เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1969 ผู้อาวุโสถาน / ตอนที่ 1970 ศัตรูไล่ตามมา
ตอนที่ 1969 ผู้อาวุโสถาน
ครั้นเห็นเขาหน้าซีดเผือด ร่างกายถูกแรงกดดันอันแข็งแกร่งกดทับจนโค้งงอ แทบจะนอนคว่ำไปกับพื้น ราวกับหายใจไม่ออก แต่กลับร้องขอความช่วยเหลือไม่ได้ เห็นอย่างนั้น เขาตกตะลึง รีบลงมาที่ชั้นหนึ่ง ประสานมือกล่าวว่า “ได้โปรดละเว้นด้วยเถิด เขามิได้มีเจตนาล่วงเกิน”
“ไสหัวออกจากหอยาสวรรค์เสีย!”
เสียงทุ้มต่ำของเซวียนหยวนโม่เจ๋อดังขึ้น ทันทีที่เขาเก็บแรงกดดันกลับไป ก็เห็นรองหัวหน้าที่คุกเข่าอยู่อ่อนแรงหมดสติไป
“เร็ว รีบส่งเขากลับไป!” หัวหน้าสมาคมนักเล่นแร่แปรธาตุหันไปสั่งพวกนักเล่นแร่แปรธาตุที่อยู่ข้างหลัง
พวกคนข้างหลังได้สติ ก็รีบประคองรองหัวหน้าที่หมดสติขึ้นมา จากนั้นก็พาออกไปข้างนอก มุ่งหน้ากลับสมาคมทันที
หัวหน้าฝานเห็นอย่างนั้นก็อดลอบถอนหายใจไม่ได้ ไม่รู้ว่าคนข้างบนเป็นใครกันแน่? เพียงแรงกดดันก็แข็งแกร่งถึงเพียงนั้น หากเขาไม่เก็บแรงกดดันกลับไป คงจะปลิดชีวิตของรองหัวหน้าไปแล้วใช่หรือไม่?
สำหรับเรื่องนี้ เขาไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย
พ่นลมหายใจเบาๆ หลังจากตั้งสติได้ จู่ๆ เขาก็ค้นพบว่าชายชราที่หมดสติไปคนนั้นถูกหามไปแล้ว และที่ชั้นหนึ่งนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอื่นใดแม้จะมีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น ดูท่า ที่นี่คงมีคนคอยเฝ้าระวังทั้งข้างนอกข้างในไม่น้อยจริงๆ ถึงได้ไม่มีใครกล้าสร้างปัญหา
คงมีแต่คนไร้สมองอย่างรองหัวหน้าที่กินหัวใจหมีดีเสือขาวเข้าไปจึงได้กล้าตำหนิคนของหอยาสวรรค์ ช่างไม่กลัวตายเสียเลย
ในเวลาเดียวกันนี้ ณ ลานกว้างข้งหลัง เฟิ่งจิ่วมองชายชราที่มีริมฝีปากสีม่วง ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ชายชราผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นผู้อาวุโสถานนั่นเอง เพียงแต่เธอนึกไม่ถึงว่าจะได้เจอผู้อาวุโสถานที่เมืองร้อยนทีแห่งนี้ หนำซ้ำยังเจอในสถานการณ์อย่างนี้อีก
“นายท่าน ดูจากสถานการณ์ของเขาเหมือนถูกคนไล่ล่า” ฟั่นหลินคาดเดา มองชายชราคนนั้นแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยอีกว่า “อีกอย่าง พิษที่เขาโดนก็เป็นพิษร้ายแรง พิษไหลเข้าสู่ระบบชีพจรแล้ว มีเพียงยาแก้พิษระดับห้าขึ้นไปเท่านั้นถึงจะแก้พิษในตัวเขาได้ นอกจากพิษ อวัยวะภายในของเขาก็เสียหายหนักมาก หากจะช่วยชีวิตเขาเกรงว่า…”
แม้เขารู้ว่านายท่านมีวิชาแพทย์สูงส่ง แต่ชายชราคนนี้ได้ก้าวขาข้างหนึ่งเข้าไปในประตูนรกแล้ว หากจะช่วยชีวิตเขากลับมาไม่ว่าจะในด้านยาหรือกำลังคนล้วนต้องลงทุนไม่น้อย
