เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 961 อย่าแตะต้องข้า!
บทที่ 961 อย่าแตะต้องข้า!
เล้งส่วงเยว่คำนับทั้งสอง “ท่านหญิง นายน้อย ข้าต้องออกไปข้างนอกแล้ว”
ชิวฮัวเล่ยโบกมือให้นาง “ไปเถอะ ดูแลพวกเขาให้ดี”
เล้งส่วงเยว่รับคำแล้วจากไป
ชิวฮัวเล่ยยิ้ม “ดูสิว่าดวงตาของเจ้าจับจ้องไปที่นางอย่างไร ถ้าเจ้าต้องการนาง ข้าก็พร้อมจะมอบนางให้ ข้าจริงจังนะ”
ซูอันหน้าแดง “เจ้าหมายถึงอะไร? ข้าแค่กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ต่างหาก!”
ชิวฮัวเล่ยหันกลับมาและนั่งบนตักของเขา คล้องมือรอบคอซูอัน “ ข้าไม่สามารถปรนนิบัติเจ้าได้ มันจะไม่ดีเหรอถ้าข้าให้ส่วงเยว่ดูแลเจ้าแทน”
หลังจากสิ่งที่พวกเขาทำในบ้านพักก่อนหน้านี้ กำแพงชั้นสุดท้ายระหว่างพวกเขาได้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ นางเปิดใจกับคนรักของนางอย่างเต็มที่ ขณะที่นางนั่งบนตักของเขาอย่างใกล้ชิด
ซูอันตัวแข็งค้างรู้สึกถึงแรงกระตุ้นเมื่อสัมผัสถึงความอ่อนนุ่มของก้นนาง ชิวฮัวเล่ยหน้าแดงมองเขาด้วยดวงตาที่แวววาวเล็กน้อย “ซุกซนนักนะ”
ซูอันกลืนน้ำลาย “เจ้าไม่ควรเล่นกับไฟ เจ้ารู้ว่าเจ้าไม่สามารถให้ตัวเองกับข้าได้ แต่เจ้ายังคงทำอะไรแบบนี้…”
ชิวฮัวเล่ยหัวเราะคิกคัก “ต่อให้ไฟไหม้ขึ้นมาจะเป็นไรไป? ลืมไปหรือเปล่าว่าที่นี่คือหอคณิกาหลวง? เราสามารถหาผู้หญิงมาช่วยดับไฟของเจ้าได้เสมอ”
นางมารคนนี้!
ซูอันโอดรวญ เขายังคงจำได้ว่าทำไมเขาถึงมาที่นี่และรวบรวมพลังใจเพื่อผลักนางออกไป “ให้ข้าดูก่อนว่าเฉิงกังคนนี้เป็นคนแบบไหน?”
“เจ้าอดทนได้จริงเหรอ?” ชิวฮัวเล่ยแซวเขา แม้ว่าหัวใจของนางกำลังเต้นแรง ถ้าซูอันกำลังเล่นกับไฟ แล้วนางล่ะ?
ซูอันสามารถหาผู้หญิงคนอื่นมาปลดปล่อยได้ แต่นางจะทำอะไรได้บ้าง?
