เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1743 บังเอิญมาเห็นฉากสู้กัน ตอนที่ 1744 รวบเอวอุ้มขึ้น
ตอนที่ 1743 บังเอิญมาเห็นฉากสู้กัน / ตอนที่ 1744 รวบเอวอุ้มขึ้น
ตอนที่ 1743 บังเอิญมาเห็นฉากสู้กัน
“งั้นหรือ? เช่นนั้นข้าอยากเห็นนัก ว่าท่านมีสิทธิ์พูดประโยคนี้ออกมาหรือไม่!” สิ้นเสียง ฝาถ้วยชาในมือเขาพุ่งออกไปทางโม่เฉินด้วยความเร็วสูง
โม่เฉินที่กำลังดื่มชาเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่ง เผยยิ้มอ่อนโยน “ยินดีน้อมรับยิ่ง” ขณะกล่าว เขาเอื้อมมือออกไปแล้วพลิกหมุน
เห็นเพียงฝาถ้วยชาหยุดต่อหน้าเขาไม่พุ่งเข้ามาอีก มันหมุนคว้างอยู่กลางอากาศ จากนั้นเมื่อเขาขยับมือ ฝาถ้วยชาก็ค่อยๆ เคลื่อนลงกลางฝ่ามือเขา สลายการโจมตีของเซวียนหยวนโม่เจ๋อได้อย่างง่ายดาย
“ถ้วยชาหนึ่งใบคู่กับฝาหนึ่งอัน ข้ามีแล้ว อันนี้คืนให้ท่านก็แล้วกัน!” เสียงนุ่มนวลเปล่งออกจากปาก ถ้วยน้ำชาในมือกลับพวยพุ่งออกไปอย่างรุนแรง
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเห็นอย่างนั้น ก็ยกนิ้วมือสองนิ้วคีบฝาถ้วยชาที่พุ่งเข้ามา แล้วนำกลับมาปิดถ้วยชาของตนเอง จากนั้นก็ลุกขึ้น เห็นเพียงเงาร่างสีดำโฉบไหว พุ่งตัวออกไปข้างนอก
เห็นอย่างนั้น โม่เฉินวางถ้วยชาในมือลง ใบหน้ายังคงประดับรอยยิ้มสง่างาม สาวเดินออกไปข้างนอกอย่างแช่มช้า มองเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่ยืนอยู่นอกตำหนัก เขายิ้มแล้วบอกว่า “ข้าเพิ่งมาถึงท่านก็ลงมือเลย ดูไร้คุณธรรมเกินไปกระมัง!”
“ข้าเชิญท่านดื่มชาไปแล้ว ทำไมเล่า? ยังไม่มีคุณธรรมอีกหรือ? ถ้าเช่นนั้น ไม่ได้เจอกันนาน ข้ามอบของขวัญให้ท่านอีกชิ้นก็แล้วกัน!” ขณะที่เสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์ดังขึ้น เงาร่างสีดำก็โฉบไหว โจมตีโม่เฉินที่ยืนเอามือไพล่หลังอยู่ตรงนั้น
กลิ่นอายพลังวิญญาณรอบตัวโม่เฉินถูกปลดปล่อยออกมาในพริบตา เสื้อขาวสะบัดโบก เส้นผมสีหมึกปลิวสยาย เผชิญหน้ากับกระบวนท่าของเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่โจมตีเข้ามา เขาไม่เกรงกลัว ยังคงสุขุมเหมือนเดิม ใบหน้ามีรอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่เสมอ
กระทั่ง เงาร่างสีดำของเซวียนหยวนโม่เจ๋อพุ่งเข้ามาใกล้ เขาจึงเริ่มจู่โจม เงาร่างสองเงา หนึ่งดำหนึ่งขาวประมือกันนอกตำหนัก กระแสพลังอันแข็งแกร่งรอบตัวทั้งสองป่วนพล่าน แม้จะเป็นเพียงการสู้กันมือเปล่า ทว่าการโจมตีแต่ละครั้งกลับทำให้องครักษ์ลับที่เร้นกายอยู่ในที่ลับและอิ่งอีตกตะลึง
นี่ก็คือการต่อสู้ของยอดฝีมือ!
