เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1187 พบกันโดยบังเอิญ + ตอนที่ 1188 คนอยู่สำนักโอสถตะวัน
ตอนที่ 1187 พบกันโดยบังเอิญ + ตอนที่ 1188 คนอยู่สำนักโอสถตะวัน
ตอนที่ 1187 พบกันโดยบังเอิญ
“ข้าต้องการชุดนี้” เฟิ่งจิ่วให้สัญญาณเคาะๆ หน้าโต๊ะ
“ยินดีขอรับ” ใบหน้าเจ้าของร้านเผยรอยยิ้ม หยิบชุดเครื่องประดับผมมาวางในถาด ถือไว้ในมือและตามไปข้างหลังเฟิ่งจิ่ว
“เก็บชุดนี้มาด้วย” เธอชี้เครื่องประดับผมอัญมณีสีฟ้าครามอีกชุดหนึ่งในตู้ คิดว่าส่งชุดนี้ให้แม่ของเธอแล้วกัน!
“ได้ขอรับ”
เจ้าของร้านหรี่ตายิ้ม ก่อนจะหยิบและตามไปต่อ พลางเอ่ยว่า “คุณชายตาแหลมจริงๆ เครื่องประดับผมของพวกเราที่นี่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทั่วเมืองหลวงร้านเครื่องประดับของเราใหญ่และครบเครื่องที่สุด อีกอย่างเครื่องประดับผมเป็นเครื่องหมายของพวกเรา คุณภาพชั้นหนึ่ง”
เฟิ่งจิ่วเดินวนข้างใน มองไปพักหนึ่งมีแค่เครื่องประดับผมสองชุดที่เข้าตา จึงบอกว่า “เอาล่ะ คิดเงินเถอะ!”
“ขอรับ คุณชายเชิญมาทางนี้” เจ้าของร้านเชิญเฟิ่งจิ่วไปข้างหน้า หลังจากช่วยเขาคิดเงินก็เก็บสิ่งของเข้ากล่องเครื่องประดับใบประณีต
“อยากจะเข้ามาตั้งแต่สองวันก่อนแต่ที่ผ่านมาไม่มีเวลา ข้าจะบอกพวกเจ้านะ นี่… เจ้า!”
สาวน้อยรูปโฉมโดดเด่นสามคนเดินเข้ามาพร้อมกัน ทว่าสาวน้อยสวมชุดกระโปรงแดงคนหนึ่งในนั้นเห็นเฟิ่งจิ่วที่กำลังรับกล่องเครื่องประดับจากเจ้าของร้านมาเก็บ ก็เปล่งเสียงร้องเล็กแหลมในทันที
เฟิ่งจิ่วเงยหน้าเหลือบมอง นึกไม่ออกว่าเคยเห็นสาวน้อยคนนี้จึงไม่สนใจ หลังจากเก็บของก็ขยับก้าวเดินออกไป
“หยุดนะ!” สาวน้อยชชุดแดงยื่นแขนเข้าขวาง พร้อมกราดมองเฟิ่งจิ่วในชุดแดงวาววับงดงาม “ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่?”
“เจ้าเป็นใคร? ข้าไม่เข้าใจ” เธอยื่นมือไปปัด แรงที่มองไม่เห็นจู่โจมจากแขนเสื้อของเธอและพัดคนไป ก่อนจะขยับก้าวเดินออกไป
สาวน้อยฝีเท้าซวนเซถอยหลังไปสองสามก้าว สองคนข้างหลังประคองไว้จึงไม่ล้มลงไป กำลังจะเข้าไปก็ถูกสาวน้อยสองคนขวางไว้ “เป็นอะไรไป? เจ้ารู้จักเขาหรือไร?”
“หึ! ข้ากลายเป็นเถ้ายังรู้จักเจ้าหมอนี่ ข้ากับเขาโต้เถียงกันเสียยกใหญ่!” สาวน้อยชุดแดงกัดฟันเอ่ย แล้วตะโกนใส่ร่างสีแดงที่เดินออกไป “เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!”
