เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 985 ความสงสัยถูกปลุกเร้า
บทที่ 985 ความสงสัยถูกปลุกเร้า
ทว่าในขณะที่เหตุการณ์กำลังจะเข้าขั้นวิกฤต เสียงที่อ่อนหวานแต่เด็ดขาดลอยมาก่อน “ราชเลขาซู นี่มันก็นานมากแล้ว ทำไมเจ้าถึงยังอยู่ที่นี่อีก!?”
ราชันลมปราณขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงนี้
ในทางกลับกัน ซูอันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขาหันไปเห็นสาวงามในชุดหรูหราซึ่งนำมาโดยกลุ่มราชองครักษ์ ประกอบไปด้วยเผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนอยู่แถวหน้าสุด
เขาทักทายอย่างรวดเร็ว “คารวะองค์หญิงรัชทายาท!”
คนของสำนักมารที่ปลอมตัวเป็นทหารอยู่ต่างก็ก้มศีรษะลงเช่นกัน กู่เยว่อีแอบมองนาง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
สาว ๆ ที่เขาเจอมาทั้งชีวิตล้วนเป็นเป็นหญิงที่เย้ายวน พวกนางมีเสน่ห์อย่างยิ่ง ทว่าไม่มีใครเทียบได้กับผู้หญิงตรงหน้าในแง่ของความสูงส่งและความสง่างาม
เขารู้สึกคอแห้งเมื่อเห็นเครื่องแต่งกายที่สง่างามและการประดับประดาอย่างฟุ่มเฟือย หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรง
โอ๊ย…! คนอะไรจะงดงามได้ปานนี้ ศิษย์น้อง…ข้าไม่ได้นอกใจเจ้านะ แต่องค์หญิงรัชทายาทนี้ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน!
ในแง่ของรูปลักษณ์ ชิวฮัวเล่ยไม่ได้ด้อยไปกว่าองค์หญิงรัชทายาท อันที่จริงหากนับแค่เรื่องของความงาม องค์หญิงรัชทายาทเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่กู่เยว่อีใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเขาในสังคมระดับล่างสุดท่ามกลางกลุ่มคนสำนักมาร จะมีใครที่สูงส่งสง่างามเต็มไปด้วยแรงดึงดูดใจสุดขีดอย่างองค์หญิงรัชทายาทตรงหน้า?
สำหรับคนอย่างเขา องค์หญิงและสตรีผู้สูงศักดิ์คนอื่น ๆ มักจะดูน่าดึงดูดใจมากกว่าผู้หญิงในโลกแห่งการบ่มเพาะ แม้ว่าพวกนางจะมีรูปร่างหน้าตาธรรมดาก็ตาม…
องค์หญิงรัชทายาทค่อย ๆ เดินเข้ามา กลิ่นหอมจาง ๆ จากตัวนางแพร่ไปในอากาศ มันแตกต่างจากน้ำหอมที่ใช้ในหอคณิกา หอมอย่างลึกซึ้งยิ่งกว่า
ราชันลมปราณถามกลับ “หลิงหลง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะใช้ชีวิตอิสระถึงขนาดเดินเตร่มายังที่แห่งนี้ได้”
องค์หญิงรัชทายาทรู้สึกรำคาญเมื่อได้ยินราชันลมปราณเรียกนางด้วยชื่อไม่ใช่ตำแหน่ง เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายจงใจละเลยสถานะของนางเพื่อกดดันนาง อย่างไรก็ตาม นางไม่ได้ถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้ และตอบเพียงว่า “ข้าขอให้ราชเลขาซูดูแลเรื่องบางอย่างให้ข้า แต่เขาไม่ได้กลับมาหลังจากเวลาผ่านมานานแล้ว วังหลวงเพิ่งผ่านเหตุโจมตีมา ข้ากังวลว่าเขาอาจถูกผู้มีเจตนาร้ายโจมตี ข้าเลยตัดสินใจมาที่นี่ด้วยตัวเอง”
ซูอันรู้สึกอบอุ่นขึ้นภายในใจ ภายนอกผู้หญิงคนนี้ดูดุร้าย แต่ข้าคิดว่าแท้จริงแล้วนางมีจิตใจที่ดี
เขาสังเกตเห็นเผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนยืนอยู่ด้านหลังองค์หญิงรัชทายาทเช่นกัน คนพวกนี้คงไปรายงานนาง…
อืม เมื่อทุกอย่างสงบลง ข้าจะพาพวกเขาไปที่หอคณิกาหลวงเป็นการตอบแทน
สมาชิกสำนักมารต่างก็ประหลาดใจ ทั้งหมดไม่คิดว่านายน้อยซูจะมีสถานะสูงส่งทั้ง ๆ ที่เพิ่งอยู่ในวังเพียงไม่เท่าไร แต่แม่ทัพกองทหารฝ่ายขวาก็เรียกเขาว่าน้องชายแล้ว และแม้แต่องค์หญิงรัชทายาทยังดูเหมือนจะเป็นห่วงเขาอย่างมาก
กู่เยว่อีริษยาอย่างยิ่ง ซูอันหล่อกว่าข้าแค่เพียงเศษเสี้ยว ทำไมสาวสวยเหล่านี้ถึงสนใจเขากันนัก?
