เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 980 ปราชญ์ไม่ควรถูกล่วงเกินได้โดยง่าย
บทที่ 980 ปราชญ์ไม่ควรถูกล่วงเกินได้โดยง่าย
ขณะเดียวกันนั้น องค์หญิงรัชทายาทได้ก้าวไปข้างหน้าของซูอัน แม้ว่าใบหน้าของนางจะซีดเซียวเล็กน้อย แต่นางก็ยังเชิดหน้าขึ้นสูง “เขาเพิ่งมาอยู่ที่วังตะวันออก ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจกฎมารยาทอะไรมากมาย หากเขาทำอะไรให้ท่านขุ่นเคือง ราชันลมปราณโปรดเมตตาและยกโทษให้เขาด้วย”
ซูอันรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นร่างที่บอบบางของนางยืนอยู่ข้างหน้าเขา องค์หญิงรัชทายาทมักเกลียดชังความกล้าของเขาเสมอ แต่ว่าตอนนี้นางกำลังยืนหยัดเพื่อเขา
ราชันลมปราณมองนางและหัวเราะ “เจ้าจริงจังเกินไปแล้ว องค์หญิงรัชทายาท ทำไมราชันอย่างข้าถึงต้องลดระดับลงไปเกลือกกลั้วกับเขาด้วย?”
จากนั้นราชันลมปราณหันไปรัชทายาท “องค์รัชทายาท ต้องการให้ข้าทำความเคารพเหมือนเช่นคนอื่น ๆ ใช่หรือไม่?”
รัชทายาทรีบโบกมือเป็นพัลวันทันที “ไม่จำเป็น ไม่จำเป็น”
อาจารย์คนนี้ทำให้เขากลัว เขาไม่กล้าบังคับอีกฝ่ายให้ทำความเคารพตัวเอง
องค์หญิงรัชทายาทจ้องมองสามีของตนเองอย่างโกรธเคือง นางเกลียดคนที่โง่ไร้สมองและขี้ขลาดแบบนี้ที่สุด
อย่างไรก็ตาม นางรู้ว่าสถานะของราชันลมปราณนั้นไม่เหมือนใคร การกดดันอีกฝ่ายไม่ใช่การตัดสินใจที่สมเหตุสมผล
ในตอนนี้ ราชันลมปราณไม่มีความปรารถนาที่จะอยู่ต่อไปอีก หรือถ้าเขาคิดจะเอาเรื่องซูอัน มันจะกลายเป็นว่าเขาทำให้คนอื่นนึกดูถูกเหยียดหยามได้ เขาอ้างเหตุผลอย่างรวดเร็วในการกล่าวคำอำลารัชทายาทและองค์หญิงรัชทายาท
องค์หญิงรัชทายาทดีใจที่ตัวการทำให้ปวดหัวกำลังจะจากไป และไม่ได้รั้งเขาให้อยู่ต่อ
ขณะที่ราชันลมปราณกำลังจะเดินออกจากประตู เขาก็หยุดอยู่ข้าง ๆ ซูอัน แล้วพูดอย่างคลุมเครือว่า “ราชเลขาซู เจ้าเหมือนกับที่ได้ยินมาจริง ๆ”
“ขอบพระทัยราชันลมปราณสำหรับคำชม” ซูอันสุภาพอย่างยิ่ง เขาไม่ต้องการให้อีกฝ่ายหาเหตุผลที่จะกระทำการใด ๆ กับเขาได้
ราชันลมปราณแทบสำลักลมหายใจตัวเอง นี่เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าข้ากำลังชมเจ้า?
