เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 976 ในอนาคตกระแสน้ำอาจจะเปลี่ยน!
บทที่ 976 ในอนาคตกระแสน้ำอาจจะเปลี่ยน!
ซูอันทำท่าทางโล่งใจแล้วกลับสับสน “ฝ่าบาท พระองค์ไม่ได้บอกหรือว่าราชันลมปราณไม่มีทางเป็นคนร้ายในเหตุลอบสังหารองค์รัชทายาท? ทำไมพระองค์ยังคงต้องการตรวจสอบความสัมพันธ์ของพวกเขา?”
“แค่ตรวจสอบสิ่งที่ข้าบอกเจ้า ไม่ต้องถามให้มากความ” จักรพรรดิตะคอก
“แม้ว่าโอกาสที่ราชันลมปราณจะสมรู้ร่วมคิดกับสำนักมารจะต่ำ แต่ข้าเกรงว่าเขาอาจจะมีส่วนร่วมในเรื่องนี้บ้าง”
ซูอันตกตะลึง เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ? เจ้าเพิ่งบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีทางเกี่ยวข้องกับราชันลมปราณ แต่ตอนนี้เจ้าบอกว่ามันอาจจะเป็นไปได้?
ชิ! ไอ้จักรพรรดิผู้นี้นี่หวาดระแวงไปหมดทุกอย่างจนเหมือนกับคนบ้าเลย!
ต่อไปข้าจะต้องระมัดระวังมากขึ้น ข้าไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองหลงคิดว่าได้รับความไว้วางใจจากชายผู้นี้!
เขากระแอมเบา ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงลำบากใจ “ทั้งหมดที่กระหม่อมมีคือมิตรภาพส่วนตัวกับชิวฮัวเล่ย กระหม่อมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับสำนักมาร หลายคนในสำนักมารต้องการให้กระหม่อมตาย จึงเป็นเรื่องยากที่กระหม่อมจะเข้าร่วมกับพวกเขา ชีวิตของกระหม่อมนั้นไม่มีนัยสำคัญ แต่กระหม่อมอาจทำลายแผนการของฝ่าบาทได้โดยไม่ตั้งใจพะย่ะค่ะ”
นี่คือทั้งหมดที่ซูอันอยากจะสื่อ เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักมาร และแน่นอนว่าเขาไม่รู้จักใครที่ชื่ออวิ้นเจียนเยว่
รอยย่นบนคิ้วของจักรพรรดิคลายลง เขาพอใจกับสิ่งที่ได้ยิน แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเจ้าเด็กเหลือขอคนนี้แค่ประจบประแจงเขา “นั่นเป็นเรื่องง่าย ยังมีนักฆ่าสำนักมารหลายคนที่ยังรอดอยู่ในคุกไม่ใช่หรือ? ถ้าเจ้าคิดหาวิธีช่วยชีวิตพวกเขา สำนักมารจะซาบซึ้งแน่นอน เมื่อรวมกับความสัมพันธ์ของเจ้ากับชิวฮัวเล่ย เจ้าจะสามารถเข้าร่วมกับสำนักมารได้อย่างง่ายดาย”
ซูอันตกตะลึง…
ทั้งชิวฮัวเล่ยและอวิ้นเจียนเยว่ต่างขอร้องให้เขาช่วยนักโทษ หรือหากทำอะไรไม่ได้จริง ๆ ก็ขอให้เขาจบชีวิตเหล่านักโทษทั้งหมดเพื่อปลดปล่อยจากความเจ็บปวด
แต่ตอนนี้จักรพรรดิกลับให้ไฟเขียวเขาเพื่อช่วยพวกนักโทษจริง ๆ ทั้งหมดนี้มันเข้าทางเขาหมดเลยไม่ใช่เหรอ?
จักรพรรดิขมวดคิ้วเมื่อเห็นซูอันยืนนิ่งด้วยความงงงวย “ทำไม? หรือว่าทำไม่ได้?”
