เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1369 ซื้อ + ตอนที่ 1370 เห็นได้ว่าไม่ธรรมดา
ตอนที่ 1369 ซื้อ + ตอนที่ 1370 เห็นได้ว่าไม่ธรรมดา
ตอนที่ 1369 ซื้อ
“ผู้อาวุโส มาเช็ดเลือดที่แผลที” เฟิ่งจิ่วสั่งโดยไม่หันไปมอง
“อ้อๆ”
ชายแก่ได้สติกลับมา เห็นแผลยาวๆ นั่นแล้วหัวใจก็พลันสั่นกระตุก ทำได้เพียงก้าวเข้ามาเป็นลูกมือให้เฟิ่งจิ่ว ทุกครั้งที่เลือดไหลออกมา ก็จะใช้แหนบคีบผ้าสะอาดเช็ดเลือดให้เกลี้ยง เพื่อให้มองเห็นชัดเจนขณะลงมีดผ่าตัด
เหล่าคนที่ดูอยู่ข้างๆ หัวใจบีบรัด หน้าผากมีเหงื่อซึม แต่เฟิ่งจิ่วกลับมีสีหน้าสงบนิ่ง เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ เธอสวมผ้าปิดปากและใช้มีดผ่าตัดอย่างละเอียดประณีต หลังจากตรวจสอบเจอตำแหน่งของเศษสิ่งตกค้างที่อยู่ในแผล ก็ค่อยๆ คีบออกมาทีละชิ้น
เมื่อพวกเขาเห็นเศษสิ่งตกค้างเหล่านั้นถูกคีบออกมา ก็อดโล่งอกไม่ได้ ดูไม่ออกเลยว่าเจ้าหนุ่มนี่ก็มีความสามารถอยู่ไม่น้อย
ประมาณหนึ่งชั่วยามผ่านไป หลังจากกำจัดเนื้อส่วนที่เน่าออกหมดแล้ว เฟิ่งจิ่ววางมีดเล็กไว้ด้านข้าง แล้วหยิบเข็มกับไหมออกมาจากห้วงมิติเพื่อเย็บแผล
“เจ้าเอาเข็มกับไหมพวกนี้มาทำอะไร?” ชายแก่ชุดเทาที่ยืนอยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะถาม คิ้วก็ขมวดตามไปด้วย
“เย็นแผลอย่างไรเล่า!” เฟิ่งจิ่วพูดเหมือนเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว แต่คนรอบข้างกลับตะลึงค้าง
“อะ อะไรนะ? เย็บแผล?”
เพิ่งจะสิ้นเสียง ก็เห็นเด็กหนุ่มหยิบเข็มกับไหมเริ่มเย็บแผลแล้ว ขณะมองเขาเย็บเนื้อเหมือนกำลังเย็บผ้า พวกเขาสั่นสะท้านไปทั้งใจ
ยะ อย่างนี้ก็ได้ด้วยหรือ?
“เสร็จแล้ว รออีกเจ็ดวันค่อยตัดไหม เรื่องแผลถือว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว แต่ว่า…” เฟิ่งจิ่วหันไปมองพวกคนที่กำลังตะลึงค้าง จากนั้นยิ้มกรุ้มกริ่ม
“แต่ว่าอะไร?” พวกเขาอดทวนคำถามตามเด็กหนุ่มไม่ได้
“แต่ว่าพิษในร่างเขาพวกท่านยังไม่ได้แก้ให้ นอกจากนี้ ถึงจะจัดการแผลเรียบร้อยแล้ว แต่คืนนี้อาจมีไข้ได้ ไข้อาจจะหนักหรือเบาก็ได้ แต่หากทนไม่ไหวก็เท่ากับเสียแรงเปล่าทั้งหมด”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ พวกเขามองหน้ากัน สุดท้ายก็ยังเป็นหมอเฒ่าคนเดิมถามขึ้นว่า “เช่นนั้นสหายน้อยมีวิธีดีๆ หรือไม่?”
หลังจากได้เห็นฝีมือของเด็กหนุ่ม เขาก็รู้สึกทึ่งในตัวอีกฝ่ายยิ่งนัก ต้องรู้ไว้ว่า แม้แต่เขาก็ยังไม่อาจใช้เข็มเย็บเนื้อคนเป็นๆ โดยหน้าไม่เปลี่ยนสีเช่นนั้นได้ แต่เด็กหนุ่มกลับสุขุมและทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ จิตใจเช่นนี้ การฝึกฝนเช่นนี้ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
“ข้ามียาอยู่ พวกท่านจะซื้อไหม?”
