เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 992 สหายของข้าคนหนึ่ง
บทที่ 992 สหายของข้าคนหนึ่ง
“อ่า พระองค์กำลังเล่นอยู่พะย่ะค่ะ” ซูอันยิ้มกว้าง
“เล่น?” องค์หญิงรัชทายาทขึ้นเสียง เห็นได้ชัดว่านางไม่พอใจแกมรำคาญ
นางไม่เสียเวลากับรัชทายาทอีกต่อไป “เจ้าต้องการอะไร?” นางถาม
“กระหม่อมไม่ได้รับข้อมูลใหม่ใด ๆ จากคุกหลวง” ซูอันรายงาน
เขาไม่กล้าบอกนางเกี่ยวกับแผนการป้ายสีราชันลมปราณที่ ‘ช่วย’ นักโทษ เพราะเขารู้ว่านางจะใช้ข้อมูลนั้นเพื่อโจมตีฝ่ายของราชันลมปราณในราชสำนักอีกครั้ง ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ และเรื่องราวจะแตกต่างไปจากที่เขาต้องการอย่างสิ้นเชิง
องค์หญิงรัชทายาทพยักหน้ารับรู้ เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ให้ความหวังกับเรื่องนี้มากนัก
“ว่าแต่ ทำไมจู่ ๆ จักรพรรดิถึงเรียกเจ้าไปเข้าเฝ้าล่ะ?” องค์หญิงรัชทายาทถาม นางไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมจักรพรรดิถึงต้องการพบซูอัน
“จักรพรรดิได้ยินว่าราชันลมปราณเรียกพบกระหม่อม ดังนั้นฝ่าบาทจึงเรียกกระหม่อมไปเน้นย้ำให้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อคอยช่วยเหลือองค์รัชทายาทและองค์หญิงพะย่ะค่ะ” ซูอันตอบ
องค์หญิงรัชทายาทตกใจ “นั่นคือสิ่งที่ฝ่าบาทพูดจริงเหรอ?”
“กระหม่อมจะกล้าโกหกองค์หญิงรัชทายาทได้อย่างไรพะย่ะค่ะ?” ซูอันได้ตอบกลับ “อันที่จริงต่อให้องค์จักรพรรดิมิได้ตรัสเช่นนั้น กระหม่อมก็จะพยายามถวายการรับใช้องค์รัชทายาทและองค์หญิงรัชทายาทให้ดีที่สุดตราบจนวันตายอยู่ดีพะย่ะค่ะ”
“ตราบจนวันตาย…” องค์หญิงรัชทายาททวนคำพูดของเขา นางไม่คิดมาก่อนว่าบุคคลนี้จะมีพรสวรรค์ในด้านวาจาขนาดนี้ ข้าประเมินเขาต่ำไป
อย่างไรก็ตาม นางไม่ใช่คนใจง่าย นางมองซูอันด้วยดวงตาที่สดใส “ทำไมต้องพูดถึงขนาดนี้”
ซูอันจ้องหน้านางนิ่ง “แน่นอนว่าเป็นเพราะองค์หญิงรัชทายาท…”
องค์หญิงรัชทายาทหวั่นไหวเมื่อได้ยินประโยคนี้ แต่ซูอันพูดต่อไปอีก “เพราะก่อนหน้านี้องค์หญิงรัชทายาทปกป้องกระหม่อมจากราชันลมปราณ แม้ว่ากระหม่อมจะร่ำเรียนมาไม่สูง แต่ยังรู้ว่าการตอบแทนบุญคุณคืออะไร กระหม่อมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อช่วยองค์หญิงรัชทายาทอย่างแน่นอน”
องค์หญิงรัชทายาทโล่งใจ “ข้าไม่ค่อยเห็นคนที่ภักดีเหมือนเจ้า” นางกล่าว “ตราบใดที่เจ้ายังคงทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของวังตะวันออก ทั้งองค์รัชทายาทและข้าจะไม่ละเลยเจ้าอย่างแน่นอน”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง วิธีการพูดของผู้ชายคนนี้ทำให้นางนึกถึงท่านสิบเอ็ด… แต่แล้วนางปฏิเสธความคิดนี้ทันที มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
พวกเขาสองคนต่างกันเกินไป!
นางรู้สึกหัวใจเต้นแรงทันทีที่นึกถึงท่านสิบเอ็ด ตอนนั้นทำไมเขาพูดแบบนั้นกับข้า?
