เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 970 ผลประโยชน์ร่วม
บทที่ 970 ผลประโยชน์ร่วม
ซูอันออกจากที่พักด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เขาไม่ได้ตามหาองค์หญิงรัชทายาทในฐานะทูตยุทธ์เสื้อแพรทองหมายเลขสิบเอ็ดตามที่อวิ้นเจียนเยว่แนะนำ แต่เปลี่ยนเป็นชุดราชเลขาของรัชทายาทแทน
เมื่อเขามาถึงพระราชวังตะวันออก เฉาโฮ่ว อาจารย์ของรัชทายาทยังได้รับบาดเจ็บ และไม่สามารถสอนบทเรียนได้ รัชทายาทตัวอ้วนใหญ่กำลังเล่นกับเหล่าขันทีน้อยอย่างมีความสุข
หลังจากเฝ้าดูพวกเขาอยู่พักหนึ่ง ซูอันก็ตัดสินใจตามหาองค์หญิงรัชทายาท
เขาประกาศตัวเองและเดินเข้าไป เขาเห็นองค์หญิงรัชทายาทจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างว่างเปล่า
ซูอันถอนหายใจ มันคงเหนื่อยสำหรับนางที่ต้องมีสามีแบบนี้
เขากระแอมเบา ๆ เพื่อประกาศการมาถึงของตัวเอง องค์หญิงรัชทายาทหายเหม่อและฟื้นคืนสู่รูปลักษณ์ที่สง่างามตามปกติของนาง “มีอะไร?”
ซูอันมองดูนางกำนัลและขันทีที่อยู่รอบ ๆ อย่างรู้สึกกังวล “กระหม่อมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับองค์หญิงรัชทายาทเพียงลำพังพะย่ะค่ะ”
องค์หญิงรัชทายาทขมวดคิ้ว นางเปิดประตูทิ้งไว้อยู่เสมอ ภายใต้กฎของวัง ไม่มีทางที่องค์หญิงรัชทายาทจะพูดคุยกับชายอื่นเพียงลำพังได้
“กระหม่อมมีเรื่องสำคัญจะพูดกับองค์หญิงรัชทายาท…” ซูอันก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว เรื่องนี้สำคัญเกินกว่าจะให้ใครได้ยิน
องค์หญิงรัชทายาทเริ่มไม่พอใจ “เจ้ามีอะไร? พูด!”
ผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างระวังตัว
ซูอันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพูด “องค์หญิงรัชทายาทรู้เรื่องความโกลาหลที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับเฉิงซยงหรือไม่พะย่ะค่ะ?”
องค์หญิงรัชทายาทมองเขา “ถ้าเจ้าเรียกมันว่าความโกลาหล ข้าจะไม่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”
ซูอันฉวยโอกาสถาม “องค์หญิงรัชทายาทเชื่อหรือไม่พะย่ะค่ะว่าเฉิงซยงจะถูกลงโทษ?”
องค์หญิงรัชทายาทให้ความสนใจเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ท้ายที่สุด มันมีผลกระทบต่อการต่อสู้ระหว่างฝ่ายรัชทายาทและราชันลมปราณ นางเงียบไปครู่หนึ่งแล้วส่ายหัวเล็กน้อย “แม้ว่าทูตยุทธ์เสื้อแพรและผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์จะถือว่าเขามีความผิด แต่เสนาบดียุติธรรมก็ยังเชื่อมั่นว่าเขาถูกใส่ร้าย มีหลักฐานไม่เพียงพอ อย่างมากที่สุดคงสามารถตัดสินเฉิงกังว่ามีความผิด แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำลายรากฐานอำนาจของเขาได้”
ฝ่ายของราชันลมปราณนั้นทรงพลังอย่างมาก ย่อมจะไม่ปล่อยให้เฉิงซยงซึ่งเป็นหนึ่งในพรรคพวกของเขาถูกกล่าวหาอย่างไร้หลักฐานที่เพียงพอ
แม้ว่าพ่อของนางจะติดต่อกับตระกูลหลิว ตระกูลเหมิง อ๋องเหลียง และคนอื่น ๆ อีกหลายคนในราชสำนัก พวกเขาก็ยังไม่สามารถตัดสินโทษเฉิงซยงได้
มู่หรงถงที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งมาก่อน จะทนมองดูผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์คนใหม่โจมตีฝ่ายของราชันลมปราณอย่างดุเดือดและทำให้แม่ทัพกองทหารฝ่ายซ้ายเสียตำแหน่งได้อย่างไร?