“กระหม่อมจะทำให้ดีที่สุดพะย่ะค่ะ” ซูอันแสดงสีหน้าลำบากใจ แต่ในใจเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
จักรพรรดิกล่าวต่อ “อย่าคิดว่านี่เป็นงานง่าย สำนักมารเต็มไปด้วยบุคคลที่มีไหวพริบ อวิ้นเจียนเยว่สามารถบ่มเพาะถึงระดับปราชญ์และยังสามารถวางแผนที่ซับซ้อนได้ เห็นได้ชัดว่านางฉลาด สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องแน่ใจว่าพวกเขาไม่สงสัยเจ้าเด็ดขาด ข้าจะบอกให้โกวซือร่วมมือกับเจ้าด้วย”
“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ชี้แนะ” ซูอันไม่สามารถหยุดความปีติยินดีในใจได้ และกำลังคิดถึงอวิ้นเจียนเยว่ด้วยความชื่นชม
“ทั้งหมดมีแค่นี้ ออกไปได้แล้ว” จักรพรรดิโบกมือเห็นได้ชัดว่ากำลังจะกลับไปบ่มเพาะ
ซูอันกัดฟัน “ฝ่าบาท หากไม่มากเกินไป กระหม่อมมีเรื่องหนึ่งอยากจะขอ”
“อะไร?” จักรพรรดิมองเขาด้วยความประหลาดใจ
ซูอันกล่าวว่า “กระหม่อมยินดีที่จะแทรกซึมเข้าสำนักมารเพื่อประโยชน์ของฝ่าบาท แต่ชิวฮัวเล่ยช่วยชีวิตกระหม่อมมาหลายครั้งแล้ว กระหม่อมต้องการตอบแทนบุญคุณของนาง ฝ่าบาท พระองค์สามารถไว้ชีวิตนางหลังจากทำลายสำนักมารได้หรือไม่พะย่ะค่ะ?”
เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแสดงบทบาทที่เขาควรจะเล่น เขาไม่สามารถปล่อยให้จักรพรรดิสังเกตเห็นว่าเขามีความสุขแค่ไหนในตอนนี้
จักรพรรดิเย้ยหยัน “นี่เรียกว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณงั้นเหรอ? เจ้าแค่ต้องการสาวงามอย่างนางไม่ใช่หรือไง?”
ซูอันหัวเราะอย่างเขินอาย แสร้งทำเป็นว่าถูกจับได้
“ก็ได้ ก็ได้” จักรพรรดิตอบ “ตราบเท่าที่เจ้าสามารถช่วยข้ากวาดล้างสำนักมารได้สำเร็จ ข้ายินดีที่จะยกผู้หญิงคนหนึ่งแก่เจ้า แน่นอนว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อนางละทิ้งความคิดเรื่องการกบฏทั้งหมด ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจัดการนาง”
“แน่นอนพะย่ะค่ะ” ซูอันกล่าวอย่างเร่งรีบ
“ออกไปได้แล้ว” จักรพรรดิตะคอก
ซูอันออกจากห้องหนังสือส่วนพระองค์ แม้ว่าสีหน้าท่าทางภายนอกจะดูไม่แตกต่างไปจากเดิม แต่หัวใจของเขาหนักอึ้ง
ในสายตาของจักรพรรดิ เขาเป็นเพียงแค่มดที่จะบี้เมื่อไรก็ได้
ตัวเองรอดมาได้สองสามครั้ง แต่ละครั้งมันเกิดขึ้นเพราะฝีปากทั้งสิ้น แต่เขารู้ว่าไม่มีทางที่เขาจะโชคดีได้ทุกครั้ง
ฮึ่ม เจ้าไม่ควรดูถูกข้า ในอนาคตกระแสน้ำอาจจะเปลี่ยนก็ได้!
แม้จะมีความคิดเช่นนี้ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเผชิญความจริงอันโหดร้ายของสถานการณ์ปัจจุบัน
เฉิงซยงมุ่งเป้ามาที่เขาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาสามารถโจมตีสวนกลับได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามเมื่ออีกฝ่ายที่เป็นจักรพรรดิ เขาจะไปโจมตีสวนกลับได้อย่างไร?
ต้องไม่ลืมว่าจักรพรรดิเป็นผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก!
