เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 971 ต้องการสารภาพ
บทที่ 971 ต้องการสารภาพ
ซูอันอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อเห็นตัวตลกสองตัวนี้ ไม่รู้ว่าองค์หญิงรัชทายาททนกับพวกเขาได้อย่างไรตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เขากระแอมเบา ๆ และพูดว่า “พี่เผี่ยว ท่านพูดเกินไปแล้ว ข้าแค่ไปที่นั่นเพื่อหาข้อมูลให้องค์หญิงรัชทายาทเกี่ยวกับความวุ่นวายที่เกิดในวังไม่กี่วันก่อน ข้าเชื่อใจท่านทั้งคู่”
“ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว” หน้าอกของเผี่ยวตวนเตียวพองขึ้นเล็กน้อย
เมื่อมาถึงคุกหลวง โกวซือ แม่ทัพกองทหารฝ่ายขวากำลังรออยู่และได้รับข่าวก่อนหน้านี้ เขาประสานมือทักทายซูอัน “ท่านซู”
ซูอันทักทายกลับด้วยความประหลาดใจ “แม่ทัพโกวสุภาพเกินไปแล้ว แต่ทำไมหน้าของท่านเป็นอย่างนี้?”
เขาเป็นแม่ทัพกองทหารฝ่ายขวาที่รุ่งโรจน์ ตำแหน่งและอำนาจของเขาสูงกว่าราชเลขาของรัชทายาทมาก
ยิ่งไปกว่านั้น นับตั้งแต่การพบกันครั้งล่าสุดผ่านไปเพียงไม่กี่วัน แต่รอยคล้ำรอบดวงตาของเขาดูแย่พอ ๆ กับเผี่ยวตวนเตียว ผมเผ้าของเขายุ่งเหยิงและมันเยิ้ม เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ทำความสะอาดมาระยะหนึ่งแล้ว เคราของเขารกรุงรังจนดูเหมือนแก่กว่าอายุจริงเป็นสิบปี
โกวซือพาซูอันไปที่ด้านข้าง เขาถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ฝ่าบาททรงสั่งให้ข้าตรวจสอบเหตุการณ์โจมตีพระราชวังตะวันออก แต่ข้าไม่พบเบาะแสใด ๆ เลย นักฆ่าเหล่านั้นยืนยันว่าทำไปภายใต้คำสั่งของราชันลมปราณ แต่เมื่อเราถามว่าราชันลมปราณติดต่อพวกเขายังไง พวกเขาทั้งหมดอ้างว่าไม่รู้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังพยายามใส่ร้ายราชันลมปราณ ดังนั้นจึงไม่มีทางที่ข้าจะรายงานเรื่องนี้ได้”
ไม่มีคนโง่ในพระราชวังยกเว้นรัชทายาท ใครก็ดูออกว่านักโทษกำลังพยายามใส่ร้ายราชันลมปราณ ถ้าโกวซือกล้าที่จะใช้การสารภาพด้วยวาจาเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ ฝ่ายของราชันลมปราณจะตอบโต้ทันที อย่างไรก็ตามเขารู้ดีถึงความต้องการของจักรพรรดิ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถพูดได้ว่าราชันลมปราณนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างแท้จริง
“องค์หญิงรัชทายาทพูดจริงหรือไม่ว่าท่านมีวิธีที่จะเปิดปากของนักฆ่าพวกนี้?” เขาถามอย่างตื่นเต้น
ซูอันพอเดาได้คร่าว ๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ชายคนนี้ดูราวกับได้พบผู้ช่วยชีวิตของเขาในที่สุด “ข้าจะลองดู”
โกวซือรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง “ท่านซู โปรดรีบเข้าไป…”
เมื่อพวกเขาเห็นว่าโกวซือนำซูอันเข้าไปอย่างกระตือรือร้นเผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนซึ่งถูกทิ้งไว้ด้านนอกก็มองหน้ากันด้วยความตกใจ “ทำไมแม่ทัพกองทหารฝ่ายขวาปฏิบัติต่อเขาดีขนาดนี้? ต่อไปเราอาจจะต้องเกาะขาท่านซูคนนี้ไว้ให้แน่น!”
น่าแปลกที่เจียวซือกุนไม่ได้โต้แย้งเรื่องนี้
ซูอันตามโกวซือลงไปในคุกหลวง เขาประสานหมัดและพูดว่า “แม่ทัพโกว ข้าอยากคุยกับนักฆ่าเหล่านี้เป็นการส่วนตัว”
โกวซือพยักหน้าและกล่าวว่า “ไม่เป็นไร องค์หญิงรัชทายาทได้บอกข้าแล้ว อย่างไรก็ตาม ท่านซูต้องระวัง นักฆ่าเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนเลวทราม”
ซูอันพยักหน้ายอมรับ โกวซือกำลังจะจากไปเมื่อมีเสียงที่น่ากลัวและตื่นตระหนกดังขึ้นจากบริเวณใกล้เคียง “อย่าตีข้าอีกเลย! ข้ายอมทุกอย่างแล้ว! ข้าขอพบท่านโกว!”
