เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1465 เรียกว่าท่านแม่สักครั้ง + ตอนที่ 1466 ข้ามีวิธี
ตอนที่ 1465 เรียกว่าท่านแม่สักครั้ง + ตอนที่ 1466 ข้ามีวิธี
ตอนที่ 1465 เรียกว่าท่านแม่สักครั้ง
“อาการบาดเจ็บของเขายังไม่คงตัว ฉะนั้นเขานอนอยู่บนเตียงท่านก็พยายามอย่าไปขยับตัวเขา อีกอย่าง พักนี้อย่าให้คนอื่นมาพบเขา เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการรักษาและทำให้กระดูกสันหลังส่วนเอวของเขาเคลื่อนอีก”
เฟิ่งจิ่วกำชับ ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยังไม่ได้ยินเสียงเขาตอบ จึงเงยหน้ามอง เห็นเขาจ้องเธออย่างอึ้งๆ ทำหน้าแปลกประหลาด จึงถาม “เป็นอะไรไปหรือ?”
ลั่วเหิงได้สติ มองยาพวกนั้นแวบหนึ่ง แล้วถามว่า “ของพวกนั้นเจ้าเอามาจากที่ใด? อย่าบอกนะว่าเจ้าทำขึ้นมาเอง”
ของพวกนั้นไม่ใช่ยาเม็ด แต่เป็นยาน้ำ มีเพียงนักปรุงยาเท่านั้นที่จะทำยาน้ำได้ เขาเป็นแค่ศิษย์ชั้นล่าง เหตุใดจึงทำสิ่งที่นักเล่นแร่แปรธาตุอย่างพวกเขาทำไม่เป็นได้เล่า?
“อ้อ อันนี้น่ะหรือ!”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือ? เป็นสูตรลับของตระกูลข้า ยาขี้ผึ้งนี้ทำอย่างอื่นไม่ได้ ทำได้เพียงรักษาอาการบาดเจ็บจำพวกกระดูกหักอะไรทำนองนั้น ส่วนยาน้ำพวกนั้น ล้วนเป็นคนอื่นมอบให้ข้า ถึงข้าจะหลอมยาไม่เป็น แต่ในถุงฟ้าดินของข้าก็มียาที่พวกท่านมอบให้ข้าอยู่นะ! ซ้ำยังมีไม่น้อยเสียด้วย”
ได้ยินอย่างนี้ ลั่วเหิงแม้จะสงสัย แต่ก็รู้ว่าเขาพูดมีเหตุผล ถึงเขาจะเป็นเพียงศิษย์ชั้นล่าง แต่เพราะทำงานส่งของได้ดี อีกทั้งยังปากหวานอีกด้วย มีนักเล่นแร่แปรธาตุหลายคนมอบยาที่มีค่าไม่มากนักให้เขาเป็นรางวัล
ว่าไปแล้ว การที่เฟิ่งจิ่วมียาน้ำที่นักเล่นแร่แปรธาตุไม่อาจทำขึ้นมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“อืม ก็ได้! เรื่องที่เจ้าบอก ข้าจำไว้หมดแล้ว” เขาพยักหน้า เก็บยาบนโต๊ะให้หมด จากนั้นก็บอกกับเฟิ่งจิ่วว่า “เรื่องศิษย์พี่เฉินทางนี้มอบหมายให้เป็นหน้าที่ข้า ข้าจำไว้หมดแล้ว เจ้าวางใจได้!”
“ขอรับ” เฟิ่งจิ่วพยักหน้า แล้วก็อธิบายรายละเอียดอย่างอื่นให้เขาฟังอีก จากนั้นก็ขอตัวกลับ
วันต่อมา เดิมทีเธอคิดจะใช้ข้ออ้างส่งยาทิพย์ขึ้นไปที่ชั้นแปด เพื่อไปหาท่านแม่ของเธอ นึกไม่ถึง เพิ่งจะเดินออกจากถ้ำก็เห็นท่านแม่ของเธอเดินมาจากบริเวณใกล้ๆ
เธอชะงักงัน ก่อนจะรีบสาวเดินเข้าไปหา “อาจารย์อา ท่านเป็นอะไรไป?” นึกแล้วก็น่าขัน ทั้งที่เป็นมารดา ทั้งที่รู้ตัวตนกันแล้ว แต่กลับต้องเรียกขานว่าอาจารย์อา
“เจ้าพักอยู่ที่นี่หรือ?” ซั่งกวนหวั่นหรงมองถ้ำโทรมๆ ข้างหลังเธอ แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ศิษย์พักอยู่ที่นี่แหละขอรับ” เธอยิ้มตาหยี ถามว่า “เข้าไปนั่งก่อนไหมขอรับ?”