หรือเขาอาจจะแค่หยอกล้อข้า?
แต่ทำไมเขาถึงกล้าได้ขนาดนั้น? ข้าเป็นองค์หญิงรัชทายาทและเขาก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของทูตยุทธ์เสื้อแพรที่คอยปกป้องราชวงศ์… เขา…
หรือบางทีข้าอาจจะคิดมากเกินไป? บางทีนั่นอาจไม่ใช่ความตั้งใจของเขา?
แก้มขององค์หญิงรัชทายาทแดงก่ำ “ข้ามีสหายคนหนึ่งที่มีปัญหาที่นางไม่เข้าใจ ข้าอยากจะขอคำแนะนำจากราชเลขาซู”
ซูอันตกตะลึง ผู้หญิงคนนี้จะถามอะไรข้า? “ยินดีพะย่ะค่ะองค์หญิงรัชทายาท”
นางกำลังจะถามคำถามที่นางไม่สามารถถามคนอื่นที่ใกล้ชิดกับนางได้ นอกจากนี้คนรอบข้างนางมีเพียงขันทีและนางกำนัล คนเดียวที่นางสามารถคุยด้วยได้ก็เป็นคนโง่เง่า!
โชคดีที่ซูอันไม่ได้ใกล้ชิดกับนางมากนักและมาจากพื้นเพที่ค่อนข้างธรรมดา เขาอาจจะสามารถเสนอมุมมองที่ต่างไปจากนางได้
องค์หญิงรัชทายาทชะงักครู่หนึ่ง ราวกับกำลังพิจารณาคำพูด “สหายข้า… นี่เป็นปัญหาหนักใจของสหายข้าจริง ๆ นะ เจ้าอย่าได้คิดเป็นอื่นไกล!” นางมองเข้าไปในดวงตาของซูอันและเน้นย้ำประเด็นนี้ ราวกับกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดพลาดไป
ซูอันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “พอแล้วพะย่ะค่ะ กระหม่อมรู้ว่าไม่ใช่พระองค์อย่างแน่นอน องค์หญิงรัชทายาท”
ใบหน้าขององค์หญิงรัชทายาทแดงก่ำ “สหายของข้า… นางรู้จักผู้ชายคนหนึ่ง…” นางกล่าวต่อ “และนางก็ประทับใจผู้ชายคนนั้นมาก… อยู่มาวันหนึ่ง จู่ ๆ ชายคนนั้นก็บอกข้…แค่ก ๆๆ ผู้ชายคนนั้นพูดบางอย่างแปลก ๆ กับสหายของข้า ซึ่งสหายของข้าไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร…”
ซูอันเกิดนึกรู้ขึ้นมา “ชายคนนั้นพูดอะไรแปลก ๆ กับพระองค์… แค่ก ๆ กับสหายของพระองค์เหรอ?”
“ใช่…ใช่…” องค์หญิงรัชทายาทตอบกลับอย่างกระอักกระอ่วน
แม้จะลังเลและสับสนอยู่มาก แต่ท้ายที่สุดนางก็ยังตัดสินใจบอกเล่าคำพูดที่ซูอันซึ่งสวมรอยเป็น ‘สิบเอ็ด’ ได้พูดกับนางเมื่อตอนที่อยู่ตรงประตูวัง ก่อนจะกล่าวเสริมว่า “สหายของข้าค่อนข้างมีสถานะพิเศษ ดังนั้นนางจึงไม่มีโอกาสได้อยู่กับผู้ชายคนนั้น เขารู้เรื่องนี้เช่นกัน แต่เขายังคงพูดเช่นนั้นได้อย่างไร?”
ซูอันมีสีหน้าแปลก ๆ เขาไม่คิดว่าคำพูดที่เขาพูดเพื่อช่วยอวิ้นเจียนเยว่จะทำให้ผู้หญิงคนนี้ว้าวุ่นใจ เขาต้องอธิบายตัวเอง “บางทีผู้ชายคนนั้นอาจมีบุคลิกแบบนั้น หรือบางทีมันอาจจะเป็นแค่คำถามธรรมดา ๆ และไม่ได้มีความหมายอะไรไปมากกว่านั้นพะย่ะค่ะ”
น่าเสียดายที่องค์หญิงรัชทายาทจ้องหน้าเขาเขม็งทันทีและกล่าวว่า “ไร้สาระ! ผู้ชายคนนั้นสงบนิ่งน่าเกรงขาม! เขาไม่ใช่คนเหลาะแหละไร้ยางอายเช่นเจ้า!”
