เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1655 ไร้หนทางหนี ตอนที่ 1656 เป็นหรือตาย
ตอนที่ 1655 ไร้หนทางหนี / ตอนที่ 1656 เป็นหรือตาย?
ตอนที่ 1655 ไร้หนทางหนี
ขณะที่พวกเขากำลังเร่งมุ่งหน้าไปยังวังหลวงผ่านเส้นทางลับ ในวังหลวง เฟิ่งซานหยวนกับซู่ซีที่ถูกบีบจนไร้หนทางหนีกำลังยืนเคียงคู่กันอยู่ ภายใต้แรงกดดันของผู้แข็งแกร่ง รวมถึงการโจมตีของพวกเขา นอกจากบาดเจ็บภายใน บนร่างกายเขาก็มีเลือดไหลตลอด พวกเขาเริ่มยืนหยัดไม่ไหวแล้ว
“ไปเร็ว!”
“พลั่ก!”
“บึ้ม!”
เสียงตะโกนดังขึ้น พ่อแม่ของเจ้าหยางพุ่งใส่ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสองคนนั้น เห็นเพียงชั่วพริบตาเดียว สะเก็ดไฟระเบิดออกจากร่างกายของพวกเขา ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินสองคนนั้นที่เดิมทียืนล้อมอยู่ด้านหนึ่งขมวดคิ้ว ยกมือสะบัดกระแสอากาศขุมหนึ่งออกไปต้านทาน
สะเก็ดไฟระเบิดดังสนั่น รัศมีแสงขนาดใหญ่และเปลวเพลิงลุกโชน ขณะที่ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินเหล่านั้นยกแขนเสื้อขึ้นบังเปลวไฟ เฟิ่งซานหยวนกับซู่ซีรีบฉวยโอกาสหนีไป
พ่อแม่ของเจ้าหยางค่อยๆ กลายเป็นรัศมีแสงและเลือนหายไปในอากาศทีละน้อยๆ กระทั่งตอนสิ้นใจ พวกเขาก็ยังพยายามยื้อโอกาสรอดชีวิตให้เฟิ่งซานหยวนกับซู่ซี
พวกเขาเป็น ตายไปนานแล้ว ยามนี้สามารถใช้ชีวิตของตนเองแลกโอกาสรอดให้ครอบครัวของนายท่านของพวกเขาได้ พวกเขาคิดว่าคุ้มค่าแล้ว
ครั้นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินพวกนั้นเงยหน้า ก็ไม่เห็นเงาร่างสองคนนั้นแล้ว เห็นอย่างนั้น พวกเขาแค่นหัวเราะ “เป็นแค่มดสองตัวก็ยังคิดจะหนีไปจากเงื้อมมือพวกข้า? เป็นไปได้หรือ?”
หนึ่งในผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินใช้ดวงจิตหยั่งรู้กวาดหา แล้วบอกกับอีกสองคนว่า “พวกเขาไปทางตำหนักด้านหน้า พวกเจ้าสองคนไปจัดการพวกเขา พวกข้าจะกลับไปรายงานภารกิจ”
“ขอรับ” ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินขั้นแรกสองคนรับคำ รวมพลังเหาะไปข้างหน้า ส่วนคนอื่นหมุนตัวจากไป
แค่คนสองคน คงไม่เป็นเรื่องเป็นราวอะไรมากมาย และไม่อาจหนีพ้นเงื้อมมือของผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินไปได้แน่นอน คำสั่งที่พวกเขาได้รับก็คือทำลายวังหลวงแห่งนี้ สังหารคนในนี้ให้หมด ยามนี้ สุดสายตามองเห็นแต่ศพ ขอเพียงจัดการสองคนนั้นได้ ภารกิจก็ถือว่าสำเร็จแล้ว
ซู่ซีประคองเฟิ่งซานหยวนเหาะไปข้างหน้า นางที่เริ่มหมดแรงพยายามฝืนทน ตลอดทาง เลือดไหลออกจากแผลลงบนพื้น ทิ้งร่องรอยเอาไว้ข้างหลัง
“สามีข้า ท่านอดทนไว้ก่อน ท่านต้องอดทนไว้…” นางไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่บอกให้เขาอดทนไว้ด้วยจิตใจที่แตกตื่น นางกำลังบอกเขา และกำลังบอกตนเองด้วย
