เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1573 รีบช่วยคน + ตอนที่ 1574 จากไปอย่างไม่อยากตาย
ตอนที่ 1573 รีบช่วยคน + ตอนที่ 1574 จากไปอย่างไม่อยากตาย
ตอนที่ 1573 รีบช่วยคน
ปลายดาบที่อาบกลิ่นอายกระหายเลือดเข้มข้นขี้ไปที่หว่างคิ้วของเขา ระยะห่างที่ไม่ถึงหนึ่งนิ้วมือ เป็นระยะห่างที่ใกล้มาก หน้าผากของผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อขนาดเท่าเมล็ดถั่ว เขากลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว หัวใจเต้นโครมคราม
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณอีกคนเห็นภาพนั้นก็อดชะงักมือไม่ได้ มองชายฉกรรจ์ผู้ฝึกพลังเร้นลับผู้นั้นด้วยสายตาสับสน จำต้องยอมรับว่าหลังจากประมือกันครั้งนี้ พวกเขารู้สึกทึ่งในพลังต่อสู้ของเขาจากใจ
ประลองกับยอดฝีมือ ทันทีที่สู้กันก็รู้แล้วว่าพลังเป็นเช่นไร พลังต่อสู้ของผู้ฝึกพลังเร้นลับคนนี้ อยู่เหนือพวกเขาจริงๆ!
แต่ทว่า ในขณะที่พวกเขาหยุดชะงัก ห่างจากฝูงคนไม่ไกล เมื่อชายชุดดำกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงหัวมุมเห็นเหตุการณ์นั้น ชายคนที่เป็นหัวหน้าสายตาไหวระริก เขาหันไปกำชับกับพวกคนข้างหลัง แล้วรวมพลังลอยตัวขึ้น พุ่งไปยังรถม้าของเฟิ่งจิ่ว
“ทำตามคำสั่งท่านปราชญ์โอสถ ลากตัวคนบนรถม้าลงมา!”
พลันนั้น เสียงตวาดเข้มดังขึ้น ผู้คนตกตะลึง หันไปมองยังต้นเสียง ก็เห็นชายชุดดำหลายคนเหาะเข้ามา เหยียบไหล่ของนักเล่นแร่แปรธาตุพวกนั้นเข้ามา และพุ่งเป้าไปยังเฟิ่งจิ่วที่อยู่ในรถม้า
ครั้นเห็นภาพนั้น และได้ยินคำพูดเหล่านั้น ปราชญ์โอสถสองคนตะลึงงัน มองหน้ากัน แต่กลับไม่พูดอะไร ต่างคนต่างคิดว่าเป็นคนของอีกฝ่าย แต่กลับไม่รู้เลยว่ามีคนใช้ชื่อของพวกเขาเพื่อฉวยโอกาสสร้างเรื่อง
ตรงกันข้าม หลังจากเห็นคนพวกนี้ปรากฏตัว พวกเขากลับแค่นเสียง ตะโกนออกคำสั่ง “ใช่แล้ว! ลากตัวคนออกมา! เด็กคนนี้ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา วันนี้จะต้องอบรมสั่งสอนให้ได้!”
พวกเขาสองคนเป็นถึงปราชญ์โอสถหากต้องขายหน้าต่อหน้าเด็กหนุ่ม เช่นนั้นภายหน้าจะมองหน้าคนได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นเหรียญตราสองเหรียญของเด็กหนุ่มจะต้องเป็นของปลอมแน่นอน! คนประเภทนี้ พวกเขาที่เป็นปราชญ์โอสถจะปล่อยไปได้อย่างไร?
กวนสีหลิ่นขมวดคิ้ว เขาออมมือมากแล้ว คนพวกนี้กลับยังจะเอาอีกงั้นหรือ?
“ทั้งสองท่าน โปรดบอกพวกเขาให้รามือด้วยเถิด ทำเช่นนี้ไม่ได้…” เจ้าเมืองยังพูดไม่จบ ก็ต้องตกใจตาค้างกับภาพตรงหน้าก่อน
เห็นเพียงชายชุดดำกลุ่มนั้นแม้จะทำท่าเหมือนต้องการลากตัวคนในรถม้าออกมา แต่ไม่นาน กระบี่ยาวในมือกลับพุ่งแทงไปยังเฟิ่งจิ่วที่อยู่ในรถม้าอย่างดุดันกระหายเลือด
เห็นภาพนั้น เขาตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้น รีบตะโกนเสียงดัง “หยุดเดี๋ยวนี้!” ร่างกายเหาะเข้าไป พยายามยับยั้งการสังหารจากคนผู้นั้น
ในตอนนี้เอง คนอื่นๆ เองต่างก็สังเกตเห็นความผิดปกติบ้างแล้ว ผู้นำตระกูลเมิ่งรีบเข้าไปช่วยเหลือหลังจากตั้งสติได้ เขาขัดขวางคนชุดดำหนึ่งในนั้น แล้วตวาด “พวกเจ้าเป็นใคร? ถึงได้กล้าลอบสังหารคนต่อหน้าจวนของข้า!”