เธอยิ้มจนตาหยีทั้งสองข้าง “กินยาของข้าแล้ว สองชั่วยามผ่านไปพิษในตัวเขาจะหายไปอย่างหมดจด พอกินยาของข้า คืนนี้แม้เขาจะมีไข้ก็ไม่มีปัญหาแน่นอน”
เห็นชายแก่ชุดเทาทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ เธอจึงยิ้มแล้วร่ายสรรพคุณ “ยาของข้านี้ไม่เหมือนกับยาของพวกท่าน ข้างนอกไม่มีขาย พวกท่านต้องคิดให้ดี หากพลาดยาของข้าไป จะมาตามหาทีหลังก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว”
“ยาอะไรยอดเยี่ยมถึงเพียงนั้น? ราคาเท่าไร? ซื้อ!”
ชายแก่ชุดเทากล่าว นึกในใจว่าของของเจ้าหนุ่มใจแคบนี่จะมีค่าสักกี่บาทเชียว พอได้มาแล้วก็ให้คนตรวจสอบสักหน่อย หลังมั่นใจแล้วว่าไม่มีปัญหาและใช้ได้ผลจริง เช่นนั้นค่อยเอาให้นายน้อยกิน
เฟิ่งจิ่วหรี่ตาเมื่อได้ยิน “ยาแก้พิษหนึ่งขวดกับยาฟื้นสภาพวิญญาณต้นหนึ่งขวด สองขวดข้าลดราคาให้ท่าน คิดแค่ห้าแสนเหรียญทองก็พอ”
“อะไรนะ! ห้าแสนเหรียญทอง?” ชายแก่ถมึงตาจ้องหน้าอย่างลืมตัว “เจ้าไม่ได้พูดผิดใช่ไหม?”
“จะพูดผิดได้อย่างไร? นี่เป็นของที่ข้าหลอมกลั่นขึ้นมาเองกับมือ หรือว่าทักษะการแพทย์ของข้ายังรับประกันประสิทธิภาพของยานี้ไม่ได้อีก?” เฟิ่งจิ่วยักคิ้วชำเลืองมองเขา
หมอเฒ่าที่อยู่ด้านข้างได้ยินก็ครุ่นคิดเงียบๆ เขามองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง หันไปมองนายน้อยที่กำลังหมดสติ แล้วจึงค่อยเกลี้ยกล่อมชายแก่ชุดเทาว่า “ซื้อเถิด ให้นายน้อยลองกินดู”
………………………………….
ตอนที่ 1370 เห็นได้ว่าไม่ธรรมดา
ชายแก่ชุดเทาเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ทำหน้าเครียด พูดกับเฟิ่งจิ่วว่า “ยาเล่า เอามา”
“ข้าเป็นพวกยื่นหมูยื่นแมว” เฟิ่งจิ่วเดินไปล้างมือด้านหนึ่ง ส่วนคนที่กำลังหมดสติก็ให้คนดันเตียงเข้าไปในห้องด้านในแล้ว
“สหายน้อย พวกเราไปคุยกันข้างนอกเถิด” หมอเฒ่ากล่าว แล้วเชิญเฟิ่งจิ่วออกไปข้างนอก
ด้วยเหตุนั้น นอกจากคนบางส่วนที่อยู่เฝ้าในห้องแล้ว พวกเขาสามคนก็ออกมานั่งที่โต๊ะหินข้างนอก คนรับใช้ยกชามาให้ จากนั้นก็ถอยออกไป
“สหายน้อย ไหมที่เจ้าเย็บให้นายน้อยเมื่อครู่…”
“ไหมนั้นผ่านไปเจ็ดวันให้ตัดทิ้งก็พอ” เฟิ่งจิ่วถอดผ้าปิดปากออกมาเก็บ ก่อนยกชาขึ้นจิบหนึ่งคำ
“แล้วยาที่เจ้าว่าเล่า เอาให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?” หมอเฒ่าถาม
เฟิ่งจิ่วครุ่นคิดครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พยักหน้า “ก็ได้” เธอหยิบขวดยาออกมาจากในแขนเสื้อสองขวด แล้ววางลงบนโต๊ะ
ยามมองขวดสีใสที่ดูพิเศษเฉพาะ สะท้อนให้เห็นของเหลวที่อยู่ข้างใน หมอเฒ่าตะลึงเล็กน้อย หัวใจสั่นไหว เขาเปิดฝาออกแล้วดมดู เมื่อดมกลิ่น ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที “ของดี! สหายน้อย ของเช่นนี้ยังมีอีกหรือไม่?”
