เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 197 จิตไม่อยู่กับเนื้อกับตัว!
ตอนที่ 197 จิตไม่อยู่กับเนื้อกับตัว!
“ไม่ได้ทำอะไรขอรับ แค่ช่วยเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็เข้านอน”
เธอพูดอย่างทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย ตอนนี้เธอเป็นผู้ชายไม่ใช่รึ? โดนมองด้วยสายตา ซ้ำยังถามเช่นนี้ คิดว่าระหว่างเธอกับนายท่านพวกเขามีเรื่องอะไรที่บอกใครไม่ได้จริงๆ รึไงกัน?
“นอน นอนรึ?”
หลินเหล่าอุทานอย่างตะลึง น้ำเสียงนั้นสูงขึ้นเพราะตกใจ พอเสียงเปล่งออกมา ทุกคนในสวนก็มองมาทางพวกเขาแทบจะทันที
“ท่านเอะอะเสียงดังทำไมเนี่ย? ต่างคนต่างนอนขอรับ” เธอกรอกตาขึ้นอย่างหมดคำพูด
“ฮู่! ทำข้าตกใจแทบตาย”
หลินเหล่าตบๆ กลางอก ถอนหายใจเบาๆ “จริงด้วย สองวันนี้เจ้าปรุงยาออกมาอีกหลายๆ ขวดเถอะ! ขั้นสามก็ได้ ขั้นสี่อย่างดีที่สุดทำมาอีกสองสามขวด แบบนั้นครั้งก่อนก็ได้”
ได้ยินเช่นนี้ สายตาเธอหันมอง บอกว่า “ได้ขอรับ ข้าขึ้นหอไปหยิบยา” พูดจบ ก็เข้าไปในหอด้วยตัวเอง
ตามท่าทีที่นายท่านมีต่อเขา จะหยิบยาอะไรก็ปล่อยให้หยิบไป จากนั้นเขาแค่ลงบันทึกไว้หน่อยก็พอ ด้วยเหตุนี้ หลินเหล่าจึงไม่ได้ตามไป
สองวันต่อมา ในเรือนหลัก
ข้างโต๊ะหินในสวน นายท่านเหยียนมือหนึ่งเท้าศีรษะ อีกมือกำลังถือหนังสืออ่านอยู่ไม่วางตา ท่าทางนั้น จะมองยังไงก็เป็นท่าทีที่เคลิบเคลิ้มเพลิดพลิน แต่ว่า…
มุมปากอิ่งอีกระตุกเล็กน้อย มองท้องฟ้าอย่างหมดคำพูด
เขายืนว้าวุ่นอยู่ตรงนี้เกือบหนึ่งชั่วยาม กำลังคิดอยู่ตลอด จะเตือนนายท่านดีหรือไม่ ว่าเขาถือหนังสือกลับหัว?
แต่เห็นท่าทางนายท่านผ่านไปสักพักก็พลิกหน้าต่อไป เขาจึงคิดอีกว่า หรือหนังสือเล่มนั้นเดิมทีต้องกลับหัวอ่าน?
“อิ่งอี”
ได้ยินนายท่านเรียก อิ่งอีก็ดึงสติกลับมาทันใด ก้าวไปด้านหน้า ขานรับเสียงดัง “ข้าน้อยอยู่ขอรับ!”
สายตานายท่านเหยียนเงยขึ้นมาจากหนังสือ มองอิ่งอีที่ยืนอกผายตัวตรงด้วยท่าทางองอาจทรงอำนาจและอารมณ์ฮึกเหิม ถามว่า “เจ้าทำอะไร?”
“ข้าน้อยรอฟังคำสั่งนายท่านขอรับ!”
ดวงตานายท่านเหยียนพินิจมองเขาหัวจรดเท้า จากนั้นค่อยครุ่นคิดสักพัก ถามว่า “เจ้าว่า หากคนหนึ่งมักจะนึกถึงใครอีกคนโดยไม่รู้ตัว เป็นเพราะอะไรรึ?”
“อยากฆ่าเขาขอรับ!”
อิ่งอีตอบไปอย่างไม่แม้แต่จะคิด เพราะเมื่อเขานึกถึงใครคนหนึ่งบ่อยๆ นั่นต้องเป็นคนที่เขาอยากฆ่าที่สุดแน่นอน
ฟังเช่นนี้ สายตานายท่านเหยียนก็กวาดมองเขาอย่างประหลาดใจ “หากไม่อยากฆ่านาง แต่อยาก…” คำพูดชะงักลง เพราะยากจะอธิบาย
“ไม่อยากฆ่าเขารึขอรับ?”