ศิษย์น้องของข้าก็เป็นแบบนั้น และตอนนี้ดูเหมือนว่าองค์หญิงรัชทายาทจะแสดงกริยาเหมือนศิษย์น้องด้วย แล้วแบบนี้ชายโสดที่เหลือบนโลกควรทำอย่างไรต่อไป!?
ราชันลมปราณยังคงนิ่งเฉย แต่สามารถรับรู้เจตนาแฝงของนางได้ “ดูเหมือนว่าราชเลขาซูจะได้รับความโปรดปรานจากผู้อื่นค่อนข้างง่าย เขาเพิ่งเข้ามาอยู่ในวังได้ไม่เท่าไร แต่หลิงหลงกลับดูแลเขาเป็นอย่างดีเสียแล้ว”
องค์หญิงรัชทายาทรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดเป็นนัยว่า นางทำสิ่งนี้เพราะซูอันหล่อเท่านั้น
ด้วยความโมโห นางจึงตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “ข้าดูแลทุกคนที่ทำงานหนักเพื่อองค์รัชทายาท!”
ราชันลมปราณหัวเราะขบขัน แต่ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้อีกต่อไป “ราชาผู้นี้เพียงต้องการเชิญราชเลขาซูไปสนทนาด้วยกันเท่านั้น เจ้าไม่รังเกียจใช่ไหมหลิงหลง?”
องค์หญิงรัชทายาทหัวเราะเย้ยหยัน “ราชันลมปราณวางใจได้ ข้าจะรออยู่ตรงนี้”
นางแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังเฝ้ามองอยู่ ราชันลมปราณไม่ควรทำอะไรอยุติธรรมต่อซูอัน
ราชันลมปราณหัวเราะแล้วพูดกับซูอันว่า “ตามข้ามา ราชเลขาซู!”
ซูอันโค้งคำนับ…
ราชันลมปราณพยักหน้าและเริ่มเดินไปด้านข้าง
ซูอันลอบโบกมือให้ซุนหลูเจิ้นและคนอื่น ๆ ออกไปทันที
ซุนหลูเจิ้นและคนอื่น ๆ ไม่ได้โง่เขลา พวกเขาใช้โอกาสนี้ถอนตัวไปอย่างเงียบเชียบ มีเพียงกู่เยว่อีเท่านั้นที่ลังเลมององค์หญิงรัชทายาทอย่างไม่เต็มใจเป็นครั้งสุดท้าย
ราชันลมปราณได้จากไปแล้ว มีเพียงผู้ติดตามขององค์หญิงรัชทายาทที่กำลังเฝ้าดูซูอัน ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตพวกเขา
หลังจากเดินออกห่างไปไม่กี่สิบจั้ง ราชันลมปราณก็หยุดที่สวนหิน “มาคุยกันตรงนี้ ไม่งั้นหลิงหลงจะกังวลเพราะนางไม่เห็นเจ้า”
ซูอันตอบรับตามมารยาท “องค์หญิงรัชทายาททรงเห็นอกเห็นใจพวกเรา”
ในขณะเดียวกัน ซูอันก็เยาะเย้ยราชันลมปราณอย่างลับ ๆ เจ้าไม่รู้ตัวจริง ๆ เหรอ? นางแค่ทำแบบนี้เพราะเจ้าเคยฆ่าคนของนางมาก่อน!