เว้นแต่…
สายตาของซูอันสอดส่ายไปโดยรอบ ขั้นตอนแรกของแผนเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของเขา
เมื่อกลับไปที่เรือนพัก อวิ้นเจียนเยว่แสร้งทำเป็นเอ่ยถามอย่างไม่สนใจ “หืม เจ้าปลอดภัยดีงั้นเหรอ? ข้าคิดว่าจักรพรรดินั่นกำจัดเจ้าไปแล้วซะอีก”
เห็นได้ชัดว่าคำพูดใบ้ของขันทีเหวินไม่เล็ดลอดไปจากหูของนาง
อารมณ์ของซูอันดีขึ้นอย่างมากเมื่อเขาเห็นสาวผมยาวอยู่ตรงหน้า “ถ้าจักรพรรดิอยากให้ข้าตายจริง ๆ ท่านจะเสียสละตัวเองเพื่อข้าด้วยความรักไหม?”
เขาไม่ได้บอกนางเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องหนังสือส่วนพระองค์ เขาเพิ่งกลับมาจากประตูนรก มันคงเป็นการสิ้นเปลืองที่เลวร้ายถ้าเขาไม่ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เพื่อเก็บเกี่ยวความปรารถนาดีจากสาวงามเจ้าของสำนักมาร
สีหน้าของอวิ้นเจียนเยว่เริ่มเย็นชา “ไอ้เด็กปากบอน! อย่าคิดว่าข้าจะไม่ฆ่าเจ้า เพียงเพราะเจ้าช่วยข้าไว้!”
ซูอันสังเกตว่าเขาไม่ได้รับคะแนนความโกรธแค้นเลย ความมั่นใจของเขาเพิ่มขึ้น เขาถอนหายใจเสียงดังแล้วพูดว่า “มีคนจำนวนมากที่อยากให้ข้าตาย ไม่ใช่แค่ท่านคนเดียว”
อวิ้นเจียนเยว่ขมวดคิ้ว แต่นางสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นในน้ำเสียงของเขา และไม่กดดันเขาต่อไป
ครู่ต่อมา นางพูดว่า “ข้าอาจจะไปจากที่นี่ในไม่ช้า”
ซูอันตื่นตระหนกทันที “ไม่! แล้วถ้าข้าไม่แกล้งท่านล่ะ? ท่านก็รู้ว่าข้าแค่หยอกให้สนุกเท่านั้น! ข้าไม่เคยมีความคิดจะสร้างความรำคาญจนท่านอยากจากไป!”
อวิ้นเจียนเยว่มองเขาด้วยความรำคาญ “วันนึงข้าคงอดที่จะฆ่าเจ้าไม่ได้”
หลังจากที่อยู่ใกล้ชิดมาระยะหนึ่ง นางก็เข้าใจบุคลิกของซูอันคร่าว ๆ และนางก็รู้ว่าเขาแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ในโลกนี้ เขาไม่ได้ถูกกีดกันจากข้อจำกัดทางสังคมมากมายอย่างที่คนอื่นเป็น แม้ว่าบางเรื่องที่เขาพูดจะน่ารำคาญ แต่ด้านนี้ของเขาทำให้เขากลายเป็นบุคคลประเภทที่หาได้ยาก
จริง ๆ แล้วไม่มีใครกล้าพูดจาสบาย ๆ หรือล้อเล่นกับนางมานานมากแล้ว
“พี่สาวเจ้าสำนัก ถึงแม้ว่าบางทีปากของท่านจะร้ายไปหน่อย แต่ข้ารู้ว่าในใจของท่านนั้นอ่อนโยน” รอยยิ้มของซูอันจางหายไป “ทว่าอาการบาดเจ็บของท่านยังไม่หายดี จะจากไปในตอนนี้มันปลอดภัยดีแน่เหรอ?”
อวิ้นเจียนเยว่ส่ายหัว “จักรพรรดิกลับมาแล้ว เมื่ออาการของข้าดีขึ้น ข้าจะซ่อนคลื่นพลังจากเขาได้ยาก การอยู่ต่อไปอีกนานจะเป็นอันตราย และจะนำอันตรายมาสู่เจ้าเช่นกัน”
ด้วยเหตุผลของนาง ซูอันย่อมไม่ชักชวนให้นางอยู่ต่อ “งั้นข้าจะพยายามหาทางพาท่านออกจากวัง”
นี่จะต้องเป็นปฏิบัติการที่อันตรายอย่างแน่นอน
แต่จู่ ๆ เขาก็นึกได้ถึงเรื่องหนึ่ง…