อิ่งอีมองเขา ทันใดนั้น เหมือนคิดอะไรได้ ลังเลสักพัก แล้วบอกว่า “นายท่าน หากชายหนุ่มคิดถึงหญิงสาว คงเพราะมีใจให้หญิงสาวผู้นั้น แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไรรึ?”
“แต่ว่า หากชายหนุ่มคิดถึงชายหนุ่มด้วยกัน นั้นก็ ก็เกรงว่า จะชอบผู้ชายด้วยกัน”
เขาพูดอย่างระมัดระวัง พลางสังเกตสีหน้านายท่าน
“มีใจให้หญิงสาวรึ?”
นายท่านเหยียนพูดพึมพำ รู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง เพราะเดิมตัวเขารังเกียจผู้หญิงที่สุด จะมีใจให้ผู้หญิงได้เช่นไร?
แต่ว่า สองวันนี้ในหัวมักจะมีเงาร่างของคนคนนั้นกับดวงตาเจ้าเล่ห์ที่มีรอยยิ้มผุดขึ้นมาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ยังมีความรู้สึกแปลกๆ ในใจ เขาจึงคิดว่า ต้องทำให้มันชัดเจน
“คืนนี้เจ้าไปพาผู้หญิงสองคนจากหอนารีวิไลเข้ามา”
คำสั่งที่กะทันหัน ทำให้อิ่งอีตกใจอึ้ง เขาทั้งรู้สึกประหลาดใจและดีใจ แทบจะร้องไห้ออกมา เอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก “นายท่าน ท่าน เมื่อครู่ท่านว่าอะไรนะขอรับ? คืนนี้ให้ข้าน้อยส่งหญิงสาวสองคนเข้ามาปรนนิบัติรึขอรับ?”
……………………………
ตอนที่ 198 หนึ่งมังกรสองหงส์งาม!
นายท่านเหยียนกวาดตามอง เอ่ยเสียงทุ้ม “ให้เจ้าไปก็ไปเสีย จะพูดจาไร้สาระมากเพียงนั้นไปไย?”
“ขอรับๆๆ ข้าน้อยจะไปสั่งการเดี๋ยวนี้เลย” อิ่งอีขานรับอย่างประหลาดใจ ก่อนจะเร่งรีบออกไป
สวรรค์ช่างมีตา ในที่สุดนายท่านก็สนใจผู้หญิงแล้ว! สองวันนี้เขากังวลใจแทบตาย กลัวว่านายท่านจะชอบผู้ชายด้วยกันจริงๆ
ฮุยหลางที่อยู่หอสายลมหนาวหลายวันกำลังกลับมา เมื่อเห็นอิ่งอีฉีกยิ้มระรื่น ก็แปลกใจนิดหน่อย ขวางเขาไว้แล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? เรื่องอะไรถึงดีใจเพียงนั้น?”
“เอ๊? เจ้ากลับมาแล้วรึ? หอสายลมหนาวอยู่สบายดีหรือไม่เล่า?” อิ่งอียิ้มถามอย่างหยอกล้อ
พอได้ยินเขาพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าฮุยหลางก็มืดลง “อย่ามาพูดถึงหอสายลมหนาวกับข้านะ” พูดจบ ชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง ถามว่า “เจ้ายังไม่บอกข้าเลย เรื่องอะไรทำให้เจ้าดีใจเช่นนี้กัน?”
“แหะๆ ข้าจะบอกเจ้า นายท่านให้ข้าไปจัดเตรียมหญิงงามสองคนจากหอนารีวิไลส่งเข้ามาคืนนี้” เขาโน้มตัวไปข้างหน้าพลางพูดยิ้มๆ สีหน้าดีอกดีใจ
“ผู้ ผู้หญิงรึ?” ฮุยหลางมองเขาอย่างตกตะลึง “นายท่านให้เจ้าจัดเตรียมผู้หญิงสองคนเข้าไปปรนนิบัติ? ข้าไม่ได้ฟังผิดใช่หรือไม่?”