“เกร๊ง!”
เสียงดาบและกระบี่ปะทะกันแฝงไว้ด้วยไอสังหารอันดุเดือดกระจายไปทั่วอากาศ นักเล่นแร่แปรธาตุเหล่านั้นเห็นทุกกระบวนท่าของชายชุดดำพวกนั้นล้วนตั้งใจลอบสังหาร ก็อดหน้าซีดเผือดไม่ได้ ต่างพากันแตกกระเจิงถอยหนี
ปราชญ์โอสถสองคนยิ่งตกใจเบิกตากว้างมองอีกฝ่าย อดถามขึ้นพร้อมกันไม่ได้ “คะ คนของท่านหรือ?”
“จะเป็นไปได้อย่างไรกัน!” ทั้งสองอุทานขึ้นมาพร้อมกัน พลางส่ายหน้าสุดชีวิต ถึงขั้นผงะถอยหลังหนึ่งก้าว “ข้านึกว่าเป็นคนของท่าน!”
ได้ยินอย่างนั้น ทั้งสองหน้าซีดเผือด เริ่มเห็นท่าไม่ดีแล้ว ถึงพวกเขาอยากสั่งสอนเด็กหนุ่ม แต่กลับไม่ได้คิดจะเอาชีวิตของเด็กหนุ่ม หากเด็กหนุ่มตายที่นี่ เกรงว่าเรื่องต้องเกี่ยวพันมาถึงพวกเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่
นึกมาถึงตรงนี้ พวกเขารีบหันไปตะโกนสั่งผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคน “รีบช่วยเจ้าเด็กคนนั้นเร็ว! ปล่อยให้เขาตายไม่ได้เด็ดขาด!”
………………………………….
ตอนที่ 1574 จากไปอย่างไม่อยากตาย
หลังจากที่เห็นคนพวกนั้นชักกระบี่ยาวออกมาพร้อมกับไอสังหารและพุ่งแทงไปที่น้องสาวของตน กวนสีหลิ่นก็เห็นไอสังหารกระหายเลือดที่กระจายอยู่รอบตัวพวกเขาแล้ว ไอสังหารที่เหี้ยมเกรียมและกระหายเลือดเช่นนั้นเขาคุ้นเคยยิ่งนัก เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าจะมาปรากฏที่นี่
ไม่รีรอยั้งคิดอะไรอีก ดาบใหญ่ในมือเขาพลิกเปลี่ยนทิศทาง ฟาดฟันไปทางชายชุดดำคนหนึ่งในกลุ่ม “คู่ต่อสู้ของเจ้าอยู่ที่นี่!”
“ชิ้ง!”
พลังดาบอันดุเดือดพวยพุ่งออกไป ตวัดผ่านกลางอากาศเกิดเป็นกระแสอากาศรุนแรงน่าพรั่นพรึง ชายชุดดำคนหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าหลบไม่ทัน กอปรกับนึกไม่ถึงว่ากวนสีหลิ่นจะเร็วถึงเพียงนี้ ยามเขาหันหลังไปมอง เห็นเพียงดาบใหญ่เล่มนั้นฟาดฟันลงมาแล้ว
“ซี๊ด อ๊าก!”
เสียงกรีดร้องโหยหวนผสมกับกลิ่นคาวเลือดอันรุนแรงกระจายไปทั่วอากาศ เสียงเล็กแหลมนั้นดังบาดหูเหมือนเสียงหมูถูกเชือด ทุกคนที่ได้ยินต่างอกสั่นขวัญแขวน
พวกเขาเห็นเพียง แขนข้างหนึ่งปลิวออกไปกลางอากาศและร่วงลงบนพื้นดินต่อหน้าต่อตา เลือดสีแดงอาบพื้นทั้งแถบ ส่วนผู้ฝึกตนที่ถูกตัดแขนไป ใบหน้าบิดเบี้ยวไปทั้งดวง สีหน้าซีดขาว แววเคียดแค้นเกลียดชังปรากฏในแววตา
แต่ในเสี้ยวนาทีนั้น ดาบใหญ่ของกวนสีหลิ่นตวัดผ่าน ร่างกายเหาะเหินดุจสายลม มาหยุดยืนตรงหน้ารถม้า ดาบเล่มใหญ่ตวัดในแนวขวางก่อนจะชี้เฉียงไปที่พื้นดิน สายตาคมปลาบแฝงแรงกดดันน่ากริ่งเกรงจ้องไปยังกลุ่มชายชุดดำ น้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงแววสังหารดังขึ้น
“ใจกล้ายิ่งนัก! ถึงขนาดกล้าลอบสังหารคนที่นี่!”
