เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1319 ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหิน + ตอนที่ 1320 ข้าเอาเจ้าตายแน่
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1319 ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหิน + ตอนที่ 1320 ข้าเอาเจ้าตายแน่
ตอนที่ 1319 ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหิน + ตอนที่ 1320 ข้าเอาเจ้าตายแน่
ตอนที่ 1319 ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหิน
“ปู้ด!”
เสียงผายลมเด่นชัดดังขึ้นมา ทำให้พวกองครักษ์ในมุมมืดแต่ละคนอึ้งไปพักหนึ่ง พากันมองหานหรงที่ใบหน้าอับอายระคนโกรธเกรี้ยวปานอยากฆ่าคนด้วยสีหน้าแปลกๆ
เฟิ่งจิ่วเดินออกมาจากเรือนด้านหลัง สาวใช้ทั้งสามเดินตามหลังมา อาจเพราะเห็นสภาพของตงเอ๋อร์ในตอนนี้จึงตกใจ ยามนี้พวกนางทุกคนคิ้วตกหลุบตาต่ำ ตามหลังเฟิ่งจิ่วห่างไปสามก้าวอย่างนอบน้อม เก็บมารยาของพวกตนไป แล้วแสดงความอ่อนน้อมและเคารพแทน
“เป็นอะไรอีกเล่า?” เฟิ่งจิ่วชายตามองหานหรงที่โมโหปึงปังใบหน้าทั้งโกรธทั้งอาย ขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางปิดจมูกไว้ “เสียมารยาทเกินไปแล้ว”
“ปู้ด!”
เพิ่งสิ้นเสียงของเฟิ่งจิ่ว ก็ได้ยินหานหรงผายลมเสียงดังอีก ทันใดนั้นใบหน้าเขาแดงก่ำไปหมด หานหรงที่แต่ไหนแต่ไรไม่เคยขายหน้าเช่นนี้รู้สึกเพียงว่าความน่าเกรงขามหลายปีของตนถูกทำลายในคราเดียวเพราะการผายลมที่อดกลั้นไม่ได้
“นางปีศาจ! เป็นเจ้าใช่หรือไม่! เจ้าสบโอกาสเล่นงานข้าตั้งแต่เมื่อไรกันแน่? เจ้าบังอาจนัก!” เขาหน้าแดงก่ำ มองเธออย่างโกรธเกรี้ยว “เอายาแก้ออกมาเสีย!”
“ปู้ด!”
พลังอำนาจที่ชวนให้คนหวาดกลัวจากน้ำเสียงโมโหเดือดดาลนั้น ทั้งหมดถูกทำลายเพราะเสียงผายลมดังลั่น ในมุมมืด พวกองครักษ์ลับตกตะลึงอย่างยิ่ง ตรงลานบ้าน เฟิ่งจิ่วปิดจมูกถอยไปสองสามก้าวพลางจ้องเขาด้วยแววตาเยียบเย็น
“นางปีศาจ? เหอะ! เจ้ากำแหงนัก!”
“เอายาแก้มาเสีย! มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้า!”
เสียงดุร้ายกล่าวจบ เขาที่กำลังโมโหดูดพลังมาที่ฝ่ามือ พลังวิญญาณพุ่งพล่านอยู่บนนั้น เวลาต่อมาร่างก็พลันพุ่งไปหาเฟิ่งจิ่วที่อยู่เบื้องหน้า ความรวดเร็วและการจู่โจมอย่างดุดันทำให้คนอดหวั่นใจไม่ได้
ไม่ว่าชุนซย่าชิวทั้งสามคนหรือว่าองครักษ์ลับในมุมมืด ต่างก็มองออกว่าหานหรงหมายจะเอาชีวิตของเฟิ่งจิ่ว!
องครักษ์ลับในมุมมืดเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงไปรายงานนายท่านอย่างว่องไว และยามนี้เอง ฮุยหลางที่ออกไปเดินเล่นกลับมาเห็นสองคนสู้กันอยู่ตรงหน้าเขตเรือน ก็รีบวิ่งเข้าไปตะโกนห้าม
“หานหรง! ท่านจะทำอะไร! นั่นเป็นคนที่ท่านจะแตะต้องได้หรือ? ยังไม่รีบหยุดอีก!”
ในดวงตาของหานหรงฉายประกาย ในเมื่อลงมือแล้ว เช่นนั้นก่อนจะถูกอาเจ๋อไล่ไปต้องฆ่านางปีศาจนี่เสีย! นางปีศาจคนนี้ เขาจะไม่ปล่อยให้นางรอดไปอยู่เคียงข้างอาเจ๋อเด็ดขาด!
