เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1557 ให้ข้าปกป้อง + ตอนที่ 1558 พานพบหลังพลัดพราก
ตอนที่ 1557 ให้ข้าปกป้อง + ตอนที่ 1558 พานพบหลังพลัดพราก
ตอนที่ 1557 ให้ข้าปกป้อง
“นางหูหนวกแล้วก็เป็นใบ้หรือ” กวนสีหลิ่นประหลาดใจ มองหญิงสาวที่หลับตานอนคว่ำอยู่บนโต๊ะด้วยความตกใจเล็กน้อย หากเสี่ยวจิ่วไม่บอก เขาก็ดูไม่ออก หนำซ้ำพอมองอีกที พบว่าหญิงสาวคนนี้สวยมาก
“อืม นางเป็นคุณหนูใหญ่ของจวนนี้ชื่อต้วนอิ๋งอิ๋ง นางยังมีน้องสาวฝาแฝดอีกคนชื่อต้วนหลินหลิน สองพี่น้องแม้จะหน้าตาเหมือนกัน แต่กลับมีชีวิตที่ต่างกัน นางอาศัยอยู่ที่นี่เพียงลำพังมาตั้งแต่เกิด สวนแห่งนี้เป็นของนาง ข้าเพียงแต่เข้ามาอาศัยอยู่ชั่วคราวเท่านั้น”
ได้ยินอย่างนั้น กวนสีหลิ่นพยักหน้า มองหญิงสาวแวบหนึ่ง ในใจนึกเห็นใจ แต่กลับไม่พูดอะไรมาก เพียงละสายตาออกจากหญิงสาว แล้วพยักพเยิดให้เฟิ่งจิ่วนั่งลง
“เสี่ยวจิ่ว เรามานั่งคุยกันดีๆ เถิด เจ้ามาที่เมืองซุ่นเหยียนได้อย่างไร ข้าได้ยินคนข้างนอกบอกว่าเจ้ามาช่วยเจ้าเมืองต้วนรักษาคน มีเรื่องอะไรงั้นหรือ”
“ท่านพี่ ท่านช่างรู้จักข้าดีจริงๆ” เธอยิ้มตาหยี บอกว่า “เราก็ไม่ได้เจอกันมานานมากแล้ว ท่านไม่รู้หรอกว่าสองปีมานี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นมากมาย ข้าจะบอกท่านให้นะ หลังจากที่ออกจากสำนักศึกษาในปีนั้น…”
สองพี่น้องไม่ได้เจอกันมานาน เฟิ่งจิ่วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในระยะนี้ให้เขาฟังคร่าวๆ สุดท้าย กวนสีหลิ่นได้ยินเรื่องที่เฟิ่งจิ่วเล่า จึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ที่แท้ก็อย่างนี้เอง ไม่น่าเล่าถึงได้พบเจ้าที่นี่ ที่แท้เจ้าก็มาเพราะดอกหลิงหลงเจ็ดสีนี่เอง แต่ถึงแม้สองปีที่ผ่านมาจะเจอเรื่องราวมากมาย ก็ยังโชคดีที่ในที่สุดเจ้าก็หาท่านแม่พบ แล้วนางก็ยังมีชีวิตอยู่ด้วยไม่ใช่หรือ
เธอถอนหายใจเบาๆ ตอบว่า “ใช่น่ะสิ! อย่างอื่นล้วนไม่สำคัญ ขอเพียงท่านแม่ของข้ามีชีวิตอยู่ก็พอแล้ว ข้าเชื่อว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้จะผ่านไปได้”
“ใช่สิ ตอนนั้นท่านบอกว่าเจอเบาะแสของท่านพ่อท่านแล้วไม่ใช่หรือ ต่อมาสืบเจออะไรบ้างหรือไม่” เธอถาม
กวนสีหลิ่นส่ายหน้า “ไม่เลย ยากราวกับงมเข็มในมหาสมุทร” เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง มองเธอ แล้วพูดว่า “เสี่ยวจิ่ว บางครั้งข้าก็อดคิดไม่ได้ ท่านพ่อข้าไม่อยากกลับมาเองหรือเปล่า ไม่เช่นนั้น หลายปีมานี้เหตุใดเขาจึงไม่กลับมาบ้างเลยเล่า”
“ท่านพี่ ท่านอย่าเพิ่งถอดใจ คนเราต้องมีความเชื่อมั่นสิ ไม่ว่าเขาจะกลับมาหรือไม่ ท่านเคยบอกไว้เองไม่ใช่หรือ ว่าจะต้องตามหาเขาให้เจอ”
“ใช่แล้ว ข้าเคยบอกว่าข้าจะต้องหาเขาให้เจอ จะต้องหาให้เจอ!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว จากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง “เอาล่ะๆ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว เสี่ยวจิ่ว นี่ก็หมายความว่าหาตัวแม่บุญธรรมของข้าเจอแล้วหรือ เช่นนั้นจะกลับไปเมื่อใด? ถึงตอนนั้นข้าก็จะกลับไปด้วย”
