เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1255 อยู่ในมือเจ้าได้อย่างไร + ตอนที่ 1256 องค์หญิงสามแห่งจักรวรรดินทีแดง
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1255 อยู่ในมือเจ้าได้อย่างไร + ตอนที่ 1256 องค์หญิงสามแห่งจักรวรรดินทีแดง
ตอนที่ 1255 อยู่ในมือเจ้าได้อย่างไร + ตอนที่ 1256 องค์หญิงสามแห่งจักรวรรดินทีแดง
ตอนที่ 1255 อยู่ในมือเจ้าได้อย่างไร
ครั้นเห็นอย่างนั้น เขาก็พยักหน้า “เช่นนั้นก็ได้! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าก็รอข้าอยู่ที่จวนนี่ ตอนกลางวันกินข้าวด้วยกัน” ขณะเอ่ยเขาก็ยื่นป้ายหยกแผ่นหนึ่งให้เธอ
“สิ่งนี้เจ้ารับไว้ อยากใช้งานใครในจวนก็ได้ทั้งนั้น”
“ให้ป้ายคำสั่งกับข้าอีกแล้วหรือ? ป้ายคำสั่งของข้าแทบจะใช้ไม่หมดอยู่แล้วนะ” เธอมีป้ายคำสั่งเก็บอยู่ในห้วงมิติไม่น้อย ไม่ว่าของกลุ่มอำนาจใดล้วนมีหมด ยามนี้เขาจะให้เธออีก เธอไม่ค่อยอยากรับไว้แล้ว
ได้ยินเช่นนั้น เซวียนหยวนโม่เจ๋อยกมุมปาก วางป้ายหยกแผ่นนั้นลงในมือเธอ “นี่เป็นป้ายหยกในจวน เห็นป้ายหยกนี้ก็เท่ากับเห็นข้า”
เธอจ้องป้ายหยกนั่น แววตาเป็นประกาย ยิ้มร่าถามว่า “ถือป้ายนี้ไว้แล้วจะทำสิ่งใดก็ได้หรือ?”
เมื่อเห็นอย่างนั้น เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “เจ้าอยากทำสิ่งใด?”
“สองวันก่อนฮุยหลางให้ข้าไปล้างโถส้วม”
“เหอะ! เขาใจกล้านัก ถึงขั้นสั่งให้เจ้าล้างโถส้วมเชียวหรือ เจ้าจะจัดการเขาเช่นไร ให้ถือป้ายหยกนี้สั่งคนก็ได้แล้ว” เขาจัดคอเสื้อ แล้วกล่าวว่า “หากถือป้ายหยกแผ่นนี้ เจ้าก็เป็นใหญ่ที่สุดในจวนแห่งนี้ได้”
“ได้ เช่นนั้นข้าจะให้คนเตรียมรถม้าให้ท่าน ถือโอกาสนี้กินมื้อเช้าก่อนแล้วค่อยออกไปเสียเลย” เธอยิ้มตาหยีพยักหน้า เดินออกไปกำชับข้ารับใช้ให้เตรียมรถม้า และบอกให้คนยกอาหารเช้ามาวางในลานบ้าน
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเดินออกมา นั่งลงข้างโต๊ะในลานบ้าน ส่งสัญญาณให้เธอนั่งลงกินด้วยกัน
องครักษ์ลับในลานบ้านเห็นเช่นนั้น ก็ลอบมองประเมินร่างนั้นอย่างอดไม่ได้
“นายท่าน” อิ่งอีกับฮุยหลางสองคนมาถึงในลานบ้าน ค้อมกายคารวะอย่างนอบน้อม
ครั้นเห็นร่างที่นั่งอยู่ข้างกายนายท่าน อิ่งอีมีสีหน้าปกติ แต่ฮุยหลางกลับถลึงตาอย่างไม่ค่อยพอใจ เจ้าเด็กนี่มีสิทธิ์อะไรมานั่งกินข้าวกับนายท่านได้ เห็น…เห็นแล้วอยากจะต่อยคนนัก!
เซวียนหยวนโม่เจ๋อกินไปบางส่วนแล้วก็วางตะเกียบลง แล้วกล่าวกับเฟิ่งจิ่วว่า “เจ้าค่อยๆ กินก็แล้วกัน! ข้าไปก่อน”
สิ้นเสียง ก็หันไปพูดกับสองคนที่ยืนอยู่ด้านหนึ่ง “อิ่งอีตามข้าเข้าวัง ฮุยหลางอยู่ที่นี่”
“ขอรับ” อิ่งอีรับคำ หลังจากที่เจ้านายลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก ก็รีบสาวเท้าเดินตามไปติดๆ
ฮุยหลางเห็นนายท่านไปแล้ว แต่เจ้าเด็กนั่นยังนั่งกินอยู่ตรงนั้น ก็อดไม่ได้เดินเข้าไปตบหน้าโต๊ะแรงๆ “เจ้าหนู! ไม่เห็นหรือว่าเจ้านายไปแล้ว เจ้ายังนั่งกินอยู่ได้อีก? ตกลงว่าเจ้าเป็นนาย หรือนายท่านเป็นนายกันแน่?”