กระแสลมรุนแรงกับแรงกดดันถาโถมออกไป เฟิ่งจิ่วที่ยืนตรงนั้นหรี่ตาลง นอกจากแรงกดดันและกระแสลมที่เธอรู้สึกว่าแข็งแกร่งกว่าระดับกำเนิดวิญญาณในป่าแห่งความตายครั้งนั้น นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สัมผัสได้
นี่เป็นระดับที่เหนือกว่ากำเนิดวิญญาณ เป็นพลังระดับผู้แข็งแกร่งเซียนเหิน!
แรงกดดันและกระแสลมเช่นนั้นทรงพลังจนมากพอจะทำลายทุกสิ่ง โดยเฉพาะใบมีดลมที่โถมมาหาเธอ ยิ่งบาดแก้มของเธอจนเจ็บไปหมด หากในตัวไม่มีแรงกดดันเก่าแก่คุ้มกันอยู่ ศัตรูเป็นผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ แม้แต่จะลงมือก็ทำไม่ได้แน่
เพียงขยับมือ แพรแดงตรงเอวก็มาพันรอบมือของเธอไว้ แพรแดงที่ใส่กลิ่นอายพลังวิญญาณเข้าไปเปลี่ยนจากผ้าคาดเอวกลายเป็นอาวุธโจมตี จากนั้นลอยออกไปจู่โจม ตั้งรับการโจมตีของเขา
บนแพรแดงมีกลิ่นอายพลังวิญญาณรุนแรงแผ่กระจาย ก่อนก่อตัวเป็นใบมีดลมพุ่งออกไปพร้อมเสียงหวีดหวิว สองร่างขยับตามไป ได้ยินเพียงเสียงกระแสลมหักเหพุ่งออกมารอบด้าน การต่อสู้ของทั้งสองคนสร้างแรงกดดันมหาศาล ทำให้องครักษ์ลับบางส่วนเลือดลมหัวใจปั่นป่วนอย่างไม่อาจห้ามได้ มุมปากมีเลือดไหลเล็กน้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสาวใช้สามคนนั้น รวมถึงการที่พวกเขาคิดจะเข้าไปช่วยเลย
เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งที่พลังแก่กล้ากว่ามากนัก แม้พวกเขามีใจช่วย แต่ก็ไร้ความสามารถ
………………………………………………….
ตอนที่ 1320 ข้าเอาเจ้าตายแน่
“เปรี้ยง!”
หานหรงหลบการโจมตีของแพรแดง จากนั้นพลิกฝ่ามือรวมพลังในฉับพลัน เปลี่ยนมันให้เป็นใบมีดน้ำแข็งจู่โจมไปทางเฟิ่งจิ่วอย่างดุร้าย เฟิ่งจิ่วเห็นดังนั้นจึงใช้แพรแดงเข้าขวางทันที ใบมีดน้ำแข็งที่หนาเท่านิ้วมืออีกทั้งส่วนปลายถูกลับจนคมกระทบลงบนแพรแดงของเธอ ก่อนจะถูกแพรแดงห่อหุ้มไว้ เปลวไฟลุกโชนขึ้นมา ละลายใบมีดน้ำแข็งจนกลายเป็นน้ำหยดลงพื้นทันที
“นางปีศาจ! ที่แท้เจ้าก็ฝึกวิชาธาตุไฟ!”
หานหรงเห็นเช่นนั้น ดวงตาก็ฉายประกาย พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน แต่ทันทีที่กล่าวจบ เสียงผายลมก็ดังขึ้นอีกครั้ง เสียงผายลมดังลั่นช่างชัดเจนและประหลาดยิ่งนักในยามนี้ ขณะเดียวกันยังเป็นดั่งน้ำมันเชื้อเพลิงสาดลงในหัวใจของเขา ทำให้เขาบ้าคลั่งอยากจะฆ่าเฟิ่งจิ่วเสีย!
ระหว่างที่เฟิ่งจิ่วเปลี่ยนจากตั้งรับมาโจมตี ก็เห็นสองมือของเขารวบรวมพลัง กระแสลมในอากาศถูกเขาควบคุม รวมไว้ด้วยกันแล้วปกคลุมลงมาที่เธอ แรงกดดันของผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินในอากาศปกคลุมลงมา กระแสลมยกสูงขึ้นไปหลายจั้ง ประหนึ่งเขาไท่ซานกดทับเหนือศีรษะ ดุดันทรงพลังยิ่งนัก!
