เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1079 ตีวัวข้ามภูเขา + ตอนที่ 1080 นั่นไม่ใช่สัตว์เลี้ยง
ตอนที่ 1079 ตีวัวข้ามภูเขา + ตอนที่ 1080 นั่นไม่ใช่สัตว์เลี้ยง
ตอนที่ 1079 ตีวัวข้ามภูเขา
ร่างกายต้วนเยี่ยกระโจนไปข้างหน้าอย่างไม่อาจต้านทาน ถูกดึงไปข้างหน้าประหนึ่งโดนควบคุม เห็นมือที่จับเป็นกรงเล็บของคนคนนั้นจะคว้าเข้าลำคอของเขา ดวงตาแวววาว เวลาต่อมาก็แผดเสียงเบาๆ
“กงจักรฟันเสีย!”
เพียงเห็นว่าของวิเศษกงจักรแปดดาราปรากฏในมือของเขา กงจักรแปดดาราที่ปล่อยกระแสลมรุนแรงลอยออกจากในมือตามคำสั่งของเขา แล้วฟันไปยังผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังตรงหน้า
เพราะผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังไม่นึกว่าเขาจะโจมตีได้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เห็นกงจักรที่แฝงด้วยกระแสลมดุดันลอยฟันมาราวใบมีดคมกริบ ก็ตกใจเสียจนสีหน้าเปลี่ยนไป จึงหดมือกลับและถอยหลังไปโดยเร็ว
ทว่ากงจักรแปดดาราเดิมเป็นของวิเศษ มันจะไล่ตามติดไปตามดวงจิตของต้วนเยี่ย และฟันพลังดาบอันดุร้ายออกไปด้วยความเร็วปานสายฟ้า
“อึก!”
ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังถอยไปพลาง เสื้อคลุมบนร่างโดนกระแสลมที่ปะทุออกมากรีดขาด ตรงกลางเปิดกว้างกลายเป็นเช่นชุดเปิดเป้าแขวนไว้บนร่าง ขณะเขาถอยหลังไปอย่างอับอาย กงจักรก็ฟันกระแสลมออกไปอีกครั้ง กรีดร่างกายของเขาเป็นรอยเลือดที่ลึกเห็นกระดูกได้
“อ๊าก!”
ระหว่างเสียงร้องเจ็บปวดดังขึ้น ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังถูกกดดันเสียจนไม่หยิบกระบี่ยาวมาสกัดไม่ได้ ทว่ากระบี่ของเขาจะเทียบของวิเศษของต้วนเยี่ยได้อย่างไร?
เพียงได้ยินเสียงแกร๊งลอยออกไป เสียงแตกหักดังขึ้น กระบี่ยาวที่ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังมาใช้ต้านทานกระแทกไปบนกงจักรแปดดาราทันที สองอาวุธชนกันกระบี่ยาวหักลง กงจักรแปดดาราพลันฟันเข้ากลางคิ้วของผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลัง ความเร็วว่องไวทำให้ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังด้านหลังคิดจะช่วยเหลือยังไม่ทัน
“เฮือก! ปะ เป็นไปได้อย่างไร!”
ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสูดลมหายใจอย่างตื่นตระหนก พร้อมเบิกตามองผู้ฝึกตนไร้สำนักระดับหลอมแก่นพลังโดนต้วนเยี่ยฆ่า กงจักรแปดดาราฟันเข้ากลางคิ้วของผู้ฝึกตนไร้สำนักเช่นนั้น กงจักรตรึงอยู่ในผิวเนื้อ มีแต่เลือดหยดลงจากกงจักร
ผู้ฝึกตนไร้สำนักอาจไม่คิดว่าตนเองจะตายในเงื้อมมือของผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐาน ถึงตายไปดวงตาของเขายังเปิดนิ่ง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจและไม่ยอม…
“เก็บมา!”
