เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1381 ลั่วเหิงอยู่นี่แล้ว + ตอนที่ 1382 ความชอบที่พิสดารของซวีอู๋จื่อ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1381 ลั่วเหิงอยู่นี่แล้ว + ตอนที่ 1382 ความชอบที่พิสดารของซวีอู๋จื่อ
ตอนที่ 1381 ลั่วเหิงอยู่นี่แล้ว + ตอนที่ 1382 ความชอบที่พิสดารของซวีอู๋จื่อ
ตอนที่ 1381 ลั่วเหิงอยู่นี่แล้ว
ขณะเดียวกัน เป็นเหมือนที่เฟิ่งจิ่วคาดการณ์เอาไว้ ห่างออกไปข้างหน้าประมาณหกสิบจั้ง ชายหนุ่มร่างกายกำยำที่พวกเขาเจอก่อนหน้านี้กำลังหมดสติและถูกคนลากเข้าไปในป่า
ร่างกายถูกลากถูไปกับพื้น เกิดเป็นเสียงดังครืดคราด เหมือนคนคนนั้นต้องการหาสถานที่ที่ดีๆ เพื่อลงมือ จึงลากคนที่หมดสติไร้การรับรู้ไปเรื่อยๆ ขณะที่ปากก็พึมพำอะไรบางอย่างเป็นระยะ
“ล้วนสมควรตาย…ล้วนสมควรตาย…ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด ฆ่าพวกเจ้าให้หมด…”
คนคนนั้นปล่อยผมยาวกระเซิง ทำให้เห็นหน้าไม่ชัด เดินเท้าเปล่า ใส่ชุดคลุมของสำนักโอสถตะวันเก่าๆ ตัวหนึ่ง เวลานี้กำลังลากเท้าข้างหนึ่งของชายที่หมดสติ มืออีกข้างก็ถือกริชแหลมคมไว้
เมื่อลั่วเหิงที่แอบย่องเข้าใกล้เห็นภาพนั้นก็แข็งทื่อไปทั้งตัว เกือบจะหลุดเสียงร้องออกไป แต่มีมือคู่หนึ่งปิดปากเขาไว้ ไม่ให้เขาส่งเสียงร้องออกมา
สวรรค์! มีคนคลั่งฆ่าคนปรากฏตัวจริงๆ ด้วย! ซ้ำยังเป็นคนที่ใส่ชุดคลุมของสำนักโอสถตะวันอีก! หรือว่า ฆาตกรโรคจิตสังหารคนนั่นจะเป็นคนในสำนักโอสถตะวันของพวกเขา?
ครั้นนึกถึงความเป็นไปได้นี้ ร่างกายของเขาสั่นเทา ทั้งตกตะลึงและเหลือเชื่อ
“ศิษย์พี่ลั่วๆ?”
เฟิ่งจิ่วกระซิบเรียกเขา สายตาจดจ้องไปข้างหน้า ชายคนนั้นดูอายุยังไม่ถึงสามสิบปี รูปร่างผอมสูง เห็นหน้าไม่ชัด วรยุทธ์อยู่ระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุด พลังเช่นนี้สามารถฆ่าหลายคนก่อนหน้านี้ได้โดยไม่ทำให้ผู้ใดแตกตื่น แค่คิดดูก็รู้ว่าเป็นเพราะคนคนนี้มีความรู้เรื่องยาด้วย
เขาใช้ยาจัดการกับคนพวกนั้น จึงฆ่าคนได้โดยไม่ทำให้ใครแตกตื่น
ก็เหมือนกับตอนนี้ ชายร่างกายบึกบึนกำยำคนนั้นกำลังถูกลากอยู่อย่างนั้น เธอมั่นใจว่าหากพวกเขาสองคนไม่ปรากฏตัว ไม่นานเขาต้องตายอย่างแน่นอน!
