เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1651 ไม่อาจต้านทานศัตรู ตอนที่ 1652 ตกสู่สถานการณ์สิ้นหวัง
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1651 ไม่อาจต้านทานศัตรู ตอนที่ 1652 ตกสู่สถานการณ์สิ้นหวัง
ตอนที่ 1651 ไม่อาจต้านทานศัตรู / ตอนที่ 1652 ตกสู่สถานการณ์สิ้นหวัง
ตอนที่ 1651 ไม่อาจต้านทานศัตรู
ในราชวัง กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นกระตายไปทั่ววัง นางกำนัลกรีดร้องด้วยความแตกตื่น เสียงคมดาบกระทบกัน รวมถึงเสียงกรีดร้องยามสิ้นชีวิตดังระงมไปทั่ว แต่ละเสียงทำให้ราชวังที่เคยเปี่ยมไปด้วยความสุขกลายเป็นเหมือนนรกบนดิน
บนพื้นเต็มไปด้วยศพนอนระเนระนาด บ้างก็ถูกตัดแขนตัดขา เลือดสาดเต็มพื้น รั้วกั้น และดอกไม้ ลามไปถึงในศาลา…
สุดสายตาเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดชวนขวัญผวา เปลวเพลิงมอดไหม้ ควันไฟลอยโขมง ความพินาศลามทั่วทุกหนแห่ง
“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่! มีความแค้นใดกับตระกูลเฟิ่งเรา!”
กลางอากาศ เฟิ่งซานหยวนที่ตื่นกะทันหันจึงใส่เพียงเสื้อชั้นในสีขาวร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล เลือดสดๆ ย้อมเสื้อชั้นในสีขาวของเขาจนแดงไปทั้งผืน แม้ทั่วตัวจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่เขาก็ยังคงถือกระบี่ยาวเผชิญหน้ากับคนพวกนั้นไม่ถอย
รอบตัวเขา มีผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินล้อมรอบอยู่สิบกว่าคน แต่ละคนมีพลังอยู่ในระดับกำเนิดวิญญาณขั้นสูงสุดทั้งนั้น ยังไม่พูดถึงพลังระดับกำเนิดวิญญาณขั้นสูงสุด เพียงผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินเพียงคนเดียว ก็มีพลังมากพอที่จะทำลายราชวงศ์เฟิ่งหวงที่ไม่ได้ใหญ่มากแห่งนี้ได้แล้ว
ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินคนหนึ่งกระทืบเท้า ราชวังแห่งนี้ก็ต้องสะเทือนแล้ว ทว่า พลังอันแข็งแกร่งและน่ากลัวเช่นนี้กลับไม่ได้มีเพียงคนเดียว แต่กลับมีถึงเกือบสิบคน ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินเกือบสิบคน รวมถึงผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณขั้นสูงสุดเจ็ดแปดคน กลับมาเพื่อล้มราชวงศ์เล็กๆ แห่งนี้ นั่นช่างเป็นเรื่องที่น่าสงสัยยิ่งนัก
แม้จะเป็นศัตรูที่เฟิ่งจิ่วสร้างขึ้นตอนอยู่ข้างนอกนั่น ก็เกรงว่าจะไม่ได้มีพลังที่น่ากลัวเช่นนี้
อีกทั้ง จากที่เขารู้จักหลานสาวของเขา นางไม่มีทางปล่อยให้กลุ่มอำนาจที่มีภัยแฝงรอดไปได้ ไม่มีทางปล่อยให้พวกนั้นมีโอกาสได้แก้แค้นแน่นอน แม้จะไว้ชีวิตบางคน แต่ก็ไม่มีทางไว้ชีวิตคนที่มีพลังแข็งแกร่งน่ากลัวอย่างนี้แน่นอน
“คนตาย ไม่จำเป็นต้องรู้ให้มาก”
เสียงทุ้มต่ำชั่วร้ายเสียงหนึ่งดังออกมาจากเรือบิน เสียงนั้นแฝงไว้ด้วยแรงกดดันอันแข็งแกร่งจนน่าพรั่นพรึง เฟิ่งซานหยวนรู้สึกเพียงเสียงนั้นดุจค้อนเหล็กที่ทุบลงกลางใจเขา จนหัวใจเขาสั่นสะท้านเลือดลมตีกลับ รสเข็มตีขึ้นมาที่ลำคอ เลือดพุ่งออกมาจากปาก
แกร่งมาก!
เขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ขณะเดียวกับที่ตกใจก็รู้สึกกังวลด้วย คนพวกนี้ดูก็รู้ว่าต้องการฆ่าล้างตระกูลเฟิ่งของเขา ต้องการล้มราชวงศ์เฟิ่งหวงของพวกเขา!
