เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1957 ทำให้แตกตื่นไปทั้งเมือง / ตอนที่ 1958 เชิญเข้ามา
ตอนที่ 1957 ทำให้แตกตื่นไปทั้งเมือง
“ข้ารู้ว่ากลิ่นหอมนี้มาจากไหน!”
เสียงนั้นก้องกังวานและเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ดึงดูดให้สายตาของทุกคนหันไปมองยังต้นตอเสียง เห็นเพียงหยางเสี่ยวเอ้อร์ในชุดกระโปรงสีเขียวตัวอ้วนกลมยืนตะโกนด้วยความตื่นเต้นอยู่บนรถม้า “กลิ่นหอมนี้มาจากหอยาสวรรค์ที่ตั้งอยู่บนถนนตลาดตะวันตก!”
“ในถนนตลาดตะวันตก? จะเป็นไปได้อย่างไร? ถนนสองเส้นที่นั่นไม่มีคนเลย ร้านค้าที่นั่นก็เหมือนจะเป็นของตระกูลหยาง ปล่อยเช่าไม่ออกมาตลาดเลยนี่”
“นั่นสิ! ในถนนตลาดตะวันตกแม้แต่แผงลอยเล็กๆ ก็ยังไม่มี จะมีหอยาสวรรค์อะไรนั่นได้อย่างไรกัน?”
“นั่นสิ ข้าก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะ! ปกติก็ไม่ค่อยไปที่นั่น ที่นั่นไม่มีคนเลย”
เมื่อได้ยินทุกคนถกเถียงกัน หยางเสี่ยวเอ้อร์ยกมือเท้าสะเอว “ที่ไหนไม่มีคนนะ? นั่นเพราะพวกเจ้าไม่รู้ พวกเจ้าไปดูก็รู้เอง หอยาสวรรค์จะเปิดกิจการวันนี้แล้ว ข้างในนั้นขายแต่ยาที่ยอดเยี่ยมเลยล่ะ! ในถนนเส้นนั้นที่ไม่มีคนเช้านี้มีแผงลอยขายของเต็มไปหมดแล้ว พวกเจ้ายังไม่รู้อีกหรือเนี่ย!”
ได้ยินอย่างนั้นแล้วพวกเขาทั้งงุนงงและประหลาดใจ หลังจากถกเถียงกัน ต่างก็พร้อมใจกันมุ่งหน้าไปยังตลาดตะวันตกโดยไม่ได้นัดหมาย ตั้งใจจะไปดูให้รู้เรื่อง
ครั้นเห็นฝูงชนต่างหลั่งไหลไปยังถนนตลาดตะวันตก หยางเสี่ยวเอ้อร์ยิ้มร่าหันกลับไปแหวกม่านรถม้า “ท่านพ่อ ท่านดู พี่สาวเฟิ่งมีวิธีของนางใช่ไหมเล่า? ท่านดู คนทั้งเมืองต่างก็แห่กันไปที่หอยาสวรรค์แล้ว ดูท่า วันนี้กิจการของพวกเขาจะต้องไปได้ดีมากแน่ๆ”
ผู้นำตระกูลหยางนั่งอยู่ในรถม้าทำหน้าครุ่นคิด ได้ยินคำพูดของลูกสาว เพียงเอ่ยว่า “งั้นเจ้ายังไม่รีบสั่งให้คนออกรถอีก? ตั้งใจจะโอ้เอ้อยู่ที่นี่อีกนานเท่าใด?”