“ศิษย์พี่ลั่ว ท่านจับเขาเถอะ!” เฟิ่งจิ่วกระซิบบอก
ครั้นได้ยินประโยคนี้ ลั่วเหิงหน้าซีด เบิกตากว้างจ้องหน้าอีกฝ่าย เอามือเฟิ่งจิ่วออกจากปากตัวเอง แล้วเอ็ดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “เจ้า เจ้าคิดจะผลักข้าไปหาความตายหรือ เจ้านั่นโหดเหี้ยมถึงเพียงนั้น ตัดลิ้นไม่พอยังตัดแขนตัดขาอีก ที่สำคัญที่สุดคือแม้แต่เจ้าโลกก็ยังตัดด้วย ข้า ข้าไม่อยากตายอย่างอนาถเช่นนั้น”
“จะเป็นไปได้อย่างไร? เจ้านั่นก็เป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลัง ท่านก็เป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังเหมือนกันนี่ ต้องสู้เขาได้แน่ อีกอย่างท่านคิดดูนะ! ช่วยชีวิตผู้ชายคนนั้นแล้วยังจับตัวคนคลั่งฆ่าคนได้อีก นี่เป็นผลงานใหญ่เลยเชียว ทางสำนักต้องตบรางวัลให้ท่านอย่างงามแน่ หนำซ้ำจะไปหาพวกศิษย์พี่หลินตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วด้วย! หรือท่านคิดจะมองผู้ชายที่เพิ่งทักทายท่านเมื่อครู่ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมไปต่อหน้าต่อตาอย่างนี้?”
“แต่ แต่ว่าข้า…ไม่มีความกล้านั้น…”
“ศิษย์พี่ลั่วเหิงแห่งสำนักโอสถตะวันอยู่นี่แล้ว ยังไม่รีบยอมให้จับเสียดีๆ อีก!” จู่ๆ เฟิ่งจิ่วก็ตะโกนขึ้นมาโดยไม่บอกไม่กล่าว ดึงลั่วเหิงให้ลุกขึ้นยืน แล้วผลักเขาออกไปข้างหน้า
เห็นเช่นนี้ เขาหน้าซีดลงหลายส่วน โดยเฉพาะเมื่อฆาตกรโรคจิตที่กำลังลากชายซึ่งหมดสติอยู่หยุดเดิน ก่อนหันมามองทางพวกเขาสองคน สายตาที่แฝงความบ้าคลั่งและอำมหิตนั่น ยิ่งทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“จะ เจ้าจะฆ่าข้าหรืออย่างไร!” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ ขาทั้งสองข้างสั่นเทา พอเห็นชายโรคจิตปล่อยขาคนแล้วเดินมาทางพวกเขา เขาตกใจจนแม้แต่จะวิ่งหนีก็ยังก้าวขาไม่ออก
“เร็ว รีบดึงข้าวิ่งเร็ว! ขะ ข้าขาอ่อนไปหมดแล้ว…”
ประกายมืดมนพาดผ่านดวงตาของเฟิ่งจิ่ว มองชายที่สาวเท้าตรงมาทางนี้แวบหนึ่ง แล้วหันไปมองลั่วเหิงซึ่งกำลังยืนขาอ่อนอยู่ตรงนั้น ฉับพลันนั้นก็แสยะยิ้มในใจ หันไปดึงเขาแล้วออกวิ่งไปข้างหน้าทันที
………………………………….
ตอนที่ 1382 ความชอบที่พิสดารของซวีอู๋จื่อ
ลั่วเหิงหน้าซีดเผือด หลุดร้องเสียงหลง “ไม่ใช่วิ่งไปข้างหน้า ถอยต่างหากเล่า ถอย!”
เขาไม่อยากวิ่งไปหาความตาย! เขาที่อยู่ระดับหลอมแก่นพลังขั้นเริ่มต้นไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุดได้เลย หากเข้าไปโดยไม่ประเมินกำลังตนเอง สุดท้ายก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น
“ไปตายเสีย!”
ชายผมยาวด้านหน้าถือกริชแทงเข้ามา ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็สาดผงยาใส่ ในชั่วขณะนั้น ขณะที่กรีดร้องเสียงแหลม ลั่วเหิงรู้สึกเพียงว่าเบื้องหน้าพร่าเลือน เหมือนเท้าสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง ทำให้ล้มคะมำไปข้างหน้าทั้งตัว
เวลาเดียวกัน เข็มเงินเล่มหนึ่งถูกดีดออกจากมือของเฟิ่งจิ่ว ชายโรคจิตคงนึกไม่ถึงว่าจะถูกเล่นงานขณะสาดผงยา จึงได้ยินเพียงเขาร้องโอดครวญ สายตาโหดเหี้ยมบ้าคลั่งหันไปมองทางเฟิ่งจิ่วในพริบตา
“อ๊าก!”