“อืม” ซั่งกวนหวั่นหรงพยักหน้า แล้วเดินเข้าไปในถ้ำพร้อมเธอ
ครั้นเข้ามาข้างใน ก็พบว่าในถ้ำไม่เพียงเล็ก แต่ยังมีข้าวของเครื่องใช้ไม่ครบครันด้วย แม้แต่ที่อาบน้ำก็ยังไม่มี พอนึกว่าเธอไม่มีแม้แต่สถานที่ให้อาบน้ำได้อย่างสบายใจ นางก็อดละอายใจไม่ได้
เพื่อตามหานาง เฟิ่งจิ่วถึงได้เข้ามาในสถานที่เช่นนี้ และกลายเป็นศิษย์ชั้นล่างของยอดเขาซานหยาง นางที่เป็นมารดาไม่เพียงไม่ได้ดูแลนางมาหลายปี ยังทำให้นางต้องเผชิญหน้ากับชีวิตที่ลำบากเช่นนี้ ไม่สมควรยิ่งนัก
“นั่งเถิดขอรับ” เฟิ่งจิ่วพยักพเยิดบอก แล้วรินน้ำชาให้นาง จากนั้นก็จ้องหน้านาง ถามอย่างมีความหวังว่า “ข้าเรียกท่านว่าท่านแม่ได้หรือยัง?”
ได้ยินประโยคนี้ หัวใจของซั่งกวนหวั่นหรงบีบรัด เงยหน้ามองบุตรสาวที่ดวงตาสะท้อนแววคาดหวังตรงหน้า ดวงตาร้อนผ่าวอย่างอดไม่ได้ นางยื่นมือออกมา ลูบหน้าเธอเบาๆ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เช่นนั้นเจ้าฟังแม่สักเรื่องได้หรือไม่?”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วเผยรอยยิ้มดีใจออกมา ตอบด้วยน้ำเสียงสุขใจ “ท่านแม่ มีเรื่องใดท่านว่ามาได้” หากท่านพ่อของเธอรู้ว่าเธอหาตัวท่านแม่เจอแล้ว จะต้องดีใจมากแน่ๆ
“รีบไปจากที่นี่ ไปจากที่นี่ แล้วรีบกลับไปอยู่ข้างกายท่านพ่อของเจ้าเสีย”
………………………………….
ตอนที่ 1466 ข้ามีวิธี
รอยยิ้มบนใบหน้าเฟิ่งจิ่วหุบลง มองนางแล้วถามว่า “เช่นนั้นท่านแม่จะกลับไปกับข้าหรือไม่?”
“ข้าไม่ไปแล้ว ท่านอาจารย์สั่งให้ข้าทะลวงขั้นเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณภายในสามเดือนให้ได้ ไม่เช่นนั้น เขาจะส่งข้าไปยังดินแดนรกร้าง ทำให้ข้าต้องผ่านการเอาชีวิตรอดอย่างโหดร้ายเพื่อทะลวงขั้น”
ซั่งกวนหวั่นหรงมองเธอ แล้วบอกว่า “วันนี้ที่ข้ามาหาเจ้าก็เพราะหวังว่าเจ้าจะรีบจากไป ที่นี่ไม่ปลอดภัย เจ้าอยู่ที่นี่ ข้ายิ่งไม่อาจวางใจ เจ้ากลับไปหาท่านพ่อก่อน รอให้แม่จัดการเรื่องราวทางนี้เสร็จเมื่อใด จะต้องกลับไปหาพวกเจ้าแน่นอน”
“ท่านแม่คิดว่าท่านจะไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัยแน่หรือเจ้าคะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงเบาหวิว แล้วบรรยากาศรอบตัวก็หยุดชะงัก แลดูเคร่งเครียดเล็กน้อย
ทว่า เฟิ่งจิ่วกลับไม่รู้สึกอะไร ยังคงพูดต่อ “ที่จริงท่านแม่ยังไม่รู้ ก่อนจะมาที่นี่ เดิมทีข้าตั้งใจจะไปตามหาท่านแม่ที่ตระกูลซั่งกวน แต่ได้ยินว่าท่านแม่มาอยู่ที่นี่แล้ว จึงได้ตามมาหาท่านที่นี่
ท่านพ่อวางใจให้ข้าออกมาตามลำพัง ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่นใด แต่เป็นเพราะข้ามีกำลังปกป้องตนเองได้ พลังของข้าแม้อยู่ในแปดจักรวรรดิใหญ่จะไม่ถือว่าโดดเด่นเหนือใคร แต่การจะรักษาชีวิตตนเองนั้นไม่ใช่ปัญหา ปกป้องท่านแม่ ก็ไม่ใช่ปัญหาเช่นกัน”