เขาเองก็ตะลึงไม่น้อย เพียงคืนเดียว กลิ่นหอมประหลาดกระจายไปทั่วเมือง แทบจะแตกตื่นกันไปทั่วทั้งเมืองร้อยนที เพราะเขาส่งคนไปจับตาดูไว้ ฉะนั้นยังไม่ทันไปถึงหอยาสวรรค์ก็รู้แล้วว่าเพราะกลิ่นหอมของยาที่โชยออกมาจากหอยาสวรรค์ ทำให้แผงลอยขายของในตลาดตั้งแผงกันจนแทบจะไม่เหลือที่แล้ว
“ได้ จะรีบไปเดี๋ยวนี้!” หยางเสี่ยวเอ้อร์รีบเข้าไปในรถม้า จากนั้นก็สั่งให้คนขับรีบออกรถ
ในอีกด้านหนึ่ง ในสมาคมนักปรุงยา พวกเขาแต่ละคนก็กำลังตกตะลึงเช่นกัน
“กลิ่นหอมประหลาดเช่นนี้ข้าเองก็ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน กลิ่นหอมนี้มีเอกลักษณ์ เนิ่นนานก็ยังไม่จางไป อีกอย่างพอได้สูดดมก็รู้สึกสดชื่น กลิ่นหอมของยาเช่นนี้ แม้แต่ข้าก็ยังทำขึ้นมาไม่ได้”
ผู้พูดก็คือประธานสมาคมนักปรุงยา เพราะกลิ่นหอมประหลาดทำให้ชาวเมืองแตกตื่น แม้แต่เขาที่กำลังเก็บตัวฝึกฝนก็ยังแตกตื่นไปด้วย หลังจากสอบถามอย่างละเอียดก็ได้รู้เรื่องของหอยาสวรรค์ ดังนั้นเมื่อไตร่ตรองอย่างดี เขาจึงตัดสินใจ
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! เตรียมของขวัญแสดงความยินดีเสีย พวกเราจะไปแสดงความยินดีกับเขา ถือโอกาสไปสำรวจดูว่านายของหอยาสวรรค์เป็นคนแบบใดกันแน่” ประธานเอ่ย ก่อนจะสั่งให้นักเล่นแร่แปรธาตุสองสามคนให้รีบไปเตรียมของขวัญ
ทุกคนได้ยินก็มองหน้ากัน รองประธานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็อดแนะนำไม่ได้ “ท่านประธาน ทำอย่างนี้ไม่ค่อยดีกระมัง? หอยาสวรรค์แห่งนั้นเพิ่งเปิดกิจการก็สร้างความแตกตื่นเช่นนี้ ทำอย่างนี้เท่ากับแย่งรัศมีของสมาคมนักปรุงยาของเราไปอย่างหน้าด้านๆ หากพวกเราเอาของขวัญไปแสดงความยินดีถึงที่ คนอื่นเขาจะไม่คิดว่าสมาคมนักปรุงยาของเราสู้หอยาสวรรค์ไม่ได้หรือ?”
“เรื่องแค่นี้มีอะไรให้คิดมากกัน? ใต้หล้านี้มีคนมากความสามารถอยู่มากมาย นักเล่นแร่แปรธาตุผู้นี้สามารถสร้างกลิ่นหอมประหลาดเช่นนี้ขึ้นมาได้ แสดงว่าจะต้องเป็นผู้มีพรสวรรค์แน่นอน เหตุใดพวกเราต้องคิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้น รีบไปเตรียมตัว จะขาดของขวัญแสดงความยินดีไปไม่ได้” เขาโบกมือสั่ง
เห็นอย่างนั้น ทุกคนไม่พูดอะไรอีก หลังจากเตรียมตัวอย่างรวดเร็วก็มุ่งหน้าไปยังหอยาสวรรค์ที่ตั้งอยู่บนถนนตลาดตะวันตกพร้อมกับเขา
ขณะเดียวกัน บนถนนตลาดตะวันตกเบียดเสียดไปด้วยผู้คน เพียงแต่ประตูหอยาสวรรค์กลับยังไม่เปิด…
………………………………….
ตอนที่ 1958 เชิญเข้ามา
“พวกเจ้าดมดูสิ กลิ่นหอมนั่นกลับเข้มขนที่สุดที่นี่”
“เป็นกลิ่นหอมของยาที่กระจายออกมาจากหอยาสวรรค์ ไม่รู้ว่าเป็นยาแบบใดกัน? เหตุใดจึงมีกลิ่นหอมประหลาดเช่นนี้?”
“นี่ท้องฟ้ายังไม่ทันสว่างก็มีคนเบียดเสียดกันแน่นถนนตลาดตะวันตกอย่างนี้แล้ว พวกเจ้าดูถนนตลาดตะวันตกที่เมื่อก่อนไม่มีคนเลยกลับมีแผงลอยมาตั้งไม่น้อย จำนวนคนยังมีมากกว่าที่จุดศูนย์กลางประตูตะวันออกเสียอีก”
“ข้าได้ยินว่ามีพ่อค้าหลายคนอยากเช่าร้านค้าข้างหอยาสวรรค์แล้ว แต่ที่นี่เป็นของตระกูลหยาง ร้านค้าบนถนนสองเส้นของตระกูลหยางว่างเปล่ามาตลอด วันนี้ดูท่าแล้วเกรงว่าจะแย่งกันให้วุ่นแน่ๆ”
“อยากเข้าไปดูในหอยาสวรรค์จริงๆ แต่นี่ฟ้าก็สว่างแล้ว ทำไมยังไม่เปิดประตูอีก?”
ฝูงชนที่มุงอยู่ข้างนอกจ่างถกเถียงกันไม่ขาดสาย แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะเข้าไปดูข้างใน ทว่า ทั้งที่จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ท้องฟ้าก็สว่างขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับไม่เห็นว่าประตูหอยาสวรรค์จะเปิดเสียที
ส่วนเฟิ่งจิ่วที่อยู่ด้านหลังหอยาสวรรค์ ยามนี้กำลังสั่งให้คนยกยาที่หลอมเสร็จแล้วออกไปจัดวางบนชั้นวางตรงกลางในชั้นหนึ่ง หลังจากเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้ว เธอก็หันไปมองเหลิ่งหวากับตู้ฝานแวบหนึ่ง ยิ้มสั่งว่า “ในเมื่อเตรียมเสร็จหมดแล้ว อย่างนั้น เมื่อถึงเวลาก็เปิดประตูเลยเถอะ!”
