เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1031 สับพวกเจ้าเป็นหมื่นๆ ชิ้น + ตอนที่ 1032 รีบหนีเถอะ
ตอนที่ 1031 สับพวกเจ้าเป็นหมื่นๆ ชิ้น + ตอนที่ 1032 รีบหนีเถอะ
ตอนที่ 1031 สับพวกเจ้าเป็นหมื่นๆ ชิ้น
ระหว่างที่พวกนางถอยออกไป กระบี่ยาวจู่โจมมาอีกครั้ง พวกนางเห็นเพียงว่าประกายสีดำตรงหน้าสว่างวาบ พลังกระบี่หนาวเย็นตรงเข้ามา เมื่อถูกพลังกระบี่ทำร้ายแล้วรู้สึกว่าประกายเย็นเยียบซึมเข้าไขกระดูก ความเจ็บแผ่ไปทั่วร่าง
“อั่ก! เฟิ่งจิ่วเจ้าสมควรตาย!”
ภายใต้แรงกดดันโบราณของเฟิ่งจิ่ว ทั้งสามคนเข้าใกล้ตัวฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เลย สองสามกระบวนท่าต่อมาพวกนางก็บาดเจ็บจากพลังกระบี่ของเขา ขณะพวกนางอับอายจนโกรธเคือง ก็เห็นควันไฟพวยพุ่งไปทั้งภูเขา ควันไฟเหล่านั้นแผ่วงกว้างออกไป ไอสังหารทั่วร่างพวกนางปะทุขึ้นมา
“เจ้าทำลายน้ำพักน้ำแรงของพวกเรา! ข้าจะฆ่าเจ้า!”
แรงกดดันทั่วร่างของผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณขั้นกลางพวยพุ่งออกไป เปิดเผยพลังทั้งหมดออกมา กระบี่ยาวอาบประกายสีเลือดปรากฏขึ้นในมือนาง เวลาต่อมาเห็นแต่นางทะยานไปเบื้องหน้า กระบี่ยาวในมือรวบรวมกลิ่นอายพลังวิญญาณในอากาศก่อนฟันโจมตีไปยังเฟิ่งจิ่วด้วยอานุภาพถล่มฟ้าทลายดิน
แรงกดดันระดับกำเนิดวิญญาณขั้นกลางระเบิดปะทุ พลังทะยานขึ้นสูง ทันใดนั้นก็กลายเป็นกระแสธารเข้าปะทะกับกลิ่นอายแรงกดดันของเฟิ่งจิ่ว พายุทรายฝุ่นควันพลันม้วนตลบจากพื้นขึ้นไปบนอากาศ กระแสพลังกดดันที่ส่งเสียงหวีดหวิวก่อตัวเป็นเกลียวคลื่น จากนั้นกลายเป็นมังกรสองตัวพุ่งชนกันกลางอากาศ
เฟิ่งจิ่วในชุดแดงกับผู้ฝึกตนหญิงระดับกำเนิดวิญญาณที่เสื้อผ้าเผยเนื้อหนังประมือกันตั้งแต่พื้นดินไปถึงกลางเวหา แรงกดดันอันแข็งแกร่งกระจายในอากาศ แผ่ออกไปสามสิบจั้ง แม้แต่ทุกคนที่สู้กันตรงเชิงเขาภายใต้แรงกดดันนี้ก็เลือดลมในร่างปั่นป่วน ต้องล่าถอยด้วยความรวดเร็วอย่างสู้ต่อไปไม่ได้
ภายใต้แรงกระตุ้นจากการต่อสู้ ลูกศิษย์สำนักร่วมเริงรมย์ที่สูดควันเข้าไปแต่ละคนเหมือนสูญเสียเรี่ยวแรง ล้มลงบนพื้นต่อสู้ไม่ได้อีก
ต้วนเยี่ยกับหนิงหลางสองคนเห็นเช่นนี้ก็ร่วมมือกันเก็บเกี่ยวผลผลิต อาศัยตอนยาออกฤทธิ์คร่าชีวิตพวกเขาเสีย
ตรงไหล่เขา เมื่อผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณขั้นเริ่มต้นสองคนเห็นภาพการต่อสู้กลางอากาศ อีกทั้งเห็นภาพเบื้องล่าง ก็อดสูดลมหายใจยะเยือกไม่ได้ ตระหนกตกใจเหลือประมาณ
“ทะ ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?”
สำนักของพวกนางที่เพิ่งก่อตั้งไม่นานมาก ลูกศิษย์ที่ชุบเลี้ยงมาหลายปี ยามนี้กำลังถูกทำลายและสังหาร…
“พวกเจ้าสมควรตาย!”