ในมือไร้อาวุธ แต่กลิ่นอายที่กระจายอยู่รอบตัวกลับแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น กลิ่นอายพลังวิญญาณบนตัวพวกเขาสองคนสูสีกันจนตัดสินไม่ได้ แรงกดดันก็เช่นกัน การเคลื่อนไหวของพวกเขาเร็วมาก ด้วยพลังของอิ่งอีกับคนอื่นแทบมองกระบวนท่าของพวกเขาไม่ออก เห็นเพียงเงาร่างสองเงาสู้กันอย่างสูสี
“บึ้ม!”
อิ่งอีเบิกตากว้าง เห็นนายท่านของเขาเปลี่ยนฝ่ามือเป็นหมัด เหวี่ยงใส่เบ้าตาของโม่เฉินเต็มๆ ได้ยินเพียงโม่เฉินสูดหายใจดังซี๊ด รีบกุมตาถอยหลัง พอเอามือออก รอบดวงตาข้างซ้ายของเขาก็ปรากฏรอยบวมแดง ดูขัดกับดวงหน้างดงามดุจเทวดาของเขาอย่างชัดเจน สภาพเขาอย่างนั้นออกจะดูประหลาดเล็กน้อย พาให้ผู้พบเห็นต่างกลั้นขำไม่ไหว
“นี่ท่านต่อยหน้ากันเลยหรือ?” ใบหน้าสง่างามของโม่เฉินหน้าเสียไปบ้าง รอยยิ้มบนกลีบปากก็คงไว้ไม่อยู่แล้ว
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง แล้วหยักยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี “ข้าเพียงแต่งเติมสีสันให้ตาของท่าน ดูรื่นหูรื่นตาขึ้นมากทีเดียว”
โม่เฉินมุมปากกระตุก “ที่แท้ก็อย่างนี้เอง เช่นนั้นข้าก็ต้องขอบคุณท่านมาก” สิ้นเสียง ก็ลงมือโจมตีอีกครั้ง
“ไม่ต้องขอบคุณ เป็นเรื่องที่ข้าควรทำอยู่แล้ว” เขาอยากอัดโม่เฉินมานานแล้ว หมัดเดียวยังน้อยไปด้วยซ้ำ อืม ต่อยตาอีกข้างด้วยก็น่าจะไม่เลวแล้ว
ทว่า ยามหางตาเหลือบเห็นเงาร่างสีแดงที่เดินเข้ามาจากข้างนอก ประกายเจ้าเล่ห์พาดผ่านดวงตา กำปั้นที่เดิมทีพุ่งปะทะออกไป กลับหดเก็บเข้ามา และยอมรับฝ่ามือของโม่เฉิน…
………………………………….
ตอนที่ 1744 รวบเอวอุ้มขึ้น
“อืม!”
“พรืด!”
เสียงโอดครวญดังขึ้น เลือดกระอักออกจากปาก ร่างเขาซวนเซและล้มคะมำไปข้างหลัง
โม่เฉินตกตะลึง ราวกับนึกไม่ถึงว่าเรื่องจะกลายเป็นอย่างนี้ การโจมตีเมื่อครู่เขาน่าจะหลบได้ แล้วหมัดที่เขาเหวี่ยงออกมา จู่ๆ ถึงเก็บกลับไปเล่า?
อีกอย่าง แม้ฝ่ามือของเขาจะซัดถูกตัวของเซวียนหยวนโม่เจ๋อ แต่เขาก็ลดทอนพลังออกไปถึงเจ็ดส่วน เขารู้ดีว่าพลังของฝ่ามือนั้นไม่มีทางทำให้เขาถึงขั้นเลือดตกยางออก
ขณะกำลังสงสัย ก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยตะโกนขึ้นด้วยความตกใจ เขาหันกลับไปมองโดยสัญชาตญาณ เมื่อเห็นเงาร่างสีแดงพุ่งผ่านเขาไปด้วยความเร็วปานสายลม ในที่สุดเขาก็กระจ่าง
“เจ๋อ!”
