เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1241 อยู่ใกล้กัน + ตอนที่ 1242 ให้เขาไปเรือนด้านใน
ตอนที่ 1241 อยู่ใกล้กัน + ตอนที่ 1242 ให้เขาไปเรือนด้านใน
ตอนที่ 1241 อยู่ใกล้กัน
เฟิ่งจิ่วมองฮุยหลางแวบหนึ่ง ก่อนจะฉีกยิ้ม “มาแล้วขอรับๆ”
“ท่านหัวหน้าองครักษ์ เขาเป็นเด็กใหม่…” ชายชรายังเอ่ยไม่ทันจบก็เห็นว่าคนถูกพาตัวไปแล้ว เห็นเช่นนี้ในใจก็อดเป็นห่วงไม่ได้
เข้ามาวันแรกก็ถูกพาไปเรือนด้านใน หากเจอเรื่องอะไรเจ้าเด็กต้าหนิวที่เงอะงะทึ่มทื่อจะรับมือไหวหรือ?
นึกถึงตรงนี้เขาก็ทนยืนไม่ไหวอยากจะไปดู แต่หลังจากเดินไปก้าวหนึ่งกลับกลั้นใจไว้ นี่เป็นข้างในจวน ไม่น่าจะเกิดเรื่องอะไรกระมัง คิดๆ แล้วก็รอดูก่อนดีกว่า หากไม่ไหวจริงๆ ค่อยไปตามพ่อบ้านมาได้
อีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วเดินตามหลังฮุยหลางไปข้างใน ทว่าไม่มองมั่วซั่วไปทั่ว เพราะเธอรู้สึกว่าข้างในมีกลิ่นอายไม่น้อย น่าจะเป็นองครักษ์ลับที่ซุ่มซ่อนอยู่ในนี้
หากซี้ซั้วมองรอบๆ จนทำให้พวกเขาสงสัย เช่นนั้นเธอก็วางแผนเสียเปล่าแล้ว
“ไป ขัดห้องส้วมให้สะอาด” เขาพาเฟิ่งจิ่วมาตรงหน้าห้องส้วม ตัวเองยืนบีบจมูกอยู่ด้านข้าง พลางทำสีหน้ารังเกียจสื่อให้เฟิ่งจิ่วขัดห้องส้วมให้สะอาดโดยเร็ว
“หา? ล้างห้องส้วม?” เฟิ่งจิ่วตะลึงเล็กน้อย เจ้าฮุยหลางนี่เจอเธอก็จำกันไม่ได้ กลับพาเธอมาขัดห้องน้ำล้างโถส้วมที่นี่อีก หมาป่าตาขาวตัวนี้กวนประสาทจริงๆ!
“ใช่น่ะสิ! รีบๆ เข้า เร็วหน่อย” ฮุยหลางบีบจมูกพลางมองไปรอบๆ และเห็นอิ่งอีเดินมาในเวลานี้ สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที “เจ้ามาทำไม?”
อิ่งอีเดินเข้ามาใกล้ก่อนชำเลืองมองเฟิ่งจิ่ว เขาจำเธอไม่ได้ แต่เห็นว่าเป็นเด็กรับใช้ทั่วไปจึงไม่ได้สนใจ คนในจวนล้วนผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดมาแล้ว จะไม่มีใครอื่นแฝงตัวเข้ามา ถึงมีก็แอบเข้ามาเขตเรือนด้านในของนายท่านไม่ได้
“นายท่านลงโทษเจ้าให้ล้างห้องน้ำขัดโถส้วม เจ้าจะโดนลงโทษเช่นนี้หรือ? หากนายท่านรู้เข้า อย่างน้อยๆ ต้องฟาดเจ้าสักสองสามแส้”
“เจ้าไม่บอกก็ไม่มีใครพูด เจ้าไม่บอกนายท่านก็ไม่รู้หรอก” ฮุยหลางจ้องมองเขายิ้มๆ “อิ่งอี พวกเรานับว่าเป็นเพื่อนเก่ากันมาหลายปี เจ้าว่า…”
“นายท่านให้ข้าคอยดูเจ้า ข้าก็แค่ต้องดูเจ้า” อิ่งอีกล่าวแล้วก็ส่งสัญญาณให้เฟิ่งจิ่วข้างๆ “พอแล้ว เจ้าถอยไปเถอะ!”
เฟิ่งจิ่วพยักหน้าและขานรับ ขณะกำลังจะถอยออกไปกลับโดนฮุยหลางขวางไว้ก่อน
“ไม่ได้! เจ้าไปใครจะล้างห้องส้วม? ยังมีโถส้วมอีกใครจะล้าง?”
“เจ้าจะจับคนรับใช้มาใหม่มาจัดการ คนที่เรือนด้านในคงหลบหน้าเจ้ากันหมดกระมัง?” อิ่งอีเหลือบมองฮุยหลางพลางเอ่ย แวบเดียวก็พูดแทงใจดำเขาแล้ว
แม้เขตเรือนด้านในมีองครักษ์ลับมากมาย แต่คนทำงานมีเพียงเด็กรับใช้สองคน เพราะนายท่านชอบความเงียบสงบไม่ชอบคนวุ่นวายหลายปาก จึงเก็บแค่สองคนไว้ข้างกาย
ตอนนี้เขาโดนลงโทษ ย่อมไม่กล้าใช้งานเด็กรับใช้สองคนนั้น เพราะทั้งสองคนคอยรับใช้อยู่ข้างนายท่าน แม้เขาบังอาจยิ่งกว่านี้ก็ยังไม่กล้าใจเร็ว
อิ่งอีเหล่มองสหายแวบหนึ่ง จากนั้นหลุบตาลงกล่าวว่า “นายท่านบอกแล้ว ครั้งนี้เจ้าไม่ไปล้างด้วยตนเอง ต่อไปจะลงโทษหนักขึ้น”
ฮุยหลางได้ยินคำพูดนี้ ร่างกายแข็งทื่อทันที “ไม่หรอกน่า!”
“ใช่หรือไม่เจ้าน่าจะรู้ดี” อิ่งอีบอก ก่อนจะมองเด็กรับใช้ด้านข้างและสั่งว่า “เจ้าถอยไปเถอะ!”
“ขอรับ”
เฟิ่งจิ่วขานรับแล้วก้าวถอยออกไป เมื่อออกจากเขตเรือนด้านในมาก็หยุดฝีเท้าลงหันกลับไปมองแวบหนึ่ง และเผยรอยยิ้มออกมา
เขาอยู่ที่นี่ ในจวนนี้เอง บางทีเธออาจได้พบเขาในวันหนึ่ง…
………………………………………………….
ตอนที่ 1242 ให้เขาไปเรือนด้านใน
ส่วนฮุยหลาง…
สายตาของเธอมองไปยังทิศทางก่อนหน้านี้ มุมปากยกขึ้นคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม กล้าสั่งเธอให้ขัดส้วมหรือ? ฮุยหลางช่างใจกล้านัก
เธอกลับไปที่เขตเรือนด้านนอก ชายชราเห็นเธอกลับมาถึงถอนหายใจโล่งอกได้
“ข้าตกใจแทบตาย โชคดีที่เจ้าไม่เป็นไร” ชายชราตบๆ หน้าอกพลางเอ่ย “เมื่อครู่หัวหน้าองครักษ์เรียกเจ้าไปทำอะไร ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรกระมัง?”
“ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขอรับ เหมือนเขาจะถูกนายท่านลงโทษให้ขัดส้วม เขาจึงคิดจะตามข้าไปขัดให้” เธอยิ้มตอบ แล้วถามอีกว่า “ท่านอา ปกติข้าต้องทำอะไรบ้างขอรับ”
“เจ้ามาใหม่ ดังนั้นจึงทำได้แค่งานจุกจิกที่เขตเรือนด้านนอก ไปเถอะ! ข้าจะพาเจ้าไปพบพ่อบ้าน” เขาพยักเพยิดให้เฟิ่งจิ่วเดินตามไป
พ่อบ้าน? แววตาของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเดินตามหลังเขาไป
พ่อบ้านของจวนรัชทายาทไม่น่าเป็นคนธรรมดาได้ ด้วยเหตุนี้เธอจึงคาดหวังเล็กน้อย อยากดูสักหน่อยว่าพ่อบ้านผู้นั้นเป็นคนเช่นไร?
กระทั่งตามชายชรามาถึงเขตเรือนด้านหน้า ถึงจะเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังสั่งการข้ารับใช้ในจวนให้ทำงาน ใช่แล้ว คนคนนั้นท่าทางอายุยี่สิบห้ายี่สิบหก มีกลิ่นอายสูงส่งเช่นคุณชายสูงศักดิ์งามสง่า แต่ข้ารับใช้ในจวนกลับเรียกเขาว่าพ่อบ้าน
“ท่านพ่อบ้าน นี่คือหลานชายของข้าเอง หลี่ต้าหนิว” ชายชราก้าวเข้าไปแนะนำ พร้อมลากเฟิ่งจิ่วเข้าไปด้วย “คำนับท่านพ่อบ้านเร็วเข้า ขอบคุณที่เขาให้โอกาสเช่นนี้แก่เจ้า”
“หา?” เฟิ่งจิ่วยืนอึ้ง มองชายคนนั้นด้วยท่าทางเช่นคนชนบทเซ่อๆ
“หาอะไรเล่า ข้าให้เจ้ารีบคำนับท่านพ่อบ้าน!” ชายชราหันกลับมาบอก
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็ส่ายหน้า กะพริบดวงตาสดใสไร้เดียงสาพลางเอ่ย “ไม่ได้ขอรับ ท่านพ่อของข้าบอกว่าจะคุกเข่าคำนับใครตามใจไม่ได้ อีกอย่างในชนบทจะคำนับแต่คนที่ตายไปแล้ว ข้าจะไม่คุกเข่าคำนับคนเป็นขอรับ!”
ชายชราได้ยินคำพูดนี้ก็แทบจะตกใจเป็นลม ถลึงตายกมือจะตบศีรษะของเฟิ่งจิ่ว “เจ้าเด็กโง่นี่!” ทว่ายังไม่ทันแตะโดน เฟิ่งจิ่วก็กุมหัวหลบออกไป
ชายหนุ่มคนนั้นเห็นแลัวหัวเราะ โบกๆ มือเอ่ยว่า “เอาเถอะ จะไปถือสาอะไรเด็กคนเดียว”
เขาหันไปมองเฟิ่งจิ่ว ถามว่า “เจ้าชื่อหลี่ต้าหนิวหรือ?” ในใจนึกขันอยู่บ้าง ไม่คิดว่าเด็กหนุ่มตัวผอมบางเพียงนี้จะชื่อหลี่ต้าหนิว[1]?
“ขอรับ” เฟิ่งจิ่วยื่นเอ่ยอย่างเป็นระเบียบ มองเขาอย่างขลาดกลัวเล็กน้อย
“เจ้ากลัวข้าหรือ” ชายหนุ่มยิ้มถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้า กล่าวอย่างลังเลว่า “ข้าไม่กลัวท่าน ข้าแค่กลัวว่าท่านจะไล่ข้าไป ข้าไม่อยากกลับบ้านไปทำนาขอรับ”
“เหอะๆๆ ไม่หรอก ขอแค่เจ้าตั้งใจทำงาน ข้าจะไม่ไล่เจ้ากลับบ้านไปทำนา” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ “จากนี้ไปอยู่ในจวนเจ้าชื่อเสี่ยวหลีจื่อแล้วกัน!”
“ขอรับ ขอบคุณท่านพ่อบ้าน” เฟิ่งจิ่วฉีกยิ้ม รอยยิ้มอิ่มเอมนั้นทำให้ใบหน้าของเธอที่ปลอมแปลงมาดูแพรวพราวแปลกๆ
ชายหนุ่มเห็นเข้าก็ตาเป็นประกาย ประหลาดใจเล็กน้อย แอบคิดว่าแววตาของเด็กหนุ่มคนนี้แวววาวเสียจริง แต่ดูก็รู้ว่าเป็นคนใสซื่อไร้เล่ห์กล คนเช่นนี้ถึงจะใช้งานได้อย่างวางใจ
เขาจึงถามอีกว่า “จัดแจงงานให้เขาแล้วหรือ?” สายตาหยุดลงบนร่างชายชราพลางถาม
“บ่าวให้เขาทำงานจุกจิกที่เรือนด้านนอกไปก่อน คนมาใหม่ไม่เคยเรียน เกรงว่าเขาจะซุ่มซ่ามทำงานไม่ดี ต้องให้เขาทำงานจิปาถะจนคุ้นชินเสียก่อนขอรับ”
“งานจิปาถะ?”
ชายหนุ่มครุ่นคิดและบอกว่า “ส่งเขาไปที่เรือนด้านในเถอะ! ให้เขาไปกวาดพื้น รดน้ำดอกไม้ ตัดหญ้าในสวนดอกไม้ก็พอ”
………………………………………………….
[1] ชื่อต้าหนิว คำว่าหนิวหมายถึง วัว