เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1921 แก้วตาดวงใจ / ตอนที่ 1922 รอคน
ตอนที่ 1921 แก้วตาดวงใจ
“เด็กๆ! พาผู้เฒ่าท่านนี้ไปส่งที่โรงหมอในเมือง เชิญหมอมาตรวจอาการบาดเจ็บของนางดีๆ…” ยังพูดไม่ทันจบ เขาก็อึ้งงันเพราะเห็นการกระทำของลูกสาวตนเอง
“ท่านพ่อ ไม่ต้องยุ่งยากแล้ว ข้าแบกท่านยายกลับไปเอง ข้าเป็นคนชนท่านยายล้ม ข้าต้องรับผิดชอบ” เด็กสาวตัวอ้วนไม่พูดพร่ำทำเพลงก้มตัวหันแผ่นหลังให้เฟิ่งจิ่ว ตอนที่เฟิ่งจิ่วกำลังอึ้งงันก็ถูกดึงให้ขึ้นไปขี่บนหลัง จากนั้นก็ออกวิ่งไปยังโรงหมอทันที
ถูกเด็กผู้หญิงแบกขึ้นหลังแล้ววิ่งอย่างนี้ เฟิ่งจิ่วเองก็ได้แต่งงงัน นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย?
เธอมองเด็กสาวอวบอ้วนที่อยู่ข้างล่าง ครุ่นคิดแล้วบอกว่า “แม่หนูอ้วน ปล่อยข้าลง ข้าไม่ได้บาดเจ็บ”
“ไม่ได้ คนที่ถูกข้าทับอย่างไรก็ต้องบาดเจ็บแน่ ข้ากลัวว่ากระดูกของท่านจะหัก ต้องไปตรวจดูสักหน่อย” เด็กสาวตัวอ้วนว่า แม้จะแบกคนทั้งคนไว้บนหลัง ก็ยังวิ่งได้เร็วเหมือนบิน
ครั้นเห็นว่าเด็กสาวตัวอ้วนแบกเธอวิ่งแหวกถนนด้วยกลิ่นอายมั่นคงและฝีเท้ารวดเร็ว นัยน์ตาเธอไหวระริก มองพิจารณาอย่างละเอียด เมื่อเห็นเด็กสาวตัวอ้วนวรยุทธ์ไม่ธรรมดา จึงอดถามด้วยความสงสัยไม่ได้
“เจ้าแต่งงานวันนี้หรือ?” เด็กสาวตัวอ้วนยังสวมชุดเจ้าสาวอยู่เลย!
“นั่นเป็นการแต่งงานที่ท่านปู่ของข้าตกลงกันไว้ ข้าเห็นลูกชายคนเล็กของตระกูลหร่วนรูปงามก็เลยตกลงจะแต่งด้วย นึกไม่ถึงเขากลับหนีไปแล้ว แต่ไม่เป็นไร เมื่อกี้ข้าเจอพี่ชายที่รูปงามกว่า ตอนนี้ข้ากำลังตามหาเขาอยู่ ท่านยาย ท่านเห็นเขาหรือไม่? เขาใส่เสื้อผ้าสีเขียว หน้าตาหล่อเหลาเชียวละ”
เฟิ่งจิ่วมุมปากกระตุก “ไม่เห็นเลย”
“เขาน่าจะเป็นคนต่างถิ่น ข้าดูแล้วเขาไม่เหมือนคนในเมืองของเรา หากเป็นคนในเมืองไม่มีทางที่ข้าจะไม่รู้จัก” นางอธิบาย วิ่งเลี้ยวเข้าไปในตรอกเส้นหนึ่ง ทว่าทันใดนั้น ร่างกายของนางแข็งทื่อ ก่อนที่จะล้มลงไป
เฟิ่งจิ่วกระโดดลงมาจากหลังของนาง ตบไหล่เด็กสาวตัวอ้วนที่กำลังเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พลางยิ้มบอกนาง “แม่หนู ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้า อีกเดี๋ยวจุดลมปราณก็คลายออกเอง” สิ้นเสียง เธอก็ฮัมเพลงเดินออกไปนอกตรอก
ทว่า หลังจากที่เธอเดินออกมาจากตรอกเส้นนั้นได้ไม่นาน และเดินดูของอยู่บนถนน หางตาเห็เหลือบเห็นผู้ฝึกตนหลายคนเดินกอดคอหัวเราะกันเข้าไปในตรอกเส้นนั้น ฝีเท้าที่เดิมทีตั้งใจจะเดินจากไปอดชะงักหยุดไม่ได้ คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
ลมปราณของเด็กสาวตัวอ้วนคนนั้นน่าจะยังไม่คลาย ท่าทางและคำพูดของผู้ชายพวกนั้นดูแล้วก็ไม่ใช่คนดีอะไร หากเข้าไปในตรอกเส้นนั้นแล้วเห็นเด็กสาวตัวอ้วนล้มอยู่บนพื้น…