แค่คิดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้รู้สึกรำคาญ นางถามซูอัน “ทำไมเจ้าถึงถามเรื่องทั้งหมดนี้?”
ซูอันยิ้มตอบ “องค์รัชทายาทต้องการให้เฉิงซยงถูกตัดสินว่ามีความผิด หรือต้องการให้เขาถูกตัดสินว่าบริสุทธิ์พะย่ะค่ะ?”
สีหน้าขององค์หญิงรัชทายาทมืดลง “การที่คนสำคัญอย่างแม่ทัพเฉิงจะถูกตัดสินว่ามีความผิดหรือไม่ ย่อมอยู่ที่ราชสำนักเป็นผู้ตัดสิน แล้วเกี่ยวอะไรกับข้า?”
ซูอันถอนหายใจ “งั้นก็ช่างมันพะย่ะค่ะ กระหม่อมคิดว่าองค์หญิงรัชทายาทต้องการลงโทษเฉิงซยงสำหรับความผิดทั้งหมดซะอีก กระหม่อมมีแผนในใจอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่ากระหม่อมจะคิดมากเกินไป”
พูดจบซูอันหันหลังเดินจากไป
สีหน้าขององค์หญิงรัชทายาทหวั่นไหวเมื่อมองดูเขาจากไป ในที่สุดนางก็ร้องเรียก “ช้าก่อน! เจ้ามีวิธีจริง ๆ เหรอ?”
ซูอันหยุดแล้วหันกลับไปมองนาง “องค์หญิงรัชทายาท ท่านคิดหรือว่ากระหม่อมจะเสียเวลาล้อเล่นเกี่ยวกับเรื่องสำคัญเช่นนี้?”
องค์หญิงรัชทายาทขมวดคิ้ว แม้ว่านางจะคิดว่าผู้ชายคนนี้น่ารำคาญ แต่เขาไม่ใช่คนโง่เหมือนรัชทายาท เขาคงไม่ลงมือทำอะไรที่ไร้ความหมาย
อย่างไรก็ตาม นางยังคงมีความวิตก “ทำไมเจ้าถึงคิดจะช่วยข้า?”
ซูอันหัวเราะ “ถ้ากระหม่อมบังอาจบอกว่าเป็นเพราะองค์หญิงรัชทายาทงดงามล่ะพะย่ะค่ะ?”
องค์หญิงรัชทายาทระเบิดด้วยความโกรธ “เจ้ากำลังดูหมิ่นข้า!”
—
ท่านยั่วยุปี่หลิงหลงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +700!
—
แม้ว่านางจะโกรธ แต่ซูอันสังเกตว่านางไม่ได้เรียกทหารราชองครักษ์ ขอบคุณสวรรค์ที่ผู้หญิงคนนี้รู้วิธีชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย…
“องค์หญิงรัชทายาท โปรดอย่าเพิ่งมีโทสะ เหตุผลที่กระหม่อมช่วยท่านนั้นง่ายมากพะย่ะค่ะ ทรงลืมสถานะของกระหม่อมแล้วเหรอ?”
“สถานะของเจ้า?” องค์หญิงรัชทายาทชะงักครู่หนึ่ง แล้วในที่สุดก็จำได้ว่าเขาเป็นราชเลขาของรัชทายาท ซึ่งย่อมจะเข้าร่วมกับฝ่ายของรัชทายาทโดยธรรมชาติ การช่วยเหลือรัชทายาทจะทำให้อนาคตของเขาปลอดภัย
ความจริงข้อนี้ทำให้นางคลายจากความตึงเครียด “แม้ว่าข้าจะเชื่อในแรงจูงใจของเจ้า แต่ข้าก็ยังสงสัยในความสามารถของเจ้า”
ซูอันลดเสียงของเขา “ทั้งหมดที่กระหม่อมต้องการคือให้องค์หญิงรัชทายาทช่วยให้กระหม่อมนัดพบกับพวกนักฆ่าที่ถูกจับได้”
นอกเหนือจากการปกปิดตัวตนของเขาในฐานะฑูตยุทธ์เสื้อแพรงทองลำดับสิบเอ็ด เหตุผลอื่นที่ทำให้ซูอันมาพบกับองค์หญิงรัชทายาทในตัวตนราชเลขา เป็นเพราะเขาต้องการปรับปรุงสถานะของเขาในวังตะวันออก
ชายหนุ่มไม่ต้องการที่จะเป็นที่รู้จักในฐานะเพื่อนช่วยเรียนของคนอ้วนที่โง่เง่าตลอดไป เขาต้องให้องค์หญิงรัชทายาทและอำนาจที่สนับสนุนนางรู้คุณค่าของเขา ซึ่งจะทำให้การดำเนินการตามแผนในอนาคตของเขาง่ายขึ้น
องค์หญิงรัชทายาทสับสนกับคำขอของเขา “เจ้าจะต้องการพบนักฆ่าไปทำไม?”