ซูอันมองไปรอบ ๆ คุกหลวงขณะที่เขาเดินตามโกวซือเข้าไป
นี่ไม่ใช่คุกปกติ แต่เป็นสถานที่กักขังนักโทษหลวงชั่วคราว มีชั้นลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น โดยมีเพียงชั้นเดียวเท่านั้นที่อยู่เหนือพื้นดิน
ขณะที่พวกเขาเดินลงบันได แสงแดดค่อย ๆ จางลง ทำให้เกิดความรู้สึกเย็นชื้น
กำแพงโดยรอบสร้างจากหินก้อนใหญ่ ซูอันสามารถรับรู้ถึงอำนาจของอักขระบางอย่างที่จารึกบนพื้นผิวของพวกมันได้
อักขระพวกนี้ไม่เพียงแต่ป้องกันไม่ให้ใครก็ตามที่อยู่ภายนอกขุดอุโมงค์เข้ามาเท่านั้น แต่ยังป้องกันผู้บ่มเพาะธาตุดินไม่ให้หลบหนีอีกด้วย
เขาเห็นรอยเปื้อนสีแดงเข้มบนเครื่องมือทรมานที่พวกเขาเดินผ่าน เห็นได้ชัดว่าเป็นเลือดของนักโทษที่อาศัยอยู่ที่นี่ เพิ่มความรู้สึกมืดหม่นให้กับสถานที่
ขณะที่โกวซือนำซูอันลงมา เสียงร้องของคนที่เต็มใจจะสารภาพก็ดังขึ้น
โกวซือปีติยินดีอย่างยิ่งจึงรีบวิ่งไปโดยลืมทุกอย่างเกี่ยวกับซูอัน
ซูอันขมวดคิ้วและตามไปอย่างรวดเร็ว
ได้ยินคำสาปแช่งของนักโทษคนอื่นอย่างชัดเจน
“ไอ้คนอ่อนแอ!”
“เจ้ารู้ไหมว่าพี่น้องเราตายไปแล้วกี่คน?!!”
“อาจารย์ดูแลเจ้ามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา นี่คือวิธีตอบแทนของเจ้าเหรอ?”
…
นักโทษที่ตั้งใจสารภาพได้รับคำก่นด่าสาปแช่งทุกชนิด ไม่มีใครรู้ว่าเขารู้สึกอะไรหรือไม่?
โกวซือคำราม ชักแส้ออกจากผนังแล้วฟาดออกไปอย่างไม่เลือกหน้า “พวกเจ้าทุกคนหุบปากเดี๋ยวนี้!”
แน่นอนว่าเสียงโหวกเหวกเมื่อครู่เงียบลง การทรมานในแต่ละวันได้ดูดเอาพลังชีวิตเกือบทั้งหมดจากพวกเขา ดังนั้นการที่จู่ ๆ พวกเขาสามารถตะโกนสาปแช่งเสียงดังได้ มันแสดงให้เห็นว่าเกิดจากความแค้นเคืองอย่างแท้จริง และเมื่อความโกรธของพวกเขาถูกระบายออกก็ย่อมไม่มีแรงหลงเหลืออีก
โกวซือได้พานักโทษคนหนึ่งไปยังห้องที่แยกออกมา ซูอันเดินตามเขาไปด้วยความอยากรู้
โกวซือเหลือบมองเขาแต่ไม่ได้พูดอะไร เนื่องจากองค์หญิงรัชทายาทสั่งให้พาเขาเข้ามา นางย่อมไว้วางใจเขาอย่างชัดเจน
ซูอันมองชายหนุ่มเลอะเทอะไปด้วยคราบเลือด ก่อนทำสีหน้าแปลก ๆ เขารู้จักผู้ชายคนนี้!
นี่คือกู่เยว่อี ศิษย์พี่ของชิวฮัวเล่ย ซึ่งเขาเคยพบมาก่อนในเมืองจันทร์กระจ่าง
กู่เยว่อีจำซูอันได้ทันทีและทำหน้าบิดเบี้ยว
โกวซือตะโกนเสียงดัง “เจ้าบอกว่าเจ้าพร้อมที่จะสารภาพ พูด!!”
กู่เยว่อีกะพริบตาและชี้ไปที่ซูอันทันที “เขา…”
“ข้าทำไม?” ซูอันเดินมาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า แสร้งใช้มือรีดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบราวกับกำลังปัดเศษสำลีออก จี้หยกที่เอวส่ายไปมา
กู่เยว่อีมองเห็นจี้หยกที่เอวของซูอัน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ และความประหลาดใจที่น่ายินดี หากใครไม่เห็นมันด้วยตาตนเองก็คงไม่เชื่อว่าคน ๆ เดียวจะสามารถแสดงอารมณ์ได้มากมายในคราวเดียว
โกวซืองงงวยอย่างชัดเจน “เขาทำไม?”