เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1911 ตัวตนของหัวหน้า / ตอนที่ 1912 หัวหน้าไม่ใช่ผู้หญิงแน่นอน
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1911 ตัวตนของหัวหน้า / ตอนที่ 1912 หัวหน้าไม่ใช่ผู้หญิงแน่นอน
ตอนที่ 1911 ตัวตนของหัวหน้า / ตอนที่ 1912 หัวหน้าไม่ใช่ผู้หญิงแน่นอน
ตอนที่ 1911 ตัวตนของหัวหน้า
สิ้นเสียงของเฟิ่งจิ่ว พวกเหลยเซียวพลันลงมือ คนสิบกว่าคนล้อมสังหารชายชราพวกนั้น แรงกดดันของผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินและกระแสพลังป่วนพล่านไปทั่วทั้งหอรวมสมบัติ แรงกดดันก่อตัวกลางอากาศจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่ารางๆ
“พลั่ก!”
“ชิ้ง!”
“อ๊าก!”
เสียงต่อสู้ดังขึ้น เสียงกระทบกระทั่งและเสียงกระแสพลังอันรุนแรง รวมไปถึงเสียงกรีดร้องโหยหวนดังก้องไปทั่วท้องฟ้ายามกลางคืน ทำให้ผู้คนในเมืองแตกตื่น หลังจากตื่นเพราะความตกใจ เหล่ากลุ่มอำนาจในเมืองก็ส่งคนมาสืบข่าว ครั้นได้ข่าวว่าหอรวมสมบัติถูกผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งล้อมโจมตี คนข้างนอกไม่อาจเข้าใกล้ พวกเขาก็อดตกตะลึงไม่ได้
ใครกันกล้าเล่นงานหอรวมสมบัติ? ไม่รู้หรือว่ากลุ่มอำนาจที่อยู่เบื้องหลังหอรวมสมบัติคือ…
ด้วยอารามตกตะลึง พวกเขาจับตาดูสถานการณ์ แต่กลับไม่กล้าเข้าใกล้เกินไป เพียงคอยฟังเสียงการสู้รบอยู่ห่างๆ ยิ่งได้ยินก็ยิ่งตกตะลึง
กลุ่มอำนาจใดกันกล้าต่อกรกับหอรวมสมบัติ นี่คิดจะทำลายหอรวมสมบัติภายในชั่วข้ามคืนงั้นหรือ? พวกเขาจับตาดูด้วยความตกใจระคนสงสัย กระทั่งเมื่อถึงยามจื่อ ยามเห็นเปลวไฟโหมกระหน่ำหอรวมสมบัติ พวกเขายิ่งแตกตื่น
เพียงแต่พวกเขาจับตาดูประตูใหญ่ของหอรวมสมบัติ ก็ไม่เห็นคนข้างในหนีออกมา กลับได้ยินเสียงที่ค่อยๆ เงียบหลังจากที่ไฟลุกลาม ไฟไหม้ครั้งนี้กินเวลาไปถึงหนึ่งคืนเต็มๆ เปลวไฟแผดเผาหอรวมสมบัติทั้งหลังจนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน
ณ เรือนเล็กทางตอนเหนือของเมือง
พวกเหลยเซียวถอดชุดคลุมสีดำและเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าธรรมดา มองแวบแรกแม้จิตสังหารจะเบาบางลง แต่บุคลิกแข็งกร้าวดุดันก็ยังคงไม่ลดลง
ทุกคนยืนเรียงแถวอย่างนอบน้อมอยู่ตรงหน้าเฟิ่งจิ่ว ยามมองเด็กหนุ่มชุดเขียวที่อยู่ตรงหน้า ลึกๆ ข้างในของพวกเขารู้สึกภาคภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก
คนคนนี้เป็นหัวหน้าของพวกเขา! เขาแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น มีพลังที่ยากแท้หยั่งถึงถึงเพียงนั้น ในใจพวกเขา ไม่มีสิ่งใดที่เขาทำไม่ได้ ยิ่งใหญ่ไร้ผู้ใดเทียบเคียง
อยู่มานานขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้สึกเคารพเลื่อมใสคนคนหนึ่งจากก้นบึ้งหัวใจ
เฟิ่งจิ่วมองทุกคนที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและยืนเรียงแถวกันอย่างเรียบร้อย มองดูพวกเขายืนหลังเหยียดตรงท่าทางกระฉับกระเฉง ก็อดเผยยิ้มไม่ได้ “แม้พวกเราจะอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่เดือน แต่ก็เรียกได้ว่าเราเป็นสหายที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมา ในเมื่อพวกเจ้าจะติดตามข้า เช่นนั้นข้าจะบอกฐานะของข้าให้พวกเจ้ารู้ก็แล้วกัน!”