ซูอันพูดไม่ออก ข้าเดาว่าเมื่อตกหลุมรักใครสักคน เจ้าจะมองคน ๆ นั้นผ่านมุมมองสีกุหลาบเพียงอย่างเดียว เจ้าจะคิดแต่สิ่งดี ๆ เกี่ยวกับคน ๆ นั้นอย่างไม่มีข้อกังขา…
ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยรอยยิ้มลึกลับว่า “ดูเหมือนว่าองค์หญิงรัชทายาทจะคุ้นเคยกับบุคคลนี้มากทีเดียว”
อัตราการเต้นของหัวใจขององค์หญิงรัชทายาทเพิ่มขึ้นทันทีเมื่อนางได้ยินคำถามของซูอัน และนางก็ตระหนักว่านางประพฤติตัวค่อนข้างมีพิรุธ “สหายข้าเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้ฟัง!” นางเสริมอย่างรวดเร็ว
ซูอันไม่ได้เปิดโปงนาง “บางทีบุคคลนั้นอาจมีความรู้สึกที่ดีเกี่ยวกับพระองค์… แค่ก ๆ กระหม่อมหมายถึงสหายของพระองค์ แม้เขาจะรู้ว่ามีสถานะที่ไม่คู่ควรกัน แต่เขาไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้ จึงเป็นเหตุผลที่เขาพูดจาคลุมเครือกับ… กับพระสหาย… เพื่อแสดงความเสน่หาของเขา”
ในฐานะราชาแห่งท้องทะเล*[1] ที่ประสบความสำเร็จ เขามักจะพยายามโยนปลาลงไปในทะเลของ เขาโดยไม่คำนึงว่าปลาเหล่านี้จะมีประโยชน์หรือไม่
“โอ้?” ริมฝีปากขององค์หญิงรัชทายาทกลายเป็นรูป ‘O’ ขนาดใหญ่ หัวใจของนางเริ่มเต้นแรง นี่เป็นสิ่งที่ท่านสิบเอ็ดหมายถึง?
แต่… แต่ตัวตนของเรา… เราจะ…
ครั้งแรกที่นางได้พบกับรัชทายาท นางแค่คิดว่าเขาช้าไปหน่อย นางพยายามใช้วิธีต่าง ๆ มากมายเพื่อสอนและเปลี่ยนแปลงเขา แต่เขาก็ยังเป็นคนโง่อยู่ดี หลังจากพยายามนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดนางก็ยอมแพ้
นางแต่งงานกับรัชทายาทเพื่อตระกูลเป็นหลัก ทั้งสองฝ่ายไม่รู้สึกอะไรต่อกัน เมื่อนางเห็นว่าเขาไม่สามารถหล่อหลอมด้วยวิธีใด ๆ ได้ หัวใจของนางก็ค่อย ๆ ด้านชาประหนึ่งหิน
ทว่าน่าแปลกที่หัวใจที่เยือกเย็นราวกับหินนี้กำลังเต้นอย่างดุเดือด นางรู้สึกมีพลังราวกับคาดหวังว่าช่วงเวลาต่อไปของชีวิตจะนำมาซึ่งสิ่งแปลกใหม่และน่าตื่นเต้น
หรือว่านี่คือพลังแห่งความรัก?
นางตกใจมากกับความคิดนี้ นางหยุดคิดทันที จากนั้นจึงมองซูอัน “สหายของข้ามีสถานะพิเศษ ดังนั้นเจ้าไม่สามารถบอกเรื่องนี้กับใครได้ หากทำให้นางโมโห เจ้าจะไม่สามารถจัดการกับผลที่ตามมาได้!”
ซูอันฝืนยิ้ม “ไม่ต้องกังวลพะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ปากโป้ง”
ข้าสงสัยว่านางจะทำอย่างไรในวันที่นางรู้ตัวตนที่แท้จริงของข้า อืม… บางทีนางคงจะอายมากจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีก็ได้หรือเปล่า?
ฉากนั้นเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การรอคอย!
*[1] ราชาแห่งท้องทะเล เป็นคำแสลงของชายเจ้าสำราญ