เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1923 มาแล้ว / ตอนที่ 1924 พบกัน
ตอนที่ 1923 มาแล้ว
ผู้นำตระกูลน่าหลันกับลูกชายคนเล็กของเขาที่อยู่ข้างๆ มองหน้ากันแวบหนึ่ง แอบสงสัยในใจ ลังเลครู่หนึ่งจึงถามว่า “คุณชายท่านนี้ ท่านกำลังรอใครอยู่หรือ? หากเป็นคนในจวนเรา ข้าให้คนไปเรียกมาก็ได้”
“ไม่ต้อง คนที่ข้ารออีกเดี๋ยวก็มาแล้ว” เซวียนหยวนโม่เจ๋อยกชาขึ้นจิบ
ได้ยินอย่างนั้น ผู้นำตระกูลน่าหลันกับน่าหลันจื่อเยี่ยนชะงักเล็กน้อย คนที่รออีกเดี๋ยวก็มา? ชายชุดดำคนนี้แม้พูดไม่มาก แต่แรงกดดันและกลิ่นอายล้วนเก็บซ่อนไว้ แต่พวกเขามองออกตั้งแต่แวบแรกว่า คนคนนี้ไม่ธรรมดา
เขานั่งจิบชาอย่างผ่อนคลายอยู่ตรงนั้น กลับกลายเป็นพวกเขาที่เป็นเจ้าบ้านต้องเกรงอกเกรงใจ แต่นี่ก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา เพราะรอบกายชายชุดดำเต็มไปด้วยบารมีสูงส่ง กลิ่นอายของผู้อยู่เหนืออกว่านั่น แม้แต่พวกเขาเห็นแล้วก็ยังไม่กล้าปล่อยตัวตามสบายต่อหน้าเขา
เพียงแต่ในตระกูลพวกเขามีใครรู้จักคนอย่างนี้ด้วยหรือ? หากจะว่ามี เดาว่าก็คงมีแค่…
สองพ่อลูกมองหน้ากัน นึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ชายชุดดำคนนี้คงไม่ได้มาหาลูกชายคนโตของเขาหรอกกระมัง? ผู้นำตระกูลน่าหลันคิดในใจ แต่คิดดูดีๆ แล้วก็มีความเป็นไปได้ บางที ชายชุดดำอาจเป็นสหายของโม่เฉินก็ได้? เช่นนั้นหากเขานั่งรออยู่ตรงนี้ โม่เฉินจะรู้เองว่าเขามา และมาหาเขาเองงั้นหรือ?
ผู้นำตระกูลน่าหลันส่งสายตาให้ลูกชายคนเล็ก ไม่นานก็เห็นน่าหลันจื่อเยี่ยนออกไปเงียบๆ เขาออกจากห้องโถงแล้วมุ่งหน้าไปยังเรือนด้านหลัง
ส่วนฮุยหลางที่ยืนอยู่ข้างหลังเซวียนหยวนโม่เจ๋อแม้จะยืนอย่างนอบน้อม แต่สายตาก็ยังคงมองออกไปนอกห้องเป็นระยะๆ คอยดูว่าเงาร่างอันคุ้นเคยนั่นยังไม่มาถึงอีกหรือ?
พอพวกเขารู้ข่าวว่าภูตหมออาจเข้ามาในเมืองแล้ว นายท่านก็พาพวกเขามาที่ตระกูลน่าหลัน บอกว่าภูตหมอมาที่นี่แล้วอาจไม่รู้ว่าพวกเขาลงหลักปักฐานที่ไหน ด้วยเหตุนี้ นางจะต้องมาที่ตระกูลน่าหลันก่อนแน่นอน แทนที่จะออกไปตามหานางข้างนอก ไม่สู้มารอนางที่ตระกูลน่าหลันแล้วให้นางมาหาเองดีกว่า
แต่ว่าพวกเขามานั่งรอที่นี่ก็พักหนึ่งแล้ว กลับไม่เห็นคุณชายโม่เฉิน หรือเพราะวันนั้นถูกนายท่านโยนเข้าไปในหอนางโลมจนเกิดเป็นปมในใจ? เลยไม่กล้าออกมาเจอหน้า?