ต้วนเยี่ยตะโกนเบาๆ กงจักรที่ฝังตรงกลางคิ้วของผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังกลับไปในมือของเขา แล้วผู้ฝึกตนไร้สำนักระดับหลอมแก่นพลังก็ล้มลงตามไปและหมดลมหายใจ
บนต้นไม้เฟิ่งจิ่วที่เห็นภาพเช่นนี้เผยสีหน้าพอใจ แอบๆ พยักหน้า แม้ต้วนเยี่ยใบหน้าอ่อนวัยแต่พละกำลังพูดได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดในทั้งสี่คน ลงมือทั้งเด็ดขาดและโหดเหี้ยม สะอาดหมดจดเหนือความคาดหมาย เขาปลิดชีพผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังได้ เธอกลับไม่รู้สึกแปลกใจ
สายตาหยุดบนร่างของเขาสักพักก็เคลื่อนออกไปยังในคนพวกนั้นเบื้องหน้า เพียงเห็นตรงนั้นกลายเป็นสงครามกลางเมือง ท่ามกลางควันหนาผู้ฝึกตนไร้สำนักล้มลงไปทีละคนๆ
ส่วนพวกของซ่งหมิงก็ไม่ดีสักเท่าไร บนร่างแต่ละคนล้วนมีบาดแผลเล็กใหญ่ แม้แต่แขนของหนิงหลางระหว่างตะลุมบอนยังถูกพลังกระบี่ฟันไปหลายแผล เลือดไหลออกมา ทำให้เขาตะโกนเสียงดังอย่างแค้นเคือง เขาที่เหลืออดจึงพุ่งเข้าไปชนผู้ฝึกตนไร้สำนักคนหนึ่งในนั้นทันที
“ข้าจะสู้ตาย!”
สิ้นเสียงคำรามเกรี้ยวกราด เรี่ยวแรงของเขาถูกกระตุ้นออกมา ขณะชนคนแรกออกไปก็พุ่งไปหาคนสองคนที่เหลือ สองมือของเขาพลันกำหมัดแน่น แล้วกัดฟันทุ่มแรงเหวี่ยงหมัดไปอย่างบ้าคลั่ง พร้อมปากตะโกนลั่น
“ตีวัวข้ามภูเขา!”
………………………………………………….
ตอนที่ 1080 นั่นไม่ใช่สัตว์เลี้ยง
“ผัวะ!”
เสียงหนักๆ ดังออกไปอย่างแรง เพียงเห็นเขาเหวี่ยงสองหมัดชกออกไป ตรงหมัดเอ่อล้นไปด้วยกลิ่นอายพลังวิญญาณที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ขณะเขาชกสองหมัดลงไปกลิ่นอายพลังวิญญาณก็โจมตีไปด้านหลัง พุ่งชนตั้งแต่คนแรกไปยังคนสุดท้าย
“อื้อ!”
ผู้ฝึกตนไร้สำนักเพียงโค้งเอวร้องเสียงอู้อี้ ผู้ฝึกตนคนที่สองที่สามกลับส่งเสียงกรีดร้องด้วยสีหน้าขาวซีด โดยเฉพาะคนสุดท้ายที่โดนกระแทกยิ่งเลือดพุ่งขึ้นจากลำคอและกระอักออกมาทันที ร่างกายยังกระเด็นตามออกไปชนเข้าต้นไม้อย่างแรง
“ตุบ! ตุบๆ!”
เสียงร่วงลงพื้นดังขึ้นติดต่อกัน นอกจากสองคนข้างหน้าจะฝืนลุกขึ้นยืนได้ คนด้านหลังหลังจากกระอักเลือดแม้แต่ร้องออกมายังไม่ได้ เหมือนจะหายใจไม่ออก อวัยวะภายในเจ็บอย่างรุนแรงและขดตัวบนพื้น กระทั่งทนความเจ็บแทบขาดใจไม่ไหวจึงสิ้นใจไป
“ซี๊ด! เจ้าอ้วน ได้เลย!” ลั่วเฟยดวงตาเป็นประกาย เอ่ยอย่างตะลึงเล็กน้อย “นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะเรียนรู้วิชาตีวัวข้ามภูเขา ศิลปะประจำตระกูลของเจ้าได้ชำนาญแล้ว?”
หนิงหลางถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วเก็บมือหันกลับไปถลึงมองลั่วเฟย “บอกว่าอย่าเรียกข้าเจ้าอ้วน ตอนนี้เป็นช่วงที่ร่างกายกำลังเติบโต อีกหน่อยก็ผอม”
“เอาล่ะ! ไปต่อเถอะ! อาศัยตอนพวกเขาชุลมุนปลดชีพพวกเขาเสีย!” ซ่งหมิงตะโกน ร่างกายพุ่งออกไปอีกครั้ง เกาทัณฑ์แขนเสื้อในมือก็โจมตีออกไปภายใต้การรวมพลังจากกระบี่คมในมือขวา
บนต้นไม้ทางนั้นเฟิ่งจิ่วที่เห็นภาพเช่นนี้ถอนหายใจออกมาเบาๆ แม้สี่คนนี้ล้วนอายุสิบกว่า แต่ทุกคนต่างมีความสามารถป้องกันตัว วันนี้เห็นกำลังต่อสู้ของพวกเขาก็พอใจอย่างยิ่ง
ผู้ฝึกตนไร้สำนักระดับหลอมแก่นพลังคนที่เหลือเห็นสถานการณ์ไม่ดีจึงตั้งใจจะหนีเอาตัวรอด เห็นเด็กหนุ่มพวกนี้ลงมืออย่างร้ายกาจ ทักษะต่อสู้กับของวิเศษใดๆ ล้วนมี ก็รู้แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าหรือเก็บสิ่งของติดตัวพวกเขา โดยเฉพาะเมื่อคนของพวกเขาเหลือไม่กี่คน ยิ่งจะอยู่ต่อไปไม่ได้
เขาถอยหลังไปทีละก้าวๆ คิดจะหนีออกไป ทว่าทันทีที่เขาหมุนตัวจะหนีไปเพียงได้ยินเสียงคำรามดังขึ้น ร่างขาวกลมพุ่งผ่านไปทันใด อสูรสัตว์เลี้ยงตัวน้อยทำท่าทางเช่นพยัคฆ์ขวางอยู่เบื้องหน้าเขา พร้อมเปล่งเสียงคำราม
“หึ!”
ผู้ฝึกตนไร้สำนักหัวเราะเยาะ จ้องมองอสูรสัตว์เลี้ยงที่พองขนทำท่าจะจู่โจมอย่างน่ากลัว ก่อนจะยิ้มอย่างเย็นชา “ทำไม? แม้แต่เจ้าก็คิดว่าจะรังแกข้าได้ง่ายๆ หรือ? คิดขวางทางข้า? ไม่ดูเสียหน่อยเล่าว่าเจ้าเป็นตัวอะไร!”
กล่าวจบเพียงเห็นเขาสะบัดแขนเสื้อ กลิ่นอายพลังวิญญาณเข้มข้นพุ่งพล่านออกไป คิดจะเหวี่ยงอสูรสัตว์เลี้ยงตัวกลมสีขามบนพื้นออกไป ใครจะรู้ว่าเขาเพิ่งขยับมืออสูรสัตว์เลี้ยงก็กระโดดขึ้นเบาๆ และเผยกรงเล็บแหลมคมกระโจนไปหาเขา
แค่เห็นลำแสงสีขาวแวบไปเบื้องหน้า ถึงขั้นว่าเขายังมองไม่ชัดเจน ใบหน้าก็รู้สึกถึงความเจ็บแสบที่ร้อนผ่าวๆ
“อ๊าก!”
เขาร้องอุทาน ระหว่างที่หัวใจสั่นเทิ้มก็ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว แล้วยื่นมือยกขึ้นสัมผัสอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นเลือดที่เปื้อนบนมือก็ตกใจ
อสูรสัตว์เลี้ยงมีความเร็วเช่นนี้ด้วย? หรือจะไม่ใช่อสูรสัตว์เลี้ยง? แต่เป็นสัตว์ร้าย? เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ สีหน้าของเขาซีดเผือด มองไปทางเด็กหนุ่มชุดแดงตรงกิ่งไม้ ก็สบเข้ากับสายตาที่เหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มของเขา สายตานั้นคล้ายกำลังยิ้มเยาะเขา ระหว่างที่รู้สึกเสียหน้าและโกรธเคืองยังทำให้เขายิ่งอกสั่นขวัญแขวนกว่าเดิม…
………………………………………………….