เขาพ่นลมหายใจก่อนจะสะบัดแขนเสื้อเดินจากไป
เมื่อเขาจากไป ทุกคนในวังตะวันออกต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อครู่ทุกคนเกือบจะขาดใจตายเพราะหายใจไม่ออกแล้ว
แม้ว่าราชันลมปราณจะเป็นอาจารย์ของรัชทายาท แต่เขาก็ปรากฏตัวเป็นครั้งคราวเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วอาจารย์เฉาโฮ่วมักจะเป็นผู้ดำเนินการสอนเสียมากกว่า
ทุกคนมองไปที่ซูอันด้วยความชื่นชม ในขณะที่เขาทักทายองค์หญิงรัชทายาท “คารวะองค์หญิงรัชทายาท”
ส่วนรัชทายาทนั้นได้ลากขันทีไปเล่นด้วยกันแล้ว ซูอันจึงไม่ทันได้กล่าวคำทักทายอย่างเหมาะสม
องค์หญิงรัชทายาทมองดูสามีที่งี่เง่าของนาง แล้วเบนสายตากลับมาที่ชายตรงหน้า นางถอนหายใจ ลืมท่านสิบเอ็ดไปได้เลย แค่ชายคนนี้รัชทายาทก็ยังไม่สามารถจะเทียบได้!
นางจัดการความคิดอย่างรวดเร็วแล้วยิ้มให้ซูอัน “ขอบคุณสำหรับสิ่งที่เจ้าทำในวันนี้ ราชเลขาซู”
“กระหม่อมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของวังตะวันออก เป็นหน้าที่ของกระหม่อมที่จะช่วยองค์หญิงรัชทายาท” ซูอันจงใจละเว้นไม่กล่าวถึงรัชทายาท
ทุกคนรู้ว่าผู้ปกครองที่แท้จริงของวังตะวันออกคือองค์หญิงรัชทายาท ดังนั้นจึงไม่มีใครเห็นว่าคำพูดของเขาไม่เหมาะสม
สีหน้าตึงเครียดขององค์หญิงรัชทายาทผ่อนคลายลง ความภักดีของเขาทำให้นางพอใจอย่างชัดเจน “คราวหน้าเจ้าต้องระวังตัวให้มากกว่านี้”
นางกำลังเตือนเขาให้ระวังการตอบโต้จากราชันลมปราณ
ซูอันยิ้ม “กระหม่อมอยู่ภายใต้การคุ้มครองของรัชทายาทและองค์หญิงรัชทายาท กระหม่อมย่อมแคล้วคลาดอยู่แล้ว”
องค์หญิงรัชทายาทมองดูเขาอย่างรังเกียจ “เจ้านี่มันช่างประจบประแจงเก่งเสียจริง เอาล่ะ บอกมาเถิดว่าเจ้าต้องการรางวัลใดเป็นการตอบแทนความชอบครั้งนี้?”
ซูอันกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “องค์หญิงรัชทายาทจะกลายเป็นมารดาของอาณาจักรนี้ แค่เพียงกระหม่อมได้รับใช้อยู่เคียงข้างพระองค์ได้ก็ถือว่าเป็นรางวัลอันยิ่งใหญ่แล้ว”
นางกำนัลตกตะลึง ทำไมคำพูดของชายคนนี้มันดูเหมือนเป็นไปในทางชู้สาวเหลือเกิน?
ยิ่งไปกว่านั้นองค์หญิงรัชทายาทกลับดูไม่ถือสากับวาจาของชายคนนี้อีกต่างหาก…ข้าหยุดแค่ไม่กี่วัน เกิดอะไรขึ้นในขณะที่ข้าไม่อยู่?
ซูอันใช้โอกาสนี้พูดต่อ “องค์หญิงรัชทายาท กระหม่อมขอตัวก่อนพะย่ะค่ะ ยังต้องไปที่คุกหลวงต่อ”
“คุกหลวง?” องค์หญิงรัชทายาทขมวดคิ้ว “เจ้าจะไปที่นั่นทำไม?”
