เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1843 บ่องู / ตอนที่ 1844 ลงมือ
ตอนที่ 1843 บ่องู / ตอนที่ 1844 ลงมือ
ตอนที่ 1843 บ่องู
เฟิ่งจิ่วมองบ่องูขนาดใหญ่ตรงหน้าแวบหนึ่ง แล้วหันไปมองชายฉกรรจ์เจ็ดแปดสิบกว่าคนที่ถูกคุมตัวมา บ้างก็หน้าซีดเผือด หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเท่าถั่ว บ้างก็หน้าบึ้งตึง เม้มปากมองบ่องูตรงหน้าด้วยร่างกายตึงเกร็ง
ละสายตาออกจากคนเหล่านั้น เฟิ่งจิ่วหันไปมองผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสามสี่คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนจะค่อยๆ เก็บงำสายตา
นี่คิดจะผลักคนพวกนั้นลงไปในบ่องูหรือ? คนพวกนั้นล้วนถูกจับตัวมาจากข้างนอก ล้วนไม่ใช่คนเลวทรามอะไร ดูจากที่พวกเขาหนีออกจากป่าผืนนั้นมาได้ ก็รู้แล้วว่าจะต้องมีความสามารถระดับหนึ่งแน่ แต่หากจะฆ่าพวกเขาตายเพียงเพราะเหตุผลเท่านี้ จะไม่ทำเกินไปหน่อยหรือ
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว เธอลอบถอนหายใจ คนในวิหารราตรียังเหลือความเป็นคนอยู่เสียที่ไหนหัน? บางทีชีวิตคนอาจเหมือนมดปลวกสำหรับพวกเขา ฆ่าคนพวกนี้นอกจากจะเขย่าขวัญพวกเขาได้แล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงวิธีการอันโหดร้ายกระหายเลือดของพวกเขาได้อีกด้วย
เดาว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ แม้จะมีใจคิดเป็นอื่น ก็ต้องประเมินกำลังตนเองว่ามีปัญญาหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาได้หรือไม่
ทุกคนเงียบงัน ผู้อาวุโสกุ่ยเดินออกมาจากข้างหลัง ข้างกายไม่มีหญิงสาวนางนั้นตามติดแล้ว เพราะหญิงสาวคนนั้นยั่วยวนชื่อจวินหาวเขาจึงฆ่านางเสีย
ผู้อาวุโสกุ่ยก้าวมาข้างหน้า สายตาเหี้ยมเกรียมกวาดมองผ่านกลุ่มคนที่สวมเสื้อผ้ากระชับกาย ยามมองผ่านเฟิ่งจิ่ว ก็ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือไม่ เขาจ้องอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะละสายตาออกไป
เขามองไปยังเหล่าชายฉกรรจ์ที่ร่างกายตึงเกร็งพวกนั้น น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมเปล่งออกมาอย่างแช่มช้า “ข้าเคยบอกแล้ว ใครที่ไม่ผ่านการทดสอบล้วนต้องตาย และต้องตายอย่างทรมานมากด้วย”
สิ้นเสียง เขาโบกมือ ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนคุมตัวชายหน้าซีดสองคนก้าวออกมา
“มะ ไม่นะ…”
ชายสองคนนั้นขาอ่อน เป้ากางเกงเปียกเพราะความหวาดกลัวสุดขีด มองบ่องูตรงหน้าด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด ความตายมีหลายรูปแบบ แต่ความตายที่ราวกับร่างกายแหลกเป็นชิ้นๆ เช่นนี้ กลับทุกข์ทรมานมากที่สุด
พวกเขาไม่กลัวตาย แต่กลับกลัวความทุกข์ทรมานที่มาจากจิตวิญญาณก่อนตายอย่างนี้
“ผลักลงไป” เสียงของผู้อาวุโสกุ่ยสะท้อนความชั่วร้าย คล้ายไม่ได้เห็นสองคนนั้นเป็นคนด้วยซ้ำ
“มะ ไม่เอา อ๊าก…ชะ…ช่วยด้วย…อ๊าก!”
