เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 973 สนิทใจ
บทที่ 973 สนิทใจ
ซูอันยิ้มและพูดว่า “แน่นอนว่ามีวิธีที่จะช่วยพวกเจ้าทุกคน ในความเป็นจริง ขุนนางในราชสำนักสนใจแต่การต่อสู้กับฝ่ายของราชันลมปราณ และไม่สนใจชีวิตของพวกเจ้ามากนัก นี่เป็นเหตุผลที่ยังมีโอกาสที่พวกเจ้าจะรอดได้”
ซูอันเห็นว่ากู่เยว่อีพร้อมที่จะทรยศต่อสำนักมารได้ทุกเมื่อหากไร้ความหวัง ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าพูดว่าไม่มีทางที่จะช่วยเหลือนักโทษได้ ถ้าหากตัวเองพูดไปอย่างนั้น ไม่มีทางที่ชายคนนี้จะยอมร่วมมือและอาจจะขายเขาแทน
ชายหนุ่มไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปลอบโยนเหล่านักโทษสำนักมาร อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกผิดที่หลอกลวงซุนหลูเจิ้นและเพลิงเดียวดายโดยทำให้ทั้งสองรู้สึกมีความสุข
แสงแห่งความหวังในการเอาชีวิตรอดของกู่เยว่อีถูกจุดขึ้นอีกครั้ง เขาดีใจมาก “นายน้อยซู ท่านเป็นดาวนำโชคของเราจริง ๆ! ข้ารู้ว่าท่านเป็นคนพิเศษตั้งแต่วินาทีแรกที่จับตามองท่านที่เมืองจันทร์กระจ่าง! ฮ่า ๆ นี่มันเยี่ยมไปเลย!”
กู่เยว่อีตื่นเต้นมากจนยากที่จะพูดให้ได้ใจความ
ซูอันกลอกตา แน่นอนว่าเขาจำไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นมิตรกับเขาในเมืองจันทร์กระจ่าง อันที่จริงชายคนนี้พยายามจะฆ่าเขาด้วยซ้ำ!
“ขอบคุณนายน้อยซูที่ช่วยเหลือพวกเรา” ซูนหลูเจิ้นกล่าว “ข้าไม่รู้จะตอบแทนน้ำใจนี้ยังไงดี”
เพลิงเดียวดายพูดขึ้นเช่นกัน “ก่อนหน้านี้ข้าเคยทำให้ท่านขุ่นเคืองระหว่างทางมาเมืองหลวง นายน้อยซูโปรดอย่าสนใจความผิดของผู้น้อยอย่างข้า!”
ความปรารถนาที่จะอยู่รอดเป็นสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตทุกหมู่เหล่า สำหรับพวกเขา ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือ ผลลัพธ์ที่พวกเขาไม่ต้องตาย
“พวกท่านเกรงใจเกินไปแล้ว ยกโทษให้ข้าที่ไม่อาจรักษาอาการบาดเจ็บของพวกท่านเพราะอาจมีคนสงสัยขึ้นมา” ซูอันขอโทษ เขารู้สึกแย่ที่เขาไม่สามารถช่วยชีวิตคนเหล่านี้ได้ ความจริงก็คือเขาไม่มีอำนาจเหนือเรื่องนี้เลย
นักโทษสำนักมารทั้งหมดหัวเราะ “บาดแผลเล็ก ๆ พวกนี้ไม่มีความหมายอะไร” สิ่งที่ผู้ชายกลัวที่สุดคือการขาดความหวัง ตอนนี้พวกเขารู้ว่ามีโอกาสรอด อาการบาดเจ็บก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
หลังจากคุยรายละเอียดแล้ว ซูอันก็ทิ้งพวกเขาไว้และไปแจ้งต่อโกวซือ
โกวซือตกใจมากเมื่อได้ยินว่านักโทษยอมสารภาพ เขาแค่อนุญาตให้ซูอันลองทำดู เขาไม่คิดว่าชายคนนี้จะแงะปากของพวกนักโทษได้จริง
ที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นคือ พวกเขาสารภาพถึงความสัมพันธ์ของพวกเขากับเฉิงซยงจริง ๆ
สีหน้าของเขาซับซ้อนมาก “ท่านซู นี่คือสิ่งที่พวกเขาพูดจริง ๆ เหรอ?”
ซูอันยิ้ม “มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?”
โกวซือนึกขึ้นมาได้…ใช่ มันไม่สำคัญเลย
ฝ่ายของรัชทายาทกำลังพยายามหาวิธีจัดการกับราชันลมปราณ และเขาก็เข้าใจเจตนาของจักรพรรดิได้เช่นกัน เฉิงซยงต้องตายในที่สุด ด้วยคำสารภาพนี้ ปัญหาสำคัญประการหนึ่งของเขาจะได้รับการแก้ไข ซึ่งเป็นข่าวดี
ความคิดนี้ทำให้เขามีความสุขอย่างมาก “ขอบคุณท่านซู! ข้าแน่ใจว่าท่านจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นขุนนางระดับสูงเมื่อเรื่องนี้คลี่คลาย!”
“ทั้งหมดนี้เป็นผลจากการสืบสวนของท่าน ท่านโกว มันไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเลย” ซูอันกล่าวด้วยรอยยิ้มที่มีความหมาย
โกวซือตกตะลึงชั่วขณะ แต่เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้น อีกฝ่ายไม่ต้องการรับความชอบและต้องการยกผลประโยชน์ทั้งหมดให้กับเขาแทน?
เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลมากมาย ซูอันยังค่อนข้างใหม่ต่อราชสำนัก การรุกรานฝ่ายราชันลมปราณมากไปอาจไม่ใช่เรื่องดี
อย่างไรก็ตาม เขาอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยสถานะของเขา เขาสามารถรับความชอบจากผลงานทั้งหมดได้โดยไม่ต้องกังวลกับการตอบโต้ของฝ่ายราชันลมปราณเลย
เขารู้สึกยินดีกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่พลิกผันอย่างกะทันหัน “น้องซูมอบของขวัญที่ยอดเยี่ยมให้ข้า! ในอนาคตหากมีสิ่งใดที่ข้าสามารถช่วยได้โปรดอย่าเกรงใจที่จะเอ่ย!”
แน่นอน เขายังต้องสอบปากคำนักโทษอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ แต่คำพูดของเขายังคงจริงใจ
ซูอันเยาะเย้ยภายใน เจ้าเรียกข้าว่า ‘ท่านซู’ เมื่อครู่นี้ แต่ตอนนี้เรากลายเป็นพี่น้องกันไปแล้ว
เขายอมเรียกโกวซือว่าพี่ชายเช่นกัน “ใจดีเกินไปแล้ว พี่โกว ข้าหวังว่าในฐานะพี่ชาย ท่านจะสามารถดูแลข้าภายในราชสำนักต่อจากนี้ไปได้”
แม้ว่ามิตรภาพในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยเช่นนี้จะไม่น่าเชื่อถือ แต่พวกเขาก็ยังมีประโยชน์ต่อกันในเรื่องเล็ก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความสนใจของพวกเขาสอดคล้องกัน นั่นก็เพียงพอแล้ว
ทั้งสองคุยกันอย่างเป็นกันเองระหว่างทางออก เผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนต่างตกตะลึงกับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของทั้งคู่
ระหว่างทางกลับ เผี่ยวตวนเตียวอดไม่ได้ที่จะถาม “ท่านซูคุ้นเคยกับท่านโกวมาก่อนงั้นเหรอ?”
ซูอันส่ายหัว “ก็ไม่นะ”
“แล้วทำไมเขาดูกระตือรือร้นมากเวลาคุยกับท่าน?” เจียวซือกุนถามด้วยความสงสัย
ซูอันหัวเราะ “ข้าจะทำอะไรได้? ข้าเป็นคนที่เป็นมิตรโดยธรรมชาติ เจ้าสองคนไม่รู้สึกสนิทใจเมื่อพบข้าครั้งแรกเหรอ?”
“แน่นอน ๆ!” เผี่ยวตวนเตียวตอบพร้อมกับหัวเราะขอโทษ ในสถานการณ์เช่นนี้ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะปฏิเสธ
เจียวซือกุนพึมพำตอบรับเช่นกัน อันที่จริงเขารู้สึกใกล้ชิดกับชายผู้นี้อย่างลึกลับ มันดูแปลกประหลาดจริง ๆ ไม่มีทางที่พวกเขาจะได้พบกันมาก่อน แล้วทำไมเขาถึงรู้สึกคุ้นเคยกับซูอันขึ้นมาได้?
ถ้าแม้แต่รัชทายาทยังถือว่าซูอันเป็นคนสำคัญอย่างรวดเร็ว มันคงเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะรู้สึกใกล้ชิดกับเขาล่ะมั้ง…?
พวกเขากลับไปที่วังตะวันออก ซูอันรีบรายงานผลให้องค์หญิงรัชทายาท องค์หญิงรัชทายาทรู้สึกทึ่งและเรียกคนสนิทของนางมาอย่างรวดเร็วเพื่อวางแผนการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป
ในขณะที่ซูอันกำลังรอให้ละครเริ่มต้นอย่างสบาย ๆ เขากลับมาหาอวิ้นเจียนเยว่เพื่อแจ้งสถานการณ์ล่าสุดแก่นาง
เมื่อนางได้ยินว่าซุนหลูเจิ้นและคนอื่น ๆ ถูกทรมานจนเกือบสูญเสียความเป็นมนุษย์ อวิ้นเจียนเยว่สูดหายใจเข้าอย่างแรง “ข้าเป็นคนพาพวกเขามาลำบาก”
จู่ ๆ ในใจของนางเกิดแรงกระตุ้นที่จะบุกเข้าไปในคุกและปลดปล่อยคนของนางให้เป็นอิสระ แต่นางโยนความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
จักรพรรดิได้กลับมายังวังแล้ว และอาการบาดเจ็บของนางยังไม่หายดี การบุกเข้าไปในคุกหลวงนั้นไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
“ตอนที่ข้าเข้าไป ศิษย์ของท่านคนนั้นกำลังจะทำเรื่องทั้งหมดพัง” ซูอันกล่าวเสริม
จากนั้นเขาก็เล่าเรื่องที่กู่เยว่อีกำลังจะทรยศนาง
“แม้ว่าข้าจะหลอกเขาโดยบอกว่ามีทางช่วยให้พวกเขารอดได้ แต่ไม่นานเขาต้องรู้ตัวแน่” ซูอันกล่าว “เขาจะเป็นตัวปัญหาไม่ช้าก็เร็ว”
สีหน้าของอวิ้นเจียนเยว่เริ่มเย็นชา “งั้นก็ฆ่ามันซะ จะได้ไม่ปากโป้งอะไรออกไป”
ซูอันตกตะลึง
นี่คือลูกศิษย์ของเจ้าเอง! เจ้าจะฆ่าเขาอย่างนั้นเหรอ?
เขามองผู้หญิงผมยาวที่อยู่ข้างหน้า และตระหนักว่านี่คือเจ้าสำนักมารอย่างที่ควรเป็น เลือดเย็นอย่างแท้จริง!