น่าจะไม่ใช่กระมัง? คุณชายโม่เฉินไม่ใช่คนอย่างนั้น
ขณะเดียวกัน เฟิ่งจิ่วกับเด็กสาวตัวอ้วนยืนอยู่หน้าประตูบ้านของตระกูลน่าหลัน แหงนหน้าอ่านป้ายประจำจวนน่าหลันเสร็จ เฟิ่งจิ่วก็พยักหน้าสั่ง “ไป เคาะประตู”
“ได้”
เด็กสาวตัวอ้วนรับคำ รีบเดินเข้าไปเคาะประตู ไม่นาน ชายชราคนหนึ่งที่อยู่ข้างในเดินมาเปิดประตู ครั้นเห็นสองคนที่อยู่ข้างนอก ก็ชะงัก ก่อนจะถามว่า “สองท่านมาหาใครหรือ?”
เด็กสาวตัวอ้วนชะงักงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังไปถามเฟิ่งจิ่ว “เรามาหาใครหรือ?”
เฟิ่งจิ่วหรี่ตา ยิ้มตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “หาน่าหลันโม่เฉิน”
“สองท่านคือ…” ชายชรามองสองคนตรงหน้าอย่างลังเล ลอบสงสัยว่าเหตุใดวันนี้จึงมีแขกมาเยือนเยอะขนาดนี้?
“สหายของเขา” เฟิ่งจิ่วตอบ
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! สองท่านเข้ามานั่งข้างในก่อน พวกท่านผู้นำตระกูลอยู่ในห้องโถง” ครั้นพวกเขาเข้าไปข้างใน ท่านผู้นำตระกูลย่อมจะตัดสินใจเอง
ด้วยเหตุนี้ ชายชราเชิญทั้งสองเข้าไป พลางสั่งให้คนรีบไปรายงาน
เวลานี้ ผู้นำตระกูลน่าหลันที่นั่งจิบชาไปพร้อมกับสัมผัสบรรยากาศแปลกๆ ในห้องโถงลอบมองชายชุดดำเป็นระยะ ขณะกำลังคิดในใจว่า คนผู้นี้จะนั่งไปจนถึงเมื่อใดกัน? ก็ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามารายงานเร็วๆ
“ผู้นำตระกูล ข้างนอกมีคนบอกว่ามาพบคุณชายใหญ่ พ่อบ้านกำลังพามาทางนี้ขอรับ”
………………………………….
ตอนที่ 1924 พบกัน
ได้ยินอย่างนั้น สิ่งแรกที่ผู้นำตระกูลน่าหลันคิดคือ ทำไมมีคนมาอีกแล้วเล่า? คงไม่ใช่คนแปลกๆ ที่ไหนอีกหรอกนะ?
ขณะกำลังจะพูด หางตาก็เหลือบเห็นชายชุดดำที่นั่งอยู่ด้านหนึ่งวางแก้วชาในมือลงและเงยหน้าขึ้นในที่สุด ครั้นเหลือบเห็นสายตาที่มองมาของเขา ผู้นำตระกูลน่าหลันยิ้มตอบไปโดยสัญชาตญาณ “ลูกชายคนโตของข้าคนนี้ไม่กลับมานาน อาจเป็นสหายเก่าของเขามาเยี่ยมเยียน”
ขณะอธิบาย ก็หันไปกำชับกับคนนอกห้อง “รีบเชิญเข้ามา!”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเพียงนั่งฟังไม่พูดอะไร แต่สายตาเลื่อนออกไปมองข้างนอกแล้ว
ฮุยหลางที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาเองก็จ้องไปข้างนอกด้วยแววตาดีใจ เป็นอย่างที่นายท่านคาดเดาไว้จริงๆ ภูตหมอต้องมาที่นี่แน่
ผ่านไปไม่นาน เมื่อพวกเขาเห็นเงาร่างสองร่างที่เดินเข้ามาจากข้างนอกอย่างเชื่องช้า ฮุยหลางตะลึงเล็กน้อย จ้องมองสองคนที่เข้ามาซ้ายทีขวาที พลางคาดเดา หรือในสองคนนี้จะมีใครคนหนึ่งคือภูตหมอ?