นึกมาถึงตรงนี้ เธอก็สาวเท้าเดินกลับไปยังตรอกเส้นเดิม หากการกระทำของเธอทำร้ายเด็กสาวตัวอ้วนโดยไม่ตั้งใจ มโนธรรมของเธอก็คงอยู่เฉยไม่ได้
ขณะเดียวกัน เป็นอย่างที่เฟิ่งจิ่วคาดเดาไว้ พอพวกผู้ชายที่กอดคอหัวเราะพูดคุยกันเห็นเด็กสาวตัวอ้วนล้มอยู่บนพื้น ก็อดหัวเราะเยาะเสียงดังไม่ได้
“พวกเจ้าดู ที่นี่มีผู้หญงคนหนึ่งล้มอยู่ด้วย ยังเป็นผู้หญิงที่สวมชุดแต่งงานเสียด้วย นี่จะให้พวกเราพี่น้องกลับไปเป็นเจ้าบ่าวอีกครั้งรึ? ฮ่าๆๆๆ!”
“ผู้หญิงคนนี้เหมือนพระจันทร์กลมในคืนสิบห้าค่ำเดือนแปด กลมไปทั้งตัวทั้งแต่หัวจรดเท้า มีตรงไหนให้น่ามองกัน? กลับเป็นข้าวของบนตัวนางน่าจะมีค่าไม่น้อย แค่ป้ายหยกห้อยเอวนั่น เดาว่าน่าจะมากพอให้เราพี่น้องกินดื่มไปหลายเดือนแล้ว”
“ไม่สิ ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ดูคุ้นตานักนะ?” ชายคนหนึ่งชะโงกเข้าไปใกล้ๆ จ้องหน้าเด็กสาวตัวอ้วนที่กำลังเบิกตากว้าง จู่ๆ ก็ตบหัวตนเอง “อ้อ! ข้านึกออกแล้ว นี่มันเสี่ยวเอ้อร์ของตระกูลหยางไม่ใช่หรือ? นางเป็นถึงแก้วตาดวงใจของผู้นำตระกูลหยางเชียวนะ”
………………………………….
ตอนที่ 1922 รอคน
“พรืด! แล้วอย่างไรเล่า? เอาข้าวของบนตัวนางมาก่อน จากนั้นก็ค่อยฆ่านางแล้วเอาไปโยนทิ้งที่ซอกมุมใดซอกมุมหนึ่ง ใครจะไปรู้ว่าเป็นฝีมือพวกเรา?” หนึ่งในนั้นเอ่ยคำพูดเหี้ยมโหดออกมา จ้องทรัพย์สินบนตัวเด็กสาวตัวอ้วนตาเป็นมัน
“พวกเจ้าดูข้าวของพวกนั้นบนตัวนางสิ เป็นสมบัติล้ำค่าทั้งนั้น ผู้นำตระกูลหยางรักลูกสาวคนนี้ที่สุดแล้ว ของมีค่าบนตัวนางต้องมีไม่น้อยแน่”
ขณะกล่าว ชายคนนั้นยิ้มเหี้ยมเกรียมไปด้วย หันไปสั่งคนที่เหลือว่า “พวกเจ้าไปเฝ้าหน้าตรอก อย่าให้ใครเข้ามาทำเสียเรื่อง!”
“กลางวันแสกๆ เช่นนี้จะมีเรื่องดีๆ อะไรให้ทำได้?” เฟิ่งจิ่วที่อยู่ในร่างยายแก่หลังค่อมเดินเข้ามาพร้อมกับไม้เท้าในมือ น้ำเสียงแก่ชราแหบแห้ง ครั้นเธอปรากฏตัว ก็เรียกเสียงหัวเราะของผู้ชายพวกนั้น
“ก็นึกว่าใคร! ที่แท้ก็ยายแก่คนหนึ่ง! นี่เดินมารนหาที่ตายเองเลยหรือ? ฆ่านางเสีย!” หนึ่งในนั้นตวาดสั่งด้วยน้ำเสียงอำมหิต
ส่วนเด็กสาวตัวอ้วนที่อยู่บนพื้นเห็นเฟิ่งจิ่วกลับมา ในดวงตาปรากฏแววดีใจ เธอลอยขับเคลื่อนลมปราณเพื่อคลายจุดสกัด หวังว่าจะรีบคลายจุดลมปราณที่ถูกสกัดได้เร็วๆ
“ฆ่าพวกเจ้าข้ายังกลัวว่ามือจะเปื้อน ยังต้องเสียเวลาจัดการศพ” เฟิ่งจิ่วบ่น ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน เพียงขานเรียกคำเดียว “กลืนเมฆา”
สิ้นเสียง ประกายแสงเส้นหนึ่งพาดผ่าน เห็นเพียงกลืนเมฆากระโดดออกมาจากห้วงมิติ พุ่งใส่หนึ่งในคนพวกนั้น กัดคอของคนคนนั้นจนหักในครั้งเดียว
“กร๊อบ! อ๊าก!”