“คนผู้นี้เป็นคนรู้จักของข้า ไม่ว่าอย่างไร เมื่อเขามาถึงนี่แล้วก็ต้องช่วยชีวิตเขาให้ได้” เธอเอ่ยอย่างแช่มช้า รู้ว่าฟั่นหลินกลัวว่าหากช่วยชีวิตผู้อาวุโสถานแล้ว ศัตรูของเขาจะหันมาหมายตาหอยาสวรรค์ของพวกเขา
เธอหยิบยาแก้พิษระดับห้าเม็ดหนึ่งออกมาจากห้วงมิติ ป้อนฟั่นหลิน จากนั้นก็เริ่มตรวจอาการของผู้อาวุโสถานด้วยตนเองอีกครั้ง
ฟั่นหลินป้อนยาแก้พิษระดับห้าเม็ดนั้นใส่ปากผู้อาวุโสถาน จากนั้นก็ยืนอยู่ด้านหนึ่ง เพื่อคอยเป็นลูกมือให้นายท่าน เห็นนางตรวจอาการอยู่ครู่หนึ่งก็หยิบเข็มเงินออกมา เขาจึงก้าวเข้าไปถอดเสื้อของชายชราออก
เสื้อตัวบนถูกเปิดออก แต่กลับเห็นเพียงรอยแผลเล็กๆ เส้นหนึ่งมีเลือดสีดำไหลซึม กลับไม่เห็นของจำพวกอาวุธลับ ในใจจึงอดนึกสงสัยไม่ได้ ไม่นานก็เห็นนายท่านยื่นมือไปกดด้านข้างแผล จากนั้นก็แทงเข็มเงินลงไปสองสามเล่มเพื่อสกัดเลือดที่ไหลออกจากแผล
จากนั้นก็เห็นนายท่านหยิบมีดเล็กเล่มหนึ่งออกมากรีดเปิดแผล และใช้แหนบแหวกสำรวจข้างในแผล ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็เห็นนางใช้แหนบดึงอาวุธลับขนาดเล็กชิ้นหนึ่งออกมา
ครั้นนายท่านคีบอาวุธลับชิ้นเล็กๆ นั่นออกมาวางลงในถ้วยใส่น้ำที่เตรียมไว้ด้านข้าง เลือดสีดำถูกชะล้าง เผยให้เห็นรูปร่างเดิมของอาวุธลับชิ้นนั้น แวบแรกที่เห็นรูปร่างเดิมของอาวุธลับชิ้นนั้น เขาก็อดตะลึงงันไม่ได้
………………………………….
ตอนที่ 1970 ศัตรูไล่ตามมา
“นายท่าน อาวุธลับประเภทนี้แปลกนัก ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนเลย” เขาจ้องอาวุธลับชิ้นนั้น ในดวงตาเต็มไปด้วยแววประหลาดใจ อาวุธลับชิ้นเล็กขนาดนี้ซ่อนอยู่ในแผลแทบมองไม่เห็น หากเป็นคนทั่วไปคงคิดว่าอาวุธลับในแผลถูกนำออกไปแล้ว ทำให้พลาดจังหวะสำคัญในการรักษาไป โชคดีของคนผู้นี้ที่ได้มาพบนายท่าน
ขณะคีบอาวุธลับออกมา มีเลือดสีดำทะลักออกมาจากแผลด้วย เฟิ่งจิ่วทำความสะอาดแผลเสร็จก็ดึงเข็มเงินสองสามเล่มนั้นออก จากนั้นก็ถอยออกไปเช็ดทำความสะอาดมือ เอ่ยกับฟั่นหลินว่า “เจ้าทำแผลก็แล้วกัน”
“ขอรับ” ฟั่นหลินรับคำ โรยยาบนแผลก่อนจะใช้ผ้าปิดแผล
เฟิ่งจิ่วหยิบอาวุธลับชิ้นนั้นขึ้นมาจ้องพิจารณา นัยน์ตาไหวระริกเล็กน้อย อาวุธลับเช่นนี้เธอก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเช่นกัน อาวุธลับชิ้นนี้อันตรายถึงชีวิต คนที่โดนพิษเล่นงานจะหมดสติ แม้จะเป็นหมอที่ชำนาญวิชาแพทย์ก็เกรงว่าจะหาอาวุธลับที่เล็กขนาดนี้ในแผลไม่เจอกันง่ายๆ หากประมาทเพียงนิดเดียว ก็อาจทำให้พลาดโอกาสสำคัญในการรักษาจนทำให้ถึงแก่ความตายได้
ใครกันที่เล่นงานผู้อาวุโสถาน? ถึงขั้นใช้พิษร้ายแรงขนาดนี้ รวมถึงอาวุธลับเช่นนี้ด้วย?