สิ้นเสียงแส้เส้นหนึ่งโจมตีออกไป ฟาดผ่านอากาศอย่างรุนแรงพร้อมเกิดเสียงหวดลม
เฟิ่งจิ่วที่เดินออกไปเบี่ยงหันข้างเล็กน้อย ก่อนจะหลบหลีกการโจมตีด้านหลังโดยไม่หันกลับไป เพียงเห็นแส้ฟาดผ่านไปข้างใบหน้า กลับทำร้ายเธอไม่ได้สักนิด
ยามนี้ปี้ซานที่เฝ้าด้านนอกก้าวมา มือหนึ่งรับแส้และออกแรงดึง ร่างกายของสาวน้อยถือแส้ถูกดึงออกมา แล้วโถมไปหาพื้นถนนใหญ่ด้านนอกทันควัน
“เจ้าเป็นใคร! ถึงกล้าทำร้ายนายท่านของข้า!”
ปี้ซานตะโกนเสียงเข้ม แรงกดดันระดับหลอมแก่นพลังโจมตีออกไป ทำให้สาวน้อยที่ล้มบนพื้นแม้แต่ลุกขึ้นยังทำไม่ได้
ใช่ ที่นี่คือเมืองหลวงแคว้นสวรรค์บันดาล เป็นสถานที่ที่ตระกูลซั่งกวนอยู่ สาวน้อยเป็นคุณหนูตระกูลซั่งกวน ถามหน่อย ใครจะกล้าทำร้ายคนตระกูลซั่งกวนในถิ่นของตระกูลซั่งกวน?
นี่รนหาที่ตายไม่ใช่หรือ? เพราะรู้ว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรคนของตระกูลซั่งกวน ด้วยเหตุนี้คุณหนูตระกูลพวกนี้ออกมาในเมืองหลวง จึงไม่มีทหารอารักขาติดตามคุ้มกัน
แต่ไม่นึกว่าวันนี้กลับมาเจอคนที่ไม่กลัวตระกูลซั่งกวน ถึงลงมือสั่งสอนคุณหนูตระกูลซั่งกวนทันที
ยามนี้เฟิ่งจิ่วหยุดฝีเท้าหมุนตัวมองไปยังสาวน้อยชุดแดงที่นอนบนพื้นอย่างน่าอับอาย สายตามองผ่านบนร่างของสาวน้อยรวมถึงแส้เส้นนั้น ในที่สุดก็จำได้ว่าสาวน้อยเป็นใคร
………………………………………………….
ตอนที่ 1188 คนอยู่สำนักโอสถตะวัน
“ไปกันเถอะ!” เฟิ่งจิ่วกล่าว เก็บสายตากลับมาและหมุนตัวเดินไปโดยไม่เห็นสาวน้อยในสายตา
ปี้ซานเห็นท่าทางก็รีบร้อนตามหลังเขาออกไป สาวน้อยเห็นท่าทางยิ่งโกรธเสียจนกัดฟันกรอด ดวงตาจ้องมองคนที่จากไปอย่างมีความแค้นเคืองและไม่ยอม
เข้าเมืองหลวงมาทำร้ายนางยังคิดจะไป? หึ! นางจะทำให้เขารู้ว่าจุดจบของคนที่ล่วงเกินนางจะเป็นเช่นไร!
ระหว่างสาวน้อยกลับตระกูลซั่งกวนไปตามคน เฟิ่งจิ่วก็พาปี้ซานไปตลาดมืด เห็นป้ายคำสั่งของตลาดมืด หัวหน้าตลาดมืดจึงออกมาต้อนรับด้วยตนเอง
ปี้ซานเห็นเช่นนี้เพียงรู้สึกประหลาดใจ นายท่านของเขามีที่มาอย่างไรกันแน่? หัวหน้าตลาดมืดที่แม้แต่ผู้นำตระกูลต่างๆ อยากพบหน้ายังยากนึกไม่ถึงว่าจะออกมาพบเขาเช่นนี้?
ขณะกำลังตกตะลึง คนของตลาดมืดพาเขาไปพักผ่อนข้างๆ ส่วนนายท่านของเขาถูกเชิญไปข้างใน แม้แต่เขาก็ไม่รู้ว่าพวกเขาไปทำอะไรข้างใน
“เพิ่งได้ยินว่าคุณชายเฟิ่งมาถึงเมืองหลวง ไม่ทันเข้าไปคารวะคุณชายเฟิ่งก็มาเสียแล้ว” หัวหน้าตลาดมืดยิ้มพลางให้สัญญาณ มองเฟิ่งจิ่วที่นั่งตำแหน่งแรกข้างซ้าย แล้วถามว่า “ไม่ทราบว่าคุณชายเฟิ่งมาเมืองหลวงมีธุระอะไร? มีอะไรต้องการให้พวกเราช่วย?”
