เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 989 ซ่อนเร้นในเงามืด
บทที่ 989 ซ่อนเร้นในเงามืด
บัดซบเอ๊ย! ข้าไม่ควรบอกเขาเลย!
ซูอันรู้สึกเหมือนตัวเองโง่อย่างแท้จริง ข้าโง่! ข้ามันโง่มาก!! ข้าเจอจักรพรรดิองค์นี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยจำว่าศีลธรรมของเขาต่ำแค่ไหน!
ถ้าเขาสามารถรับคะแนนความโกรธแค้นของตัวเองได้ เขาจะต้องได้รับคะแนนถึงหนึ่งพันยี่สิบสี่แต้มในตอนนี้
จักรพรรดิรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับสีหน้าหม่นหมองของซูอัน เขากระแอมก่อนจะพูดว่า “เจ้าไม่ต้องกังวลให้มาก ตราบใดที่เจ้าทำงานให้ข้าอย่างภักดีผนึกนี้จะไม่สำแดงอำนาจ และข้าจะช่วยเจ้าลบออกเมื่อเรื่องต่าง ๆ ได้รับการแก้ไขแล้ว”
ซูอันสาปแช่งชายผู้นี้ในใจอย่างโกรธจัด ข้าเชื่อก็เป็นลาโง่แล้ว! ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจเกินไป
เขารู้ว่า แม้ว่าเขาจะทำภารกิจเหล่านั้นเสร็จ จักรพรรดิก็คงยังไม่ถอดผนึกให้ เขาอาจจะต้องทำงานมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าคุณค่าทั้งหมดจะถูกรีดออกจากตัว…
แม้จะมีความคิดเหล่านี้ แต่ซูอันยังแสร้งทำเป็นน้ำตาไหล “ขอบพระทัย ฝ่าบาท!”
จักรพรรดิพยักหน้าอย่างพอใจ เขาชอบความรู้สึกที่ยึดถือชีวิตของข้าราชบริพารไว้ในกำมือ “ไปได้แล้ว!”
“พะย่ะค่ะ!” ซูอันแสดงความเคารพพร้อมกับสาปแช่งในใจ
ขณะที่เขาออกจากห้องหนังสือส่วนพระองค์ ขันทีเหวินพยักหน้าให้เขาด้วยรอยยิ้ม แต่สำหรับซูอันรอยยิ้มนี้ดูน่ากลัวเป็นพิเศษ
เฮ้อ…ขันทีเหวินคนนี้เป็นใครกันแน่?
ครู่ต่อมาเขาก็ขมวดคิ้ว ความรู้สึกของการถูกสะกดรอยได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ซูอันเข้าควบคุมนกกระจอกน้อยที่อยู่ใกล้เคียง แต่ไม่พบใครต้องสงสัย
ข้ากำลังหวาดระแวงไปเองหรือไม่?
ซูอันส่ายหัว เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก มีแนวโน้มว่าเขาจะเริ่มมีอาการหวาดระแวงไปเองเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่กล้าที่จะลดความระมัดระวังลง เขาเดินไปรอบ ๆ วังหลายครั้งโดยใช้สัตว์ต่าง ๆ สังเกตสิ่งรอบตัว แต่ก็ยังไม่เห็นใครติดตามมา
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกและมุ่งหน้าไปยังที่พักของทูตยุทธ์เสื้อแพรทองหมายเลขสิบเอ็ด เขาต้องบอกเรื่องของซุนหลูเจิ้นแก่อวิ้นเจียนเยว่และพานางออกจากวัง
แม้ชายหนุ่มไม่ต้องการพรากจากสาวงามอย่างอวิ้นเจียนเยว่ แต่การเก็บนางไว้เป็นเรื่องอันตรายเกินไป ถ้าจักรพรรดิรู้เรื่องของนาง หัวของเขาคงหลุดออกจากบ่า
ซูอันเข้ามาใกล้ที่พักที่ถูกซ่อนไว้ เกือบจะรู้สึกเหมือนกำลังกลับบ้านและมีภรรยารออยู่ข้างใน ความคิดนี้ทำให้เขารู้สึกรื่นรมย์อย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม เขายังสัมผัสถึงความรู้สึกว่าถูกติดตามได้ และเพื่อให้แน่ใจเขาจึงแสร้งทำเป็นเดินผ่านหน้าเรือนพักฑูตยุทธ์เสื้อแพรของเขาไปราวกับไม่ใช่บ้านของตัวเอง
เขาวนรอบบริเวณนั้นอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ เขากำลังจะกลับเข้าไป แต่ได้ยินเสียงของอวิ้นเจียนเยว่เตือนขึ้นมาก่อน “อย่าเข้ามา มีคนกำลังติดตามเจ้าอยู่”
อะไรนะ!?