เขาตั้งใจจะเอาชีวิตเฟิ่งจิ่วในหนึ่งกระบวนท่า การโจมตีครั้งนี้จึงทุ่มพลังยุทธ์ของเขาลงไปสิบเท่า เป็นเหตุให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี เมฆลมปั่นป่วน เมฆดำบนท้องฟ้าเต็มไปด้วยเสียงฟ้าร้องลั่น ดินทรายบนพื้นปลิวว่อนขึ้นมา
ในไม่กี่ชั่วอึดใจ ก็เห็นว่าท่ามกลางเมฆดำที่หมุนวนบนท้องฟ้า กลิ่นอายพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งดูดดินทรายบนพื้นขึ้นไปรวมตัวเป็นมังกรทรายยักษ์ เห็นได้รางๆ ว่ามังกรทรายยักษ์ที่ประหนึ่งพายุหมุนนั้น ดูเหมือนหัวมังกรจะอยู่ในเมฆดำ หางมังกรม้วนสะบัดไปเบื้องล่าง ยิ่งรวมกันยิ่งใหญ่ขึ้น ยิ่งประดังเข้ามายิ่งแข็งแกร่ง…
“เฮือก! นั่นอะไร!”
“สวรรค์! นั่นจวนพำนักขององค์รัชทายาทไม่ใช่หรือ ทำไมถึงมีมังกรทรายว่ายวนบนฟ้าได้?”
“มาดูเร็ว! ท้องฟ้าเหนือจวนเปลี่ยนสีไปหมดแล้ว! หรือว่าผู้แข็งแกร่งกำลังต่อสู้กัน?”
“ซี๊ด! ใครกล้ามาประมือกันแบบไม่คิดชีวิตในจวนพำนักขององค์รัชทายาทเช่นนี้? ซ้ำยังสร้างมังกรทรายที่แข็งแกร่งเพียงนี้อีก นี่จะกำจัดใครสักคนกระมัง?”
ภาพบนท้องฟ้าเหนือจวนองค์รัชทายาททำให้ทุกคนในเมืองตื่นตกใจยิ่ง บางตระกูลนึกว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น จึงส่งคนมุ่งหน้าไปตรวจสอบ
แม้แต่ในพระราชวัง จักรพรรดิที่รู้เรื่องนี้ยังขมวดคิ้ว ก่อนสั่งคนให้ไปดูว่าเกิดเรื่องอะไรกันแน่
ภายในห้องหนังสือของจวน เซวียนหยวนโม่เจ๋อเร่งไปยังเรือนหลักอย่างรวดเร็วหลังจากได้ฟังองครักษ์ลับรายงาน ตอนเพิ่งเดินไปได้ครึ่งทาง ก็ต้องตกใจมังกรทรายยักษ์ที่ทั้งมากพลังและน่าสะพรึงกลัวบนฟ้า
“หานหรงสมควรตาย!”
สีหน้าของเขาเขียวคล้ำในพริบตา ดวงตาดำลึกล้ำแฝงด้วยไฟโทสะมากล้น แทบจะโฉบตรงไปทางเรือนหลักเหมือนโบยบิน ในใจมีความหวาดกลัวรางๆ
หากนางได้รับบาดเจ็บในจวนของเขา เขาจะให้อภัยตนเองได้อย่างไร!
หานหรง! หากกล้าทำร้ายนาง เขาจะไม่ปล่อยไปแน่!
การขยับมือของเฟิ่งจิ่วหยุดนิ่ง เธอมองมังกรทรายยักษ์ที่ว่ายเวียนบนฟ้าอย่างตะลึงเล็กน้อย ที่แท้แรงกดดันและกระแสลมทรงพลังเช่นนั้นก็น่าพรั่นพรึงจริงๆ ที่แท้เมื่อผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินลงมือ หากคิดจะส่งใครไปตาย ก็สามารถระเบิดพลังมหาศาลเช่นนี้เอง
ในยามนี้ เธอถึงขั้นรู้สึกได้ว่ากลิ่นอายของความตายโถมเข้ามาหา ถึงแม้ในร่างมีแรงกดดันเก่าแก่คุ้มกัน ตอนนี้เลือดลมในกายก็ยังถูกทำให้ปั่นป่วนตามไปด้วย กลิ่นอายพลังวุ่นวายอยู่บ้าง และในเวลานี้เอง เธอได้ยินเสียงที่แฝงความโกรธล้นฟ้าดังมาจากสักแห่งในจวน
“หานหรง! หากเจ้ากล้าทำร้ายนาง ข้าจะเอาเจ้าถึงตาย!”
………………………………………………….