“ซะ ซู่ซี เย่เอ๋อร์เล่า?” เฟิ่งซานหยวนกระอักเลือด ถามด้วยน้ำเสียงไร้เรี่ยวแรง หากไม่มีซู่ซีคอยประคองเขาไว้ เกรงว่าเขาคงเดินไม่ไหวนานแล้ว
“เขาไม่เป็นไร เขาปลอดภัยดี” ซู่ซีกระซิบบอกเขา ประคองเขาอย่างยากลำบาก แม้รู้ว่าหนีไม่รอด แต่ก็ไม่อยากยอมแพ้และรอความตายอยู่อย่างนี้
ตามองเห็นตำหนักหลังนั้นอยู่แค่ตรงหน้า แต่กลับเห็นเปลวเพลิงลุกลามไปทั่วตำหนัก หนีไปข้างหน้าไร้ประตู หนีไปข้างหลังก็ไร้หนทาง นางยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น รู้สึกจมสู่ภวังค์สิ้นหวัง
“ไร้หนทางแล้ว…ซานหยวน ข้าว่าพวกเราไม่รอดแล้ว”
นางพึมพำ ที่นี่โอบล้อมไปด้วยเปลวไฟสามทิศ ข้างกลังก็มีผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินไล่ล่า จะหนีรอดได้อย่างไร? แล้วจะหนีไปทางไหนได้อีก?
“ซะ ซู่ซี ขอโทษนะ ข้าปกป้องเจ้าไม่ได้ แต่กลับต้องทำให้เจ้า ทำให้เจ้า…”
ตูม! ตูม!
ยังพูดไม่ทันจบ สองคนที่ยืนประคองกันถูกโจมตีตัวปลิว เลือดสดๆ ไหลออกจากปากของทั้งสอง ร่างกระเด็นลอยออกไปเหมือนว่าวที่เชือกขาด ตกลงไปในตำหนักที่ท่วมไปด้วยเปลวเพลิง ล้มอยู่บนพื้นตำหนักไม่ขยับเขยื้อน ราวกับตายไปแล้ว…
………………………………….
ตอนที่ 1656 เป็นหรือตาย?
“ไม่เข้าใจจริงๆ ว่ามดตัวเล็กๆ แค่นี้เหตุใดต้องเปลืองแรงใช้คนของเราเยอะขนาดนี้ จะทำลายที่นี่ แค่เจ้ากับข้าสองคนก็พอแล้ว” ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสองคนยืนอยู่ตรงจุดที่เฟิ่งซานหยวนกับซู่ซีเคยยืน มองดูสองคนที่ถูกโจมตีจนร่างปลิวเข้าไปในกองเพลิง และนอนแน่นิ่งไม่ขยับอยู่บนพื้นนั่น
“โดนฝ่ามือเราไปคนละที อย่างไรพวกเขาก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย” ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินอีกคนบอก เหลือบมองสองคนที่หายใจรวยรินแวบหนึ่ง แล้วบอกว่า “ต้องมาสู้กับคนอย่างนี้ช่างเป็นการลงทุนที่มากเกินควรจริงๆ”
สำหรับคำสั่งที่ให้มาทำลายที่นี่ พวกเขาไม่พอใจนัก เพียงแต่ คนอื่นล้วนมาแล้ว พวกเขาจะไม่มาก็ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ จึงเก็บความโกรธและความไม่พอใจมาลงกับคนพวกนี้ที่ดูอ่อนแอในสายตาของพวกเขา
ใครใช้ให้พวกเขาไปมีเรื่องกับคนอื่นเขาเล่า? ใช้ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินอย่างพวกเขามาคร่าชีวิตพวกเขา แล้วยังคิดจะเอาชีวิตรอด? เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว!
ขณะเดียวกัน ห่างออกไปจากที่นี่ประมาณสามสิบจั้ง ผู้เฒ่าเกิ่งกับพวกหลัวอวี่ที่เพิ่งออกจากเส้นทางลับเห็นฉากนี้เข้าพอดี ตอนที่พวกเขาเห็นเฟิ่งซานหยวนกับซู่ซีถูกผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสองคนนั้นโจมตีจนตัวปลิบเข้าไปในตำหนักที่ไฟไหม้ หัวใจพลันหนักอึ้ง อยากจะเข้าไปช่วย แต่กลับถูกผู้เฒ่าเกิ่งห้ามไว้ก่อน
“พวกเจ้าไม่อยากอยู่แล้วหรือ!”