“จริงๆ นะ ข้าว่านายท่านจะได้เปิดหูเปิดตาแล้วล่ะ”
ฮุยหลางสีหน้าไม่เชื่อ ถามว่า “หลายวันนี้ที่ข้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรพิเศษเกิดขึ้นรึ? นายท่าน ได้แรงกระตุ้นอะไรมา…ใช่หรือไม่?”
ต้องรู้ไว้ ปกตินายท่านพวกเขาแค่ผู้หญิงเข้าใกล้ยังรับไม่ได้เลย จะให้อิ่งอีจัดเตรียมผู้หญิงสองคนเข้าไปได้เช่นไร? หรือว่าโรคเกลียดผู้หญิงของเขาดีขึ้นแล้ว?
“เรื่องนี้กลับไปค่อยว่ากัน ข้าต้องไปสั่งการทางหอนารีวิไลนั่นเสียก่อน” เขาตบๆ บ่าฮุยหลาง ก้าวยาวเดินไปยังหอนารีวิไล
ในสายตาเขา การเลือกหญิงงามสองคนมาปรนนิบัตินายท่านคืนนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ จะสะเพร่าไม่ได้
ตอนกลางคืน หลังเฟิ่งจิ่วทานข้าวก็ออกมาเดินเล่นย่อยอาหาร เมื่อมาถึงบริเวณศาลา เห็นอิ่งอีพาผู้หญิงหน้าตาสะสวยรูปร่างชวนมองสองคนเดินมาทางภูเขาจำลอง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นชั่วขณะ จึงตะโกนไป
“อิ่งอี”
อิ่งอีได้ยินเสียงก็มองไป เห็นเด็กหนุ่มที่สวมชุดแดง จึงฉีกยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “ที่แท้ก็เป็นภูตหมอ! ช่างบังเอิญนัก”
เฟิ่งจิ่วเดินเข้าไป สายตามองๆ บนร่างหญิงสาวงามเลิศทั้งสองด้านหลังเขา ถามว่า “ไยจึงมีสองสาวงามเพริศพริ้งเช่นนี้อยู่ด้วยเล่า? คงไม่ใช่สาวงามในหอนารีวิไลกระมัง?”
ตามที่เธอรู้ ในตำหนักยมราชมีแค่หอนารีวิไลที่มีสาวงาม สถานที่อื่นๆ ต่อให้เป็นที่พำนักเรือนหลักนายท่านเหยียน ล้วนมีแต่เงาพวกทหารอารักขาคอยปรนนิบัติ น้อยนักที่จะเห็นหญิงสาวเช่นนี้เดินไปมา
“แหะๆ ช่างสมเป็นภูตหมอจริงๆ แค่เดาก็ถูกแล้ว”
อิ่งอีเหมือนจงใจพูดให้ชัดเจน หลังมองหญิงสาวรูปโฉมงดงามทั้งสองนางด้านหลังแวบหนึ่ง ก็พูดกับเฟิ่งจิ่วว่า “พวกนางสองคนเป็นสาวงามหอนารีวิไลที่มาใหม่ นายท่านสั่งให้ข้าพาเข้าไปปรนนิบัติ”
“ปรน ปรนนิบัติรึ?”
เฟิ่งจิ่วเบิกตาโตด้วยความตื่นตะลึง กล่าวด้วยสีหน้าแปลกใจ “ทีเดียวสองคนเลย? นายท่านเจ้าจะกินหมดรึ?”
ได้ยินคำพูดนี้ อิ่งอีก็ไม่ชอบใจ สีหน้าหมองลง “กินหมดไม่หมดอะไร? นายท่านข้าร่างกายแข็งแรงกำยำ หรือเจ้าคิดว่าเขาเป็นชายที่งามเพียงรูปแต่ไร้น้ำยารึ?”
ได้ยินเช่นนี้ มุมปากเฟิ่งจิ่วก็กระตุกสักพัก พูดไม่ออกชั่วขณะ
“ข้าไม่รบกวนการเดินเล่นของภูตหมอแล้ว” อิ่งอีกล่าวจบ ก็พาคนไปยังเรือนหลัก
เห็นเช่นนี้ ดวงตาเฟิ่งจิ่วเป็นประกายน้อยๆ มุมปากยกขึ้นยิ้มชั่วร้ายออกมา ก่อนจะตามไปทันที
หนึ่งมังกรเล่นกับสองหงส์งาม เธอจะไม่ไปชมเสียหน่อยได้อย่างไรเล่า?
……………………………