คดีของเฉิงซยงถูกตัดสินแล้ว นักโทษที่นั่นจึงไม่มีความหมายสำหรับนาง
“กระหม่อมต้องการสอบสวนนักฆ่าเหล่านั้นเพิ่มเติม เผื่อว่าจะมีข้อมูลใดที่เราตกหล่นไป” ซูอันตอบ
องค์หญิงรัชทายาทรู้ว่าซูอันกำลังพูดถึงราชันลมปราณ “ก็ดี” นางตอบ “แต่หากเจ้าพบสิ่งใด อย่าหุนหันพลันแล่น จงมารายงานข้าก่อน”
เมื่อซูอันออกจากตำหนักไป หรงโม่ นางกำนัลขององค์หญิงรัชทายาทอดไม่ได้ที่จะถามว่า “องค์หญิง ทำไมท่านจึงปฏิบัติต่อชายคนนั้นดีนัก? ก่อนหน้านี้พระองค์ทรงคิดว่าเขาน่ารำคาญนี่เพคะ?”
องค์หญิงรัชทายาทนั่งลงอย่างสบาย ๆ รับชาจากนางกำนัล และกล่าวว่า “ข้าไม่รังเกียจคนที่น่ารำคาญ” นางตอบ “แต่ข้าไม่สามารถทนต่อคนไร้ความสามารถได้ แม้ว่าซูอันคนนี้จะค่อนข้างน่ารำคาญ แต่เขาก็มีพรสวรรค์ ข้าไม่ค่อยมีบริวารที่ฉลาดเฉลียวเช่นนี้”
กำลังหลักในการต่อสู้กับราชันลมปราณคือคนสนิทของจักรพรรดิ ได้แก่ ตระกูลหลิว ซึ่งสนับสนุนจักรพรรดินีและพ่อของนางเอง อย่างไรก็ตาม นางมีบริวารชายที่มีความสามารถน้อยเกินไป
จากจุดที่นางยืนอยู่ ราชันลมปราณไม่ใช่ศัตรูเพียงคนเดียว เมื่อนางเอาชนะราชันลมปราณได้ นางต้องกังวลเกี่ยวกับตระกูลของจักรพรรดินี
แม้ว่าการพบกันครั้งแรกของนางกับซูอันจะค่อนข้างไม่ดีนัก แต่หลังจากนั้นเขาก็ทำได้ดีทีเดียว การมีคนอย่างซูอันอยู่เคียงข้างนั้นจะช่วยนางได้อย่างมาก
นางถอนหายใจ ทั้งหมดเป็นความผิดของรัชทายาทที่ไร้ประโยชน์ ข้าจำเป็นต้องดูแลทุกอย่าง
…
ในขณะเดียวกัน ราชันลมปราณกำลังจิบชาในศาลาอื่นภายในวัง กองทหารราชองครักษ์ในเกราะสีทองเดินเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็วและทำความเคารพ “คารวะราชันลมปราณ เรารอคำสั่งของท่านอยู่”
ถ้าเขาสามารถมีแม่ทัพกองทหารฝ่ายซ้ายอยู่ในอาณัติได้ การวางคนของเขาไว้ในกองทหารราชองครักษ์นั้นง่ายยิ่งกว่า
ราชันลมปราณจ้องมองปลาทองที่ว่ายไปมาในทะเลสาบใกล้ ๆ และยิ้ม “เชิญซูอันมาที่นี่” เขากล่าว
กี่ปีแล้วที่ไม่มีใครกล้ายั่วยุเขาแบบนั้น?
ครั้งล่าสุดน่าจะหลายปีก่อน ตอนนั้นมีทหารราชองครักษ์หลายคนแสดงท่าทีเย่อหยิ่งเพราะพวกเขาเป็นองครักษ์ส่วนตัวของรัชทายาท แต่ท้ายที่สุดศีรษะของคนเหล่านั้นทั้งหมดก็ไปอยู่ในกล่องไม้เล็ก ๆ ไม่ใช่หรือ?
เขาเป็นราชันและปราชญ์ เขาจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำให้เขาอับอายขายหน้าได้
นอกจากนี้ หลายคนในฝ่ายของเขาโกรธเคืองกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเฉิงซยง ทุกคนต้องการบางสิ่งบางอย่างเพื่อปลอบประโลมใจ มันเป็นความผิดของไอ้เด็กนั่นที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ!