เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1245 ความหึงหวงปั่นป่วน + ตอนที่ 1246 ว่าที่นายหญิง
ตอนที่ 1245 ความหึงหวงปั่นป่วน + ตอนที่ 1246 ว่าที่นายหญิง
ตอนที่ 1245 ความหึงหวงปั่นป่วน
“ยังดีขอรับ” เฟิ่งจิ่วยิ้มตอบ
“ไปเดินเป็นเพื่อนข้าหน่อยแล้วกัน!”
เฟิ่งจิ่วมองเขาที่ทิ้งคำพูดไว้และเดินไปข้างหน้า บนใบหน้าเผยรอยยิ้มชื่นชมออกมา ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ ฉลาดกว่าฮุยหลางไม่ใช่แค่เล็กน้อย ไม่คิดว่าจะมองความไม่ชอบมาพากลของเธอออกเร็วเพียงนี้
แต่เธอมาเตร็ดเตร่อยู่หน้าเรือนหลักบ่อยๆ ชัดเจนเพียงนี้เชียว?
ระหว่างแอบคิดในใจ เธอยังคงสาวเท้าเดินตามร่างข้างหน้าไป ไม่นึกเลยว่ายังไม่ทันได้เจอเซวียนหยวนโม่เจ๋อ ก็ถูกพ่อบ้านของเขามองออกอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว! เธออยากทำให้เขาประหลาดใจแท้ๆ! ครั้งนี้ท่าทางจะไม่สนุกแล้ว
และในยามนี้ คนทั้งสองต่างไม่เห็น เซวียนหยวนโม่เจ๋อที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างบนหอไม่ไกลเหลือบมองผ่านโดยไม่ตั้งใจ สายตาหยุดบนร่างด้านล่างที่กำลังตามหลังหยางหย่ง
เมื่อเห็นร่างนั้น หัวใจของเขาพลันเต้นแรง โน้มกายไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วมองไป ในดวงตาลึกล้ำเผยแววตกตะลึง
เฟิ่งจิ่ว? ทำไมนางถึงมาอยู่ที่นี่?
ผู้หญิงคนนี้กลับวิ่งมาถึงแปดจักรวรรดิใหญ่อย่างเงียบๆ เสียอย่างนั้น? ซ้ำยังแอบเข้ามาในจวนของเขาด้วย? ระยะห่างค่อนข้างไกล แต่เขาในตอนนี้มองแวบเดียวก็จำได้ว่าคนข้างล่างเป็นนาง
ไม่ใช่เพราะหน้าตา ใบหน้านั้นเป็นคนที่เขาไม่รู้จักอย่างสิ้นเชิง เดาว่าคงเป็นกลอุบายของนางกระมัง! สิ่งที่ทำให้เขาจำนางได้คือกิริยาท่าทางตามนิสัย
แม้ไม่เจอหน้ากันสองสามปี แต่ทุกอากัปกิริยา ยามขมวดคิ้วยามยิ้มของนางตราตรึงลึกในความทรงจำของเขานานแล้ว ขอแค่มีท่าทางและแผ่นหลังของนาง เขาก็จำได้ทั้งนั้น
ครั้นเห็นว่านางเดินตามหลังหยางหย่ง ระยะห่างกันไม่ถึงสามก้าว สีหน้าเขาก็ถมึงทึงขึ้นมาทันควัน รู้สึกแต่ว่าในใจมีความหึงหวงปั่นป่วน เกิดความอิจฉาทันที
ผู้หญิงคนนี้ไม่ตั้งใจฝึกบำเพ็ญอยู่ทางนั้น กลับแอบวิ่งแจ้นมาที่นี่ ชัดเจนว่าเขาเคยกำชับนางแล้วว่าหากไม่ถึงระดับกำเนิดวิญญาณจะมาที่นี่ไม่ได้ อีกอย่าง สัญญาสิบปีนางก็เป็นคนบอกเอง ไม่คิดว่านางจะแอบมาเสียได้!
เวลานี้เขาลืมสิ้นแล้ว ตอนแรกพลังย้อนกลับจึงอาศัยว่าร่างของตนเองหดเล็กลงเพราะสูญเสียวรยุทธ์แอบกลับไปหานาง อีกทั้งยังฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัวไปไม่น้อย
ขณะนี้เขาจ้องมองสองคนข้างล่างด้วยดวงตาที่เหมือนมีไฟลุก ทั้งสองคนเดินไปใกล้ศาลาแล้ว ระยะห่างไกลทำให้ไม่ได้ยินว่าพวกเขากำลังคุยอะไร แถมยังเป็นมุมอับไม่เห็นสีหน้าของทั้งคู่ รู้แค่ว่าระยะห่างระหว่างสองคนถูกดึงเข้าใกล้กันอีก
เขาเริ่มคิดฟุ้งซ่านอย่างอดไม่ได้ หยางหย่งกับนางคุยอะไรกัน เฟิ่งจิ่วเข้ามาถึงในนี้พวกของฮุยหลางไม่รู้เรื่องหรือ ยังมีหยางหย่งอีก เขาเป็นพ่อบ้านทำไมถึงเข้าไปในศาลากับนางที่สวมชุดเด็กรับใช้ เขาคิดจะทำอะไร?
ระหว่างเขาคิดเพ้อเจ้อ ภายในศาลากลับเป็นอีกบรรยากาศหนึ่ง
“นั่งสิ” หยางหย่งให้สัญญาณเฟิ่งจิ่วนั่งลง
เฟิ่งจิ่วไม่เกรงใจ นั่งลงทันที
“เจ้าเป็นใคร?” เขาถามตรงๆ แต่น้ำเสียงยังคงนุ่มนวล ไม่เห็นความดุร้ายเลยสักนิด
แต่เฟิ่งจิ่วกลับรู้ว่าหยางหย่งไม่ใช่คนอ่อนโยนไร้พิษสงเช่นภายนอก ยิ่งเขาเป็นเช่นนี้ ยิ่งหลักแหลมยิ่งร้ายกาจ
“มาเป็นพ่อบ้านได้ แน่นอนว่าไม่ใช่คนธรรมดา!” มือข้างหนึ่งของเธอเท้าแก้ม ยิ้มเอ่ยว่า “อันที่จริงท่านไม่ต้องถามว่าข้าเป็นใคร เพราะถึงแม้ข้าบอกไป เดาว่าท่านคงไม่เชื่อหรอก”
หยางหย่งได้ยินเช่นนี้ ก็เอ่ยเสียงอ่อนโยน “เจ้าไม่บอก รู้ได้อย่างไรว่าข้าจะไม่เชื่อ?”
………………………………………………….
ตอนที่ 1246 ว่าที่นายหญิง
เฟิ่งจิ่วกลอกตาไปมาเมื่อได้ยิน ก้นบึ้งดวงตาฉายประกายผ่าน จ้องมองคนตรงหน้าและหยีตายิ้มเอ่ย “ข้ามาหานายท่านของท่าน”
หยางหย่งพยักหน้า “ข้ารู้ว่าเจ้ามาหานายท่านของข้า แต่ว่าเจ้ารู้จักเขาหรือ มาหาเขาทำไม?” เพราะตอนนี้บนร่างของหนุ่มน้อยไม่มีไอสังหาร อย่างน้อยเขาก็ไม่รู้สึกถึงเจตนาร้ายจากตัวอีกฝ่าย ดังนั้นจึงไม่ให้คนฆ่าทิ้งทันที แต่พามาสอบถามถึงที่นี่แทน
“รู้จักสิ! ไม่รู้จักจะมาหาเขาทำไมกัน เดิมทีข้าอยากทำให้เขาประหลาดใจ ใครจะรู้ว่าพวกท่านคุ้มกันที่นี่แน่นหนาเพียงนี้ ข้ามาสองสามวันยังไม่เจอหน้าเขาเลย” เฟิ่งจิ่วเอ่ยถึงตรงนี้ก็อดถอนใจไม่ได้
“เจ้ายังไม่บอกข้าเลย เจ้าเป็นใคร?” เขาถามอีกครั้ง
“ข้าน่ะหรือ ข้ามีนามว่าเฟิ่งจิ่ว” เธอกล่าวอย่างยิ้มแย้ม มองท่าทางตกตะลึงของเขาด้วยความพอใจ
“เจ้าคือภูตหมอ?”
ภูตหมอเฟิ่งจิ่ว สำหรับพวกเขาเหล่าคนสนิทข้างกายนายท่านย่อมรู้จักคนผู้นี้เป็นธรรมดา อีกทั้งนางยังเป็นผู้หญิง และเป็นคนที่นายท่านชอบพอ แต่เด็กหนุ่มตรงหน้านี้…เป็นผู้หญิงหรือ?
“ไม่ต้องมองแล้ว ข้าเป็นผู้หญิง นี่ ข้าจะให้ท่านดูสิ่งนี้” มือข้างหนึ่งของเธอเท้าคาง มืออีกข้างหยิบป้ายคำสั่งออกมา
“ป้ายคำสั่งตำหนักยมราช!”
ป้ายคำสั่งนั้นก็คือป้ายคำสั่งตำหนักยมราชของนายท่าน ป้ายคำสั่งที่ระดมพลกลุ่มอำนาจตำหนักยมราชได้ ไม่คิดว่านายท่านจะมอบสิ่งนี้ให้กับนาง เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่าทางนางจะเป็นภูตหมอเฟิ่งจิ่วไม่ผิดแน่
เวลานี้ เขาแอบหวาดกลัวภายหลังโดยพลัน โชคดีที่หลังจากพบความผิดปกติยังไม่ส่งคนไปสังหารนางทันที มิเช่นนั้นถึงเขาตายเป็นร้อยครั้งก็ยากจะขออภัยโทษ
สายตาของเขาหยุดบนใบหน้าของนาง ถามขึ้นว่า “ท่านเปลี่ยนรูปลักษณ์หรือ”
“เปล่าเลย แค่ใช้อุบายเล็กน้อย” เฟิ่งจิ่วเก็บป้ายคำสั่งตำหนักยมราชกลับไป จากนั้นยิ้มตาหยีมองเขา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงปรึกษาหารือ “พ่อบ้าน ท่านอย่าเปิดโปงข้านะ! ข้ากำลังเล่นเสียสนุกเลย!”
หยางหย่งได้ยินคำพูดนี้ก็หลุดหัวเราะ “ท่านทำเช่นนี้บุ่มบ่ามเกินไปแล้ว อยากพบนายท่านแค่นำป้ายคำสั่งตำหนักยมราชออกมา ในจวนนี้ก็จะไม่มีใครขวางท่านแล้ว ทำอย่างนี้หากเกิดเหตุไม่คาดฝันถูกมองเป็นสายสืบหรือนักฆ่า ผลที่ตามมาจะร้ายแรงยิ่งนัก
อีกอย่าง ข้ามองไม่ออกจริงๆ ว่าทำเช่นนี้มีอะไรน่าสนุก” เขาส่ายหน้า มองอีกฝ่ายที่สวมชุดเด็กรับใช้พลางยิ้มเอ่ย “เป็นเด็กรับใช้สนุกนักหรือ ท่านมาเป็นเด็กรับใช้เช่นนี้เข้าใกล้นายท่านไม่ได้หรอก”
“ดังนั้นนะ ข้าจึงร่วมมือบอกตัวตนกับท่าน มิเช่นนั้นข้าคงไปหาฮุยหลางนานแล้ว แต่เจ้าหมอนั่นฉลาดไม่เท่าท่าน” พอเฟิ่งจิ่วเอ่ยถึงฮุยหลาง ก็หัวเราะอีกครั้ง “อย่างไรข้าก็ไม่ทำอะไรนายท่านของท่าน ท่านก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ อย่าเปิดโปงเรื่องของข้ากับเขา มิเช่นนั้น… ฮี่ๆ…”
“เอาละๆ เดิมทีเป็นห่วงว่าท่านจะเป็นสายสืบหรือนักฆ่าจึงมาหยั่งเชิงดู ในเมื่อท่านคือภูตหมอเฟิ่งจิ่ว ข้าย่อมไม่พูดอะไรมากความอีก”
เขาเอ่ยถึงตรงนี้ก็มองเฟิ่งจิ่วพลางบอก “ท่านอาจไม่รู้ นายท่านเคยบอกคนใกล้ชิดอย่างพวกเราไว้ว่าท่านจะเป็นนายหญิงของพวกเราในอนาคต ต้องเคารพท่านเฉกเช่นเขา ดังนั้นคำพูดของท่าน ข้าจะปฏิบัติตาม”
เมื่อได้ยิน เฟิ่งจิ่วแปลกใจเล็กน้อย ขณะมองใบหน้าจริงจังของหยางหย่งและได้ฟังคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหวเบาๆ อย่างอดไม่ไหว หากเซวียนหยวนโม่เจ๋อกล่าวเช่นนั้น แสดงว่าชีวิตนี้เขาเลือกเธอแล้ว
เธอนึกถึงตรงนี้ก็หัวเราะเบาๆ เผยรอยยิ้มที่ทั้งอ่อนโยนและเบิกบานออกมา ชัดเจนว่าในใจปลาบปลื้ม แต่กลับเชิดคางขึ้นเล็กน้อยและกล่าวอย่างลำพองใจว่า “ถือว่าเขาใส่ใจข้า”
………………………………………………….