“ดอกหลิงหลงเจ็ดสีอยู่ที่นี่ แต่ข้ายังต้องไปหายาทิพย์อีกหนึ่งชนิดที่ภูผาสวรรค์ รอให้หายาทิพย์เหล่านี้ครบและกำจัดพิษที่เหลือในร่างกายท่านแม่ของข้าจนหมดสิ้นเมื่อใด ข้าว่าเมื่อถึงเวลานั้น ท่านพ่อเห็นพวกเรากลับไปพร้อมกัน จะต้องดีใจมากแน่ๆ”
นึกถึงภาพนั้นเมื่อใด เธอก็อดคาดหวังไม่ได้ หวังว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วขึ้นอีกหน่อย
“นั่นมันแน่อยู่แล้ว” เขาพยักหน้า บอกว่า “ในเมื่อเจ้าจะไปภูผาสวรรค์ เช่นนั้นข้าก็จะไปกับเจ้าด้วย! เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราก็กลับบ้านพร้อมกัน!”
“ก็ดีเหมือนกัน แต่ข้ายังต้องไปหาเจ๋อที่ตำหนักยมราชก่อน พักก่อนเขากลับไปสะสางปัญหา ข้าตั้งใจว่าสะสางเรื่องราวทางนี้เสร็จจะไปตำหนักยมราช แล้วค่อยไปภูผาสวรรค์”
“ได้! ไม่มีปัญหา เช่นนั้นระหว่างที่อยู่ที่นี่ ข้าก็จะพักที่นี่ก็แล้วกัน! การเดินทางครั้งนี้ ความปลอดภัยของเจ้าให้ข้าปกป้องเอง!” เขาลุกขึ้น แล้วตบหน้าอกตัวเอง
………………………………….
ตอนที่ 1558 พานพบหลังพลัดพราก
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วหัวเราะ สายตาจับจ้องไปที่ตัวเขา เห็นเขามีพลังถึงระดับปราชญ์นักรบขั้นสูงสุด ก็อดหัวเราะไม่ได้ “ท่านพี่ ออกเดินทางครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีของท่านจริงๆ! ยามนี้พลังถึงระดับปราชญ์นักรบขั้นสูงสุดแล้ว เรียกได้ว่าแข็งแกร่งมากแล้ว”
“ใช่แล้ว ถือเป็นโอกาสดีจริงๆ” เขารับคำ เพราะมีโอกาสออกไปข้างนอก พลังของเขาถึงได้พัฒนาเร็วขนาดนี้ ไม่เช่นนั้น อาศัยความเร็วจากการฝึกฝนปกติของเขา หากจะพัฒนาถึงระดับปราชญ์นักรบขั้นสูงสุดต้องใช้เวลาสิบกว่าปีทีเดียว
เวลานี้ ต้วนอิ๋งอิ๋งที่นอนคว่ำอยู่บนโต๊ะตื่นขึ้นมา ครั้นลืมตาขึ้นมา เห็นชายฉกรรจ์ท่าทางน่ากลัวสุดๆ คนนั้นยืนอยู่ข้างๆ ก็ตกใจจนล้มลงไปนั่งบนพื้น
“อิ๋งอิ๋ง เจ้าไม่ต้องกลัว เขาเป็นพี่ชายของข้า” เฟิ่งจิ่วรีบเข้าไปประคองนาง พลางหยิบดินสอที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาเขียนบนกระดาษ
ทว่า ถึงจะเห็นข้อความที่เฟิ่งจิ่วเขียนแล้ว นางก็ยังคงหวาดกลัว สองมือกำชายเสื้อของเฟิ่งจิ่วไว้แน่น ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเธอ
“นางขี้กลัวจริงๆ” กวนสีหลิ่นบอก
“นางไม่ค่อยได้พบเจอผู้คนมากนัก” เฟิ่งจิ่วตบมือนาง แล้วเขียนบนกระดาษอีกว่า “หากเจ้ากลัวก็กลับห้องไปก่อนเถิด! ข้าจะอยู่คุยกับเขา”
เห็นข้อความ ต้วนอิ๋งอิ๋งรีบพยักหน้า ยกชายกระโปรงขึ้นแล้วรีบวิ่งออกจากศาลาไป แต่เพราะหันกลับมามองด้วยความลนลาน เท้าจึงสะดุดจนเกือบล้มอีกครั้ง
“อ้าว ระวัง!” เฟิ่งจิ่วตะโกนออกไปโดยสัญชาตญาณ สิ้นเสียงถึงเพิ่งรู้ตัวว่านางไม่ได้ยิน จึงได้แต่ยิ้มอย่างเอือมระอา
กวนสีหลิ่นเห็นคนจากไปแล้ว จึงหันกลับมามองเฟิ่งจิ่ว ยิ้มบอกว่า “เสี่ยวจิ่ว เหตุใดแม่นางน้อยคนนี้จึงเข้าตาเจ้านัก ข้าดูแล้วเจ้าดีกับนางไม่น้อยเลย!”