นายท่านก็ไม่รู้อะไรดลใจเข้า ถึงได้บอกให้เจ้าเด็กนี่ค่อยๆ กิน? ไม่กลัวว่ามันได้คืบจะเอาศอกบ้างเลยหรือ
เฟิ่งจิ่วกินซาลาเปาลูกเล็กลูกสุดท้ายเสร็จแล้วจึงค่อยวางตะเกียบลง กล่าวว่า “หัวหน้าองครักษ์ เมื่อครู่นายท่านบอกข้าว่าให้ท่านไปล้างโถส้วม ต้องล้างให้ครบหนึ่งร้อยโถ ไม่เช่นนั้น…”
“เจ้าโกหกใครกัน? นายท่านให้ข้าไปล้างโถส้วมหรือ? ไม่กี่วันก่อนนายท่านเพิ่งลงโทษข้า สองวันนี้ข้ายังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย นายท่านจะพูดเช่นนั้นได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น หากจะพูดก็ให้นายท่านพูดสิ ไม่ควรพูดออกมาจากปากเด็กน้อยเช่นเจ้า…”
เขายังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นป้ายหยกแผ่นหนึ่งแกว่งอยู่ตรงหน้า วาจาที่ตั้งใจจะพูดต่อจากนั้นถูกกลืนลงคอไปทันที เขาเบิกตากว้าง ถามว่า “เจ้าขโมยป้ายหยกของนายท่านมาหรือ?”
เฟิ่งจิ่วกลอกตา “นายท่านเป็นถึงผู้ใดกัน ของของเขาข้าหรือจะขโมยได้? เขาเป็นคนมอบให้ข้าเอง บอกว่าหากท่านไม่เชื่อก็ให้แสดงป้ายหยกให้ดู”
“นะ นี่ นี่ นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร!”
เขาทำหน้าสับสน “เจ้ารู้หรือไม่ว่าป้ายหยกนี้…ป้ายหยกนี้เป็นถึง เป็นถึง…” เป็นถึงสิ่งที่สั่งการทุกคนในจวนนี้ได้ เหตุใดนายท่านถึงได้มอบป้ายหยกที่สำคัญเช่นนี้ให้เขา?
………………………………….
ตอนที่ 1256 องค์หญิงสามแห่งจักรวรรดินทีแดง
เฟิ่งจิ่วมองเขาพลางหัวเราะเบาๆ ส่ายป้ายหยกในมือไปมา “ไม่ต้องสนใจว่าข้าได้มาเช่นไร ท่านรีบไปล้างโถส้วมเถิด!”
ได้ยินเช่นนั้น ฮุยหลางที่กำลังอึ้งก็ได้สติกลับมา “เป็นเจ้าเองหรือ เจ้ากำลังจ้องเล่นงานข้าใช่รึไม่?” เขานึกออกแล้ว ไม่กี่วันก่อนตนเองก็ใช้ให้อีกฝ่ายไปล้างห้องส้วม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ล้าง
“หัวหน้าองครักษ์ ท่านคิดมากไปแล้วจริงๆ ข้าน้อยเป็นเพียงข้ารับใช้ตัวเล็กๆ จะมีความสามารถขนาดนั้นได้เช่นไร เป็นนายท่านสั่งเอาไว้ก่อนออกไป ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องอะไร” เธอตีหน้าซื่อ ไม่ยอมรับตรงๆ
“ไม่ใช่เจ้าจริงหรือ?” คิดดูแล้วก็ใช่ นายท่านจะลงโทษเขาเพราะข้ารับใช้มาใหม่ตัวเล็กๆ เช่นนี้ได้อย่างไร แต่พักนี้เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา!
“ขอรับ ไม่ใช่ข้า” เฟิ่งจิ่วเอ่ยโดยที่หน้าไม่แดงหายใจไม่สะดุด
“เช่นนั้นเรามาหารือกัน ข้าว่า…”
“ไม่ได้”
เธอไม่รอให้เขาพูดจบก็ปฏิเสธทันที “ท่านรีบไปล้างโถส้วมเสียดีกว่า! ไม่เช่นนั้นหากนายท่านกลับมาท่านจะมีปัญหาเอาได้” ขณะเอ่ย เธอลุกขึ้นยืน กล่าวว่า “ข้ายังต้องไปรดน้ำดอกไม้อีก ขอตัวก่อน”
ขณะมองร่างที่เดินออกจากลานบ้านไป ฮุยหลางขมวดคิ้ว เกาหัวแล้วหันไปถามองครักษ์ลับที่อยู่ในมุมมืด “นายท่านพูดอย่างนั้นจริงหรือ?”