เสียงกระดูกหักดังลั่น บวกกับเสียงคนคนนั้นกรีดร้อง กลิ่นคาวเลือดกระจายไปทั่ว ภาพเหตุการณ์นองเลือด รวมถึงแรงดดันอันดุดันของกลืนเมฆา ทำให้คนที่เหลือตกใจกลัวขาอ่อนล้มลงไป ถึงขั้นฉี่ราดกางเกง
“สัตว์ สัตว์เทวะขั้นสูง!”
คนพวกนั้นแทบวิ่งไม่ออก สีหน้าซีดขาว ภายใต้แรงกดดันอันแข็งแกร่งไม่มีแม้แต่แรงจะวิ่งหนี ขณะที่คนพวกนั้นอ่อนแรงล้มลงไป กลืนเมฆาพุ่งเข้าไปกัดคอพวกเขาทีละคน ไม่นาน ตรอกเส้นนั้นตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือด…
เวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป บนถนนใหญ่ที่ผู้คนสัญจรไปมา เฟิ่งจิ่วเดินไปสองสามก้าว ก็หันไปมองข้างหลัง เห็นเด็กสาวตัวอ้วนกระพริบตาปริบๆ เดินตามเธอมา เธอหยุดเดินและอดถอนหายใจอย่างเอือมระอาไม่ได้
“เจ้าจะตามข้าไปถึงเมื่อใดกัน? ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ? ข้าเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย”
ที่นั่นเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด กอปรกับความดุดันของกลืนเมฆา เดิมทีนึกว่าเด็กสาวตัวอ้วนจะตกใจกลัววิ่งหนีไป ใครจะรู้กลับตามติดเธอไม่ยอมห่าง ซ้ำยังยิ้มหวานจ้องเธอไม่วางตา สายตาอย่างนั้น สีหน้าอย่างนั้น ช่างทำให้เธอหมดคำพูดเสียจริงๆ
“ข้ารู้แล้ว! แต่ท่านยังไม่ได้บอกข้าว่าท่านชื่ออะไรไม่ใช่หรือ? ท่านไปแล้ว ต่อไปข้าจะไปตามหาท่านเพื่อเล่นสนุกด้วยกันได้ที่ไหนเล่า?” หยางเสี่ยวเอ้อร์ก้าวเข้ามาถาม
เฟิ่งจิ่วมองนางแวบหนึ่ง ถามว่า “ตระกูลน่าหลันอยู่ที่ใด?”
“ตระกูลน่าหลัน?” หยางเสี่ยวเอ้อร์กลอกหมุนลูกตาดำใสไปมา มองเธอก่อนจะถามว่า “ท่านเป็นคนของตระกูลน่าหลันหรือ?” ยังไม่พอ นางเอ่ยเสริม “ข้ารู้ว่าอยู่ที่ใด ข้าจะพาท่านไปเอง”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังมุ่งหน้าไปยังตระกูลน่าหลัน ยามนี้ในตระกูลน่าหลันกำลังตกอยู่บรรยากาศแปลกๆ
ในห้องโถงตระกูลน่าหลัน
ผู้นำตระกูลน่าหลันมองชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำที่เอาแต่นั่งจิบชาไม่พูดอะไรตั้งแต่เข้ามาในบ้านของพวกเขาแล้ว ลึกๆ ข้างในรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก เขาไม่รู้แม้กระทั่งว่าผู้ชายชุดดำคนนี้เป็นใคร รู้เพียงว่า ผู้ชายชุดดำคนนี้มาที่บ้านของพวกเขา แล้วพูดเพียงประโยคเดียวว่ามารอคน จากนั้นก็นั่งอยู่ตรงนั้นมาจนถึงตอนนี้
………………………………….