ชายแก่ชุดเทาข้างๆ กันเห็นอย่างนั้น ก็หยิบขวดยาไปอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เมื่อมองดู สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างอดไม่ได้ ถามด้วยความประหลาดใจว่า “เจ้ากลั่นเองจริงหรือ?”
“จะซื้อไม่ใช่รึ? เอ้า อยู่นี่แล้ว” เธอชี้ไปที่ยาสองขวดนั้น พูดว่า “คิดเงินให้ข้าด้วย อีกอย่าง เพื่อนข้าคนนั้นเล่า?”
“เพื่อนเจ้าคนนั้น คนของพวกข้าจัดแจงที่พักให้แล้ว” ชายแก่ชุดเทาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “เอาเงินให้เจ้านั้นได้ แต่เจ้ายังไปไม่ได้”
“อะไรนะ?” เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้ว เสียงสูงขึ้นเล็กน้อย
“นายน้อยของข้ายังไม่ฟื้น เจ้าจะไปไหนได้อย่างไร หากไม่ฟื้นขึ้นมาเล่า?”
“เหอะ! ถ้าอย่างนั้นพวกท่านคิดจะรั้งข้าไว้กี่วัน?” เธอชำเลืองมองพวกเขาสองคน
“สหายน้อย เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! เจ้าอยู่ดูแลนายน้อยก่อน พวกข้าจะไม่ให้เจ้าทำงานเปล่าๆ แน่นอน” หมอเฒ่าเกลี้ยกล่อม มองหน้าเฟิ่งจิ่วพลางยิ้มบอก “อีกอย่างวิชาแพทย์ของเจ้าอยู่เหนือข้า หากอยู่ต่อได้ พวกข้าก็วางใจได้หน่อย”
“ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าไม่มีปัญหาแน่? อย่างมากอีกวันสองวันเขาก็ฟื้น กินยาของข้าแล้วไม่มีวันตายหรอก” เธอกลอกตาอย่างค่อนข้างเอือมระอา เธอไม่คิดจะอยู่ที่นี่นาน ยิ่งไปกว่านั้น คำนวณเวลาดูแล้ว ถ้าอยู่ที่นี่ต่อการเดินทางของเธอต้องล่าช้าแน่
“ตัดสินที่คำพูดของเจ้าไม่ได้ รอให้นายน้อยของข้าฟื้นขึ้นมาแล้วจึงจะตัดสินได้” ชายแก่ชุดเทาพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
เมื่อเห็นอย่างนั้น แววตาของเฟิ่งจิ่วไหวระริกเล็กน้อย จู่ๆ ก็เปลี่ยนใจ ยิ้มบอกว่า “ก็ดี เช่นนั้นข้าอยู่ต่อก็แล้วกัน แต่เพื่อนของข้าคนนั้นบาดเจ็บอยู่ ร่างกายก็ค่อนข้างอ่อนแอ พวกท่านช่วยจ้างรถม้าสักคันส่งเขากลับไปก่อนด้วย”
ครั้นได้ยิน ทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า “ได้” ขอแค่ทำให้เจ้าหนุ่มนี่อยู่ต่อเป็นพอ ถึงอย่างไรคนที่พวกเขาต้องการก็มีแค่เขาคนเดียว ส่วนอีกคนจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร
“เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้ ต่อไปก็คิดเงินให้ข้าก่อน” เฟิ่งจิ่วชี้ไปที่ยาสองขวดนั้น
ได้ยินอย่างนั้น ชายแก่ชุดเทาตะโกนเรียกคน ไม่นานก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น พูดกับเฟิ่งจิ่วว่า “ตามข้ามา!”
เฟิ่งจิ่วยักไหล่ ไม่สนใจพฤติกรรมที่ไม่ค่อยให้เกียรตินั้น ลุกขึ้นแล้วเดินตามหลังชายวัยกลางคนออกไป
เมื่อเด็กหนุ่มออกไป คนชราทั้งสองคนก็เริ่มพูดคุยกัน “วิชาแพทย์ของเจ้าหนุ่มนี่อยู่เหนือเจ้าจริงหรือ” ชายแก่ชุดเทาถาม
หมอเฒ่าพยักหน้า “ถูกต้องแล้ว เจ้าดูจากที่เขาผ่าตัดให้นายน้อยก็รู้แล้ว เรื่องที่ยากมากสำหรับข้า เขากลับทำได้อย่างใจเย็นและคล่องแคล่ว เห็นได้ว่าไม่ธรรมดา”
………………………………….