“ขอรับ!” ทั้งสองรับคำ มองดูนายท่านของพวกเขาขึ้นไปชั้นบน กระทั่งเมื่อถึงเวลา พวกเขาเตรียมของเสร็จหมดแล้ว จึงเปิดประตู
เมื่อประตูหอยาสวรรค์เปิดออกและส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ยามเห็นฝูงชนที่เบียดเสียดกันอยู่ข้างนอก ตู้ฝานกับเหลิ่งหวามองหน้ากันแวบหนึ่ง พลางยิ้มน้อยๆ
“เปิดประตูแล้วๆ!”
ฝูงชนที่อยู่ข้างนอกเห็นหอยาสวรรค์เปิดประตู ต่างก็ร้องด้วยความดีใจ จากนั้นก็พากันเดินเบียดเข้าไปข้างใน บ้างก็ผลักบ้างก็ดัน ทำเอาสถานการณ์ค่อนข้างวุ่นวาย
ยามเห็นสถานการณ์ เสียงแฝงกลิ่นอายพลังวิญญาณของตู้ฝานดังขึ้น “ทุกท่าน! ช้าก่อน อย่าเบียดกัน!”
ครั้นเสียงของเขาดังขึ้น ทุกคนพลันเงียบ ไม่มีใครเบียดกันอีก ต่างหันไปมองสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูหอยาสวรรค์ แล้วก็ต้องตะลึงกับความหนุ่มของสองคนนั้น
“วันนี้เป็นวันเปิดกิจการของหอยาสวรรค์ของเรา ทุกท่านมาเพราะกลิ่นหอม เข้าไปก็อย่าเบียดกัน ที่นี่ ข้าขอแจ้งให้ทุกท่านทราบก่อนว่า หอยาสวรรค์ของเราแบ่งออกเป็นสามชั้นครึ่ง ชั้นที่หนึ่งเป็นยาจำพวกยาเม็ดและยาน้ำ ชั้นที่สองเป็นยาที่ค่อนข้างแพง นอกจากเหรียญทอง ยังต้องมีวัตถุดิบสมุนไพรที่มีค่าเทียบเท่าจึงจะสามารถซื้อยาบนชั้นสองของเราได้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ข้าจะไม่ขอพูดมาก บนกำแพงหอเรามีกฎต่างๆ ของหอยาสวรรค์เขียนแจ้งไว้ ทุกท่านเข้าไปแล้วก็อ่านดูได้
นอกจากนี้ยังมีเรื่องหนึ่งที่ต้องแจ้งให้ชัดเจนก่อน เข้าไปแล้วก็ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามก่อเรื่อง ไม่เช่นนั้นจะถูกคนของหอยาสวรรค์ของเราคุมตัวออกมาส่ง ประกอบกับถูกขั้นบัญชีดำ ไม่มีทางได้เข้ามาเหยียบในหอยาสวรรค์อีกแม้แต่ครึ่งก้าว!”
สิ้นเสียงของตู้ฝาน ทุกคนจ่างก็อดตะลึงไม่ได้ กลับเข้มงวดถึงเพียงนี้?
ในเวลานี้ มีประทัดม้วนหนึ่งถูกโยนลงมาจากชั้นสอง เหลิ่งหวาที่อยู่ข้างล่างจุดชนวนประทัด ชั่วขณะหนึ่ง เสียงปึงปังๆ ดังไปทั่วบริเวณ กระดาษห่อประทัดสีแดงระเบิดกระจายไปทั่วพร้อมกับควันจางๆ ที่ลอยลงมาจากข้างบน ดูงดงามยิ่งนัก
นาทีที่สิ้นเสียงประทัด ผ้าไหมสีแดงที่ปิดคลุมคำว่าหอยาสวรรค์ไว้ก็เปิดออก เผยให้เห็นอักษรตัวใหญ่ประณีตงดงามทว่าดูยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม รวมถึงป้ายชื่อร้านสีแดงขนาดใหญ่นั่นด้วย
“ทุกท่าน เชิญเข้ามา!”
สิ้นเสียงเชื้อเชิญของตู้ฝานและเหลิ่งหวา ฝูงชนข้างนอกต่างหลั่งไหลกันเข้าไปด้วยความตื่นเต้น ทันที่เข้าไปข้างใน แต่ละคนพากันเงียบเสียงอย่างรู้หน้าที่
………………………………….