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว การต่อสู้กลางอากาศพวกนางเข้าไปร่วมด้วยไม่ได้ เช่นนั้นก็ฆ่าสองคนด้านล่างเสียก่อน! คลื่นจิตสังหารสูงเทียมฟ้า เพียงเกิดความคิด สองร่างก็พุ่งไปหาต้วนเยี่ยกับหนิงหลางตรงเชิงเขา
หนิงหลางกำลังตามต้วนเยี่ยไปปลิดชีพผู้ฝึกวิชามารเหล่านั้น ด้วยเป็นถึงผู้สืบทอดคนต่อไปของตระกูลใหญ่ การฝึกฝนเลี้ยงดูที่ได้รับจึงแตกต่างจากคนทั่วไป เรื่องเข่นฆ่าเช่นนี้พวกเขาไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะเมื่อคนที่ถูกฆ่าเป็นผู้ฝึกวิชามาร ยิ่งลงมือได้โดยไม่ลังเล
ทว่าตอนนี้พลันรู้สึกเสียวสันหลัง สัญชาตญาณการเอาตัวรอดทำให้พวกเขารู้สึกถึงอันตรายจากความตายและหันไปมองอย่างรวดเร็ว ครั้นมองไป หนิงหลางตกใจจนร้องเสียงหลง
“อ๊าก! แย่แล้ว! ต้วนเยี่ย วิ่งเร็วเข้า นางปีศาจเฒ่าสองคนนั้นมาแล้ว!”
หนิงหลางลากต้วนเยี่ยวิ่งไปอย่างตื่นกลัว ไม่มีเวลาสนใจจะเอาชีวิตผู้ฝึกวิชามารบนพื้น พวกเขาสองคนรวมกันยังสู้นางปีศาจเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณคนเดียวไม่ไหว ขืนไม่วิ่งมีแต่จะโดนฆ่า
ต้วนเยี่ยหันไปมอง เห็นแต่นางปีศาจเฒ่าสองคนนั้นพุ่งมาจากไหล่เขา ดวงตาเผยประกายเย็นเยียบ ไอสังหารคุกรุ่น เขายังไม่ทันตอบสนองก็ถูกหนิงหลางลากตัววิ่งไป ความเร็วสูงในการวิ่งหนีเกือบทำให้เขาล้มหน้าคว่ำโดยไม่ทันระวัง
“พวกเจ้าหนีไม่พ้นหรอก! ทำลายภูเขาของข้า สังหารลูกศิษย์ข้า ข้าจะสับพวกเจ้าเป็นหมื่นๆ ชิ้นให้จงได้!”
………………………………………………….
ตอนที่ 1032 รีบหนีเถอะ
เสียงเคียดแค้นพร้อมด้วยจิตสังหารมากล้นแผ่ออกไปจากกลางอากาศ ภายใต้การขับเคลื่อนของโทสะ แรงกดดันระดับกำเนิดวิญญาณทำให้เสียงของพวกนางดังสนั่นปานสายฟ้าฟาด สะเทือนจนกระแสลมกลางอากาศผันผวน
ต้วนเยี่ยโดนลากวิ่งทะยานไป เมื่อหันกลับไปมอง เห็นสิงโตไฟกำลังจุดไฟรอบทิศ จึงรีบร้อนตะโกนลั่น “สิงโตไฟ วิ่งเร็ว!”
สองผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ คนหนึ่งไล่ตามสิงโตไฟ อีกคนไล่ล่าต้วนเยี่ยกับหนิงหลาง ตอนได้ยินเสียงตะโกนของต้วนเยี่ย นางแค่นเสียงขึ้นจมูกทันที “ดูแลตัวเองดีๆ เถอะ! วางใจได้ เจ้าตายไป สัตว์ในพันธสัญญาของเจ้าก็จะตามหลังเจ้าไปด้วย!”
ความเร็วของผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับพริบตาเดียวก็จะไล่ทันด้านหลังพวกเขา ต้วนเยี่ยกัดฟันเอ่ยว่า “หนิงหลาง ปล่อยข้าเสีย ข้าจะสู้ตายกับนางปีศาจเฒ่านี่!”
