านสิบเอ็ดมาแล้ว”
“ให้เขาเข้ามา” เสียงที่เปี่ยมล้นไปด้วยอำนาจดังมาจากข้างใน
ขันทีเหวินเดินไปด้านข้างและโบกมือให้ซูอันเข้าไป
ซูอันพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แต่เขาตื่นตระหนกอยู่ในใจ จักรพรรดิกลับมาแล้วหรือ? นี่หมายความว่าพี่สาวเจ้าสำนักกำลังตกอยู่ในอันตราย!
ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีเมื่อเขาเห็นกระจกขนาดยักษ์บนบัลลังก์มังกรอยู่ด้านใน โชคดีที่จักรพรรดิยังไม่กลับมา ที่อยู่ต่อหน้าตรงนี้ยังเป็นแค่ภาพที่สร้างจากเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์…
ทำไมมันดูแปลก ๆ? ดูเหมือนรูปคนตาย เขาไม่กลัวว่ามันจะเป็นลางร้ายเหรอ?
มีอีกคนอยู่ในห้องซึ่งก็คือเฉิงซยงที่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยความเคารพ เขามองซูอันด้วยแววตาเยาะเย้ยราวกับมองเห็นจุดจบอันน่าสังเวชที่รออยู่
ซูอันไม่สนใจเขา และทำความเคารพจักรพรรดิ “คารวะฝ่าบาท!”
ชายในชุดคลุมมังกรในกระจกลืมตาขึ้น เขาถามตรงไปตรงมาโดยไม่มีคำนำใด ๆ “แม่ทัพกองทหารฝ่ายซ้ายอ้างว่าเจ้าสมรู้ร่วมคิดกับพวกนักฆ่า เป็นความจริงหรือไม่?”
ซูอันคิดไว้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ตื่นตระหนก “ฝ่าบาท กระหม่อมผู้ต่ำต้อยจะสมรู้ร่วมคิดกับนักฆ่าได้อย่างไรกันล่ะพะย่ะค่ะ? แม่ทัพเฉิงกำลังใส่ร้ายกระหม่อม”
“ใส่ร้าย?” เฉิงซยงเยาะเย้ย “เจ้าไม่ได้ไปหายารักษาดวงวิญญาณจากโรงแพทย์หลวงเมื่อไม่นานนี้หรอกเหรอ?”