เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1539 ถีบกระเด็นในหนึ่งฝ่าเท้า + ตอนที่ 1540 คนเหี้ยม
ตอนที่ 1539 ถีบกระเด็นในหนึ่งฝ่าเท้า + ตอนที่ 1540 คนเหี้ยม
ตอนที่ 1539 ถีบกระเด็นในหนึ่งฝ่าเท้า
บนถนนภูเขาเส้นหนึ่ง เฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นมาวางพาดบนหลังเหล่าไป๋ ส่วนเท้าอีกข้างก็ทิ้งลงข้างลำตัวเหล่าไป๋ ในมือถือผลไม้กัดกิน ร่างกายสั่นไปตามจังหวะการเคลื่อนไหวของเหล่าไป๋
“เหล่าไป๋ เจ้าเดินเร็วหน่อยสิ เจ้าช้าอย่างนี้วันหน้าข้าจะพาเจ้าออกมาได้อีกหรือ” เฟิ่งจิ่วกัดผลไม้กิน พลางบ่นอย่างเอือมๆ
ตอนแรกเธอคิดไว้ว่าเดินทางไปเมืองซุ่นเหยียนไม่ได้ใช้เวลาน้อยๆ จึงพาเหล่าไป๋ออกมาจะได้พามันออกมาเดินเล่นข้างนอกด้วย นึกไม่ถึงเหล่าไป๋อยู่บ้านนานเกินไป ออกมาข้างนอกครั้งนี้กีบเท้าม้ากลับไม่กระเตื้องแล้ว
หากเป็นอย่างนี้ต่อไป เมื่อไรจะถึงเมืองซุ่นเหยียนกัน
ขณะตัดสินใจจะมุ่งหน้าไปยังเมืองซุ่นเหยียน เธอให้คนส่งข่าวไปที่ตำหนักยมราช ถ้าตอนนั้นเซวียนหยวนโม่เจ๋อตามไปที่เมืองซุ่นเหยียนทันเวลาก็เรื่องหนึ่ง หากตามไม่ทันเธอค่อยกลับไปหาเขาที่ตำหนักยมราช
ถึงอย่างไร เดินทางไปภูผาสวรรค์ครั้งนี้ก็ไกลมาก ไปกลับใช้เวลาถึงสามเดือน ระหว่างทางหากมีเขาเดินทางไปด้วย อย่างน้อยก็มีคนช่วยดูแลกันและกัน
“นายท่าน นั่งให้ดีๆ เล่า ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” สิ้นเสียงของเหล่าไป๋ จู่ๆ มันก็สาวเท้าวิ่ง ทำให้เฟิ่งจิ่วที่ยังไม่ทันนั่งให้ดีตัวเอียงไปข้างหลัง โชคดีที่ดึงเชือกไว้ได้ทัน จึงกลับมาตั้งหลักได้
วิ่งบนถนนภูเขาด้วยความเร็วสูง เสียงตึกตักๆ ดังก้องอยู่ในถนนภูเขา ด้วยฝีเท้าของเหล่าไป๋ ถนนภูเขาที่วิ่งผ่านเต็มไปด้วยฝุ่นคลุ้ง…
กระทั่งถึงยามพลบค่ำ เหล่าไป๋ที่วิ่งทะยานเริ่มลดความเร็ว “นายท่าน ข้าหิวน้ำ หาที่พักกันก่อนเถิด!”
เฟิ่งจิ่วเห็นว่าวันนี้ออกเดินทางมาไกลแล้ว จึงพยักหน้า “ก็ได้! หาที่พักก่อนก็แล้วกัน!” ขณะเอ่ย ก็กระโดดลงมา เดินเข้าไปในป่าแล้วบิดขี้เกียจ ยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย แล้วหันไปบอกเหล่าไป๋ “ไปหาน้ำดื่มเองก็แล้วกัน!”
เหล่าไป๋กระดิกหางแล้วเขย่าตัวเล็กน้อย จากนั้นก็ไปหาแหล่งน้ำตามลำพัง ครั้นตามเสียงน้ำไหลไปจนเจอลำธารสายหนึ่ง มันก็ยิ้มกว้างแล้ววิ่งเข้าไปดื่มน้ำทันที
ทว่า ในตอนนี้เองกลับได้ยินเหมือนมีเสียงอะไรบางอย่างอยู่ในน้ำดังมาจากปลายน้ำ ด้วยความสงสัย มันเดินตามทางแหวกผ่านพุ่มหญ้ามาจนถึงปลายน้ำ ครั้นเห็นภาพในน้ำ ดวงตาของมันเป็นประกาย น้ำลายไหลอย่างไม่รู้ตัว หมอบตัวต่ำซ่อนตัวอยู่ในพุ่มหญ้า
สาวงามนี่นา!