สองคนนั้นถูกผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณผลักลงไปในบ่องู ทันทีที่ตกลงไป งูพิษเหล่านั้นรัดกายพวกเขาแน่น ผ่านไปไม่นาน เสียงกรีดร้องโหยหวนก็ค่อยๆ เบาลง ใบหน้าของสองคนนั้นกลายเป็นสีม่วงอมดำก่อนจะแน่นิ่งไป ทั่วร่างกายเต็มไปด้วยรอยเขี้ยวงู
สายตาของเฟิ่งจิ่วไหวระริกเล็กน้อย หันไปมองผู้อาวุโสกุ่ย พยายามข่มกลั้นอารมณ์อยากฆ่าคนไว้เงียบๆ
ผู้อาวุโสกุ่ยไม่ทันสังเกตเห็นสายตาของเฟิ่งจิ่ว เขามองคนพวกนั้นที่ยืนอยู่ จากนั้นก็หันมาพูดกับพวกเขาว่า “กลายเป็นอาหารของงูพิษ รับรู้ความรู้สึกทุกอย่างก่อนตายทั้งเป็น ความรู้สึกอย่างนั้น ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าคงไม่ชอบแน่”
ผู้อาวุโสกุ่ยยิ้มชั่วร้าย จ้องคนเจ็ดแปดสิบคน กล่าวว่า “คุกเข่าขอร้องข้า บางที ข้าอาจปล่อยพวกเจ้าสักหน แล้วให้โอกาสพวกเจ้าได้มีชีวิตรอดสักครั้ง”
สิ้นเสียงของเขา ท่ามกลางคนเจ็ดแปดสิบคนนั้น มีสามสิบกว่าคนที่คุกเข่าลงไป และโขกหัวให้เขาทันที
“พวกข้าไม่อยากตายๆ ขอร้อง ให้โอกาสพวกเราอีกสักครั้ง พวกเราจะเชื่อฟังอย่างแน่นอน จะบุกน้ำลุยไฟโดยไม่เกี่ยง…”
………………………………….
ตอนที่ 1844 ลงมือ
เสียงอ้อนวอนมากมายดังระงมทั่วสนาม ทว่า สายตาของผู้อาวุโสกุ่ยกลับไม่หันไปมองพวกเขาแม้แต่น้อย เขาหันไปมองชายฉกรรจ์ที่ยืนเหยียดหลังตรงสี่สิบกว่าคน แล้วถามด้วยสีหน้าสนใจ “พวกเจ้าไม่กลัวตายหรือ?”
ชายฉกรรจ์หนึ่งในนั้นแค่นเสียง “กลัวตายก็จะไม่มีวันขอร้อง! จะฆ่าจะแกงก็แล้วแต่จะทำ!”
“ก็แค่ตายไม่ใช่หรือ? มีอะไรน่ากลัวกัน?” ชายอีกคนเอ่ยขึ้น แววตาไร้ซึ่งความกลัว
ชายฉกรรจ์ร่างกายกำยำล่ำสันอีกคนก็ตะโกนเสียงดัง “ยามออกมาใช้ชีวิตข้างนอกก็รู้แล้วว่าต้องตายสักวัน เพียงแต่ไม่คิดว่าสุดท้ายกลับต้องมาตายอยู่บนงูน้อยพวกนี้ ช่างน่าเจ็บใจ!”