“สู้ตายอะไรกัน นางปีศาจเฒ่านั่นเป็นตัวประหลาดเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณ เจ้ากับข้าเป็นแค่ระดับสร้างรากฐานเท่านั้น สิบคนรวมกันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนางปีศาจเฒ่านั่นเลย วิ่งเร็วเข้า อย่าพูดมาก”
ความเร็วในการวิ่งของเจ้าอ้วนหนิงหลางไม่ช้าเลย เขาวิ่งไปพลางปาดเหงื่อ เพราะความเคร่งเครียดและอกสั่นขวัญแขวน จึงไม่กล้าผ่อนคลายชะลอความเร็ว จนลากต้วนเยี่ยวิ่งไปให้นางปีศาจเฒ่าด้านหลังตามล่า
เขาหันไปมองแวบหนึ่ง หอบหายใจกล่าวว่า “ชะ โชคดีที่ตอนแรกข้าไม่เรียนอย่างอื่น เรียนแต่วิธีหนีเอาชีวิตรอด ต้วนเยี่ย จะ เจ้าต้องขอบคุณข้า มิเช่นนั้นเจ้าโดนนางปีศาจเฒ่าจับได้นานแล้ว รอหลังจากข้ากลับไปบ้านเจ้า อย่าลืมส่งของขวัญขอบคุณมาที่บ้านข้าบ้างล่ะ เป็นของมีราคาจะดีที่สุด หากไม่ได้เอาเป็นหระ เหรียญทองก็พอ จะได้ไม่เสียทีที่ข้าเสียแรงลากเจ้าไม่ปล่อยเช่นนี้ ฮู่ ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว…”
ต้วนเยี่ยก็รู้สึกได้เช่นกัน ความเร็วในการวิ่งหนีของหนิงหลางไม่ช้าแม้แต่น้อย ประดุจทาน้ำมันไว้ใต้เท้า ลากเขาวิ่งไปยังไม่ช้ากว่าเขาแม้แต่ครึ่ง แต่ทำเช่นนี้ต่อไปก็ไม่ใช่ทางออกอยู่ดี
“นางปีศาจเฒ่าใกล้ตามมาทันแล้ว หนิงหลาง เจ้าปล่อยข้าเร็ว มิเช่นนั้นจะต้องตายกันทั้งคู่”
“ปล่อยอะไรเล่า ข้าเป็นคนใจร้ายเพียงนั้นเชียว?” เขาหันไปด่าทอ แต่เมื่อเห็นนางปีศาจเฒ่าซึ่งอยู่ในระยะสองจั้ง ก็ตกใจเสียจนร้องเสียงหลง “อ๊าก! นางปีศาจเฒ่าไล่ตามมาแล้ว!”
“เจ้าอ้วนบ้า! หุบปาก!”
ผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณได้ยินสองคนข้างหน้าพูดคุยกันขณะวิ่ง เรียกนางว่านางปีศาจเฒ่าครั้งแล้วครั้งเล่า ก็โกรธจนหน้าแดงก่ำ ไอชั่วร้ายเอ่อล้น ครั้นเห็นทั้งสองคนอยู่เบื้องหน้า ฝ่ามือจึงรวบรวมกระแสลมทรงพลังจู่โจมไปข้างหน้าโดยพลัน
“จงเงียบปากไปตลอดกาลเสีย!”
คนทั้งสองหันกลับไปมองแล้วตื่นกลัวทันที อยากจะหลบหลีกแต่แรงเฉื่อยที่วิ่งไปข้างหน้าทำให้หยุดขาและเปลี่ยนทิศทางไม่ได้ในทันที ยามเห็นการโจมตีซึ่งแฝงด้วยกระแสลมทรงพลังโถมเข้ามา สองคนที่รู้แก่ใจว่าหลบไม่พ้นใจหายวาบ กัดฟันคิดจะฝืนต้านการโจมตี
แต่ในเวลานี้เอง ได้ยินเพียงเสียงคำรามเกรี้ยวกราดสะเทือนแก้วหูลอยมา สองคนหันมอง ทว่าทันเห็นเพียงร่างสีขาวชนพวกเขาออกไป แรงนั้นทำให้พวกเขากลิ้งบนพื้นเกือบสามจั้ง หลังจากลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ถึงจะเห็นชัดเจนว่าร่างที่ชนพวกเขาคืออสูรกลืนเมฆาของเฟิ่งจิ่ว
“โฮก!”
ยามนี้กลืนเมฆาผู้สง่าผ่าเผยกลับคืนสู่ร่างเดิมที่น่าเกรงขาม พลังอำนาจและแรงกดดันของสัตว์เทวะทั้งหมดเผยออกมาหมดสิ้นตามร่างกายที่คืนสภาพเดิม รูปร่างของมันสูงใหญ่ เหมือนเสือและคล้ายสิงโต ยืนคุ้มกันต้วนเยี่ยกับหนิงหลางอยู่เบื้องหน้าด้วยท่าทางข่มขวัญคน
“กลืนเมฆา!”
พวกเขาร้องเรียกอย่างตื่นเต้น ยากจะปกปิดความยินดีในใจไว้
………………………………………………….