ลั่วเหิงที่ล้มคะมำไปข้างหน้าถูกพลังขุมหนึ่งฉุดไว้ ทำให้หลบผงยาที่ถูกสาดเข้ามาได้ แต่ไม่รู้เหตุใดไปๆ มาๆ จึงล้มลงไปนอนทับบนตัวของชายโรคจิต
“โอ๊ย!” เฟิ่งจิ่วเองก็ฉวยโอกาสล้มกลิ้งไปบนพื้น จากนั้นกรีดร้องด้วยความตกใจ
ในตอนนี้เอง ลั่วเหิงพบว่าผู้ชายที่ถูกทับอยู่ข้างล่างเหมือนจะไม่ขยับเขยื้อนแล้ว เขาอดตกตะลึงไม่ได้ พอลุกขึ้นดูก็เห็นว่าหน้าผากของฝ่ายนั้นกระแทกเข้ากับหินแหลมบนพื้นจนแตก เลือดไหลอาบนอนหมดสติอยู่ตรงนั้น
“อึก! เป็นเขา?” เขารีบถอยหลังไปหลายก้าว มองใบหน้าของชายคนนั้นด้วยความตกใจ
เฟิ่งจิ่วนวดคลึงมือเท้าที่เจ็บเพราะล้มลง ลุกขึ้นมาพลางถามว่า “ศิษย์พี่ลั่ว ท่านสุดยอดมาก จับตัวเจ้านั่นได้ในกระบวนท่าเดียว แต่ตอนนี้ควรจะจับเขามัดไว้ก่อนหรือไม่?”
“หา? ข้า ข้าเป็นคนจับเขาหรือ?” เขาถามอย่างอึ้งๆ
“แล้วไม่ใช่หรือ?” เธอกะพริบตาปริบๆ ทำหน้าสงสัย
“ใช่ๆ เขาถูกข้าชนจึงล้มหัวกระแทกหินหมดสติไป ข้าเป็นคนจับเขาไม่ผิดแน่ ฮิๆ ข้าสร้างผลงานแล้ว” เขาย่ามใจขึ้นมาทันที แต่ก็นึกถึงชายคนนั้น จึงนั่งยองลงแหวกผมเขาดูอีกครั้ง ต่อมาก็ขมวดคิ้ว หยิบเชือกออกมามัดคนที่กำลังหมดสติ
ส่วนเฟิ่งจิ่วที่อยู่ด้านหนึ่งแอบดึงเข็มเงินออกมาแล้วเก็บใส่แขนเสื้ออย่างแนบเนียน ครั้นเห็นท่าทางของเขาจึงถามว่า “ศิษย์พี่ลั่วรู้จักเขาหรือ?”
“อืม เขาเป็นคนของสำนักโอสถตะวัน แต่หายตัวไปหลายเดือนแล้ว ทำไมถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้? แล้วยังจะมาฆ่าคนอยู่ที่นี่อีก?” เขาพึมพำด้วยความสงสัย จ้องคนที่ถูกมัดไว้ ทำหน้าไม่ค่อยเข้าใจ
“ศิษย์พี่ลั่วท่านดูนี่ มือกับเท้าของเขาเหมือนจะมีร่องรอยเคยถูกมัด” เฟิ่งจิ่วชี้ที่มือและเท้าของชายโรคจิต พลางถาม “ผู้ชายคนนี้เป็นใครในสำนักโอสถตะวันหรือ ผู้ฝึกตนหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุด ทั้งยังมีความรู้เรื่องยาอีก คงไม่ใช่ศิษย์ทั่วไปกระมัง?”
“เขาเป็นคนของปรมาจารย์ซวีอู๋จื่อ ข้าเคยเจอเขาสองสามครั้ง เพียงแต่ต่อมาได้ยินว่า…” พูดมาถึงตรงนี้ เขาลังเลเล็กน้อย นึกถึงวิธีการสังหารคนของชายคนนี้แล้วอดขนลุกไม่ได้
“ได้ยินว่าอะไร?” เฟิ่งจิ่วถามด้วยความอยากรู้
ลั่วเหิงเป็นคนเก็บความลับไม่อยู่ กอปรกับเขาเองก็สงสัยอยู่ในใจ อยากหาคนคุยด้วยอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงกระซิบว่า “ข้าบอกเจ้าแล้ว เจ้าห้ามไปบอกใครเล่า”
“อื้มๆ” เธอรีบพยักหน้า “วางใจได้ ไม่นานข้าก็ลืมแล้ว”
“ในสำนักมีข่าวลือว่า ปรมาจารย์ซวีอู๋จื่อมีความที่ชอบพิสดาร ลูกศิษย์ที่อยู่บนเขาของเขามักจะหายตัวไปเป็นระยะ บ้างก็ลือว่าถูกจับไปขังเพื่อทดลองยา บ้างก็ลือว่าถูกปรมาจารย์ซวีอู๋จื่อขังไว้เป็นของเล่น แต่เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นแค่ข่าวลือ ไม่มีหลักฐาน ข้าก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่”
………………………………….