เฟิ่งจิ่วมองคนเหล่านั้น ก่อนจะหันกลับไปมองผู้อาวุโสกุ่ยอีก พลันสะดุดใจ ดูเหมือนคนพวกนี้จะยังมีโอกาสรอดชีวิตอยู่จริงๆ
เป็นไปตามคาด ผู้อาวุโสกุ่ยก้าวออกมา กวาดมองพวกเขาทีละคน สุดท้ายก็พยักหน้า “ไม่เลว ความกล้าหาญนี้ไม่เลวจริงๆ กลายเป็นคนของวิหารราตรีของเรา จะเป็นคนรักตัวกลัวตายไม่ได้”
คนพวกนั้นได้ยินก็ขมวดคิ้วมองเขา เหมือนไม่เข้าใจที่เขาพูด
ผู้อาวุโสกุ่ยจ้องพวกเขา เผยรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา “แม้พวกเจ้าจะอ่อนแอกว่าพวกเขาไปหน่อย แต่ข้าถูกใจความกล้าหาญนี้ จะไว้ชีวิตพวกเจ้าสักครั้ง ข้าเชื่อว่าแม้จะกลายเป็นยอดฝีมือไม่ได้ แต่ต่อไปพวกเจ้าต้องมีประโยชน์แน่ๆ”
เอ่ยจบ ก็หันไปกำชับผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนข้างกาย “พาพวกเขากลับไปหาอาวุโสซุ่น ให้เขาดูแลเรื่องการฝึกฝนของคนพวกนี้”
“ขอรับ” ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนรับคำ ก่อนตะโกนเรียกขายสี่สิบคนนั้น “มาทางนี้!”
ครั้นคนพวกนั้นออกไป ผู้อาวุโสกุ่ยเหลือบมองชายสามสิบกว่าคนที่กำลังคุกเข่า สีหน้าเหี้ยมเกรียม “พวกที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ผลักลงไปให้งูให้หมด”
คนที่ไม่มีความกล้า เขาดูแคลนนัก!
“ขะ ข้าจะสู้ตายกับพวกเจ้า!”
พวกคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นถูกบีบจนไร้ทางเลือก ทำได้เพียงฮึดขึ้นสู้ พุ่งตัวไปทางผู้อาวุโสกุ่ย คิดเพียงว่าแม้ต้องตายก็ไม่ขอตายคนเดียว ตั้งแต่ที่คนแรกกระโจนเข้าไป คนอื่นๆ ต่างก็พากันกระโจนตามไปด้วย พวกเขาพุ่งโจมตีพวกผู้อาวุโสกุ่ยด้วยความเร็วปานสายฟ้า
ผู้อาวุโสกุ่ยหรี่ตา ประกายกระหายเลือดพาดผ่านดวงตา ขณะกำลังจะลงมือ เงาร่างสีดำเส้นหนึ่งพลันโฉบไหวเข้ามา ถีบคนที่กระโจนใส่เขาออกไป แล้วยืนบังเขาไว้
แววประหลาดใจพาดผ่านดวงตา เขาจ้องเด็กหนุ่มชุดดำกระชับตัวที่กำลังหันหลังให้เขา สายตาไหวระริก ไม่ได้พูดอะไร
“ฆ่าพวกเขาเสีย!”
สิ้นเสียงของเฟิ่งจิ่ว เหล่าชายฉกรรจ์ที่สวมชุดกระชับตัวต่างก็ได้สติกลับคืนมา หันไปมองพวกคนที่พุ่งเข้ามา พวกเขาเองก็รีบโฉบกายออกไป
“กร๊อบ!”
“อ๊าก!”
“อึก!”
เสียงร้องครวญและเสียงกระดูกหักดังสนั่นไปทั่วทั้งสนาม เสียงคำรามและเสียงกรีดร้องดังปะปน แลดูโกลาหลวุ่นวาย กลิ่นคาวเลือดกระจายไปทั่วอากาศ ไม่นาน ทั่วทั้งสนามก็เงียบลง ทว่าบนพื้น กลับมีศพเพิ่มมาสามสิบกว่าศพ
หลังจากที่กลุ่มคนสวมชุดดำกระชับตัวจัดการเก็บกวาดศพเรียบร้อย ก็กลับมายืนเรียงแถวตามหมายเลขของพวกเขา แม้ใบหน้าไม่แสดงอาการใด แต่ลึกๆ ข้างในกลับสั่นสะท้านราวกับมีคลื่นซัดสาด
เวลานี้ เหล่าผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินที่อยู่ด้านหนึ่งสีหน้าอ่อนลง มองศพบนพื้นแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองเหล่าคนที่ยืนเรียงแถวกันเป็นกลุ่มๆ สายตาไหวระริกเล็กน้อย
ผู้อาวุโสกุ่ยก้าวออกมา หยุดยืนอยู่ตรงหน้าเฟิ่งจิ่ว