เงียบกริบ ไม่มีผู้ใดเอ่ยปาก เขาถลึงตาจ้องไปยังบางจุดทันที “ข้าถามพวกเจ้าอยู่นะ! ไม่ต้องมาแสร้งทำเป็นใบ้!”
องครักษ์ลับที่อยู่ตรงนั้นเอือมระอา ทำได้เพียงกล่าวว่า “ฮุยหลาง เจ้าทำตามที่เขาบอกก็พอ มีป้ายหยกอยู่ในมือ อย่างไรก็ไม่ผิดแน่”
ครั้นได้ยินเช่นนั้น ฮุยหลางถอนหายใจ แล้วจึงค่อยเดินออกไปข้างนอก ลอบคิดว่าจะฉวยโอกาสตอนที่นายท่านยังไม่กลับมา หาคนมาล้างแทนดีหรือไม่? แต่ไม่นานความคิดนั้นก็ดับสลายไป
ยอมทำแต่โดยดีดีกว่า!
อีกด้านหนึ่ง ในพระราชวัง ด้านในตำหนักหลัก
ชายวัยกลางคนที่สวมชุดลำลอง มีแรงกดดันอันทรงพลังและรัศมีอำนาจของผู้เหนือกว่าแผ่กระจายอยู่รอบกายผู้หนึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งประธาน เขามองร่างสูงสวมชุดสีดำทั้งตัว รอบกายมีกลิ่นอายเย็นเยือกและสูงศักดิ์ซึ่งยืนอยู่ด้านล่าง พลางเอ่ยเสียงขรึมว่า “อีกไม่กี่วันรัชยาทและองค์หญิงสามแห่งราชวงศ์ชื่อสุ่ยจะมาเยือน เมื่อถึงยามนั้นเจ้าจงรับผิดชอบดูแลพวกเขา”
เสียงต่ำทุ้มน่าเกรงขามชะงักเล็กน้อย แล้วกล่าวต่อว่า “ราชวงศ์ชื่อสุ่ยมีเจตจำนงจะผูกมิตรกับเรา องค์หญิงสามก็เป็นโฉมงามอันดับหนึ่งในหล้า ซ้ำยังเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์โดดเด่นกว่าใครอีก ครานี้เจ้าจงคว้าโอกาสไว้ให้ดี หากสองจักรวรรดิแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กันได้ ย่อมเป็นผลดีกับเรามาก”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อได้ยินก็ขมวดคิ้ว “ราชวงศ์เซวียนหยวนของเราจำเป็นต้องพึ่งพาการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์เพื่อขยายอำนาจด้วยหรือ? หากต้องการขยายอาณาเขตก็ควรอาศัยความสามารถ รัชทายาทแห่งราชวงศ์ชื่อสุ่ยมาเยือน ข้าย่อมต้องต้อนรับขับสู้ตามสมควร เพียงแต่ หากองค์หญิงตั้งใจมาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ ข้าคิดว่าช่างเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
“คนยังไม่ได้เห็นหน้า จะช่างเถิดได้เช่นไร?” จักรพรรดิที่นั่งอยู่บนที่นั่งประธานเอ่ย จ้องหน้าโอรสที่อยู่ด้านล่างพลางกล่าว “ข้ารู้ว่าเจ้ามีหญิงที่ชอบพออยู่ในแคว้นระดับล่างเหล่านั้น ทว่าเจ้าน่าจะรู้ ในฐานะรัชทายาทของแปดจักรวรรดิใหญ่ สตรีที่ยืนอยู่เคียงข้างเจ้าได้ต้องไม่ใช่สตรีธรรมดา สตรีจากแคว้นระดับล่างเช่นนั้น สิบคนก็ยังไม่คู่ควรกับตำแหน่งข้างกายเจ้า”
ครั้นเอ่ยถึงตรงนี้ เสียงของเขาชะงักเล็กน้อย เห็นอีกฝ่ายเม้มปากไม่พูดไม่จา จึงกล่าวอีกว่า “หากชอบพอจริงๆ เช่นนั้นก็รับไว้เป็นหญิงอุ่นเตียงข้างกาย ว่าที่ผู้ครองจักรวรรดิ หญิงงามในวังหลังสามพันนางเจ้าเลือกได้ตามใจ รับหญิงคนหนึ่งไว้ข้างกายไม่ใช่เรื่องใหญ่สักนิด”
เมื่อได้ยิน เซวียนหยวนโม่เจ๋อเงยหน้ามองบิดาที่นั่งอยู่บนตำแหน่งประธาน ไม่ได้เอ่ยมากความ เพียงกล่าวว่า “หากเสด็จพ่อไม่มีเรื่องอื่นแล้ว เช่นนั้นข้าขอทูลลา”
สิ้นเสียง ไม่รอให้ผู้ที่นั่งตรงตำแหน่งประธานกล่าวคำใด ก็หมุนตัวสะบัดแขนเสื้อเดินออกไป ไม่นานก็หายลับไปจากครรลองสายตาของจักรพรรดิองค์นั้น
………………………………….