นึกถึงแต่ก่อนที่ผู้อาวุโสถานซ่อนวรยุทธ์ที่แท้จริงไว้แล้วอาศัยอยู่ในเมืองแห่งนั้น ยังชีพด้วยการเปิดแผงลอยขายของ ชีวิตเช่นนั้นน่าจะสงบสุขและเรียบง่ายมากแล้ว เหตุใดจู่ๆ จึงถูกทำลายได้เล่า?
ตามหลักแล้ว คนของวิหารราตรีก็ไม่น่าจะเล่นงานเขา อย่างนั้นก็น่าจะเป็นศัตรูของเขา?
“ฟั่นหลิน ให้คนคอยเฝ้าระวังไว้ คอยดูแลเขาให้ดี” เธอหยิบขาน้ำขวดหนึ่งให้เขา “หากคืนนี้ยังไม่ฟื้น ก็ป้อนยาน้ำขวดนี้ให้เขาเสีย”
“ขอรับ นายท่านวางใจได้ ข้าจะเฝ้าอยู่ที่นี่ด้วยตนเอง” ฟั่นหลินพยักหน้ารับ ก่อนจะรับขวดยาไปเก็บไว้
“ให้คนคอยจับตาดูไว้ สองสามวันนี้ข้าเดาว่าจะต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแน่” เธอหันไปสั่งเหลิ่งหวา
“ขอรับ” เหลิ่งหวารับคำ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปข้างนอก ทว่าในเวลานี้ เสียงแหบชราแฝงไว้ด้วยแรงกดดันอันแข็งแกร่งดังเข้ามาจากข้างนอก
“มอบตัวคนมาให้พวกข้าเสีย!”
เสียงนั้นสะท้อนแรงกดดันอันแข็งแกร่ง สิ้นเสียง แรงกดดันอันแข็งแกร่งพลันสะท้านสะเทือนจนผู้คนในหอยาสวรรค์ปวดแก้วหู เลือดลมในร่างกายป่วนพล่าน ความหวาดกลัวระเบิดออกจากก้นบึ้งหัวใจ ผู้คนพากันพรั่นพรึง รีบกรูกันออกไปนอกหอยาสวรรค์ แยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง ไม่กล้าอยู่ใกล้หอยาสวรรค์อีก
“ต้องไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินแน่! นี่ต้องเป็นผู้แข็งแกร่งระดับปราชญ์เซียนแน่ๆ!”
“ใช่ แรงกดดันเช่นนี้ แรงสะเทือนอันน่าพรั่นพรึงนี่ มีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับปราชญ์เซียนเท่านั้นที่ทำได้!”
“ข้าบอกแล้วใช่ไหมเล่าว่าชายชราที่ถูกคนของหอยาสวรรค์หามเข้าไปข้างหลังไม่ใช่คนในเมืองร้อยนทีของเรา ชายชราคนนั้นก็ไม่ต่างจากตัวปัญหา ดูสิ พ่วงเอาศัตรูที่ไล่ล่าเขามาด้วย? หอยาสวรรค์เพิ่งเปิดกิจการวันนี้ นี่ไม่ต่างจากหาเรื่องใส่ตัวเลย”
“ผู้แข็งแกร่งระดับปราชญ์เซียน ในเมืองเราก็มีแค่ผู้อาวุโสจากตระกูลใหญ่พวกนั้นที่จะมีพลังระดับนี้ได้ หอยาสวรรค์มีเรื่องกับคนเช่นนี้ เกรงว่าจะลำบากเสียแล้ว”
“ก็ไม่แน่ ได้ยินว่าหอยาสวรรค์ก็มีอำนาจไม่ธรรมดาเช่นกัน อำนาจที่อยู่เบื้องหลังก็น่ากลัวไม่ต่างกัน เสียงพูดของคนผู้นั้นเมื่อกี้ปลดปล่อยแรงกดดันอันแข็งแกร่งลงมา ถึงกับทำให้รองหัวหน้าสมาคมนักเล่นแร่แปร่ธาตุถึงกับเขาทรุด เห็นได้ว่าจะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งระดับปราชญ์เซียนด้วยเช่นกันแน่นอน”
“จะว่าไปก็เป็นไปได้ แต่เจ้าของหอยาสวรรค์เป็นชายคนที่พูด หรือผู้หญิงคนนั้นกันแน่?”
ฝูงชนที่หนีออกมาต่างพูดคุยถกเถียงกัน หลังจากถอยห่างออกมาในระยะปลอดภัย พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงแรงกดดันแล้ว
………………………………….