ผู้เฒ่าเกิ่งตะคอกพวกเขา ดึงพวกเขากลับมาซ่อนข้างใน แล้วสั่งให้พวกเขาเก็บซ่อนกลิ่นอาย “นั่นเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินเชียวนะ ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินที่พลังห่างชั้นจากผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณ! ถึงพวกเจ้าจะออกไป ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็ต้องตายอยู่ภายใต้แรงกดดันของพวกเขาแล้ว!”
พวกหลัวอวี่กำหมัดแน่น เส้นเอ็นนูนขึ้นบนหลังมือ พวกเขาพยายามข่มกลั้นจิตสังหารที่ท่วมฟ้าเอาไว้ เพราะกลัวจะถูกเจอตัว พวกเขาให้องครักษ์ตระกูลเฟิ่งคนอื่นรออยู่ในเส้นทางลับ มีเพียงพวกเขาแปดคนที่ตามผู้เฒ่าเกิ่งออกมา
ทว่านึกไม่ถึงว่าเดินออกมาได้ไม่นาน ก็เห็นจักรพรรดิหลวงและจักรพรรดินีหลวงถูกผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินสองคนซัดจนตัวปลิว นอนหายใจรวยรินอยู่ในกองเพลิง มองเห็นเหตุการณ์นั้น พวกเขากลับไม่อาจเข้าไปช่วย ความโกรธแค้นและไอสังหารแผ่ปกคลุมหัวใจของพวกเขา
“พวกเราทำได้แค่ยืนมองพวกเขาตายอยู่ในกองไฟอย่างนี้หรือ?” หนึ่งในนั้นถาม พูดคำหนึ่งหยุดคำหนึ่ง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บแค้น
“นั่นเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหิน พวกเขาสองคนบาดเจ็บถึงเพียงนั้น แล้วยังถูกฝ่ามือซัดใส่ข้างหลังอีก ฝ่ามือนั้นเกรงว่าจะทำลายชีพจรของพวกเขาจนแหลกสลาย พวกเขาไม่รอดแล้ว!!
ผู้เฒ่าเกิ่งพูดอย่างปวดใจ “ถึงพวกเจ้าออกไปแล้วอย่างไรเล่า? พวกเจ้าออกไปก็ทำได้เพียงเสียสละชีวิตอย่างเปล่าประโยชน์ หรือต้องยอมเสียสละชีวิตของพวกเจ้าสักกี่คนเพื่อแลกกับการหามศพพวกเขากลับมาอย่างนั้นหรือ? หรือคิดว่าตนเองอยู่มานานเกินพอแล้ว จะเดินออกไปให้พวกเขาสังหารเสีย?”
ทั้งแปดคนถูกตวาดเช่นนั้น จึงพากันเงียบ ข่มกลั้นความโกรธและไอสังหารในใจ
“จงออกตามหาเสีย! เสี่ยวเฟิ่งเย่จะต้องมีชีวิตอยู่แน่! เขาจะต้องยังอยู่ที่ไหนสักแห่งในวังหลวงแน่นอน!” หลัวอวี่บอก หมัดที่กำแน่นคลายออกมา มองหน้าพวกคนที่เหลือ แล้วบอกว่า “พวกเราแยกย้ายกันตามหา จะต้องหาตัวเสี่ยวเฟิ่งเย่ให้เจอโดยเร็วที่สุด!”
“ได้!” คนที่เหลือรับคำ แล้วบอกว่า “ระวังตัวด้วย อย่าปล่อยให้คนพวกนั้นเจอตัวเข้า”
แปดคนแบ่งเป็นสี่กลุ่มแยกย้ายกันอย่างรวดเร็ว ส่วนผู้เฒ่าเกิ่งเองก็ออกตามหาไปอีกทาง ไม่ว่าอย่างไร จะต้องหาตัวเด็กให้เจอ ไม่อย่างนั้นเขาจะสู้หน้าผู้เฒ่าเฟิ่งกับฮูหยินได้อย่างไร?
ทว่า พอพวกเขาก้าวเท้าออกไป แล้วเห็นศพเกลื่อนเต็มพื้น หัวใจก็อดสั่นสะท้านไม่ได้ ศพทั่วพื้นนั่น ต้องมีคนตายมากมายขนาดไหนกัน?
………………………………….