ได้ยินอย่างนั้นทุกคนก็อึ้งงัน จากนั้นก็ดีใจ ดวงตาฉายแววคาดหวัง หนึ่งในนั้นอดถามด้วยความอยากรู้ไม่ได้ “หัวหน้า ท่านเป็นลูกหลานตระกูลเร้นลับใดใช่หรือไม่?”
“หัวหน้า ท่านเป็นลูกชายของสำนักเก่าแก่ใดใช่หรือไม่?”
“หัวหน้า ท่านคงไม่ได้เป็นผู้แข็งแกร่งที่ย้อนวัยมากระมัง?”
“หัวหน้า…”
พวกเขาแต่ละคนต่างถามด้วยความตื่นเต้น ความอยากรู้อยากเห็นพลุ่งพล่านไม่อาจควบคุม ดวงตาแต่ละคู่จับจ้องใบหน้าของเด็กหนุ่มชุดเขียวที่กำลังยิ้มแย้ม พลางลอบเดาในใจ ว่าหัวหน้าของพวกเขาเป็นใครกัน?
เฟิ่งจิ่วได้ยินพวกเขาทาย ก็อดหัวเราะไม่ได้ “เอาล่ะ ไม่ต้องเดาส่งเดชแล้ว” เธอโบกมือ ลูบหน้าไปมา แล้วกล่าวว่า “พวกเจ้ารอเดี๋ยว” เอ่ยจบก็หันหลังเดินเข้าห้องไป
เห็นหัวหน้าของพวกเขาเดินเข้าห้องแล้วปิดประตู ทุกคนก็อดพูดคุยถกเถียงกันไม่ได้ “พวกเจ้าว่าหัวหน้าเป็นใครกันแน่? เหตุใดจึงได้ดูลึกลับนัก?”
“เป็นใครก็เท่านั้น ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร อย่างไรเขาก็เป็นหัวหน้าของพวกเราไม่ใช่หรือ?”
………………………………….
ตอนที่ 1912 หัวหน้าไม่ใช่ผู้หญิงแน่นอน
เหลยเซียวเหล่มองทุกคนแวบหนึ่ง ทุกคนยิ้มกว้าง หนึ่งในนั้นรับคำว่า “นั่นก็จริง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นหัวหน้าของพวกเรา แต่บอกตามตรง พวกข้าก็ยังสงสัยว่าหัวหน้าเป็นใครอยู่ดี! หรือเจ้าไม่อยากรู้?” ชายคนนั้นถาม ยิ้มตาหยีเหล่มองเหลยเซียว
เหลยเซียวกระแอมเบาๆ ปั้นหน้าตึง ตอบว่า “มีอะไรให้อยากรู้กัน? หัวหน้าบอกให้เรารอเดี๋ยวไม่ใช่หรือ? อีกเดี๋ยวก็รู้แล้ว ยังต้องเดาหรืออยากรู้อะไรอีก?”
หมายเลขหนึ่งที่อยู่ด้านหนึ่งได้ยิน ใบหน้าที่เดิมทีเย็นชาเผยรอยยิ้มเล็กน้อย ขณะกำลังจะอ้าปากพูด ก็ได้ยินคนข้างๆ ตะโกน “ดูนั่น! หัวหน้าออกมาแล้ว!”
“เอ๊ะ? เหตุใดจึงดูเปลี่ยนไป? หัวหน้าในตอนนี้ดูหล่อเหลากว่าเมื่อกี้มากทีเดียว”
“ข้ารู้แล้ว หัวหน้าแปลงโฉมมาตลอดแน่ๆ! แต่นี่มันวิชาแปลงโฉมอะไรกันถึงได้ยอดเยี่ยมเพียงี้? คนพวกนั้นถึงขั้นดูไม่ออกเชียวหรือ?”
“หากหัวหน้าไม่บอก พวกเราก็ดูไม่ออกว่าเขาแปลงโฉมไม่ใช่หรือ?”
