เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1615 ข้าไปกับพวกท่าน ตอนที่ 1616 เจ้าอยู่ที่นี่ไป
ตอนที่ 1615 ข้าไปกับพวกท่าน / ตอนที่ 1616 เจ้าอยู่ที่นี่ไป
ตอนที่ 1615 ข้าไปกับพวกท่าน
ทั้งสองเงียบงัน ตลอดเส้นทางนี้พวกเขาสืบข่าวไปทั่ว ย่อมรู้เรื่องนี้แล้วเช่นกัน แต่กลับไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง อีกทั้งยังเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินสี่คนนำคนหลายสิบคนลงมือลอบสังหาร เฟิ่งจิ่วไม่ตาย ช่างดวงแข็งจริงๆ
“เอาล่ะ เรื่องนี้ก็ผ่านไปแล้ว อย่าพูดเรื่องอื่นกันอีกเลย วันนี้อุตส่าห์อยู่พร้อมหน้า พวกเรามาดื่มกันอีกดีกว่า” เธอยกถ้วยสุราขึ้น แล้วคารวะให้ทั้งสอง “แก้วนี้ข้าขอคารวะทั้งสอง ขอบคุณพวกท่านที่ตั้งใจมาเตือน”
“เชิญ” ทั้งสองยกถ้วยสุราขึ้น แล้วดื่มหมดในรวดเดียว
พอเฟิ่งจิ่วเปลี่ยนเรื่องคุย บรรยากาศบนโต๊ะกินข้าวก็เริ่มคึกคักขึ้นมา เซวียนหยวนโม่เจ๋อไม่ค่อยพูดมากนัก เขานั่งอยู่ข้างๆ เห็นเฟิ่งจิ่วดื่มเยอะก็จะห้ามปรามสองสามคำ แล้วคีบอาหารให้เธอ
และนัยน์ตายามเฟิ่งจิ่วหันมองเขามีรอยยิ้มแฝงอยู่ในนั้น ในแววตาสะท้อนไปด้วยความรู้สึกอันลึกซึ้งและความเชื่อใจ เห็นแล้วก็ชวนให้ลึกๆ ข้างในเกิดความรู้สึกที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินเต้าและลั่วเหิงเห็นทั้งสองอยู่ด้วยกัน แต่ก่อนตอนอยู่ในสำนักโอสถตะวันพวกเขาก็สนิทกับเฟิ่งจิ่วไม่น้อย แต่กลับไม่เคยเห็นเธอแสดงท่าทีหรือสายตาเช่นนี้สักครั้ง
ยามอยู่ด้วยกันพวกเขาช่างดูเป็นธรรมชาติและสุขใจถึงเพียงนั้น ราวกับคู่สามีภรรยาที่รู้จักและรักใคร่กันมานานหลายปี ระหว่างทั้งสองไม่ต้องมีคำพูดอะไรมากมาย เพียงสายตา เพียงรอยยิ้ม เพียงการกระทำเดียว ก็แทนทุกสิ่งทุกอย่างได้ทั้งหมดแล้ว
ความรู้ใจที่ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดสื่อสารกัน ทำให้พวกเขาเห็นแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้ ในชีวิตหากได้พบคู่ครองที่รักและเข้าอกเข้าใจกันเช่นพวกเขา ยังต้องการสิ่งอื่นใดอีก?
เฉินเต้ากับลั่วเหิงอยู่พักที่นี่ โดยเฉพาะหลังจากดื่มสุรามากไป แล้วถูกเหลิ่งหวาประคองไปพักผ่อน พวกเขาก็ไม่รู้ทิศเหนือใต้ออกตกแล้ว ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเช้าวันใหม่แล้ว
เช้าตรู่วันต่อมา ซั่งกวนหวั่นหรงขับเคลื่อนลมปราณตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ รูขุมขนบนร่างกายขับพิษสีดำออกมาชั้นแล้วชั้นเล่า หลังจากที่ให้เหลิ่งซวงเตรียมน้ำร้อนแล้วไปอาบน้ำ นางก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกมาจากห้อง
อาจเพราะเห็นลูกสาวที่นางคิดถึงกลับมา แล้วก็อาจเพราะพิษในร่างกายถูกขับออกไปหมดแล้ว นางรู้สึกสดชื่นไปทั้งตัว ด้วยเหตุนี้ นางจึงเข้าครัวทำอาหารเตรียมมือเช้าให้ทุกคนตั้งแต่เช้ามืด
แม้ในเรือนจะมีแม่ครัว แต่พอนึกได้ว่าหลายปีมานี้นางไม่เคยทำอาหารให้ลูกสาวนางเลยสักมื้อ แต่กลับทำให้ลูกสาวต้องลำบากเพื่อนางขนาดนี้ ในใจก็รู้สึกละอาย รู้ว่าลูกสาวของนางชอบอาหารอร่อย แล้วนางก็มีฝีมือทำอาหารไม่เลวนัก จึงอยากเตรียมมื้อเช้าให้ทุกคนด้วยมือตนเอง
เหลิ่งซวงที่รู้ว่านางจะลงมือทำอาหารเองมายืนข้างกายนาง “ฮูหยิน ข้าช่วยท่านเองเจ้าค่ะ!”