“ถูกชะตากระมัง!” เธอยิ้มๆ ทั้งสองนั่งลงข้างโต๊ะแล้วพูดคุยกัน ผ่านไปไม่นาน เธอก็พาเขามาดูดอกหลิงหลงเจ็ดสีที่สวนดอกไม้เล็กๆ ที่อยู่ด้านข้าง
“เป็นยาทิพย์ต้นนั้น เจ้าเมืองต้วนบอกแล้ว เขาจะหายาทิพย์ให้ครบภายในสามวัน เช่นนั้น เมื่อถึงเวลาสะสางทุกอย่างแล้วพวกเราก็จะไป”
“ไม่มีปัญหา” เขารับคำ หางตาเหลือบเห็นต้วนอิ๋งอิ๋งที่เพิ่งจากไปกลับมาอีกครั้ง เดินถือถาดเอาของมาส่ง
“เจ้าดูนั่น นางมาอีกแล้ว” เขาพยักพเยิด ให้เธอหันไปมองข้างหลัง
ต้วนอิ๋งอิ๋งที่สวมชุดประโปรงสีเรียบเดินถือถาดใส่ผักกับแกล้มสองถ้วยกับสุราหนึ่งไหเข้ามา นางก้มหน้าเล็กน้อยไม่กล้ามองกวนสีหลิ่น คล้ายไม่ค่อยเคยชินที่มีชายท่าทางน่ากลัวปรากฏอยู่ในสวนแห่งนี้
เฟิ่งจิ่วเห็นนางก็ยิ้ม เดินไปหานาง “อิ๋งอิ๋ง เจ้าไปทำอาหารมาให้พวกข้าหรือ” เธอสื่อสารโดยการใช้ท่าทาง จากนั้นก็ทำท่าขอบคุณ
ต้วนอิ๋งอิ๋งยิ้มให้เฟิ่งจิ่ว พยักหน้าแล้วรีบถอยออกไป
เห็นอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วอดยิ้มไม่ได้ หันไปมองกวนสีหลิ่นที่เดินเข้าไปในศาลา ยิ้มบอกว่า “ท่านพี่ ดูเหมือนท่านจะทำให้นางตกใจจริงๆ นางดูกลัวท่านมากนะ!”
“ข้าก็แค่ไว้หนวดยาวหน่อยแล้วไม่ได้โกนเท่านั้นเอง ไม่ได้น่ากลัวมากกระมัง” เขาไม่เข้าใจนัก อยู่ข้างนอกเขาก็ไปไหนมาไหนด้วยสภาพนี้ หน้าตาเขาดูดีมากทีเดียว น่ากลัวเสียที่ไหนกัน
“นี่ยังไม่น่ากลัวอีกหรือ ท่านดูเดิมทีท่านก็ร่างกายกำยำอยู่แล้ว สองปีมานี้ร่างกายก็เปลี่ยนไปอีก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ฝึกฝนพลังเร้นลับส่งผลต่อร่างกายไม่มากก็น้อย”
ได้ยินนางพูดอย่างนั้น กวนสีหลิ่นก้มหน้ามองตนเอง ยิ้มบอกว่า “ข้าคิดว่าอย่างนี้ก็ดีแล้ว ข่มขวัญคนได้ด้วย”
ในอีกด้าน เจ้าเมืองกำลังถามไถ่ลูกสาวคนรองที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอก…
………………………………….