นางแลบลิ้นใส่เขา ขณะที่เตือนตัวเองอย่างหนักแน่นว่าจะไม่ทำพฤติกรรมเช่นนี้อีกในอนาคต
ซูอันเดินไปที่หน้าต่างและแง้มออกเล็กน้อยเพื่อมองดูสถานการณ์ด้านล่าง
เขาเห็นชายหนุ่มร่างใหญ่ที่มีคอหนาเดินนำหน้า สวมเสื้อกั๊กสีน้ำเงินที่ได้รับความนิยมในหมู่ชายหนุ่มของเมืองหลวง ประดับกายราวกับต้องการที่จะดูทรงภูมิและประณีต แต่กลับไม่เหมาะกับรูปร่างเทอะทะของตัวเอง
ชิวฮัวเล่ยแนะนำอยู่ข้างซูอัน น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความรังเกียจ “นั่นคือเฉิงกัง หุ่นหนาเหมือนหมีควาย แต่อยากจะดูเหมือนบัณฑิต”
สีหน้าของซูอันค่อนข้างแปลก ปกติผู้หญิงมักจะชอบผู้ชายกล้ามโต แต่ถ้าหน้าตาขี้เหร่ทุกอย่างจะกลายเป็นเลวร้ายในทันที
ที่จริงมีคำศัพท์ผู้หญิงบนอินเทอร์เน็ตชอบเรียกผู้ชายประเภทนี้ว่า ‘ผู้ชายกุ้ง’ เจ้าสามารถกินมันได้หลังจากตัดหัวแล้วเท่านั้น
ชิวฮัวเล่ยดูประหลาดใจกับผู้ติดตามของเฉิงกัง “หืม? ดูเหมือนว่านายน้อยของตระกูลฉินจะอยู่กับเขาด้วย คนข้างหลังที่มีคิ้วหนาและตาโตคือหลานชายของผู้บัญชาการทัพด่านหน้า…ฉินกวงหยวน คนที่ดูอ่อนเยาว์กว่าคือหลานชายของแม่ทัพใหญ่รักษามาตุภูมิ…ฉินหย่งเต๋อ”
ผู้บัญชาการทัพด่านหน้าคือฉินเจิ้ง ในขณะที่แม่ทัพใหญ่รักษามาตุภูมิคือฉินเสอ ทั้งคู่เป็นตาของฉู่ชูเหยียน
ซูอันยอมรับในใจว่าตระกูลฉินมีกรรมพันธุ์ที่ดี ชายหนุ่มตระกูลฉินทั้งคู่ดูมีสง่าราศี ส่วนเฉิงกังดูเหมือนเป็นแค่คนรับใช้ของพวกเขาทั้งสอง
“หืม? มีคนที่เจ้ารู้จักด้วยเหรอ” ชิวฮัวเล่ยมีสีหน้าแปลก ๆ นางสะกิดซูอันด้วยข้อศอก “น้องภรรยาตัวน้อยของเจ้าก็อยู่ที่นี่เช่นกัน ข้าควรให้สาว ๆ ดูแลเขาอย่างดีไหม?”
ซูอันมองเห็นร่างเล็กที่ด้านหลัง และดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง เด็กคนนี้รูปงามจริง ๆ ฉินหย่งเต๋อค่อนข้างหล่ออยู่แล้ว แต่เขาก็ยังห่างไกลจากนางในแง่ของรูปลักษณ์
เดี๋ยวนะทำไมไอ้เจ้าเด็กนี่ถึงมาที่นี่? ซูอันเริ่มปวดหัว เจ้าลืมไปหรือเปล่าว่าเจ้าเป็นคนแต่งตัวข้ามเพศ? มาที่นี่เจ้ามารนหาที่ตายแท้ ๆ!
เมื่อซูอันได้ยินคำพูดล้อเลียนของฮัวเล่ยเขาก็ตอบอย่างรวดเร็วว่า “ไม่จำเป็น แค่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนอย่างที่เจ้าทำตามปกติ พวกเขาจะได้ไม่พบว่ามีอะไรน่าสงสัย”
“นายน้อยฉิน นายน้อยฉู่ เชิญทางนี้!” เสียงแหบพร่าของเฉิงกังดังก้อง เขาทำเสียงราวกับเป็นเจ้าบ้านที่เชิญแขกเข้ามาอย่างกระตือรือร้น
ส่วงเยว่ต้อนรับแขกอย่างชำนาญเช่นกัน นางกำลังจะพาพวกเขาเข้าไปข้างใน แต่ฉินกวงหยวนที่มีคิ้วหนาหยุดนางไว้ “เรานั่งที่ลานด้านนอกกันเถอะ”