“ได้ เช่นนั้นเจ้าเป็นลูกมือให้ข้า ไม่ได้ทำอาหารมานานแล้ว กลัวว่าจะไม่คุ้นมืออยู่เหมือนกัน” ซั่งกวนหวั่นหรงบอก แล้วเดินเข้าครัวพร้อมเหลิ่งซวง แต่กลับพบว่าผักและเนื้อในครัวมีอยู่ไม่มาก จึงบอกเหลิ่งซวงว่า “ตอนนี้ยังเช้าอยู่ พวกเสี่ยวจิ่วน่าจะยังไม่ตื่น เจ้าออกไปซื้อผักกับข้าเถิด!”
“เจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงพยักหน้า แล้วออกเดินไปพร้อมกับนาง เตรียมจะออกเรือนไปซื้อผัก ก็เห็นกวนสีหลิ่นกำลังเตรียมตัวฝึกวิชาอยู่ที่ลานหน้าบ้าน
“แม่บุญธรรมหรือ? เช้าขนาดนี้พวกท่านจะไปไหนกัน?” กวนสีหลิ่นเดินเข้ามาถามด้วยความประหลาดใจ
เห็นว่าเป็นเขา ซั่งกวนหวั่นหรงยิ้มๆ บอกว่า “ข้าอยากทำอาหารเช้าให้ทุกคนกิน ของในครัวมีไม่พอ จึงให้เหลิ่งซงออกไปซื้อของเพิ่มกับข้า”
“ซื้อผักหรือ? ดีเลย ข้าไปกับพวกท่าน” เขาบอก แล้วตั้งใจจะออกไปพร้อมกับพวกนาง
“ไม่ต้องหรอก เหลิ่งซวงไปกับข้าก็พอแล้ว” ซั่งกวนหวั่นหรงส่ายหน้า
………………………………….
ตอนที่ 1616 เจ้าอยู่ที่นี่ไป
“ไม่เป็นไรขอรับแม่บุญธรรม ข้าจะได้ช่วยท่านถือของด้วย ไปกันเถิด!” เขาออกเดินนำไปก่อน ถึงลานด้านนอกก็เปิดประตูให้พวกนาง ที่จริงแล้วเขาไม่วางใจหากปล่อยพวกนางออกไปเพียงสองคน
เหลิ่งซวงไม่ได้แปลงโฉม เดินไปไหนมาไหนด้วยใบหน้าเช่นนั้นก็สะดุดตาเกินไป แม่บุญธรรมของเขาเองก็งดงามอ่อนหวาน ปล่อยให้พวกนางออกไปสองคนเขาไม่วางใจจริงๆ ตามไปด้วยจะดีกว่า หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นเขาคงไม่รู้จะอธิบายกับเสี่ยวจิ่วอย่างไร
เห็นอย่างนั้น ซั่งกวนหวั่นหรงยิ้มๆ ปล่อยให้เขาตามไปด้วย ครั้นพวกเขาสามคนออกจากเรือน ขณะอยู่บนถนน นางถึงได้ตระหนักว่าให้กวนสีหลิ่นตามมาด้วยนั้นถูกต้องแล้ว
คนบนถนนมักหันมามองนางกับเหลิ่งซวงด้วยสายตาตะลึงในความงาม สายตาเช่นนั้นมีให้เห็นอยู่ตลอดเส้นทาง บ้างก็เอาแต่มองนางไม่มองทางจนชนคนข้างหน้า บ้างก็ถึงขั้นอยากเข้าใกล้ แต่เห็นว่าข้างหลังพวกนางมีกวนสีหลิ่นตามมาจึงไม่กล้าเข้ามา ทำได้เพียงมองอยู่ไกลๆ
ด้วยเหตุนี้ ซั่งกวนหวั่นหรงได้แต่ลอบส่ายหัวในใจ นางออกมาเดินข้างนอกน้อยครั้ง กลับลืมไปว่าผู้ชายนั้นเป็นเพศที่มีธรรมชาติชอบสิ่งสวยงาม
ภายใต้การคุ้มกันของกวนสีหลิ่น พวกนางมาถึงตลาดแล้วซื้อของที่อยากได้จนครบแล้วกลับเรือน หลังจากส่งพวกนางกลับถึงเรือน กวนสีหลิ่นก็ไปฝึกวิชาที่ลานด้านหน้า ส่วนซั่งกวนหวั่นหรงกับเหลิ่งซวงที่อยู่ในครัวก็เริ่มสาละวนทำอาหาร