มีคนตามเขามาจริง ๆ!
อวิ้นเจียนเยว่เป็นปราชญ์ ตอนนี้นางฟื้นความแข็งแกร่งบางส่วนแล้ว ประสาทสัมผัสของนางจึงเฉียบแหลมกว่าของเขามาก
“รู้ไหมว่าใคร? ขันทีอ้วนหรือเปล่า?” ซูอันถาม
“เขามีทักษะในการปกปิดที่ดีมาก ข้ายังหายจากอาการบาดเจ็บไม่เต็มที่เลยบอกไม่ได้ว่าเขาเป็นใครและไม่เห็นตัวเขาด้วย แต่ข้ารู้ว่าเขาอยู่ตรงนั้น” เสียงของอวิ้นเจียนเยว่เย็นชา แต่ยังคงไพเราะน่าฟัง
น่าเสียดายที่ตอนนี้ซูอันไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเพลิดเพลินกับเสียงของนาง ขนของเขาลุกไปทั้งแขน
ที่ผ่านมาเขาได้ลองหาวิธีต่าง ๆ มากมายเพื่อค้นหาว่าใครติดตามมา แต่เขากลับคว้าน้ำเหลวโดยตลอดเห็นได้ชัดว่าทักษะปกปิดตัวตนของบุคคลผู้นี้น่าเกรงขามอย่างยิ่ง
ในฐานะคนที่มีความลับมากเกินไป การมีตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้คอยเฝ้าติดตามเขาอยู่นั้นช่างน่ากลัว
“ข้าควรล่อเขาเข้าไปแล้วเราช่วยกันจับดีไหม?” ซูอันปฏิเสธความคิดนี้ทันทีที่ออกปากเสนอ จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิสอดส่องทั่ววังอยู่ในขณะนี้ ถ้าอวิ้นเจียนเยว่เข้ามาเกี่ยวข้อง ความผันผวนของคลื่นพลังที่แผ่ออกไปจะเปิดเผยตัวตนของนาง
“เดี๋ยวนะ ข้ามีความคิด” หลังจากนั้นอวิ้นเจียนเยว่เงียบไป ครู่หนึ่งประตูก็เปิดออก
ซูอันตกตะลึง เกิดอะไรขึ้น?
ทูตยุทธ์เสื้อแพรทองที่สวมหน้ากากเดินออกมาจากเรือนพักของเขา!?
ทูตยุทธ์เสื้อแพรทองอีกคนเข้าไปในเรือนพักของข้าได้อย่างไร?
ซูอันไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น อย่างไรก็ตาม เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่านั่นเป็นเสื้อผ้าของเขา ไม่น่าแปลกใจเลยที่อวิ้นเจียนเยว่ได้ขอชุดเครื่องแบบของเขาก่อนหน้านี้
อวิ้นเจียนเยว่สูงและผอมเพรียว และเดิมทีเครื่องแบบถูกออกแบบมาเพื่อซ่อนตัวตนอยู่แล้ว นางไม่ได้ดูแปลกปลอม แต่กลับดูเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรทองหมายเลขสิบเอ็ดได้อย่างแนบเนียน
ซูอันมองดูนางที่กำลังเดิน เขาไม่รู้จริง ๆ ว่านางสามารถซ่อนผมที่ยาวขนาดนั้นได้อย่างไร แม้ว่าเสื้อผ้าจะไม่เปิดเผยมากนัก แต่เขาอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงส่วนโค้งเว้าของนาง
เครื่องแบบของทูตยุทธ์เสื้อแพรทองนั้นดูสะดุดตาอยู่แล้ว แต่มีเพียงผู้ชายที่สวมใส่มาโดยตลอด เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งสวมมันกลับให้เสน่ห์ในแบบที่ต่างออกไป
เหมือนโดนคนในเครื่องแบบมายั่วยวนใจ อ้า…! นี่มันคล้าย ๆ ตำรวจหญิงของโลกก่อนหน้านี้ใช่ไหม?