ส่วนผู้นำตระกูลน่าหลันเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาคือลูกสาวคนรองที่ผู้นำตระกูลหยางรักที่สุด แล้วยังมีหญิงชราถือไม้เท้าอีกคน ก็อึ้งเล็กน้อย บุตรีคนรองของตระกูลหยางเขาเคยเห็น แต่หญิงชราคนนั้นมันอย่างไรอีก? อีกอย่างไหนว่าบุตรีคนรองของตระกูลหยางกำลังตามหาเด็กหนุ่มชุดเขียวกันให้วุ่นวายไปทั่วถนนหรือ? เหตุใดวิ่งมาที่บ้านเขาได้เล่า?
ในเวลานี้เอง เซวียนหยวนโม่เจ๋อที่นั่งอยู่มองสองคนที่เข้ามาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นสาวเดินไปทีละก้าวๆ ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงชรา
ครั้นเฟิ่งจิ่วเห็นเขาอยู่ที่นี่ นอกจากเหนือความคาดหมายแล้วยังรู้สึกประหลาดใจระคนดีใจด้วย ขณะกำลังคิดว่าสภาพเธอในตอนนี้เป็นอย่างนี้เขาจะจำได้หรือไม่ ก็เห็นเขาสาวเท้ายาวๆ มาหยุดตรงหน้าเธอ
ด้วยเหตุนี้ เธอแหงนหน้าเล็กน้อย แย้มยิ้มจนตาเล็กหยี กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบชรา “พ่อหนุ่ม เจ้าข่างรูปงามยิ่งนัก!”
ได้ยินอย่างนั้น นัยน์ตาลึกล้ำดำขลับของเซวียนหยวนโม่เจ๋อมีรอยยิ้มพาดผ่าน ใบหน้าเย็นชาแสดงความอ่อนโยน เขามองคนตรงหน้า หยอกคืนด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์ “เช่นนั้นข้าเข้าตาเจ้าหรือไม่?”
“หากเข้าตาข้า ข้าก็พากลับบ้านได้เลยหรือ?” เธอยิ้มตาหยีแล้วถาม
ได้ยินอย่างนั้น กอปรกับเห็นภาพที่ทั้งสองสบตากัน เด็กสาวตัวอ้วนและผู้นำตระกูลน่าหลันรู้สึกงุนงง นี่มันอะไรกัน? ทำไมพวกเขาจึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย?
สองคนนี้เป็นคนรู้จักกันงั้นหรือ?
ชายชุดดำก่อนหน้านี้เอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดอะไร เหตุใดตอนนี้กลับวิ่งไปยืนตรงหน้าหญิงชรา? หรือหญิงชรามีอะไรพิเศษตรงไหน?
ขณะกำลังคิด ก็เห็นชายชุดดำยกมือข้างหนึ่งลูบใบหน้าของหญิงชรา กระซิบเบาๆ ข้างหูไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไร แต่ท่าทางและพฤติกรรมนั่น กลับมองดูจนพวกเขาขนลุกไปทั้งตัว
เซวียนหยวนโม่เจ๋อประคองใบหน้าแก่ชราของเฟิ่งจิ่ว “ที่แท้นี่ก็เป็นโฉมหน้ายามแก่เฒ่าของอาจิ่วเองหรือ?”
เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยี ถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง? ตกใจแล้วล่ะสิ?”
“จะเป็นไปได้อย่างไร!” เขาว่า เอื้อมมือไปจับมือของเธอ เอ่ยว่า “ข้ารอเจ้าที่นี่นานแล้ว ในเมื่อมาแล้วก็กลับกันเถิด!”
เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยี ตอบว่า “ก็ดีเหมือนกัน ท่านรู้หรือไม่ว่าพวกเหลิ่งหวาอยู่ที่ไหน?”
“รู้”
“อืม งั้นก็ต้องบอกโม่เฉินหน่อย เขาจะได้ไม่ต้องคอยเป็นห่วง”
“ฝากบอกก็พอ” เซวียนหยวนโม่เจ๋อเอ่ย เงียบไปครู่หนึ่ง ประกายขบขันพาดผ่านดวงตา “อีกอย่าง ข้าว่าพักนี้เขาคงไม่ค่อยอยากเจอใคร”
“อ้อ? ทำไมเล่า?” เธอสงสัย หรือว่าเขาทำอะไร?
………………………………….