ราชันลมปราณมองประเมินเขาด้วยความสงสัย “หลิงหลงไม่เคยสนใจใครมากเท่านี้มาก่อน เจ้าเป็นคนแรก…”
ซูอันยังคงเงียบ เขาสงสัยว่าอีกฝ่ายพูดอย่างนี้เพื่อสร้างประเด็นเกี่ยวกับองค์หญิงรัชทายาท หากองค์หญิงรัชทายาทตกหลุมรักเขาเข้าจริง ๆ ก็คงเป็นไปตามการคาดการณ์ของชายผู้นี้
ราชันลมปราณกล่าวต่อ “ข้าได้ยินมาว่า คุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่แต่งเจ้าเข้าบ้าน ข้าค่อนข้างแปลกใจ เพราะข้าเคยเจอเด็กสาวคนนั้นมาก่อน ไม่ผิดเลยถ้าจะเรียกนางว่าสตรีมากพรสวรรค์ ทุกคนในเมืองหลวงต่างสงสัยว่าผู้หญิงที่โดดเด่นคนนี้จะแต่งงานกับใคร แต่เมื่อพวกเขารู้ว่านางแต่งงานกับเจ้า ดวงตาของพวกเขาก็แทบจะถลนออกจากเบ้า แม้แต่ตัวข้าเองก็ยังรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย ทว่าตอนนี้ แม้แต่องค์หญิงรัชทายาทก็ยังดูแลเจ้าเป็นอย่างดี ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีบางอย่างที่พิเศษกว่าคนทั่วไปจริง ๆ”
ซูอันแสร้งยิ้มเขินอาย “ข้าไม่ได้เก่งหรือมีอะไรดีอย่างที่ท่านว่า ราชันลมปราณ ข้าแค่ทั้งหล่อทั้งเท่และข้าก็ซื่อสัตย์ ซื่อตรง…ไอ้หยา! พูดต่อไปก็คงไม่มีประโยชน์ เพราะข้าไม่สามารถเปรียบเทียบกับราชันลมปราณได้เลย”
เปลือกตาของราชันลมปราณกระตุกด้วยเหตุผลบางอย่าง การพูดกับเด็กเหลือขอคนนี้ทำให้เขาอยากตบอีกฝ่ายให้หัวหลุด
—
ท่านยั่วยุราชันลมปราณสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +213…+213…+213…
—
เขาหายใจเข้าลึกระงับแรงกระตุ้นภายในใจ และเลือกที่จะเปลี่ยนหัวข้ออย่างชาญฉลาด “ราชเลขาซู เจ้าคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับคดีของเฉิงซยง?”
ซูอันแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา “ข้ามาอยู่ที่เมืองหลวงไม่ได้นาน และเป็นเพียงขุนนางชั้นผู้น้อยเท่านั้น ปริมาณข้อมูลที่ข้าเข้าถึงมีจำกัดมาก จึงไม่รู้รายละเอียดมากนักเกี่ยวกับคดีของท่านเฉิง”
ราชันลมปราณอดไม่ได้ที่จะมองเขาอีกครั้ง มีคนหน้าด้านเช่นนี้ในโลกด้วยงั้นเหรอ?
ถ้าองค์หญิงรัชทายาทไม่ได้เฝ้าดูพวกเขาจากระยะใกล้ เขาอาจจะกระทืบเด็กเหลือขอคนนี้จนตาย!
—
ท่านยั่วยุราชันลมปราณสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +300…+300…+300…
—
แม้ว่าปกติแล้วเขาจะฉลาดและสุขุม แต่เด็กคนนี้กลับทำให้เขาค่อนข้างรำคาญ “จากที่ข้ารู้ นักฆ่าเริ่มมีส่วนเกี่ยวข้องกับแม่ทัพเฉิงหลังจากที่พวกเขาได้พบกับเจ้า” ราชันลมปราณพูดอย่างเย็นชา
ซูอันตื่นตระหนก ชายคนนี้มีเครือข่ายข่าวกรองที่กว้างขวาง ถึงขนาดมีดวงตาสอดส่องอยู่ในคุกหลวง!
ซูอันตอบโดยไม่กะพริบตา “ราชันลมปราณ ข้าค่อนข้างแน่ใจว่า ท่านรู้ว่าใครกันแน่ที่ต้องการโค่นแม่ทัพเฉิงอย่างแท้จริง ข้าเป็นแค่เบี้ยตัวนึงเท่านั้น ไม่อาจส่งผลต่อภาพรวมทั้งหมดได้…”
ราชันลมปราณเลิกคิ้วประหลาดใจ “เจ้าค่อนข้างกล้า ข้าแปลกใจที่เจ้ากล้าพูดแบบนี้”
ซูอันทำหน้าซื่อไร้เดียงสาที่สุด “ข้าไม่กล้าปิดบังสิ่งใดต่อหน้าท่านหรอก ราชันลมปราณ”
ราชันลมปราณยิ้มอย่างคลุมเครือ “จริงเหรอ?”