ความคิดฟุ้งซ่านแล่นเข้ามาในหัวของซูอัน เขาสะบัดหัว นี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องพวกนี้!
ซูอันรีบเดินเข้าหาและพูดว่า “ท่านสิบเอ็ด! ขอบคุณที่ช่วยองค์รัชทายาทและองค์หญิงเอาไว้”
อวิ้นเจียนเยว่มองเขา ชายคนนี้สวมบทบาทเก่งจริง ๆ นางพึมพำตอบกลับ
จากประสบการณ์ของนาง เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่านางไม่ใช่ผู้ชาย ตราบใดที่นางไม่พูดมาก
ซูอันประสานมือของเขา “ข้าเห็นว่าท่านมีเรื่องที่ต้องดูแล ข้าจะไม่รบกวนท่านแล้ว เชิญท่านตามสบาย”
อวิ้นเจียนเยว่พยักหน้าและเดินออกไปในทิศทางอื่น
นางพูดกับเขาผ่านกระแสพลังชี่ “ข้าจะเดินไปรอบ ๆ คอยดูว่าจะหาคนที่ติดตามเจ้าได้หรือไม่?”
ซูอันตอบกลับ “ไม่ ท่านควรมุ่งหน้าไปที่ประตูวัง ข้าได้ช่วยซุนหลูเจิ้นและคนอื่นทั้งหมดแล้ว ท่านควรใช้โอกาสนี้หนีไปเช่นกัน”
อวิ้นเจียนเยว่เต็มไปด้วยความปีติยินดี นางไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะช่วยชีวิตลูกน้องของนางจากคุกหลวงได้สำเร็จ นางอยากรู้ว่าเขาทำได้อย่างไร แต่นางรู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาไถ่ถาม นางเอ่ยกลับ “เจ้าจะทำอย่างไรถ้าข้าจากไป? มีผู้บ่มเพาะคอยติดตามเจ้าอยู่” น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความกังวล
“ต่อให้ท่านอยู่กับข้า ท่านก็ช่วยข้าต่อสู้ไม่ได้” ซูอันตอบพร้อมกับหัวเราะ “ไม่ต้องห่วง ที่นี่คือพระราชวังหลวง ด้วยจิตสัมผัสของจักรพรรดิที่คอยสอดส่องอยู่ ผู้บ่มเพาะลึกลับคนนี้ย่อมไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามนอกจากติดตามดูข้าไปซักพัก ท่านคือความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้าตอนนี้ เมื่อท่านจากไป ข้าย่อมไม่กลัวอีกว่าใครจะคอยตามดู”
เมื่อได้ยินซูอันบอกว่านางเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา สีหน้าของอวิ้นเจียนเยว่ก็แปลกไป ด้วยเหตุผลบางอย่างคำพูดเหล่านั้นทำให้หัวใจของนางเต้นเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตามนางรีบตั้งสติและพูดว่า “ดีมาก งั้นข้าลาแล้ว ไว้ค่อยหาโอกาสเจอกันทีหลัง”
ขณะที่ทั้งสองเดินจากไปในทิศทางที่ต่างกัน ร่างหนึ่งก็ค่อย ๆ โผล่ออกมาจากเงามืดของต้นไม้ใหญ่
ใครก็ตามที่จ้องมองไปที่จุดนั้นจะต้องขยี้ตาอย่างไม่เชื่อ พวกเขาคงสาบานว่าไม่มีใครเคยยืนอยู่ใต้ร่มไม้นั้นมาก่อน บุคคลนี้ดูเหมือนจะปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่า
“หืม? คนละคนกันนี่? ดูเหมือนท่านราชันลมปราณจะเดาผิด” บุคคลนั้นพึมพำ เขามองไปรอบ ๆ หลังจากลังเลชั่วขณะจึงเดินตามอวิ้นเจียนเยว่ไป
เสียงของอวิ้นเจียนเยว่ดังขึ้นในหัวของซูอัน “คน ๆ นั้นกำลังตามข้ามา”
ซูอันตื่นตระหนก “ระวังตัวด้วย!”