ซูอันกล่าวว่า “องค์รัชทายาทควรจะมีวิธีโน้มน้าวใจแม่ทัพกองทหารฝ่ายขวาโกวซือให้อนุญาตได้ใช่ไหมพะย่ะค่ะ? นักฆ่าที่ถูกจับกุมอยู่ภายใต้การดูแลของเขา เขาย่อมจะไม่ยอมให้คนธรรมดาพบปะกับนักโทษแน่นอน”
องค์หญิงรัชทายาทขมวดคิ้ว “เจ้าจะทำอะไรกับพวกเขา?”
ซูอันส่ายหัว “กระหม่อมยังบอกไม่ได้ในตอนนี้ เพราะถ้าบอกไป แผนก็จะไม่ได้ผล ทุกอย่างจะชัดเจนในภายหลังพะย่ะค่ะองค์หญิงรัชทายาท”
องค์หญิงรัชทายาทจ้องมองเขาขณะที่ไตร่ตรองเรื่องนี้ ครู่ต่อมาริมฝีปากสีแดงของนางก็แยกจากกันอีกครั้ง “ดี แต่ถ้าเจ้าโกหกข้า ข้าจะรายงานความหยาบคายของเจ้าต่อองค์จักรพรรดิ แม้แต่วิชาวัฏจักรหงส์อมตะก็ไม่สามารถช่วยเจ้าได้!”
ซูอันยิ้ม “กระหม่อมจะไม่ทำให้องค์หญิงรัชทายาทผิดหวัง”
องค์หญิงรัชทายาทได้จัดให้ทหารราชองครักษ์นำซูอันเข้าไปในคุกหลวง แต่เมื่อซูอันเห็นว่าทหารที่นำทางคือทหารที่มีรอยคล้ำรอบดวงตา ซูอันก็ดีใจมาก “โอ้? เจ้าคือราชองครักษ์เผี่ยวและราชองครักษ์เจียวใช่หรือไม่?”
องครักษ์สองคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจียวซือกุนและเผี่ยวตวนเตียว
เผี่ยวตวนเตียวก็อดยิ้มไม่ได้เช่นกัน “ท่านซู! เป็นเกียรติที่ได้พบท่านในที่สุด”
ถัดจากเขาเจียวซือกุนอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เจ้าไม่เคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน เจ้าหมายถึงอะไร ‘เป็นเกียรติ’?”
สีหน้าของเผี่ยวตวนเตียวมืดลง “เราไม่ได้เจอเขาเมื่อสองสามวันก่อนเหรอ? เลิกยุ่งกับข้าได้แล้ว”
เจียวซือกุนพ่นลมหายใจ “ข้าไม่ได้ยุ่ง ข้าแค่ไม่อยากเห็นเจ้าเล่นละคร!”
เผี่ยวตวนเตียวเพิกเฉยต่อสหายของตัวเอง เขายิ้มให้ซูอันแทน “ข้าอิจฉาท่านซู เพียงอยู่ในวังตะวันออกไม่กี่วัน แต่กลับได้รับความไว้วางใจจากองค์หญิงรัชทายาทแล้ว พวกเราพี่น้องไม่เคยได้รับมอบหมายให้ทำงานสำคัญเลย”
หลังจากพูดประโยคนี้จบ เผี่ยวตวนเตียวสังเกตเห็นว่าเจียวซือกุนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างขัดอีกครั้ง เขาจ้องเขม็งที่สหายตัวเองทันที “หุบปาก! ถ้าเจ้าไม่ทำ ข้าจะไม่พาเจ้าไปที่หอคณิกาหลวงอีก!”
“ใครจะกล้าไปหอคณิกาหลวงหลังเกิดเรื่องบ้า ๆ ขึ้นที่นั่น?” เจียวซือกุนตอบโต้ “เจ้าโง่หรือเปล่า?”
เผี่ยวตวนเตียวพูดไม่ออก