เขาชิงถามก่อน ถึงอย่างไรตัวตนของเขาไม่ธรรมดา ซ้ำยังมีสัมพันธ์อันดีกับตลาดมืดของพวกเขา หากอำนวยความสะดวกให้เขาได้ ตนเองก็สบายเช่นกัน
คนรับใช้ยกน้ำชามาและถอยไป เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองถึงจะเอ่ยว่า “ข้ามาเพราะอยากได้ข้อมูลเล็กน้อยจากท่านหัวหน้า”
“โอ้? ไม่ทราบว่าคุณชายเฟิ่งต้องการข้อมูลอะไร?”
“ข้อมูลของซั่งกวนหวั่นหรง ตระกูลซั่งกวน”
“ซั่งกวนหวั่นหรง?”
หัวหน้าตลาดมืดตกใจไปพักหนึ่ง จากนั้นค่อยยิ้มถาม “ข้อมูลของนางข้าจำได้ว่าก่อนหน้าเคยตรวจสอบและส่งให้คุณชายเฟิ่ง แต่ช่วงนี้คุณชายเฟิ่งหายหน้าไป จึงไม่รู้ว่าครึ่งปีก่อนซั่งกวนหวั่นหรงของตระกูลซั่งกวนไม่อยู่ที่นี่แล้ว”
เฟิ่งจิ่วได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่อยู่ที่นี่? หมายความว่าอย่างไร?”
“เหอะๆ เรื่องเป็นเช่นนี้ คาดว่าคุณชายเฟิ่งเคยได้ยินชื่อเสียงซั่งกวนหวั่นหรง นางเป็นลูกหลานที่โดดเด่นที่สุดในหมู่นักเล่นแร่แปรธาตุหลายๆ รุ่นของตระกูลซั่งกวน แม้แต่ก่อนจะเห็นนางออกมาเดินเหินน้อยนัก ยังรู้ว่านางอยู่ในตระกูลซั่งกวน แต่ครึ่งปีก่อนนางกลับถูกคนของสำนักโอสถตะวันพาตัวไป”
หัวหน้าตลาดมืดกล่าวถึงตรงนี้ก็ยิ้มๆ “ซั่งกวนหวั่นหรงโชคดี ไม่รู้ทำไมถึงไปเข้าตาซานหยางจื่อของสำนักโอสถตะวัน สำนักเล่นแร่แปรธาตุที่ใหญ่ที่สุดในแปดจักรวรรดิใหญ่ เขารับพาไปเป็นลูกศิษย์สายตรงคนสุดท้าย ครึ่งปีก่อนเรื่องนี้แพร่สะพัดไป คนของแคว้นใหญ่ก็ได้ยินกันทั้งนั้น”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ ขณะแปลกใจก็เหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง “สำนักโอสถตะวันที่ใหญ่ที่สุดในแปดจักรวรรดิใหญ่?”
ไม่นึกว่าแม่ของเธอจะถูกซานหยางจื่ออะไรนั่นพากลับไปเป็นลูกศิษย์คนสุดท้าย? เธอจะพาแม่ของเธอกลับบ้าน! ไม่คิดว่าเข้าไปเทือกเขาอเวจีปีเดียวกลับเกิดเหตุไม่คาดคิดมากมายเพียงนี้
กล่าวเช่นนี้หากเธอคิดจะตามหาแม่ ต้องไปสำนักโอสถตะวัน?
เดิมทีเธอคิดว่ามาที่นี่ครั้งนี้ต้องพาแม่ของเธอกลับบ้านไปอยู่พร้อมหน้าพ่อ ไม่คิดว่าแม่ของเธอกลับไปสำนักเล่นแร่แปรธาตุที่ใหญ่ที่สุดในแปดจักรวรรดิใหญ่ เช่นนี้จะพาคนกลับมาคงวุ่นวายมาก
นึกถึงตรงนี้เธอขมวดคิ้วทันควัน แอบคิดว่าจากนี้ไปควรทำอย่างไร?
หัวหน้าตลาดมืดเห็นท่าทางครุ่นคิดของเฟิ่งจิ่วก็สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เอ่ยว่า “คุณชายเฟิ่งเป็นคนทะเยอทะยาน แปดจักรวรรดิใหญ่เป็นสถานที่ที่มังกรเจียวหลงทะยานสู่ท้องฟ้า ด้วยพละกำลังของคุณชายเฟิ่ง ทำไมไม่ลองไปเล่า?”
………………………………………………….