ส่วงเยว่ตกตะลึงชั่วขณะ แต่นางก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว “ผู้น้อยรับทราบ” จากนั้นนางสั่งให้สาวใช้นำเครื่องดื่มและของว่างออกไปด้านนอก
“ข้าคิดว่าพวกเขากำลังจะคุยเรื่องลับ ๆ กัน และกลัวว่าคนนอกจะแอบฟังได้” ชิวฮัวเล่ยให้ความเห็น “นี่เป็นเหตุผลที่พวกเขาเลือกพื้นที่เปิดโล่ง”
ซูอันพยักหน้า ความคิดของนางเหมือนกันกับเขา
เฉิงกังหัวเราะและกล่าวว่า “ส่วงเยว่ แขกที่ข้าพามาในวันนี้ทุกคนล้วนเป็นคนสำคัญ ทว่าดาวเด่นของคืนนี้คือนายน้อยฉู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาเยือนหอคณิกา เจ้าต้องดูแลเขาให้ดี”
ฉู่โหยวเจาหน้าแดง “ม…ไม่เป็นไร ข้าอยู่คนเดียวได้”
ฉินหย่งเต๋อผู้หล่อเหลาหัวเราะและตบไหล่ของนาง “โหยวเจายังขี้อายเหมือนเดิม แต่ว่าเราทุกคนเป็นผู้ชาย ต่อไปมาบ่อย ๆ เข้าเจ้าจะชินเอง แม่นางส่วงเยว่คนงามเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับประสบการณ์ครั้งแรกของเจ้า”
ฉู่โหยวเจาหลบเลี่ยงการสัมผัสของเขาอย่างมีไหวพริบ แต่นางรู้สึกค่อนข้างหงุดหงิดในใจ ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ข้าจะไม่มากับพวกเขา! เฮ้อ มันเหนื่อยมากที่ต้องแกล้งทำเป็นผู้ชาย…ไหนจะต้องระวังโน่นนี่อีก
ส่วงเยว่ยิ้ม “นายน้อยฉู่ช่างหล่อเหล่าสมคำร่ำลือจริง ๆ”
ฉู่โหยวเจาเป็นน้องภรรยาของซูอัน ส่วงเยว่จึงคิดว่าเป็นการดีที่จะปฏิบัติต่อเขาอย่างดี
คนอื่น ๆ ใช้คำพูดของส่วงเยว่แซวฉู่โหยวเจาเสริม “แม้แต่ส่วงเยว่ก็ยังถูกน้องโหยวเจาดึงดูด! ฮ่า ๆ!”
ฉินหย่งเต๋อก็ยิ้มเช่นกัน “แม้แต่คุณหนูใหญ่ตระกูลมู่หรงก็ยังหลงเสน่ห์เขา หอคณิกาจะต้านทานเสน่ห์ของเขาได้อย่างไร?”
ฉินกวงหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย “พี่รอง ระวังคำพูดด้วย”
ฉินหย่งเต๋อค่อยรู้ตัวว่าการเปรียบเทียบคุณหนูใหญ่ของตระกูลมู่หรงกับคณิกานั้นไม่เหมาะสม “ข้านี่แย่จริง ๆ ข้าจะดื่มสามถ้วยเพื่อเป็นการไถ่โทษ”
ในไม่ช้าพวกเขาก็ดื่มกันอย่างสนุกสนาน แต่ละคนมีสาวน้อยสองคนเพื่อเป็นเพื่อนดื่ม ในขณะที่ฉู่โหยวเจามีส่วงเยว่อยู่ข้าง ๆ
ขณะที่มองดูพี่น้องตระกูลฉินและเฉิงกังที่กำลังสุขสำราญกับสาวงาม ซูอันรู้สึกราวกับหวนคืนสู่ฉากเที่ยวไนต์คลับในโลกที่แล้วของเขา
เอ่อ…อันที่จริงเขาหมกมุ่นอยู่แต่กับหน้าคอมพิวเตอร์ แน่นอนเขาไม่เคยไปสถานที่อย่างไนต์คลับมาก่อน เขาแค่เคยเห็นรูปหรือคำอธิบายตามเว็บไซต์เท่านั้น….
ในขณะที่คนเหล่านี้รื่นเริงเหมือนปลาได้น้ำ ฉู่โหยวเจากระสับกระส่ายไปมาอย่างต่อเนื่องและเฝ้าดูคณิกาที่น่ารักด้านข้างนางอย่างระมัดระวัง “อย่ามาแตะต้องตัวข้า!”
ส่วงเยว่หัวเราะคิกคัก “ทำไมท่านต้องกลัวข้าล่ะนายน้อยฉู่? ข้าไม่กินท่านหรอกน่า”