พอเฟิ่งจิ่วตื่นมาแล้วรู้ว่าท่านแม่ของนางกับเหลิ่งซวงทำมื้อเช้าอยู่ในครัว ก็ล้างหน้าล้างตาแล้วออกจากห้อง วิ่งไปที่ห้องครัว ยังไม่ทันก้าวเข้าไปในครัวก็ได้กลิ่นหอมลอยออกมาแตะจมูกแล้ว เธออดสูดหายใจลึกๆ ไม่ได้
“ว้าว! หอมมาก! นี่กำลังทำอะไรกินกันหรือ? ข้าหิวจะตายแล้ว” เธอยิ้มตาหยีแล้วชะโงกหน้าเข้าไปใกล้
“นายท่าน” เหลิ่งซวงขานเรียก เผยรอยยิ้มออกมา ก่อนจะถอยหลังเพื่อให้เธอเข้ามาดูใกล้ๆ
“เสี่ยวจิ่วตื่นแล้วหรือ? มาได้จังหวะพอดีเลย พวกข้าเพิ่งทำเสร็จพอดี เจ้ามาชิมหน่อยว่ารสชาติเป็นอย่างไร” ซั่งกวนหวั่นหรงกล่าว ให้เธอมาชิมอาหาร ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วรีบยื่นหน้าเข้ามา “อันไหนเจ้าคะ? อันไหนที่ต้องการให้ข้าชิม? คิดถูกแล้วที่ให้ข้าชิม”
เห็นอย่างนั้น ซั่งกวนหวั่นหรงอดยิ้มไม่ได้ ยื่นมือมาหยิกแก้มเธอเบาๆ “ความตะกละของเจ้านี่ได้ใครมากันหนอ?”
“ไม่เหมือนท่านแม่ก็ต้องเหมือนท่านพ่อแน่นอนอยู่แล้วสิเจ้าคะ!” เธอยิ้มตาหยีแล้วพูดเหมือนเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
“อืม ข้าก็คิดว่าเหมือนท่านพ่อของเจ้า” ซั่งกวนหวั่นหรงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย คีบซาลาเปาลูกเล็กๆ ให้เธอกิน “เป็นอย่างไรบ้าง? รสชาติใช้ได้หรือไม่?”
ซาลาเปาลูกเล็กๆ เข้าปาก แป้งน้อยใส้มาก เนื้อและน้ำหอมหวน ทำให้เฟิ่งจิ่วอดถามไม่ได้ “ท่านแม่ ซาลาเปานี้ท่านทำเองจริงหรือ? ฝีมือดีเกินไปแล้ว อร่อยมาก!”
“จริงหรือ? เจ้าชอบกินก็ดีแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่ทำไม่เสร็จ แต่ผักกับแกล้มสองสามอย่างตรงนี้ทำเสร็จแล้ว เจ้ามาชิมดู” นางพาเฟิ่งจิ่วมาด้านหนึ่ง ให้เธอชิมผักกับแกล้มที่ทำเสร็จแล้วทีละอย่างๆ จนครบ
เห็นสีหน้าพอใจของเธอ ได้ยินคำชมของเธอ ทำให้นางมีความสุขและอิ่มเอมใจมาก ลึกๆ ข้างในตั้งตารอคอยวันที่ครอบครัวจะได้อยู่กันพร้อมหน้า เมื่อถึงตอนนั้น นางจะเข้าครัวทุกวันแน่นอน นางจะทำของกินอร่อยๆ ให้ลูกสาวของนาง เพื่อชดเชยสิ่งที่นางพลาดไปในหลายปีที่ผ่านมา
หลังจากจัดโต๊ะอาหารมื้อเช้าเสร็จ ซั่งกวนหวั่นหรงก็ให้เหลิ่งหวาไปเรียกทุกคนมากินข้าวเช้า ครั้นทุกคนทยอยมาถึงจนครบ เฉินเต้ากับลั่วเหิงที่เห็นซั่งกวนหวั่นหรงปรากฏตัวที่นี่ก็ตกตะลึงราวกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น
“อะ อาจารย์อาซั่งกวน? ทะ ทะ ทะ ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” ลั่วเหิงร้องด้วยความตกใจ เบิกตากว้างมองคนตรงหน้า
………………………………….