“พวกเจ้าเป็นใคร! ถึงได้กล้าทำการลอบสังหารที่นี่!” เจ้าเมืองต้วนและผู้นำตระกูลเมิ่งตะคอกเสียงเครียด พวกเขาล้อมรถม้า เพื่อปกป้องเฟิ่งจิ่วที่อยู่ในรถม้า พวกเขาคิดว่าเฟิ่งจิ่วไม่มีพลังต่อสู้
ทว่า หลังจากชายชุดดำล้มตายไปสองคน ชายคนที่เป็นหัวหน้าจ้องหน้าเฟิ่งจิ่วที่นั่งยิ้มหยันอยู่ในรถม้า แล้วหันไปมองกลุ่มคนที่กำลังคุ้มกันรถม้าแวบหนึ่ง กัดฟันกรอด ก่อนจะเป่านกหวีดในมือเพื่อส่งสัญญาณ
เสียงนกหวีดเล็กแหลมดังออกไป เพียงไม่กี่อึดใจ ก็เห็นชายชุดดำยี่สิบสามสิบคนพรั่งพรูออกมาจากรอบทิศ หนำซ้ำพลังของคนพวกนี้อย่างต่ำก็อยู่ในระดับกำเนิดวิญญาณแล้ว คนที่มีพลังสูงสุดเป็นถึงผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินแล้ว อีกทั้งผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินไม่ได้มีเพียงคนสองคน แต่มีถึงสี่คน!
ครั้นเห็นกลุ่มนักฆ่าอันแข็งแกร่ง เจ้าเมืองต้วนหน้าเปลี่ยนสี เขากังวลว่าความปลอดภัยของท่านพ่อของเขาที่อยู่บนรถม้าจะถูกคุกคาม รีบหันไปตะโกนสั่งผู้ติดตาม “ส่งคนเข้าไปในจวนตระกูลเมิ่งก่อน!”
คนพวกนั้นเห็นสายตาของเขาจับจ้องไปที่รถม้าของเจ้าเมืองอาวุโส จึงหันไปคุ้มกันรถม้าคันนั้นโดยไม่ต้องบอก รีบพารถม้าพร้อมคนเข้าไปในจวนตระกูลเมิ่ง จากนั้นก็ปิดประตูใหญ่จวนตระกูลเมิ่ง
เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งหลายสิบคน แล้วยังมีนักฆ่าที่เป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินอยู่ด้วยถึงสี่คน ผู้นำตระกูลเมิ่งไม่กล้าเรียกคนของตระกูลเมิ่งออกมาช่วย พลังต่อสู้เช่นนี้ เรียกออกมาก็เกรงว่าจะต้องตายเสียเปล่าๆ ต้องปล่อยให้คนในจวนตายเพื่อปกป้องเฟิ่งจิ่วอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ เขายังไม่สามารถทำถึงขั้นนี้ได้
ถึงอย่างไร ตระกูลเมิ่งของเขากับเฟิ่งจิ่วก็ยังไม่ได้รู้จักลึกซึ้งกันถึงขั้นนั้น และยังไม่มีสายสัมพันธ์เชิงผลประโยชน์ต่อกันจนถึงขั้นที่เขาจำเป็นต้องปกป้องเฟิ่งจิ่ว หากสถานการณ์ยากเกินควบคุม เขายังคิดจะปลีกตัวออกไป ไม่อยากข้องเกี่ยวกับเหตุการณ์วุ่นวายครั้งนี้
การกระทำของเจ้าเมืองต้วนที่สั่งให้คนคุ้มกันรถม้าอีกคันเข้าไปในจวนตระกูลเมิ่ง คนชุดดำกลุ่มนั้นไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด เป้าหมายของพวกเขามีเพียงเด็กหนุ่มชุดแดงที่นั่งอยู่ในรถม้า ซึ่งก็คือเฟิ่งจิ่วเท่านั้น!
ภารกิจของพวกเขา ก็คือเอาชีวิตของเธอ!
ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสี่คนที่อยู่ด้านหน้าสุดหรี่ดวงตาโหดเหี้ยมตวัดมองผ่านเจ้าเมืองต้วนและผู้นำตระกูลเมิ่ง หนึ่งในนั้นตวาดเสียงเข้ม “ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว ก็จงรีบไปเสีย!”
………………………………….
————————————–