มันลอบชื่นชมในใจ ดวงตาจับจ้องเงาร่างที่แช่อยู่ในน้ำ ยามนี้ฟ้ายังไม่มืดสนิท มันเห็นหัวไหล่แหลมๆ และขาวเนียนดุจหิมะอย่างชัดเจน รวมถึงเนินอกที่โผล่มาให้เห็นวับๆ แวมๆ
แต่ดูก็ส่วนดู มันดูอยู่ไม่นานก็นึกถึงที่นายท่านเคยเตือนมันว่าอย่าลามกเกินไป ฉะนั้น มันจึงคิดจะผละจากไป เพื่อรายงานนายท่านก่อน ทว่า ขณะที่มันกำลังจะถอยหลัง กลับค้นพบว่าในพุ่มหญ้าที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมีชายคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่ ชายคนนั้นกำลังจ้องมองหญิงสาวในน้ำด้วยสายตาหื่นกามสุดขีด
เห็นอย่างนั้น มันปั้นหน้าเคร่งขรึม เดินอ้อมไปอีกทาง ค่อยๆ ย่องเข้าไปข้างหลังชายคนที่กำลังจ้องมองวิววสันตฤดูตรงหน้า กีบเท้าม้ายกขึ้น แล้วถีบคนคนนั้นกระเด็นออกไป
“ชายลามก! กล้าแอบดูหญิงสาวอาบน้ำ!” เหล่าไป๋ด่าเสียงดัง เชิดคางยาวๆ ขึ้น รู้สึกว่าตนเองกำลังทำเรื่องดีๆ อยู่
“โอ๊ย!”
ชายคนนั้นถูกถีบออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างกายเสียหลักปลิวออกไป ร่วงตกลงไปในลำธารด้านหน้าเสียงดัง หยดน้ำแตกกระจายเป็นวงกว้าง
เพิ่งจะสิ้นเสียงร้องด้วยความตกใจของชายคนนั้น หญิงสาวในน้ำก็กรีดร้องเสียงดัง “กรี๊ด…”
………………………………….
ตอนที่ 1540 คนเหี้ยม
ทว่า ครั้นเหล่าไป๋เห็นชายคนที่ถูกถีบตกน้ำโผล่หัวขึ้นมาจากใต้น้ำ แล้วยืนอยู่ตรงหน้าหญิงสาวในน้ำพอดี มันก็อดอึ้งงันไม่ได้
เหมือนยิ่งช่วยยิ่งทำให้เรื่องวุ่นวายอีกแล้ว
นึกมาถึงตรงนี้ เท้าที่เดิมทีตั้งใจจะก้าวออกไปรีบหดกลับมา มองสองคนในน้ำแวบหนึ่ง แล้วถอยออกมา วิ่งกลับไปทางเดิม
เฟิ่งจิ่วที่กำลังยืดเส้นยืดสายอยู่ใต้ต้นไม้ได้ยินเสียงกรีดร้องของชายหญิงดังขึ้น ก็อดตกใจไม่ได้ เธอมองไปทางเสียงนั้น ไม่นานก็เห็นเหล่าไป๋วิ่งกลับมา
“นายท่านๆ พวกเรารีบไปกันเถิด! ข้าทำเรื่องไม่ดีอีกแล้ว” มันเดินวนรอบตัวเธอ อยากจะให้เธอรีบขึ้นหลัง
“ทำเรื่องไม่ดีอะไร” เฟิ่งจิ่วมองมันแล้วถามด้วยความแปลกใจ กลับไม่ได้รีบขึ้นหลังม้า
“ข้าเห็นหญิงคนหนึ่งกำลังอาบน้ำอยู่ในลำธาร แล้วเห็นชายคนหนึ่งแอบดูอยู่อีกฝั่ง จึงถีบเขาตกน้ำไป นึกไม่ถึงกลับเป็นการส่งชายคนนั้นไปอยู่ตรงหน้าหญิงสาวที่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า” เหล่าไป๋พูดด้วยความร้อนใจ นึกถึงเรื่องโง่ๆ ที่ตนเองทำ มันก็รู้สึกว่าไม่มีหน้ามาพบนายท่านแล้ว