ภายใต้การไล่ล่าของผู้แข็งแกร่งมากมายขนาดนี้ ลูกและภรรยาของเขาจะหนีออกไปได้หรือไม่? พวกเขาจะมีชีวิตรอดหรือไม่?”
แล้วยังมีลูกชายกับหลานสาวที่อยู่ในแปดจักรวรรดิใหญ่อันแสนไกล หากกลับมาจะถูกคนพวกนี้ซุ่มโจมตีหรือไม่? หากกลับมาแล้วพบว่าพวกเขาล้วนถูกฆ่าตายแล้ว จะคลุ้มคลั่งกันหรือไม่…
ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัว ทำให้เขาที่เดิมทีคิดจะสู้จนตัวตายเริ่มหวั่นไหว เขาต้องหนี! แม้เขาจะหนีไม่รอด ก็ต้องปกป้องลูกและภรรยาของเขาหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้! เขาต้องทำให้พวกเขามีชีวิตต่อไป!
แม้ว่าโอกาสจะดูริบหรี่เหลือเกิน แต่เขาก็ต้องทุ่มเทกำลังทั้งหมดเพื่อปกป้องภรรยาและลูกชายของเขา!
ในอีกด้าน ซู่ซีพาเสี่ยวเฟิ่งเย่กับเจ้าหยางหนีไปยังเส้นทางลับภายใต้การคุ้มกันขององครักษ์ เพื่อหนีจากไล่ล่าของคนพวกนั้น องครักษ์วังหลวงและองครักษ์ประจำตระกูลเฟิ่งที่คุ้มกันพวกเขาล้มตายไปทีละคน แม้แต่ซู่ซีก็ยังถูกฟันที่แขนเพราะปกป้องลูกของนาง บาดแผลลึกจนมองเห็นกระดูก
โชคดีที่เสี่ยวเฟิ่งเย่เข้าใจว่าตอนนี้พวกเขากำลังประสบภัย ตลอดทางเขาไม่ร้องไห้ เพียงตามแม่ของเขาไปเงียบๆ จูงมือแม่เขาแน่น ราวกับกลัวว่าหากปล่อยมือก็จะไม่ได้พบนางอีก
………………………………….
ตอนที่ 1652 ตกสู่สถานการณ์สิ้นหวัง
เขาจ้องบาดแผลของแม่เขาที่ใช้เพียงผ้าที่ฉีกจากชุดกระโปรงมาพันไว้ เลือดสดๆ ซึมออกมา ย้อมผ้าที่พันแผลไว้จนแดง เขามองจนขอบตาร้อนผ่าว ขบกลีบปากไว้แน่น ดวงหน้าละเอียดอ่อนซีดขาวเพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ดวงตาสุกไสบริสุทธิ์คู่นั้นยิ่งมีแววกังวลและหวาดกลัว
ซู่ซีหน้าซีดไปทั้งดวง หัวใจของนางสั่นสะเทือน นางกำลังกลัว นางกลัวว่าสามีนางจะตาย นางกลัวว่าลูกของนางจะตาย ไม่มีใครช่วยพวกเขาได้ พวกเขาอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง ไร้หนทางหนีแล้ว
คนพวกนั้นต้องการฆ่าพวกเขา พวกเขาไม่รอดแล้ว
ครั้นมาถึงเส้นทางลับของวังหลวง ซู่ซีพาเด็กสองคนเข้าไป ที่นั่นเป็นห้องลับใต้ดินที่อยู่ใต้บ่อน้ำอีกที ที่นี่มีค่ายกลและเขตอาคมถูกร่ายไว้ แม้จะเป็นคนที่มีพลังแข็งแกร่งอีกเพียงใดก็ไม่อาจใช้ดวงจิตหยั่งรู้ถึงตัวตนของพวกเขาได้ เดิมทีที่นี่เป็นสถานที่ปลอดภัยที่มีไว้เผื่อสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น นึกไม่ถึงว่า…
ซู่ซีมองเจ้าหยาง ถามว่า “หยางหยาง ข้ามอบเย่เอ๋อร์ให้เจ้าดูแล เจ้ารับปากข้าได้หรือไม่ ว่าจะปกป้องเขาให้ดี?”