“แต่พวกเจ้าก็ว่าไป ใบหน้านี้ของหัวหน้าหล่อเหลามากจริงๆ เดาว่าหากออกไปข้างนอกด้วยใบหน้านี้จะต้องมีหญิงงามหลงใหลไม่น้อยแน่”
“ฮ่าๆๆ เจ้าพูดมาตรงๆ ก็ได้ว่าหากหัวหน้าเป็นผู้หญิง จะต้องเป็นโฉมสะคราญงามล่มเมืองไร้ผู้ใดเทียม”
“หยุดเลย คำพูดเช่นนี้พูดส่งเดชได้หรือ? เอาหัวหน้าไปเปรียบเทียบกับสตรี? เจ้าคันนักหรือ? ระวังหัวหน้าจะสั่งสอนเจ้า”
“ฮี่ๆ ก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง อีกอย่าง หัวหน้าจะเป็นหญิงไปได้อย่างไรกัน? ผู้หญิงที่ไหนจะโรคจิตและร้ายกาจถึงเพียงนี้? พวกเจ้าว่าใช่หรือไม่?”
“ใช่แล้วๆ” ทุกคนเห็นหัวหน้าของพวกเขาเดินมายืนตรงหน้า ก็รีบกลับไปยืนอย่างเป็นระเบียบ
ชายไว้หนวดคนนั้นยิ้มกล้าว แล้วกล่าวด้วยเสียงดังฟังชัด “หัวหน้าจะเป็นผู้หญิงไปได้อย่างไรกัน? พวกเจ้าว่า ใต้หล้านี้จะมีผู้หญิงที่ไหนยอดเยี่ยมเหมือนหัวหน้า? ดูหัวหน้าสิ ทั่วทั้งกายไม่เหมือนหญิงสาวเลยสักนิด ดูอย่างไรก็เป็นเด็กหนุ่มรูปโฉมงดงามสง่าผ่าเผยชัดๆ พวกเจ้าว่าใช่หรือไม่?”
“นั่นสิๆ”
ทุกคนรีบตอบรับ เพียงแต่ ยามพวกเขาเห็นหัวหน้าของพวกเขายักคิ้ว สองแขนกอดอก ชำเลืองมองพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ก็อดรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวไม่ได้
เหตุใดหัวหน้าถึงได้ยิ้มอันตรายเช่นนั้น? พวกเขาเห็นแล้วก็รู้สึกกระสับกระส่ายแปลกๆ หรือว่าพวกเขาพูดอะไรผิดไปงั้นหรือ?
ชายไว้หนวดแม้จะจิตแข็ง แต่ยามนี้พอเห็นรอยยิ้มมุมปากของหัวหน้าของพวกเขา ก็รู้สึกขนลุกแปลกๆ เขาเกาหัวแล้วยิ้มเก้อ พลางกล่าวว่า “หัวหน้า ท่านอย่าโกรธเล่า! พวกข้าแค่ล้อเล่น จริงๆ นะ ท่านแค่หน้าตาดีไปหน่อย หล่อเหลาไปหน่อย ไม่เหมือนผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย จริงๆ นะ”
“อ้อ? งั้นหรือ? ข้าไม่เหมือนผู้หญิงหรือ?” เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองเขาด้วยสายตาเย็นวาบ ดวงตายังคงยิ้มหยี
ทั้งที่กำลังยิ้ม แต่ชายไว้หนวดกลับยิ้มไม่ออก เขารีบปั้นหน้าจริงจัง ก่อนจะเอ่ยเสียงขึงขัง “ใครกล้าบอกว่าหัวหน้าเหมือนผู้หญิง ข้าจะคิดบัญชีกับมัน! พวกเราล้วนเป็นชายชาตรี เคยนอนเตียงรวมมาแล้ว ท่านยังเคยเห็นข้าในสภาพเปลือยเปล่า! จะเป็นผู้หญิงไปได้อย่างไรกัน?”
“หึๆๆ…”
เฟิ่งจิ่วหัวเราะ เสียงหัวเราะนั้นทำให้ชายไว้หนวดรู้สึกขนลุกแปลกๆ เหตุใดจึงรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติกันนะ? ปัญหาอยู่ตรงไหนกันแน่? เขาเกาหัว คิดอยู่นานก็ยังคิดไม่ออก
สิ้นเสียงหัวเราะ เฟิ่งจิ่วมองกลุ่มคนที่ปั้นหน้าจริงจัง ก่อนที่เสียงหยอกเย้าจะดังขึ้นอย่างแช่มช้า…
………………………………….