ซั่งกวนหวั่นหรงมองเธอด้วยความอึ้งงัน ท่าทางที่เธอแสดงออกมาในยามนี้ให้ความรู้สึกต่างจากก่อนหน้านี้ เธอในตอนนี้ดูใจเย็นและสุขุม หว่างคิ้วแสดงความมั่นใจ ในดวงตามีแววโอหังเย่อหยิ่งโลดแล่นอยู่ รอบกายมีราศีสูงส่งน่าเกรงขามแผ่กระจาย
“ท่านแม่ ข้ามั่นใจได้ว่าซานหยางจื่อคิดร้ายกับท่านอยู่ ถึงไม่รู้เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ แต่ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน ท่านต้องบอกข้า ให้ข้าได้แบ่งเบาภาระไปพร้อมกับท่าน ช่วยท่านออกความเห็น ปรึกษาหาทางรับมือด้วยกัน ไม่เช่นนั้น ข้าไม่เชื่อว่าท่านจะหนีรอดไปจากเงื้อมมือของซานหยางจื่อ”
“แต่ว่า หากเจ้าอยู่ต่อ แล้วเกิดอะไรขึ้น…” นางกังวลใจเหลือเกิน แล้วก็ไม่คาดคิดว่าเธอจะไม่ยอมจากไป ยิ่งไม่คิดว่ายามเอ่ยถึงเรื่องนี้ บุคลิกของเธอจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเช่นนี้
“ท่านไม่ไป ข้าก็ไม่ไป ข้ารับปากท่านพ่อแล้ว ว่าจะพาท่านแม่กลับไปให้ได้”
ได้ยินอย่างนั้น ซั่งกวนหวั่นหรงนั่งเงียบไปครู่หนึ่ง เนิ่นนาน จึงค่อยถอนหายใจบอกว่า “เช่นนั้นเจ้าก็อยู่ต่อก่อนก็แล้วกัน! แต่ว่า ยามอยู่ข้างนอกเรียกข้าว่าท่านแม่ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นหากเขารู้เข้า จะต้องเป็นภัยต่อเจ้าแน่”
“เจ้าค่ะ ข้ารู้” เธอยิ้มแล้วพยักหน้า ดวงตายิ้มหยีแล้วถามว่า “เช่นนั้นท่านแม่จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ข้าฟังได้หรือยังเจ้าคะ?”
เห็นเช่นนั้น ซั่งกวนหวั่นหรงไม่มีทางเลือกอื่น จึงเล่าเรื่องราวทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่นางถูกซานหยางจื่อพาตัวออกมาได้อย่างไรให้เธอฟัง
“ข้ารู้สึกว่า คำสั่งที่ซานหยางจื่อสั่งให้ข้าทะลวงขั้นเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณจะต้องมีเงื่อนงำแน่ๆ หากเขาต้องการชีวิตข้าจริง ข้าคิดว่าน่าจะเป็นหลังจากที่ข้าทะลวงขั้นเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณแล้ว”
นางคาดการณ์เสียงเบา แล้วบอกอีกว่า “แต่ว่า ระดับกำเนิดวิญญาณไม่ได้ทะลวงขั้นกันง่ายถึงเพียงนั้น หากฝืนใช้ยาเพื่อทะลวงขั้น ข้ากังวลว่ารากฐานจะไม่มั่นคง ภายหน้าจะทำให้ทะลวงขั้นได้ยาก ทว่าสถานการณ์ตรงหน้า ถึงข้าจะไม่กินยาเพื่อทะลวงขั้น ถึงกำหนดสามเดือนเมื่อใด เกรงว่าเขาจะต้องลงมือทำอะไรสักอย่างแน่นอน”
เฟิ่งจิ่วได้ยินอย่างนั้น นัยน์ตาไหวระริก ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว “ถ้าอย่างไร เรื่องนี้มอบหมายให้ข้าทำเถิด! ข้าปลอมตัวเป็นท่านแม่แล้วอยู่ต่อได้ ส่วนท่านแม่ก็ไปจากที่นี่ก่อน ไปรวมตัวกับพวกเหลิ่งซวง ท่านคิดว่าอย่างไรเจ้าคะ?”
………………………………….