“ข้าจะปกป้องนายท่านด้วยชีวิตขอรับ” เจ้าหยางพูดอย่างหนักแน่น เขารู้ว่าตระกูลยากเลี่ยงเคราะห์กรรมครั้งนี้ เกรงว่าจะมีโอกาสรอดน้อยแล้ว แล้วก็เพราะเหตุผลนี้ พ่อของเขาจึงสั่งเสียเขาไว้ พวกเขาต้องไปช่วยจักรพรรดิหลวง แม้ว่าการไปครั้งนี้อาจต้องเอาชีวิตไปทิ้งไว้ที่นั่น แต่พวกเขาก็ต้องไปช่วย
พวกเขากำชับเขา ว่าเขาต้องปกป้องนายน้อย เขาจำไว้แล้ว! เขาจำได้อยู่แล้ว เขาฝึกฝนมาตลอด เขาจะต้องปกป้องนายน้อยให้ได้
“หยางหยางเป็นเด็กดีจริงๆ” ซู่ซีขอบตาแดงผ่าว น้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
คนพวกนั้นมาอย่างกะทันหัน ห้อมล้อมราชวังไว้ทุกด้าน ทำให้คนข้างในไม่อาจหนีออกไป องครักษ์วังหลวง องครักษ์ลับ หรือแม้กระทั่งองครักษ์ประจำตระกูลเฟิ่ง ล้วนทุ่มกำลังจนหมด แต่คนพวกนั้นแข็งแกร่งเกินไป คนในวังไม่อาจต้านทานได้
เห็นคนรู้จักถูกฆ่าตายไปทีละคนๆ หัวใจของนางเจ็บปวดยากรับไหว แต่กลับทำอะไรไม่ได้
นางรู้ แม้พวกเขาต้องแลกด้วยชีวิต แม้พวกเขารู้ตนเองไม่อาจช่วยพวกนางได้ แต่พวกเขาก็จะยืนขวางอยู่ข้างหน้าพวกนาง ปกป้องพวกนางจากอันตราย ปกป้องพวกนางจากคมกระบี่
“ท่านแม่ ท่านจะไปไหน? ท่านจะไม่อยู่กับเย่เอ๋อร์หรือขอรับ? ท่านแม่ เย่เอ๋อร์กลัว เย่เอ๋อร์กลัวเหลือเกิน…” เด็กน้อยร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจกลั้นไว้อีกต่อไป มือเล็กๆ กำชายเสื้อของแม่เขาไม่ยอมปล่อย โผกอดในอ้อมกอดของนาง
“เย่เอ๋อร์เป็นเด็กดีนะ เย่เอ๋อร์ต้องเชื่อฟัง แม่ไม่อยู่ข้างกายเจ้า เจ้าจะต้องเชื่อฟังหยางหยาง อย่าเอาแต่ใจ” นางน้ำตาไหล ปลอบใจเด็กน้อยในอ้อมกอด “เจ้าจงจำไว้ ต้องตามหาเฟิ่งจิ่วกับพวกพี่ใหญ่ของเจ้าให้เจอ แม้พ่อกับแม่จะไม่อยู่แล้ว พวกเขาก็จะดูแลเจ้าแทนพ่อกับแม่อย่างดี”
“ไม่เอาๆ เย่เอ๋อร์ต้องการแค่ท่านพ่อกับท่านแม่เท่านั้น ต้องการแค่ท่านพ่อแบท่านแม่ ฮือๆๆ…”
เด็กน้อยร้องไห้ด้วยความแตกตื่น เขาหวาดกลัว กลัวว่าแม่ของเขาจะเหมือนกับท่านพ่อ บอกว่าจะออกไปดูประเดี๋ยวก็กลับมา เขากลัวว่าท่านพ่อกับท่านแม่จะเลือดไหล เขากลัวว่าพวกเขาจะล้มตายอยู่บนพื้นเหมือนกับคนอื่นๆ
เขาไม่อยากอยู่คนเดียว เขาไม่อยากเหลือตัวคนเดียว
ทว่า เขาที่กำลังร้องไห้ด้วยความปวดใจจู่ๆ ก็ถูกซู่ซียกมือตีต้นคอจนหมดสติ ซู่ซีกอดลูกชายที่หมดสติไปแล้ว พลางหันไปบอกกับหยางหยางว่า “หยางหยาง จงจำไว้ ต้องตามหาพวกเฟิ่งจิ่วกับเฟิ่งเซียวให้เจอ ห้องลับแห่งนี้ยังมีทางออกอีกทางหนึ่ง อีกเดี๋ยวเจ้าพาเย่เอ๋อร์ออกไปทางนั้น ไม่ว่าผู้ใดพูดอะไรก็ห้ามเชื่อทั้งนั้น คนที่เจ้าเชื่อได้มีเพียงเฟิ่งจิ่วกับเฟิ่งเซียวเท่านั้น เข้าใจหรือยัง?”
………………………………….