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว เห็นว่าป่าอันเงียบสงบกลับไร้ซุ่มเสียง รู้สึกว่าไม่ชอบมาพากล จึงสาวเท้ามุ่งหน้าไปยังจุดที่เกิดเสียง
ฟังจากที่เหล่าไป๋เล่า เดาว่าตอนนี้สองคนนั้นน่าจะมีปากเสียงหรือลงไม้ลงมือกันแล้ว เหตุใดจึงเงียบไปเลยเล่า
“นายท่าน จะไปไหน” เหล่าไป๋รีบตามไปถาม
“ไปดูน่ะสิ! เจ้าถีบชายคนหนึ่งไปอยู่ต่อหน้าหญิงสาวที่ไม่สวมเสื้อผ้า นี่ไม่ใช่ตั้งใจจะให้ชายคนนั้นทำเรื่องไม่ดีหรือ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะมีชายคนใดอดกลั้นได้ดีขนาดนั้น ไปดูสักหน่อย เผื่อเกิดอะไรไม่ดีขึ้น”
เหล่าไป๋อึ้งงัน ไม่อาจเข้าใจความคิดของมนุษย์ “คงไม่กระมัง” มันครุ่นคิด แค่มองก็ถือว่าเอาเปรียบแล้ว เหตุใดยังจะก่อเรื่องไม่ดีอีก
ทว่า ครั้นหนึ่งคนหนึ่งม้ามาถึงลำธารเส้นนั้น ยังไม่ทันเข้าไปใกล้ ก็เห็นผู้ชายคนนั้นถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่กางเกงชั้นในตัวเดียวกำลังลูบคลำเรือนร่างของหญิงสาวที่กำลังหมดสติ
เห็นภาพนั้น เฟิ่งจิ่วขมวดคิ้ว หมุนข้อมือ เข็มเงินเล่มหนึ่งพุ่งออกไป แทงเข้าที่ต้นคอของชายคนนั้น เห็นเพียงร่างกายของเขาแข็งค้าง ยังไม่ทันได้หันกลับมาก็ล้มลงไปแล้ว
“เจ้าดูเรื่องดีๆ ที่เจ้าทำไว้”
เธอตวัดตามองเหล่าไป๋ที่ก้มหน้าก้มตาอย่างไม่พอใจ เดินเข้ามาหยุดข้างกายหญิงสาวแล้วตรวจอาการให้นาง เห็นว่าถูกตีสลบเท่านั้น จึงหดมือกลับมา ขณะเตรียมตัวจะจากไป ก็เห็นแพขนตาของหญิงสาวกระเพื่อม ไม่นานก็ลืมตาขึ้น ครั้นเห็นเบื้องหน้ามีชายหนุ่มชุดแดงอยู่คนหนึ่ง ก็ตกใจกรีดร้องเสียงแหลม
“กรี๊ด!”
“ไม่ต้องร้องแล้ว นายท่านของข้าช่วยเจ้าไว้ หากไม่ได้นายท่านของข้า เจ้าต้องแย่แน่ๆ” เหล่าไป๋คาบเสื้อผ้าของหญิงสาวมาโยนลงบนตัวนาง แล้วเบนสายตาไปทางอื่น ไม่มองส่งเดช
เวลานี้ หญิงสาวเพิ่งเห็นชายเปลือยที่นอนหมดสติอยู่ข้างๆ นึกถึงตอนที่อยู่ในน้ำ เขาเอาเปรียบนางโดยไม่สนใจว่านางจะขัดขืนอย่างไร ในใจนึกแค้น รวบเสื้อผ้าปิดบังร่างกาย มือหนึ่งล้วงเข้าไปในถุงฟ้าดินที่ห้อยไว้บนข้อมืออีกข้าง หยิบมีดสั้นออกมา กรีดลำคอของเขาอย่างไร้ความปรานี
เลือดไหลทะลัก ไหลลงลำธารและกระจายออกไป เฟิ่งจิ่วที่ถอยไปยืนอยู่ด้านหนึ่งเห็นภาพนั้น เพียงยักคิ้ว แล้วพาเหล่าไป๋หมุนตัวจากไป
ดูเหมือนจะเป็นคนเหี้ยมคนหนึ่งเหมือนกัน
เหล่าไป๋เห็นอย่างนั้นก็ไม่กล้าพูดมาก ทำหางลู่เดินตามเฟิ่งจิ่วออกไป
หญิงสาวเห็นชายหนุ่มชุดแดงจูงม้าจากไป ก็ชะงักเล็กน้อย รีบสวมเสื้อผ้า รัดสายคาดเอวแล้วเดินตามออกไป…
………………………………….