เฟิ่งจิ่วประคองเขาที่ล้มลงไป เห็นเขาหน้าซีดแต่ก็ยังฝืนประคองตัวไว้ ยามเห็นเธอสีหน้าแสดงออกถึงความปีติ ดวงตาลึกล้ำยากปกปิดความชมชอบและรักลึกซึ้ง
“อาจิ่ว…”
เขาขานเรียก จากนั้นก็ล้มลงไปในอ้อมแขนของเธอ ราวกับหมดสติไป
“เจ๋อ!” เธอประคองเขา ไม่มีเวลาถามโม่เฉินสักนิดว่าเหตุใดเขาจึงอยู่ที่นี่ รีบอุ้มเซวียนหยวนโม่เจ๋อขึ้นมา แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องนอนของเขา
อิ่งอีที่เห็นฉากนั้นจากในมุมมืดเดาะลิ้น เขานึกไม่ถึงว่านายท่านจะเล่นไม้นี้ นี่มันขัดกับภาพลักษณ์ของนายท่านที่เขารู้จักในอดีต ที่แท้ยามนายท่านคิดจะเล่นสกปรก ก็ทำเช่นนี้ได้ด้วย…
เขารีบก้าวออกมาจากมุมมืด หันไปมองโม่เฉินแวบหนึ่ง แล้วเดินตามไปทันที
ส่วนฮุยหลางที่ตามเฟิ่งจิ่วกลับมาเห็นฉากนั้นก็รู้สึกตกตะลึง เดิมทีเขาอยากจะเข้าไปช่วยประคองนายท่าน ใครจะรู้กลับถูกเหลิ่งหวาที่อยู่ข้างๆ ขวางไว้ จากนั้นก็เห็นภูตหมออุ้มนายท่านของเขาขึ้นมา
บอกตามตรงว่ายามเห็นนายท่านผู้สูงส่งน่าเกรงขามของเขาถูกภูตหมออุ้มเข้าห้องนอนไปต่อหน้าต่อตา จิตใจของเขาสับสนว้าวุ่นมากทีเดียว
ภูตหมอปลอมตัวเป็นชายนานวันเข้า ใช่ลืมไปว่าเดิมตนเองเป็นหญิงหรือไม่? ใต้หล้านี้ มีหญิงสาวคนใดอุ้มผู้ชายเหมือนอุ้มเจ้าหญิงอย่างนั้นกัน?
บางทีนายท่านอาจดีใจ พอใจ และอิ่มเอมใจมาก แต่เขาที่เป็นผู้ชมกลับรู้สึกว่าแปลกประหลาดยิ่ง
เหลิ่งซวงที่อยู่ด้านหนึ่งอาจดูเหมือนสีหน้าไร้อารมณ์ ทว่าประกายอ่อนโยนรวมถึงรอยยิ้มที่หางตากลับโกหกไม่ได้
กลับเป็นเหลิ่งหวาที่หัวเราะด้วยความขำ “นายท่านเป็นคนตรงไปตรงมา เจ้าตำหนักยมราชไม่ได้พบนายท่านนานแล้ว คงคิดถึงมากกระมัง!” ขณะพูด เขาหันไปมองโม่เฉินในชุดขาวสง่างามที่ยืนอยู่ตรงหน้าแวบหนึ่ง จากนั้นก็ก้าวเข้ามา
โม่เฉินกำลังตกอยู่ในภวังค์ตกตะลึง เพราะเขาตะลึงพรึงเพริดที่เห็นเฟิ่งจิ่วอุ้มเซวียนหยวนโม่เจ๋อขึ้นมา มากกว่าฉากที่เซวียนหยวนโม่เจ๋อเล่นลูกไม้เป็นร้อยเท่าพันเท่า
เขาไม่เคยรู้มาก่อน ว่าที่แท้ผู้หญิงก็ทำอย่างนี้ได้ด้วย โอบเอวผู้ชายแล้วอุ้มขึ้นมา ภาพนั้นดูประหลาดนัก แต่พอเป็นพวกเขาสองคนแล้วช่างดูเป็นธรรมชาติยิ่งนัก ไม่ได้ดูขัดกันเลยแม้แต่น้อย
จากภาพนั้น เขาเห็นความสำคัญของเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่มีต่อเฟิ่งจิ่ว เธอไม่สนใจสายตาและความคิดของคนนอก สายตาของเธอมีแค่เขา ความรักลึกซึ้งที่แสดงออกมาทางวาจาและการกระทำเช่นนั้น ทำให้คนนอกที่ยืนดูอย่างเขาอธิบายความรู้สึกไม่ถูก
แต่กลับรู้ดี ว่าหากมีผู้หญิงอย่างนี้มารักเขาบ้าง บางที เขาก็อาจเหมือนเซวียนหยวนโม่เจ๋อ เล่นลูกไม้บ้างเป็นครั้งเป็นคราว เพื่อให้ได้มาซึ่งความอ่อนโยนและสงสารจากหญิงงาม…
เพียงแต่ พอคนที่ถูกเล่นสกปรกเป็นเขา อารมณ์จึงไม่ค่อยดีนัก
“เหลิ่งหวาคารวะคุณชายโม่เฉิน”
………………………………….